ตอนที่ 1923

 

“ดูเหมือนว่าเม็ดยาเหล่านี้ล้วนเป็นมันฝรั่งร้อน ไม่สามารถกลั่นกรองได้และก็ไม่สามารถกินได้ไม่มีประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น เป็นเพียงแค่สิ่งของไร้ค่า ทว่าจะให้ทิ้งก็น่าเสียดายเกินไป” เซียปิงก็เอามือเท้าคาง รู้สึกเสียดายอยู่ในใจลึกๆ เขาต้องทุ่มเทพยายามมามากมายกว่าที่จะได้ครอบครองเม็ดยาเหล่านี้มา ทว่าตอนนี้พวกมันกลับไร้ประโยชน์ เป็นเพียงแค่ของเสียที่ไร้ค่าเท่านั้น

 

“ไม่ นี่มันไม่ถูก ถึงแม้ว่าเม็ดยาเหล่านี้จะเป็นพิษ ทว่ามันก็ไม่ได้บ่งบอกว่าจะหาผลประโยชน์จากพวกมันไม่ได้ หากข้ากินไม่ได้ ก็ไม่ได้แปลว่าคนอื่นๆจะกินไม่ได้ สามารถนําเม็ดยาเหล่านี้ออกไปประมูลได้”

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ดวงตาของเขาก็เป็นประกายทันที

 

เพราะถึงอย่างไรการที่เม็ดยาในพื้นที่ของแผนผังโชคชะตาราศีเหล่านี้มีปัญหาอยู่นั้น ก็มีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่รู้ คนอื่นๆไม่ได้รู้ถึงเรื่องนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเม็ดยาแห่งโชคชะตาก็เป็นเม็ดยาระดับเซนต์ที่ยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าจํานวนนับไม่ถ้วนต่างก็ใฝ่ฝันที่จะได้ครอบครองมา

 

หากตนเองนํามันออกไปประมูล มันจะต้องกระตุ้นให้ยอดฝีมือจํานวนนับไม่ถ้วนออกมาแข่งขันเสนอราคากันอย่างบ้าคลั่งแน่นอน

 

เมื่อถึงเวลานั้น เขาจะใช้เม็ดยาเหล่านี้เพื่อแลกเปลี่ยนกับทรัพยากรที่ล้ําค่าอื่นๆได้ สา มารถใช้ของเสียเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์

 

“อืม เป็นความคิดที่ดี รอให้ได้จัดการประมูลขึ้นมาในเครือข่ายเสมือนจริงและประมูลเม็ดยา เหล่านี้ทั้งหมด” เซียปิงก็ได้ตัดสินใจในทันที

 

ทว่าก่อนหน้านั้น เขาก็ได้นําลูกประคําวังวนและคทาแห่งความรุ่งโรจน์สิ่งประดิษฐ์เซนต์ทั้งสองที่เพิ่งได้ครอบครองออกมา สมบัติทั้งสองนี้เป็นสิ่งที่เขาได้ครอบครองมาจากกลุ่มของศัตรูก่อนหน้านี้ ถือว่าเป็นการเก็บเกี่ยวที่ยิ่งใหญ่

 

เพราะว่าถึงอย่างไรสิ่งประดิษฐ์เซนต์ก็เป็นสมบัติที่ล้ําค่าอย่างถึงที่สุด ผู้คนปกติธรรมดาไม่สามารถครอบครองได้ หากนําออกไปประมูล ไม่รู้ว่าจะมีราคาที่สูงแค่ไหน บางอาจจะเป็นราคาที่สูงเฉียดฟ้าเลยก็ว่าได้

 

แต่ก็แน่นอนว่าเขาจะไม่นําสิ่งประดิษฐ์เซนต์ทั้งสองนี้ออกไปประมูล

 

“ระบบ สามารถช่วยข้ากลั่นกรองสิ่งประดิษฐ์เซนต์ทั้งสองนี้ได้หรือไม่?”

