ตัดหญ้าไม่ถอนโคน ฤดูไม้ใบผลิมันก็งอกขึ้นมาใหม่
ตอนนี้เย่เทียนกับจูยิ่วถิงได้ตกไปอยู่ในฐานะที่ไม่ตายไม่เลิกแล้ว
เขาไม่กังวลหรอกว่าจูยิ่วถิงจะทำอันตรายอะไรกับตนมั้ย แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าจูยิ่วถิงจะทำร้ายอะไรคนที่อยู่รอบตัวเขามั้ย
ความแน่วแน่ของชายที่ไม่บริสุทธิ์นั้นมันก็ทำให้เย่เทียนไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่
แต่ มันก็แค่ความไม่สบายใจ ไม่ได้หมายความว่าเย่เทียนจะลังเล
การที่เขาไม่อยากฆ่าชายที่ไม่บริสุทธิ์ ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ฆ่า
ระหว่างคนที่อยู่รอบตัวกับชายไม่บริสุทธิ์ที่รู้สึกดี ถ้าต้องเลือกจริงๆ เย่เทียนก็จะเลือกคนที่อยู่รอบตัวโดยไม่ต้องลังเลเลย!
ปั๊ง!
เย่เทียนกระแทกชายที่ไม่บริสุทธิ์จนถอยหลังไปไกลอีกครั้ง ยังไม่ทันที่จะทรงตัวได้ก็กระอักเลือดออกมา จนรู้สึกแย่ไปทั้งตัว
พรึ่บพรั่บ!
หลังจากถอยไปกว่าห้าเมตร ชายที่ไม่บริสุทธิ์ก็พยายามทรงตัวได้ ยกมือขึ้นมาเช็ดคราบเลือดตรงมุมปากออก สองตาที่แดงกว่าคนทั่วไปจ้องเขม็งไปยังเย่เทียน พฤติกรรมก็ดูรุนแรงขึ้นมา
“เพราะอะไร? ทำไมหมัดของคุณถึงได้อ่อนแอขนาดนี้? ทำไมคุณถึงไม่ฆ่าผม?”
“ได้! ในเมื่อคุณไม่ฆ่าผม งั้นคุณก็สมควรตาย! สมควรตาย!”
ระหว่างที่พูด ชายที่ไม่บริสุทธิ์ก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว แล้วค่อยๆ ปลดปล่อยรังสีชี่ทิพย์สีแดงทมิฬที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าออกมา
ช่วงขณะหนึ่ง เหมือนมิติรอบๆ ต่างก็ได้รับผลกระทบ เหมือนเวลาถูกหยุดเอาไว้
ความผ่อนคลายที่เย่เทียนมีเมื่อกี้ได้หายไปจนหมดสิ้น และแทนด้วยรูขุมขนที่ตั้งชัน คัมภีร์หวงในร่างกายไหลเวียนขึ้นมาทันที โดยไม่กล้าประมาทแม้แต่วินาทีเดียว พร้อมกับระวังตัวขึ้นมากกว่าเดิมสองหมื่นเท่า
ไม่ใช่อื่นใด เพียงเพราะตอนที่จ้องตากับชายที่ไม่บริสุทธิ์ เย่เทียนก็รู้สึกราวกับถูกสัตว์ร้ายที่ขาดสติจ้องมองอยู่!
แน่นอน หลักๆ ก็เพราะเย่เทียนไม่รู้ที่มาที่ไปของชายที่ไม่บริสุทธิ์คนนี้!
แต่มีเรื่องหนึ่งที่เย่เทียนมั่นใจก็คือ อย่างน้อยชายที่ไม่บริสุทธิ์คนนี้ก็ไม่ต่ำกว่าผู้แข็งแกร่งระดับดินแน่นอน!
คนที่อยู่ในเส้นทางของนักสู้ ทุกครั้งที่ก้าวขึ้นไปอีกระดับมันก็จะมีการแสดงสัญลักษณ์ออกมาอย่างชัดเจน
สามารถสร้างพลังภายในได้คือระดับเหลือง สามารถปล่อยพลังภายในได้คือระดับดำ ส่วนระดับดินก็สามารถทำให้พลังภายในแสดงออกมาเป็นผลลัพธ์ที่เหนือธรรมชาติได้หลากหลายรูปแบบ!
แต่ว่าตอนนี้ชายที่ไม่บริสุทธิ์กำลังแสดงรังสีที่แดงทมิฬออกมา มันก็มากพอที่จะอธิบายถึงเขาที่เป็นนักบู๊ระดับดินนั่นเอง!
