ซูซีกุมหน้าที่แสบร้อนแล้วกัดฟันแน่น
เธอไม่ได้กลัวซาโต้ เมื่อมีพ่อเธอคอยปกป้อง ซาโต้ไม่กล้าทำอะไรกับเธอ แต่เธอเกลียดพวกเขา
เธอเกลียดเทาเท่ เกลียดหลินจือ เกลียดซาโต้ เกลียดทุกๆคน เกลียดที่พวกเขาผลักเธอเข้าสู่สถานการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ โดยเฉพาะเมื่อเธอคิดได้ว่าตัวเองถูกซาโต้ขืนใจจนเป็นมลทิน เธอก็เหมือนตายทั้งเป็น
อารมณ์ซูซีพุ่งจนถึงขีดสุด เธอจัดการตัวเองอย่างยากลำบาก เธอคลำหาโทรศัพท์ในห้องเพื่อขอความช่วยเหลือจากแม่ เพียงแต่หลังจากแม่รับสายแล้ว เธอยังไม่ทันได้พูดอะไรก็ได้ยินแม่เธอร้องไห้ผ่านสาย
“ซี ตอนนี้ลูกอยู่ที่ไหน? แม่โทรหาลูกหลายครั้งก็โทรไม่ติด พ่อของลูกเกิดเรื่องแล้ว!” เนียร์ร้องไห้จนพูดไม่เป็นคำ
ซูซีตกใจมาก รีบถามอย่างรวดเร็ว “พ่อเป็นอะไร?”
เนียร์ร้องไห้พลางพูดว่า “ลูกไม่ได้ดูข่าวเหรอ? คนสนับสนุนพ่อที่เมืองเวลฟ์ถูกกักตัวเพื่อรอสอบสวนพิเศษ เมื่อกี้พ่อก็ถูกคนขอกองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจสำนักสันติบาลพาตัวไปแล้ว!”
“อะไรนะ?” ซูซีทรุดตัวนั่งลงบนพื้น ใบหน้าซีดราวกับกระดาษ
คนสนับสนุนพ่อที่เมืองเวลฟ์…ถูกกักตัวเพื่อรอสอบสวนพิเศษ?
งั้นก็แปลว่าพ่อที่เป็นต้นไม้ใหญ่คอยหนุนหลังเธอถูกโค่นแล้ว งั้นก็หมายความว่าพ่อของเธอไม่มีที่ให้พึ่งแล้ว หมายความว่าจากนี้ต่อไปเธอจะไม่เหลืออะไรแล้ว…
เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?
เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง!
ตำแหน่งในเมืองเวลฟ์จะถูกถอนออกมาอย่างง่ายดายแบบนี้ได้อย่างไร?
เมื่อเนียร์เห็นว่าเธอไม่ได้พูดอะไร เนียร์ก็ดุเธอผ่านสายอย่างแรง “แม่บอกลูกกับพ่อตั้งนานแล้วว่าอย่าไปคิดเล็กคิดน้อยกับเทาเท่ อย่าไปแย่งกับยัยหลินจือนั่น ตอนนี้เป็นไงล่ะ พวกลูกสู้กันไปสู้กันมา เสียหายกันทุกคน!”
“ตำแหน่งในเมืองเวลฟ์นั้นจะต้องเป็นฝีมือของตระกูลแม็กซิมัสแน่ ทางฝั่งพ่อแกฝั่งนี้เทาเท่คงจะลงมือ หายนะนี้มันเป็นความผิดที่ลูกก่อขึ้นทั้งหมด!” อารมณ์ของเนียร์ก็เตลิดแล้วเช่นกัน “แกทำลายพวกเราทั้งครอบครัว แกพอใจรึยัง? จากนี้ต่อไปเราอาจจะต้องนอนบนถนนแล้ว แกพอใจรึยัง?”
เนียร์เป็นคนที่อยู่ข้างหมอนของเบลซ หลายปีมานี้เบลซทำงานด้านการเงิน จะมือสะอาดได้อย่างไร?
ก่อนหน้านี้ที่ไม่เกิดเรื่อง เป็นเพราะมีคนคอยปกป้องอยู่ตลอด จึงไม่มีใครตรวจสอบเขาเท่านั้น
ตอนนี้ไม่เหลือที่พึ่งอะไรแล้ว จะไม่ถูกถอนรากถอนโคนเหรอ? ถึงตอนนั้นทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์จะต้องถูกริบอย่างแน่นอน หากไม่ได้นอนบนถนนสิแปลก!