 

เซี่ยปิงก็เอ่ยถามกับระบบ

 

“คริสตัลความเกลียดชัง50หน่วย”

 

ระบบก็ให้ราคามา

 

“กลั่นกรองทันที”

 

เซียงก็กวักมือ แสดงท่าทางที่ร่ํารวยและเผด็จการ

 

หล่ง หล่ง หล่ง

 

หลังจากที่สิ้นเสียง พลังงานที่ลึกลับและทรงอํานาจก็ได้ลุกลามเข้าไปในส่วนลึกของลูกประคําวังวนและคทาแห่งความรุ่งโรจน์อย่างกะทันหัน ทว่าอึดใจต่อมา สิ่งประดิษฐ์เซนต์ทั้งสองชิ้นนี้ก็ดิ้นรนขัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ออร่าของเซนต์ได้เอ่อล้นออกมาจากสมบัติทั้งสอง

 

อากาศรอบๆสั่นสะท้าน เหมือนว่าจะมีเสียงคํารามที่โมโหและไม่เต็มใจดังขึ้นมาลางๆ เห็นได้ชัดว่ามีเจตจํานงของเซนต์อยู่ภายในส่วนลึกของสิ่งประดิษฐ์เซนต์ทั้งสองชิ้นนี้ พยายามต่อต้านการกลั่นกรองอย่างไม่ยอมแพ้

 

ทว่าภายใต้พลังอํานาจของระบบ เจตจํานงของเซนต์ทั้งสองนี้ก็เปราะบางราวกับเด็กทารกก็ว่าได้ภายในระยะเวลาอันสั้นก็ถูกกําราบไปอย่างสมบูรณ์ เจตจํานงของเซนต์ทั้งสองก็ถูกทําลายไปอย่างหมดจด

 

พลังงานอื่นๆของเซนต์ที่หลงเหลืออยู่ก็ถูกกําจัดออกไปพร้อมๆกัน ราวกับเป็นการชําระล้างก็ว่าได้

 

ทว่าในส่วนลึกของความว่างเปล่า เซนต์พระพุทธศาสนาและเซนต์ของเผ่าพันธุ์เทวดาก็ส่งเสียงร้องตะโกนออกมาอย่างน่าสมเพช เพราะว่าพวกเขาได้สูญเสียสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของตนเองไปส่งผลให้ได้รับความเสียหายในระดับหนึ่ง

 

“ใครกัน? อันที่จริงใครกันที่กล้าลบล้างสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ที่ข้าได้ฝังไว้ในคทาแห่งความรุ่งโรจน์ใครกันที่มีความกล้าหาญที่ใหญ่โตเช่นนั้น?!” สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ที่น่าสะพรึงกลัวทั้งสองแทรกซึมเข้าไปในความว่างเปล่า แอบแฝงไปด้วยความโมโหที่ไร้ที่สิ้นสุด

 

ทว่าต่อให้พวกเขาจะโมโหแค่ไหน พวกเขาก็ไม่สามารถตามหาร่องรอยของเซียปิงได้

 

“ตรวจสอบทันที ใครกันที่แย่งชิงลูกประคําวังวนของข้าไป!”

 

เซนต์ทั้งสองก็รีบสืบหาข่าวสารทันที พวกเขาก็รู้ว่าเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้นในพื้นที่ของแผนผังโชคชะตาราศีอย่างแน่นอน เพราะว่าก่อนหน้านี้พวกเขาได้มอบสิ่งประดิษฐ์เซนต์ให้กับคนของตนเองไว้เพื่อช่วยเหลือให้พวกเขาเอาชีวิตรอดในพื้นที่ของแผนผังโชคชะตาราศีได้

 

ทว่าการที่สูญเสียสิ่งประดิษฐ์เซนต์ไปเช่นนี้ ทําให้พวกเขารู้ว่าจะต้องเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นอย่างแน่นอน

 

“มีสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเซนต์อยู่ข้างในสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์เหล่านี้จริงๆ”

 

เซี่ยปิงก็หรี่ตาลง เมื่อครู่นี้เขาก็สัมผัสได้ถึงออร่าของเซนต์สองออร่า ทรงอํานาจอย่างถึงที่สุดบางทีหากตนเองไม่ได้มีพลังอํานาจของระบบที่ช่วยในการกลั่นกรองสิ่งประดิษฐ์เซนต์ทั้งสองนี้เขาก็อาจจะเผชิญกับผลลัพธ์ที่ร้ายแรงได้