เพียงแต่ สิ่งที่ทำให้เย่เทียนยังคงสับสนก็คือ ในใจของเขากลับแอบรู้สึกที่คุ้นเคยกับชายที่ไม่บริสุทธิ์คนนี้ แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยพบชายที่ไม่บริสุทธิ์ที่ไหน
พอจูยิวถิงที่นั่งลงบนโซฟาได้เห็นแบบนั้น ก็รู้สึกพอใจจนยิ้มออกมาที่มุมปาก
ความจริงแล้ว จูยิ่วถิงไม่ค่อยรู้ความคิดจริงๆ ของชายที่ไม่บริสุทธิ์มากนัก ตอนนั้นเขาก็แค่บังเอิญได้รู้ว่าชายที่ไม่บริสุทธิ์คนนี้เป็นคนที่เเข็งแกร่ง
แต่ที่น่าเสียดายคือ ถึงชายที่ไม่บริสุทธิ์นั้นเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก แต่กลับเป็นคนที่อ่อนโยนและใจเย็น อย่าว่าแต่ลงมือทำร้ายคนอื่นเลย แม้แต่ทะเลาะกับคนอื่นยังนับครั้งได้เลย
พูดง่ายๆ คือ:เขาเป็นคนซื่อที่ยอมโดนให้คนอื่นเอาเปรียบเลย
คนเขามักพูดกันว่า :ธรรมชาติเปลี่ยนแปลงง่าย แต่นิสัยคนเราไม่ได้เปลี่ยนกันง่ายๆ
หลังจากการคาดหวังจากชายที่ไม่บริสุทธิ์อย่างปรองดองไม่เป็นผล จูยิ่วถิงจึงใช้ไม้แข็ง โดยการจับเขาไปขังไว้ แล้วเลี้ยงเขาเหมือนกับหมาตัวหนึ่ง
และผลลัพธ์ที่ได้ก็เห็นๆ กันอยู่ หลังจากที่ผ่านเดือนผ่านตะวันมาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ เขาก็สามารถทำให้ชายที่ไม่บริสุทธิ์เชื่อฟังคำสั่งของเขาทุกอย่าง
บวกกับเครื่องหอมที่เขาสั่งให้กุนซือจุดเมื่อกี้ ซึ่งมันก็ไม่ใช่เครื่องหอมธรรมดาทั่วไป แต่มันเป็นเครื่องหอมที่ได้รับการแต่งเติมมาแล้ว
คนทั่วไปดมแล้วก็จะไม่มีผลอะไร แต่เขาได้ขังชายที่ไม่บริสุทธิ์มานานขนาดนี้ และได้ทำอะไรกับร่างกายของชายที่ไม่บริทธิ์ไปนานแล้ว เมื่อใดก็ตามที่ได้กลิ่นนี้ มันก็จะทำให้ชายที่ไม่บริสุทธิ์โกรธเกรี้ยวอย่างหนัก!
และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมก่อนหน้านี้ชายที่ไม่บริสุทธิ์ถูกเย่เทียนโจมตีจนกระอักเลือด แต่จูยิ่วถิงก็ยังไม่ได้รู้สึกร้อนรนอะไร
เพราะเขารู้ดี ก่อนชายที่ไม่บริสุทธิ์จะโมโห ผลแพ้ชนะนะมันก็ยังไม่แน่นอน!
เมื่อเห็นชายที่ไม่บริสุทธิ์ค่อยๆ เข้าใกล้เย่เทียนด้วยแรงกดดันที่ไม่มีใครเทียบ จูยิ่วถิงยิ้มออกมาได้มีความสุขยิ่งกว่าเดิม เหมือนเขาเห็นภาพที่เย่เทียนนั้นตายอยู่ในมือของชายที่ไม่บริสุทธิ์แล้ว
“บัดซบ! นี่แกคิดจะทำอะไร!”
แต่ทว่า จูยิ่วถิงที่เพิ่งดื่มด่ำอยู่ในความคิดได้ไม่นาน ก็มีเสียงของชายชราคนหนึ่งดังขึ้นที่ข้างหูจนทำให้เขาดึงสติกลับคืนมาได้
เมื่อมองตามเสียงไป ก็เห็นตาแก่คนหนึ่งกลางห้องโถงที่ไม่รู้ว่าเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่!
ตาแก่มาในชุดจีนโบราณสีเทา ถือแส้ขนไว้ในมือ สะพายกระบี่ไม้ไว้ที่หลัง พร้อมกับออร่าของผู้วิเศษ
ตาแก่คนนี้ไม่ใช่ใครอื่น หากแต่เป็นนักพรตชิงชานที่ทำให้เย่เทียนตกใจจนต้องหนีไปนั่นเอง!
ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นไม่มีใครที่ตกใจไปกว่าเย่เทียนเลย เขานั้นเคยประมือกับนักพรตชิงชาน และรู้จักความน่ากลัวของนักพรตชิงชานดี
จากในจุดนี้ หลังจากที่นักพรตชิงชานสามารถเข้าใกล้เขาอย่างไม่มีซุ่มเสียงถึงสองครั้ง มันก็เป็นการยืนยันความแข็งแกร่งของนักพรตชิงชานได้แล้ว
สิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้คือ ในใจของเย่เทียนเองก็อยากให้นักพรตชิงชานปรากฏตัวออกมาเหมือนกัน
ยังไงซะ ครั้งก่อนที่ประมือกับนักพรตชิงชานก็ได้รับผลตอบแทนที่เยอะมากๆ วิธีการฝึกฝนในช่วงที่จนตรอกแบบนี้มันก็เร็วกว่าทุกวิธีที่เขาใช้ฝึกเลย
“โห่ง!”
เสียงคำรามของนักพรตชิงชานสามารถดึงดูดความสนใจของชายที่ไม่บริสุทธิ์ได้ ดวงตาสีแดงที่จับจ้องไปยังเย่เทียนในตอนแรก ตอนนี้มันได้หันมองมาที่เขาแล้ว
“บัดซบ! เห็นอาจารย์อาคนนี้แกยังไม่รีบคุกเข่าอีก!”
กับความหวาดระแวงของเย่เทียนนั้น นักพรตชิงชานกลับไม่แม้แต่จะหันมามอง สายตาจับจ้องไปยังชายที่ไม่บริสุทธิ์
แต่ทว่า ชายที่ไม่บริสุทธิ์ที่กำลังเดือดดาลจะไปคุกเข่าได้ยังไง เขาส่งเสียงคำรามเหมือนสัตว์ป่าออกมา กระทืบเท้าจากนั้นก็พุ่งเข้าใส่นักพรตชิงชาน
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเร็วที่มากเกินไปรึเปล่า ทำให้ผมที่ปิดหน้าปิดตาของชายที่ไม่บริสุทธิ์มาตั้งแต่ต้นเปิดออก และเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา
เมื่อเห็นหน้าของชายที่ไม่บริสุทธิ์แล้ว สีหน้าของเย่เทียนก็เปลี่ยนไปทันที ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับชายที่ไม่บริสุทธิ์นัก ทำไมเขาถึงมีความรู้สึกที่ไม่อยากฆ่าชายคนนี้
นั่นก็เป็นเพราะ ชายที่ไม่บริสุทธิ์คนนี้คือผู้มีพระคุณที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้นั่นเอง!
ชาติก่อนตอนถูกคนไล่ฆ่าจนตกที่นั่งลำบาก เพราะได้รับความช่วยเหลือจากชายที่ไม่บริสุทธิ์นี่แหละ เขาถึงยังมีชีวิตรอดต่อไปได้ ถึงสามารถได้หน้าปกทองมาครอบครอง
พูดแบบไม่เวอร์เลยว่า ถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากชายที่ไม่บริสุทธิ์ ตอนที่เย่เทียนตกหน้าผาไป คงตายจนไม่รู้จะตายยังไงแล้ว จะไปมียมทูตที่ใครๆ ต่างก็หวาดกลัวได้ยังไง!
ฟู่ฟู่!
ชายที่ไม่บริสุทธิ์นั้นเร็วมาก ชั่วพริบตาเดียวก็พุ่งไปอยู่ตรงหน้าของนักพรตชิงชานแล้ว กำปั้นอันเท่าหม้อปั้นดินเผาเหมือนสามารถทะลุผ่านมิติ จนเกิดเสียงดังที่ชวนตกใจ
รังสีนี้มันก็มากพอที่จะทำให้สีหน้าของเย่เทียนเปลี่ยนไป ต่อให้เขาไม่ใช่คนที่ถูกโจมตี แต่ก็ยังสามารถรับรู้ได้ถึงความน่ากลัวของหมัดนี้
ในใจของเย่เทียนถึงขั้นเกิดภาพหลอนขึ้นมาว่า บางทีด้วยความสามารถของเขาในตอนนี้อาจจะกันหมัดนี้ไม่ไหวก็ได้
ที่สำคัญ ต่อให้จะพยายามรับเอาไว้ได้ พละกำลังก็คงหมด ไม่เหลือแรงที่จะสู้ต่อ และจะถูกอีกฝ่ายเข่นฆ่าอย่างตามใจชอบ
จากตรงจุดนี้ ก็รู้ได้เลยว่าระดับดินนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน!
แต่ทว่า เมื่อต้องเผชิญหน้ากับชายที่ไม่บริสุทธิ์ที่พุ่งเข้ามาราวสายน้ำอันเชี่ยวกราก นักพรตชิงชานที่กลับขมวดคิ้วพึมพำไปสองคำ แส้ขนในมือก็เคลื่อนไหวราวกับสิ่งมีชีวิตแผ่ขยายแล้วห่อหุ้มไปยังชายที่ไม่บริสุทธิ์…..