ตอนที่ 1924

 

หลังจากศึกษาคทาแห่งความรุ่งโรจน์และลูกประคําวังวนอย่างละเอียด เซี่ยปิงก็คุ้นเคยกับสิ่งประดิษฐ์เซนต์ทั้งสองนี้ขึ้นมามาก จากนั้นเขาก็เก็บพวกมันกลับไป ถึงอย่างไรก็ยังมีเวลาศึกษาอีกมากมายในอนาคต

 

“ท่านแมวนักปราชญ์ หากข้าต้องการจะจัดการประมูลขึ้นมา ควรที่จะทําอย่างไรดี?”

 

เชียปิงก็สอบถามแมวนักปราชญ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ทันที

 

“ง่ายมาก เจ้าควรที่จะเข้าไปประมูลในเมืองระดับสูงของเครือข่ายเสมือนจริง ตอนนี้เจ้าก็มีคุณสมบัติที่จะเข้าไปได้แล้ว”

 

แมวนักปราชญ์ตอบกลับไป

 

“เมืองระดับสูง?”

 

เซี่ยปิงก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที เขาก็จดจําได้ว่าเมืองในเครือข่ายเสมือนจริงก็แบ่งออกเป็นเมืองระดับต่ําเมืองระดับกลางและเมืองระดับสูงตามลําดับ

 

ก่อนหน้านี้เขาก็เคยเข้าไปในเมืองระดับต่ําและเมืองระดับกลาง ทว่ายังไม่เคยเข้าไปในเมืองระดับสูงมาก่อน ว่ากันว่าเมืองระดับสูงเป็นโลกเสมือนจริงที่เหนือกว่าจินตนาการของใครหลายๆคนแตกต่างจากเมืองระดับกลางอย่างสิ้นเชิง

 

“ใช่ เข้าไปในเมืองระดับสูง

 

แมวนักปราชญ์พยักหน้า “เมืองระดับสูงมีความแตกต่างจากเมืองระดับกลางอย่างยิ่ง ความสมจริงของมันแทบที่จะบรรลุถึง999%นอกจากการที่ไม่ตาย ทุกสิ่งทุกอย่างก็ไม่ได้แตกต่างไปจากโลกแห่งความเป็นจริง”

 

“ในเครือข่ายเสมือนจริงก็มีเมืองระดับสูงอยู่ทั้งหมด108เมืองด้วยกัน แต่ละเมืองมีพื้นที่กว้างใหญ่ไร้ขอบเขต เพียงพอที่จะรองรับยอดฝีมือจากเผ่าพันธุ์นับไม่ถ้วนได้”

 

“ยอดฝีมือที่เก่งกาจของจักรวาลก็มักที่จะเข้ามาในเมืองระดับสูงเพื่อทําธุรกรรมค้าขายหรือไม่ก็แลกเปลี่ยนข้อมูลและแลกเปลี่ยนประสบการณ์การบ่มเพาะกัน นี่คือแหล่งรวมตัวของยอดฝีมือก็ว่าได้”

 

ในจุดๆนี้มันก็หยุดลงครู่หนึ่งก่อนเอ่ยออกมา “แน่นอนว่าสิ่งที่สําคัญที่สุดในเมืองระดับสูงก็คือความสามารถในการซื้อขาย ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ในมุมไหนของจักรวาล ตราบใดที่เจ้าซื้อของในเมืองระดับสูง จากนั้นมันจะเทเลพอร์ตไปถึงตัวเจ้าทันที แน่นอนว่ายังมีดินแดนลี้ลับบางแห่งที่ตัดขาดออกจากเครือข่ายเสมือนจริงของจักรวาล ทว่านอกจากสถานที่เหล่านี้แล้วนั้นไม่ว่าจะเป็นสถานที่ ใดๆของจักรวาลก็ไม่มีปัญหา”

 

อะไรนะ?!