 

ทว่าภายใต้พลังอํานาจของระบบ สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเซนต์ก็เปราะบางเหมือนกับเด็กทารกก็ว่าได้ไม่สามารถที่จะทําอะไรได้

 

ทว่าในตอนนี้ เขาก็สัมผัสได้ว่าจิตวิญญาณของตนเองได้เชื่อมต่อเข้ากับลูกประคําวังวนและคทาแห่งความรุ่งโรจน์แล้ว เข้าสู่สภาวะรวมกันเป็นหนึ่ง แบ่งปันทุกสิ่งทุกอย่างร่วมกันควบคุมได้อย่างสมบูรณ์

 

ตราบใดที่เขาไม่ตาย ก็ไม่มีใครที่จะสามารถใช้สิ่งประดิษฐ์เซนต์ทั้งสองนี้ได้

 

“นี่คือลูกประคําวังวนซึ่งเป็นสมบัติทางพระพุทธศาสนารี ช่างเหนือจินตนาการจริงๆ”

 

เซี่ยปิงก็สัมผัสได้ถึงปริศนาภายในลูกประคําวังวน เขาค้นพบทันทีว่าภายในลูกประคํานี้มีโลกที่กว้างใหญ่ไร้ขอบเขตอยู่ นั่นคืออาณาเขตของพระพุทธศาสนา

 

ในอาณาเขตของพระพุทธศาสนานี้ ท่วมท้นไปด้วยออร่าของการยับยั้ง การกลั่นกรอง การเปลี่ยนผันจิตใจและออร่าอื่นๆ

 

หากอาณาเขตของพระพุทธศาสนานี้ถูกเรียกออกมา ทันใดนั้นก็จะสามารถยับยั้งภูตผีปีศาจได้นับไม่ถ้วน มีพลังอํานาจของการผนึกที่น่าสะพรึงกลัว

“เป็นอย่างนี้นี่เองนี่คือสมบัติประเภทผนึกระดับสุดยอด”

 

เชี่ยปิงก็เข้าใจในทันที ลูกประคําวังวนนี้เป็นสมบัติประเภทผนึกระดับสุดยอดที่เซนต์ทางพระพุทธศาสนาได้หล่อหลอมขึ้นมา สามารถยับยั้งศัตรูที่ทรงพลังได้นับไม่ถ้วน แม้แต่เซนต์ก็ยังสามารถกักขังไว้ข้างในได้

 

สาเหตุที่ยอดฝีมือทางพระพุทธศาสนาเหล่านั้นนําลูกประคําวังวนออกมา คงเพราะต้องการที่จะกักขังเขาไว้ในพื้นที่ข้างใน

 

นอกเหนือจากนี้ ยิ่งศัตรูที่ถูกกักขังไว้ข้างในทรงอํานาจมากแค่ไหน พลังอํานาจของลูกประคําวังวนก็จะทรงอํานาจมากขึ้นเท่านั้น เพราะว่าลูกประคําวังวนสามารถดึงดูดพลังงานของศัตรูที่ถูกผนึกไว้ข้างในได้

 

อาชญากรเหล่านี้ที่ถูกกักขังอยู่นั้น ราวกับเป็นทาสก็ว่าได้ ต้องมอบพลังอํานาจให้ลูกประคําอยู่ตลอดเวลา

 

ในช่วงเวลานี้เขาก็สัมผัสได้ว่าในส่วนลึกของลูกประคําวังวนก็เหมือนว่าจะมีผู้ที่ถูกกักขังไว้นับไม่ถ้วนเป็นอาชญากรที่ชั่วร้ายและโหดเหี้ยมต่างของจักรวาล ก่อกรรมทําชั่วมานับไม่ถ้วนแม้แต่โจรสลัดจักรวาลก็มีอยู่เช่นกัน

 

อีกทั้งยังมีพวกเดม่อนจากอบิส รวมถึงวิญญาณอาฆาตและวิญญาณชั่วร้ายอื่นๆ

 

นักโทษเหล่านี้ต่างก็กําลังมอบพลังงานที่มหาศาลให้กับลูกประคําวังวน

 

