ตอนที่ 347

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 347: ปกป้องบ้านเกิด!

 

คำเรียกราชาภูตนี้ดังเข้าไปถึงข้างในใจอี้เทียนหยุน ทำให้เขารู้สึกตื้นตันกับความอบอุ่นที่คนในเผ่ามอบให้ ต้องพูดว่าพวกเขากระตือรือร้นจริงๆ ที่มอบความเชื่อใจให้เขาเป็นคนนำเผ่าภูตของพวกเขาก้าวไปสู่รุ่งเรือง!

 

อี้เทียนหยุนพยักหน้า จากนั้นก็มองไปที่พวกเขาแล้วพูดอย่างจริงจังว่า “อืม ข้าคือราชาภูต ข้าจะเป็นคนนำพวกท่าน นำพวกท่านไปสู่ช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุด!”

 

“ราชาภูต ราชาภูต ราชาภูต!”

 

พวกเขาพากันตะโกนเป็นเสียงเดียวกัน เสียงสะท้อนของพวกเขาดังขึ้นไปท้องฟ้า ในเผ่าภูตนี้ นอกจากบรรพชนเผ่าภูตแล้ว ชื่อเสียงของอี้เทียนหยุนสูงที่สุด กระทั่งเสิ้งหนี่อย่างเย่ชิงเสวียนก็ยังไม่สูงเท่าเขา ซึ่งนี่มีเหตุผลมาจากหลายๆ อย่าง หนึ่งนั้นก็เพราะว่าบุญคุณที่อี้เทียนหยุนสร้างนั้น เหนือกว่าเสิ้งหนี่ ยิ่งกว่านั้น ตัวเขายังได้กลายเป็นราชาภูต ซึ่งมีตำแหน่งเหนือกว่าเสิ้งหนี่

 

“ข้าขอประกาศ ณ ที่นี่เลยว่า น้องชายอี้จะเป็นราชาภูตของพวกเรานับแต่บัดนี้ไป!” บรรพชนเผ่าภูตก็ตะโกนอยู่ข้างๆ อย่างตื่นเต้น ทำให้เสียงร้องตะโกนดังก้องขึ้นอีกครั้ง

 

“ติ๊ง ท่านทำภารกิจสุดท้าย “กลายเป็นราชาภูต” สำเร็จ! ได้รับค่าประสบการณ์ 100 ล้าน, ค่าความคลั่ง 300,000, ค่าความชั่ว 10,000, ความชำนาญในการสลักอาคมเพิ่มขึ้น 10,000, และได้รับฉายา “ราชาภูต”!”

 

ราชาภูต : ฉายาระดับหายาก, ช่วยเพิ่มค่าบัญชาการ 500, เพิ่มอัตราสำเร็จให้กับค่ายกลระดับจงซือขึ้นอีก 20%!

 

เพิ่มอัตราสำเร็จให้กับค่ายกลระดับจงซือ 20% เอฟเฟ็กนี้ช่างน่าตกใจนัก แม้ค่ายกลระดับจงซือต้องใช้นักสลักอาคมระดับจงซือเป็นคนสร้าง แต่การเพิ่มอัตราสำเร็จให้อีก 20% นี้ แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการทำลายกฎเลยด้วยซ้ำ

 

“ฉายานี้ดีจริงๆ แต่ว่าน่าเสียดายที่ภารกิจต่อเนื่องต้องจบลงเท่านี้”

 

อี้เทียนหยุนส่ายหัว เขาได้แต่คิดอย่างเสียดาย ภารกิจที่ให้ค่าประสบการณ์แต่ละครั้งเป็นจำนวนหลายล้าน แถมครั้งนี้ยังให้ค่าประสบการณ์ถึง 100 ล้าน บวกกับค่าความชั่วที่มากขนาดนี้อีก ถ้ามีอย่างนี้อีกเรื่อยๆ การจะเลื่อนระดับก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

 

เมื่อภารกิจจบ ค่าประสบการณ์จำนวนมากขนาดนี้คงอีกนานเลยกว่าจะได้มา แม้ว่าค่าประสบการณ์ที่ได้จากการสังหารจะดี แต่ก็ไม่อาจเทียบกับภารกิจได้

 

หลังจากประกาศว่าอี้เทียนหยุนคือราชาภูต ทุกคนก็อยู่ในช่วงมีความสุข เตรียมที่จะจัดงานฉลองเพื่อเลี้ยงต้อนรับอี้เทียนหยุนในฐานะราชาภูต ไม่ว่าจะเป็นไวน์หลากชนิด ผลไม้วิญญาณชนิดต่างๆ ล้วนแต่ถูกนำออกมาเพื่อเลี้ยงฉลองในครั้งนี้

 