 

เซี่ยปิงก็สะดุ้งตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน จากนั้นก็สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

 

ตามที่แมวนักปราชญ์กล่าวมา เมื่อเข้าไปในเมืองระดับสูง ก็จะมีคุณสมบัติในการเท เลพอร์ตสิ่งของต่างๆในเครือข่ายเสมือนจริงออกไปได้ ตราบใดที่จ่ายค่าธรรมเนียม ก็จะสามารถเทเลพอร์ตสมบัติไปทั่วทั้งจักรวาลได้

 

หากจัดการประมูลในเมืองระดับสูงของเครือข่ายเสมือนจริง จากนั้นก็สามารถปล่อยให้เครือข่ายเสมือนจริงทําหน้าที่เป็นตัวกลาง มันจะทําการเทเลพอร์ตสมบัติทั้งหมดไปไว้ในพื้นที่ลับแห่งหนึ่งทันที

 

หลังจากที่รอให้การค้าขายเสร็จสิ้น ก็จะสามารถเทเลพอร์ตสมบัติเหล่านี้ไปให้กับบุคคลที่มีสิทธิ์ถูกต้องตามข้อตกลงการซื้อขาย

 

นี่ก็เป็นการรับประกันความปลอดภัยในการซื้อขายของทั้งสองฝ่าย

 

เพราะถึงอย่างไรความปลอดภัยก็เป็นเรื่องที่สําคัญอันดับหนึ่งในการซื้อขายสินค้า ไม่สามารถไว้ใจใครได้ นอกจากนี้เมืองระดับสูงก็ถือว่าเป็นตลาดมืดที่ใหญ่ที่สุดในจักรวาล

 

เพราะถึงอย่างไรก็สามารถปิดบังสถานะของตนเองในเครือข่ายเสมือนจริงได้ การเท เลพอร์ตสมบัติก็ไม่ได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้ไม่สามารถที่จะแกะรอยตามใครไปได้ ระดับความปลอดภัยจึงสูงอย่างถึงที่สุด แทบที่จะไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันใดๆเกิดขึ้น

 

นี่ก็กลายเป็นรูปแบบการซื้อขายที่เป็นที่นิยมในหมู่ยอดฝีมือจํานวนนับไม่ถ้วน เรียกได้ว่าหากมีการค้าขายสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ที่ล้ําค่าใดๆ ปกติแล้วพวกเขาจะทําการค้าขายภายในเมืองระดับสูงเท่านั้น

 

เซี่ยปิงก็คิดได้อย่างกะทันหันว่าเครือข่ายเสมือนจริงร้ายกาจอย่างยิ่ง ไม่คาดคิดว่าจะสามารถบรรลุสิ่งนี้ได้ เทเลพอร์ตข้ามผ่านทั่วทั้งจักรวาล เทเลพอร์ตวัตถุได้อย่างอิสระ บางทีเครือข่ายเสมีอนจริงก็อาจจะเป็นสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ที่ทรงอํานาจที่สุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็เป็นได้

 

“ดูเหมือนว่าจะต้องจัดการประมูลในเมืองระดับสูง ทว่าก่อนหน้านั้น จะต้องปล้นชิงเม็ดยามาอีก” เซี่ยปิงก็เอามือเท้าคาง วางแผนที่จะปล้นชิงเม็ดยาแห่งโชคชะตารวมถึงเม็ดยาที่ล้ําค่าอื่นๆมา

 

หลายวันต่อมา

 

ดินแดนที่ลึกลับแห่งนี้ก็มีร่องรอยของเซี่ยบิงอยู่ทั่วทุกหนแห่ง ปรากฏตัวขึ้นมาในทุกพื้นที่ทําการปล้นชิงอย่างไม่หยุดหย่อน ส่งผลให้ยอดฝีมือจํานวนนับไม่ถ้วนต่างก็เกลียดชังเชี่ยปิงเป็นอย่างมาก ร้องเรียนไปตามๆกัน กัดฟันกันอย่างแน่น

 

“เจ้าบัดซบอู่ที่นั่นปรากฏตัวขึ้นมาและใช้กําลังปล้นชิงในทุกหนแห่ง ผู้คนจํานวนนับไม่ถ้วนต่างก็เผชิญกับเงื้อมมืออันชั่วร้ายของเขา”

 

“นี่มันยิ่งกว่าเสื้อมมืออันชั่วร้ายเสียอีก ช่างละโมบอย่างถึงที่สุด ราวกับเป็นพายุเฮอริเคนที่พักผ่านเข้ามา แม้แต่หญ้าต้นเดียวก็ไม่มีเหลือ แม้แต่เทาเที่ยก็ไม่ได้ละโมบถึงขั้นนี้ อ้ากก!”