ซูซีที่เดิมทีหมดหวังมากพอแล้ว เมื่อถูกเนียร์ดุด่าเช่นนี้ เธอโกรธจนภาพข้างหน้ามืดลงแล้วเป็นลมล้มลงกับพื้นไป
ไม่ว่าอย่างไรซูซีก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีวันที่น่ารันทดเช่นนี้ เดิมทียังหวังว่าพ่อจะปกป้องเธอได้ ยังไงซะเธอก็วางแผนทำร้ายซาโต้ แต่เธอไม่คิดว่าเทาเท่กับจอร์แดนจะลงมืออย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ เพียงชั่วพริบตาก็ทำให้ตระกูลโดโนแวนและเส้นสายที่หนุนหลังตระกูลโดโนแวนล้มลงหมดได้
ในวันนี้ การค้นหายอดฮิตมีการโพสต์ข่าวเกี่ยวกับตระกูลโดโนแวนหลายหัวข้อ
“เบลซถูกนำตัวไปสอบสวน” “ซูซีมั่วกันที่โรงแรมจนเป็นลมล้มพับไป” “ซูซีซาโต้” การที่เบลซถูกนำตัวไปพร้อมกับผู้สนับสนุนในเมืองเวลฟ์ถูกกักตัวเพื่อรอสอบสวนพิเศษขึ้นการค้นหายอดฮิตนั้นอยู่ในสิ่งที่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว
แต่ที่ข่าวที่ซูซีมั่วกันถูกขุดออกมา ว่ากันว่าเป็นเพราะซูซีเป็นลมในห้องพักของโรงแรม ถูกพนักงานทำความสะอาดมาเจอเข้า จึงรีบเรียกรถพยาบาลเพื่อส่งตัวไปที่โรงพยาบาล จากนั้นจึงทำให้เรื่องแย่ลง
จากนั้นมีคนขุดวิดีโอของโรงแรมออกมา ตอนแรกเป็นคลิปซูซีและซาโต้กำลังกินข้าวด้วยกันในร้านอาหารของโรงแรมด้วยพฤติกรรมที่คลุมเครือ จากนั้นทั้งสองก็โอบกอดกันเข้าไปในลิฟต์ ยังมีคนขุดอีกว่า ซูซีใช้บัตรประจำตัวประชาชนของตนเปิดห้องที่นี่
ดังนั้นข่าวที่ซูซีและซาโต้มั่วกันจนเป็นลมจึงขึ้นการค้นหายอดฮิต ยังไงซะหลายๆคนในเมืองเจสเวิร์ดต่างรู้ว่า ซาโต้มีนิสัยประหลาดในบางด้าน ดังนั้นทุกคนจึงคิดว่าที่ซูซีเป็นลมเป็นเพราะเรื่องบนเตียง
ก่อนหน้านี้ชื่อเสียงของเธอไม่ค่อยดีนัก พอตอนนี้มีเรื่องอื้อฉาวปะทุขึ้นมา ชื่อเสียงของซูซีก็ป่นปี้
ย้อนเวลากลับไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน หลังจากที่เทาเท่พาคนมาช่วยหลินจือ
ในที่ที่ไกลโพ้น
ชายในวัยสามสิบรับโทรศัพท์สายหนึ่ง คนในโทรศัพท์รายงานกับเขาว่า “นายครับ แผนของซูซีล้มเหลว เทาเท่ช่วยเธอไว้ได้”
ชายหนุ่มก่นด่าอย่างเย้ยหยัน “ไอ้โง่ ลูกไม้แค่นั้นของเธอ ไม่ล้มเหลวก็แปลกแล้ว!”
คนในสายพูดต่อ “ซูซีถูกเทาเท่ขังไว้กับซาโต้ เราควรจะช่วยเธอหรือไม่?”
“ช่วยเธอ?” ปากชายหนุ่มพูดออกมาอย่างเย็นชา “ทำไมต้องช่วยเธอ? รอเธอถูกทารุณจนทั่วตัวจนสภาพอนาถถึงขีดสุดก่อน ฉันค่อยช่วยเธอ เธอจะไม่ยิ่งขอบคุณฉันมากขึ้นไปอีกเหรอ?”