แม้ว่าอาณาจักรใต้พิภพจะส่งกองกำลังเข้ามาโจมตีในเร็วๆ นี้ แต่การจัดงานเลี้ยงฉลองให้กับอี้เทียนหยุนที่ขึ้นเป็นราชาภูตก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากเช่นกัน บ้างครั้งก็ไม่ควรที่จะเอาแต่เคร่งเครียด การทำงานก็ย่อมต้องมีการพักผ่อนกันบ้าง แม้ว่าหายนะกำลังใกล้เข้ามา แต่ก็ต้องคาดหวังถึงอนาคตด้วย เพื่อเป็นการเรียกขวัญกำลังใจ

 

“เทียนหยุน ไม่สิ ราชาภูต ข้าไม่คิดจริงๆ ว่าเจ้าจะเป็นราชาภูตของพวกเรา” เย่ชิงเสวียนที่นั่งอยู่แถวหน้าข้างๆ กัน มองไปที่คนในเผ่าที่กำลังเต้นรำกันอย่างร่าเริง บนใบหน้าที่งดงามแต้มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข

 

“ข้าก็ไม่คิดเหมือนกัน มีเรื่องมากมายที่คาดถึงไม่ถึง ไม่ใช่เหรอ?” ความคิดแต่แรกของอี้เทียนหยุนคือให้การช่วยเหลือ ยิ่งกว่านั้นยังต้องการจัดการกับอาณาจักรใต้พิภพด้วยเช่นกัน ในเมื่อมีเป้าหมายเดียวกัน ดังนั้นการร่วมกันสู้จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

 

แต่ไม่คิดว่าเขาที่เป็นคนนอกจะกลายมาเป็นราชาของเผ่าภูต เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริงๆ

 

“บางเรื่อง ก็ต้องตัดสินใจให้ดีตั้งแต่เริ่ม แม้จะไม่ใช่เรื่องที่คิดมาก่อน แต่ตั้งแต่ที่เจ้าช่วยข้า ข้าก็ตัดสินใจที่จะทำให้เจ้าเป็นราชาภูตของพวกเราแล้ว” เย่ชิงเสวียนหันหน้ามา พร้อมกับยิ้มให้เขา เป็นรอยยิ้มที่งดงามอย่างมาก

 

“ขอบคุณนะ ราชาของข้า”

 

นี่เป็นรอยยิ้มที่ออกมาจากใจของเธอ เพื่อแสดงความขอบคุณแทนทุกคนในเผ่า ถ้าไม่มีอี้เทียนหยุน ป่านนี้เผ่าภูตคงถูกทำลายทิ้งไปแล้ว

 

……

 

และในคืนนั้นก็ได้กลายเป็นค่ำคืนแห่งงานเฉลิมฉลอง โดยที่ไม่มีใครเข้ามาก่อกวนเผ่าภูต ทำให้ผ่านค่ำคืนไปอย่างสงบ หลายคนอยากจะให้วันนี้ผ่านไปอย่างช้าๆ เพราะพวกเขารู้ว่าอีกไม่นานการต่อสู้ก็จะเริ่มขึ้นอีก

 

และอย่างน้อยวันนี้พวกเขาก็ยังได้พัก ทำให้พวกเขามีช่วงเวลาที่ผ่อนคลาย ฟื้นคืนความแข็งแกร่ง เพื่อที่จะเผชิญหน้ากับการต่อสู้ในวันต่อไป!

 

โดยที่ไม่รอให้พวกเขาได้พักนาน อย่างรวดเร็วก็มีข่าวส่งมาจากแนวหน้า ว่าอาณาจักรใต้พิภพได้ทำการส่งกองกำลังชุดใหม่เข้ามาโจมตีเผ่าภูตอีกครั้ง

 

นี่ไม่ได้ต่างไปจากที่ทุกคนคาด การต่อสู้เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว พวกเขาสังหารขุนพลมังกร นี่ก็เท่ากับเป็นการตบหน้าพวกเขาอย่างร้ายกาจ ถ้าจักรพรรดิใต้พิภพปล่อยพวกเขา อาณาจักรใต้พิภพก็คงไม่มีหน้าเหลืออยู่อีก ศักดิ์ศรีของพวกเขาก็จะเป็นคล้ายกับรูปปั้นที่มีไว้ขู่เท่านั้น

 

ถึงยังไงทั้งหมดนี่ก็ถือเป็นการตอแยอาณาจักรใต้พิภพ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอีกฝ่ายจะต้องส่งผู้เชี่ยวชาญมาอย่างแน่นอน หากไม่ได้ผู้เชี่ยวชาญคอยบัญชาการ พวกเขาคงไม่มีทางที่จะส่งคนมาอีก เพราะจะเป็นการเปล่าประโยชน์

 