 

“เวรเอ๊ย เจ้าสารเลวนั่นเหมือนว่าทั้งชีวิตนี้ไม่เคยเห็นสมบัติมาก่อน แม้แต่กางเกงในของข้าก็ถูกปล้นชิงไป ตอนนี้ทั่วทั้งร่างกายของข้าหลงเหลือเพียงแค่ใบไม้ที่ปกปิดส่วนลับเท่านั้น”

 

“ช่างบัดซบเกินไป บุคคลเช่นนี้เป็นศัตรูของสาธารณะโดยแท้ เป็นบุคคลชั่วร้ายของจักรวาลไม่มีใครที่จะจัดการเจ้าบัดซบนั่นได้เลยหรือ? จะปล่อยให้เขาออกอาละวาดตามอําเภอใจเช่นนี้อีกไม่ได้”

 

ผู้คนก็เกลียดชังกันอย่างมาก โกรธแค้นเจ้าอู่ที่ ปรารถนาที่จะจับเจ้าเด็กนั่นมาถลกหนังทันที

 

“เป็นไปได้อย่างไรที่จะมีใครจัดการกับเขาได้? กลุ่มพระพุทธศาสนา กลุ่มพันธมิตรบรรพกาลเผ่าพันธุ์เทวดา ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้น วิหารแห่งความมืดและกลุ่มอิทธิพลอื่นๆที่ร่วมพอกัน ต้องการจับเจ้าเด็กนั่น ทว่ากลับไม่มีทางที่จะจับเจ้าเด็กนั่นมาได้เลย ราวกับว่าเจ้านั่นเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านห้วงมิติ ปรากฏตัวและหายไปอย่างไร้ร่องรอยตลอดเวลา มักที่จะลอบโจมตีผู้อื่นที่เผลอไม่สามารถจับตัวมาได้”

 

บางคนที่พูดออกมาอย่างไม่พึงพอใจ

 

“แม้แต่กลุ่มอิทธิพลเหล่านี้เองก็ไม่สามารถปกป้องตนเองได้ มีที่ไหนที่จะสามารถปกป้องพวกเรา”

 

“ใช่ไหม? ข้าได้ยินมาว่ากลุ่มพระพุทธศาสนาและเผ่าพันธุ์เทวดาเป็นกลุ่มที่น่าสิ้นหวังที่สุดสิ่งประดิษฐ์เซนต์ของพวกเขาลูกประคําวังวนและคทาแห่งความรุ่งโรจน์ถูกเจ้าอู่ที่ปล้นชิงไปพวกเขาก็โมโหจนใกล้ที่จะเสียสติกันเต็มที่ ตามหาเจ้าอู่ที่ในทุกหนแห่ง ไม่ยอมราวีแม้แต่น้อย”

 

“ไม่มีทาง เจ้าเด็กนั่นปล้นชิงสิ่งประดิษฐ์เซนต์ของพวกเขาไปรี นี่คือความสูญเสียที่ร้ายแรงเมื่อลองคิดดูดีๆ ข้าก็เพียงสูญเสียสมบัติทั่วๆไปเท่านั้น เทียบกับการที่สูญเสียสิ่งประดิษฐ์เซนต์นับว่าความสูญเสียของข้าไม่ใช่สิ่งที่จะต้องคํานึงถึงเลย”

 

ผู้คนก็กล่าวออกมาอย่างอับจนหนทาง คิดว่าตนเองไม่มีทางเลือกใดๆ

 