คนในโทรศัพท์ดูเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ “ครับ…”
หลินจือกินยาที่ไวท์จ่ายให้ หลังจากมึนงงอยู่นาน ระหว่างนั้นเธอก็ตื่นมาอาเจียนหลายครั้งจากฤทธิ์ของยา
ในระหว่างที่กำลังสะลึมสะลือหลินจือรู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังจับมือเธอแน่น มีสองสามครั้งที่เธอรู้สึกว่ามือร้อนจนเหงื่อออกจนเธออยากจะสะบัดมือของบุคคลนั้นออกไป แต่กลับสะบัดไม่ออก เพราะเขาจับแน่นเกินไป
หลินจือรู้ว่านั่นเป็นมือของเทาเท่ แต่เขาก็ไม่จำเป็นต้องจับแน่นไม่ปล่อยแบบนี้นี่
พอฤทธิ์ยาถูกกำจัดออกไปจนหมดจนเธอได้สติก็เป็นเวลาครึ่งบ่ายแล้ว
ทันทีที่เธอลืมตาก็พบกับใบหน้าที่วิตกกังวลเป็นห่วงของเทาเท่ “ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่รึเปล่า?”
หลินจือส่ายหน้า “ดีขึ้นมากแล้ว”
ตอนนี้เธอรู้สึกมีสติชัดเจน แต่มือเท้าดูเหมือนจะอ่อนแรง
พอนึกได้ว่าเทาเท่ช่วยชีวิตเธอจากอันตรายในครั้งนี้ และยังคอยดูแลอยู่เคียงข้างตลอด หลินจือก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้สึกซาบซึ้งใจ ดังนั้นเธอจึงพูดเบาๆว่า “ขอบคุณ”
ทั้งๆที่เห็นได้ชัดว่าหลินจือกล่าวขอบคุณ แต่เทาเท่กลับจับมือเธอแล้วหลบตาทันที
หลินจืองงงวย “เป็นอะไร?”
เทาเท่หันกลับมามองเธออีกครั้งและพูดด้วยความรู้สึกผิดและตำหนิตัวเองว่า “ผมควรจะขอโทษคุณ ที่ปกป้องคุณได้ไม่ดีพอ”
หลินจือกลับไม่ได้คิดมาก “จิตใจคนชั่วร้าย ไม่คิดเลยว่าซูซีเสียสติแบบนี้”
ต้องขอบคุณซูซีในครั้งนี้ที่ทำให้หลินจือเห็นว่าจิตใจคนจะเลวร้ายได้ถึงเพียงใด
ส่งเธอให้ซาโต้ ไม่เพียงจะทำให้เธอต้องอับอาย แต่ยังทำร้ายจอร์แดนและเทาเท่ และยังทำให้ซาโต้ต้องทำให้ตระกูลแม็กซิมัสและเทาเท่ไม่พอใจ นี่มันไม่ใช่ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว แต่เป็นยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสามตัว
เทาเท่กลับกล่าวอย่างดื้อรั้น “เพราะผมไม่ได้ปกป้องคุณให้ดี!”
หลินจือรู้สึกว่าเทาเท่ยึดติดยิ่งกว่าคนที่เจอเหตุการณ์เองอย่างเธออีก จึงไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอยู่ชั่วขณะ
เทาเท่พูดอีกว่า “ผมนัดซานาให้คุณ เดี๋ยวจะให้เธอช่วยให้คำปรึกษาด้านจิตวิทยาให้คุณ”
หลินจือส่ายหน้าเบาๆปฏิเสธ “ครั้งนี้ไม่ต้องแล้ว”
เทาเท่ถามอย่างเครียดๆ “ทำไม?”
หลินจือคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ดูเหมือนว่า…ในใจของฉันโตขึ้นมาก และเข้มแข็งขึ้นมากด้วย”
ครั้งก่อนที่เธอถูกพินอินลักพาตัวไป เธอตกใจมากจนมีไข้สูง
แต่คราวนี้ดูเหมือนเธอจะสงบมาตลอดทาง ไม่เช่นนั้นก็คงจะคิดหาวิธีช่วยตัวเองด้วยทำแก้วให้แตกออกมา
เมื่อหลินจือพูดแบบนี้ ในใจเทาเท่ก็รู้สึกแย่มากขึ้น
ถ้าเป็นไปได้เขาหวังว่าเธอจะไม่ต้องมาทนทุกข์กับอะไรแม้เพียงนิด
แต่หลังจากมาคิดอย่างรอบคอบแล้ว ความเจ็บปวดทั้งหมดที่เธอได้รับล้วนเป็นเพราะเขา