“ราชาภูต ผู้อาวุโส อาณาจักรใต้พิภพได้ส่งคนมาโจมตีแล้ว!” หน่วยสอดแนมที่แนวหน้ารีบกลับมาแจ้งข่าว พร้อมกับพูดด้วยความร้อนรน

 

“อาณาจักรใต้พิภพนี้ช่างไม่ปล่อยให้ผู้คนได้อยู่สุขสบายสักวันเลยจริงๆ แล้วคราวนี้พวกเขาส่งกองทัพไหนมาล่ะ?” อี้เทียนหยุนถาม

 

“คราวนี้…. อาณาจักรใต้พิภพได้ส่งกองทัพของขุนพลฟงมาครับ!” สายตาที่แตกตื่นของหน่วยสอดมีประกายแห่งความหวาดกลัวแวบผ่าน

 

“ขุนพลฟง?” อี้เทียนหยุนไม่คุ้นกับชื่อนี้ คราวที่แล้วก็ขุนพลมังกร มาคราวนี้ยังขุนพลฟงอีก

 

“ราชาภูต ท่านอาจไม่รู้ ขุนพลฟงผู้นี้ยังร้ายกาจกว่าขุนพลมังกรอีก ได้ยินว่าพลังของเขาได้ไต่ระดับไปถึงระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นที่ 3 ที่ 4 เป็นผู้ควบคุมธาตุลมที่หายาก ความเร็วของเขาน่าสะพรึงมาก สามารถจัดการกับศัตรูได้ในพริบตา โดยที่อีกฝ่ายไม่ทันได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ!”

 

บรรพชนเผ่าภูตพูดอย่างจริงจัง “และที่สำคัญคือเขายังควบคุมกองพลวายุอยู่กองหนึ่ง ไม่มีไฟย่อมไม่มีควัน ทหารในกองพลวายุนี้ แต่ละคนล้วนแต่สวมรองเท้าศึกวายุ ซึ่งสลักค่ายกลเพิ่มความเร็วไว้ ช่วยเพิ่มความเร็วให้กับพวกเขาขั้นใหญ่ ทำให้พวกเขาสามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยความเร็วที่น่าสะพรึง!”

 

“ระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นที่ 3 ที่ 4 นี่มันช่างเป็นปัญหาจริงๆ…..” อี้เทียนหยุนหรี่ตา ในสายตาวาวโรจน์ขึ้นหลายส่วน เทียบกันแล้วแข็งแกร่งกว่าขุนพลมังกรมาก จากนั้นเขาก็หันไปทางบรรพชนเผ่าภูตแล้วพูดขึ้นว่า “ท่านบรรพชน ท่านมั่นใจว่าจะควบคุมพวกเขาไว้ในค่ายกลได้ไหม?”

 

“ไม่มีปัญหา ตราบใดที่พวกมันเข้ามาที่นี่ พวกมันจะต้องตายอย่างแน่นอน!” สายตาของบรรพชนเผ่าภูตมีจิตสังหารเอ่อล้นออกมา แม้ว่าคนจะแก่ชราไปแล้ว แต่ว่าหัวใจยังหนุ่ม จิตสังหารยังคงเข้มข้นดุจเดิม

 

“ได้ยินคำนี้ของท่านบรรพชนก็เพียงพอแล้ว คราวนี้พวกเราจะจัดการพวกมันให้ราบคาบ ให้อาณาจักรใต้พิภพรู้ว่าพวกเรานั้นร้ายกาจแค่ไหน!” อี้เทียนหยุนพูดอย่างเย็นชา

 

“ให้อาณาจักรใต้พิภพรู้ว่าพวกเรานั้นร้ายกาจแค่ไหน!”

 

เผ่าภูตนับไม่ถ้วนกู่ร้องออกมา กลายเป็นเสียงเดียวกัน! แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับขุนพลฟง แต่พวกเขาก็ถูกท่าทางของอี้เทียนหยุนทำให้ฮึกเหิมตาม

 

“แต่คราวนี้ท่านไม่ต้องลงมือ เรื่องทุกอย่างที่นี่ให้พวกเราจัดการเอง” อี้เทียนหยุนพูดอย่างจริงจัง “พวกท่านรอรับคำสั่งอยู่ที่นี่ ถ้ามีอะไรให้ช่วย พวกเราจะต้องให้พวกท่านลงมืออย่างแน่นอน!”

 

“พวกเราขอน้อมรับคำแนะนำของราชาภูต!”

 

พวกเขาทั้งบ้าคลั่งและรุนแรง ไม่กลัวอาณาจักรใต้พิภพเลยสักนิด แน่นอนว่าอาณาจักรใต้พิภพนั้นน่ากลัว แต่พวกเขาก็ต้องปกป้องบ้านเกิดของตนเช่นกัน!