“น่าสนใจจริงๆ หากข้าจับเดม่อนจํานวนนับล้านตัวมาไว้ในลูกประคํานี้ จากนั้นมันจะสามารถแสดงพลังอํานาจที่ไร้ที่สิ้นสุดออกมาไม่ใช่หรือ? อีกทั้งในอนาคต หากจับอาชญากรใดๆมาได้ก็จะสามารถกักขังไว้ข้างในนี้ได้”

 

เซียปิงก็รู้สึกว่าตนเองได้ค้นพบคุกกุมขังที่ยอดเยี่ยม บางครั้งก็ไม่จําเป็นที่จะต้องสังหารศัตรูเสมอไปการกักขังฝ่ายตรงข้ามไว้เพื่อใช้ประโยชน์จากพวกเขาก็เป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน

 

อีกทั้งลูกประคําวังวนนี้ก็มีคุณสมบัติของการพัฒนาอยู่ หากสามารถกักขังตัวตนในระดับเซนต์ได้ คาดการณ์ได้ว่ามันจะพัฒนาจากสิ่งประดิษฐ์เซนต์ขั้นกลางไปสู่สิ่งประดิษฐ์เซนต์ขั้นสูงได้หรือแม้กระทั่งการพัฒนาเป็นสิ่งประดิษฐ์เซนต์ขั้นสุดยอดก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

 

ไม่ประหลาดใจว่าทําไมกลุ่มของพระผู้อาวุโสเหล่านั้นถึงได้รู้สึกท้อแท้และสิ้นหวังเมื่อสูญเสียลูกประคําวังวนนี้ไป ร้องห่มร้องไห่หาพ่อแม่ พวกเขาก็ล่วงรู้ว่าสมบัติระดับสุดยอดนี้มีความสําคัญแค่ไหน

 

“คทาแห่งความรุ่งโรจน์ นี่ก็เป็นสิ่งประดิษฐ์เซนต์ที่ดีเช่นกัน”

 

เซียปิงก็มองคทาแห่งความรุ่งโรจน์ในมือ นี่คือสิ่งประดิษฐ์เซนต์ขั้นกลางที่ได้ครอบครองมาจากเผ่าพันธุ์เทวดา อย่างไม่ต้องสงสัยว่ามันเป็นสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ที่ทรงอํานาจเช่นกัน

 

อันดับแรกมันสามารถกระตุ้นอาณาเขตเทวดาขึ้นมาได้ สามารถที่จะพันธนาการศัตรูไว้ในโลกแห่งแสงรุ่งโรจน์ ราวกับเป็นการกระตุ้นสนามอาณาเขตขึ้นมา ส่งผลให้ศัตรูหลบหนีออกไปจากอาณาเขตเทวดานี้ไม่ได้

 

แน่นอนว่านี่ก็เป็นเพียงแค่ความสามารถที่รองลงมาของมันเท่านั้น สิ่งที่สําคัญที่สุดก็คือคทานี้มีความสามารถในการควบคุมจิตใจของผู้อื่น

 

หากศัตรูถูกพันธนาการไว้ในอาณาเขตเทวดา อาบแสงศักดิ์สิทธิ์ที่สาดส่องทั้งวันทั้งคืนเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ฝ่ายตรงข้ามจะเกิดความศรัทธาขึ้นมา จะยอมจํานนอย่างสมบูรณ์ไม่สามารถที่จะต่อต้านขัดขืนอีกครั้ง

 

หากเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีจิตใจบอบบาง จากนั้นก็จะถูกควบคุมภายในระยะเวลาอันสั้น จิตวิญญาณจะถูกจารึกด้วยประทับตราแห่งความรุ่งโรจน์

 

ก่อนหน้านี้ที่กลุ่มของเทวดาเหล่านั้นได้นําคทาแห่งความรุ่งโรจน์นี้ออกมา เพราะต้องการที่จะควบคุมตนเอง ทําให้เขาตกเป็นทาสของเทวดา

 

“โชคดีที่สังหารกลุ่มของเทวดาเหล่านั้นไปจนหมดสิ้น ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นข้าเองที่ต้องเผชิญกับเคราะห์ร้าย”

 

เชียปิ้งหรี่ตาลง ออร่าจิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัวก็เริ่มแผ่ออกมา