“ช้าก่อน สิ่งประดิษฐ์เซนต์ไม่ใช่สมบัติที่จะครอบครองได้ง่ายๆ ว่ากันว่าสิ่งประดิษฐ์เซนต์ของพระพุทธศาสนาและเทวดานั่นมีสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเซนต์ที่ถูกฝังอยู่ข้างใน ต่อให้จะครอบครองมา ได้ ก็ไม่สามารถกลั่นกรองมัน นี่ไม่ได้แตกต่างไปจากการครอบครองก้อนอิฐไป”

 

บางคนที่บ่งบอกถึงข้อสงสัยของตนเอง

 

“นี่เจ้ายังไม่ได้ข่าวอีกหรือ? กลุ่มพระพุทธศาสนาและเผ่าพันธุ์เทวดาได้เผยแพร่ข่าวออกมาแล้วบอกว่าสิ่งประดิษฐ์เซนต์ทั้งสองถูกกลั่นกรองไปอย่างสมบูรณ์แล้ว สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเซนต์ที่อยู่ภายในก็ถูกขจัดออกไปจนหมดจด”

 

“นี่มันตลกสิ้นดี นึกไม่ถึงว่าเจ้าเด็กนั่นจะสามารถลบล้างสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเซนต์ได้เช่นกันอันที่จริงเขาบรรลุสิ่งนี้ได้อย่างไร?”

 

“สรุปสั้นๆก็คือเจ้าเด็กนั่นเป็นบุคคลที่อันตราย ไม่สามารถท้าทายได้”

 

“เหอะ ข้าไม่เกรงกลัวเขาหรอก ถึงอย่างไรเขาก็ปล้นชิงสมบัติของข้าไปหมดแล้ว ทําให้ข้ากลายเป็นคนยากคนจน แน่จริงก็เข้ามาปล้นชิงข้าอีกครั้ง อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะปล้นชิงอะไรข้าได้อีกถึงอย่างไรข้าก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว”

 

คนๆหนึ่งก็ถอนหายใจออกมาด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม เมื่อลองคิดดูดีๆ เขาก็ผ่านพ้นเงื้อมมือของเจ้าเด็กนั่นมาในทางที่ดีกว่าคนอื่นๆ ไม่ได้ต่อต้านขัดขึ้นเหมือนกับคนอื่นๆ หากดิ้นรนขัดขืนอย่างไร้ประโยชน์นั้น มีแต่จะถูกอัดอย่างปาเถื่อนเท่านั้น เป็นการเสียหน้าอย่างมาก

 

ก่อนหน้านี้ก็ไม่รู้ว่ามียอดฝีมือจํานวนมากแค่ไหนที่ตกอยู่ในสภาพที่น่าสมเพชเพราะเหตุนี้ถูกเจ้าเด็กนั่นเปลื้องผ้าโดยตรงและนําไปแขวนไว้บนต้นไม้ อีกทั้งยังเขียนคําว่าอู่ตีไว้บนร่างกายอีก

 

สิ่งที่บัดซบที่สุดก็คือรูปภาพของคนเหล่านี้ก็ถูกเผยแพร่ออกไปในอินเทอร์เน็ต กลายเป็นที่หัวเราะเยาะของผู้คนนับไม่ถ้วน

 

พวกเขาเหล่านี้ต่างก็เป็นเฒ่าปีศาจที่มีชีวิตอยู่มานานกว่าหนึ่งหมื่นปี ไม่รู้ว่ามีลูกศิษย์และผู้ติดตามเป็นจํานวนมากแค่ไหน มีทายาทมากมาย ทว่าในตอนนี้กลับกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวเช่นนี้ รู ปเปลือยเปล่าของตนเองหลุดออกไปในอินเทอร์เน็ต มีที่ไหนที่จะมีหน้าไปพบใครอีก

 

ต่อให้จะมีใบหน้าที่ด้านหนาเพียงใด ก็ไม่มีทางปล่อยวางเรื่องนี้ได้ เป็นเรื่องที่อับอายขายขี้หน้าอย่างแท้จริง

 

“เดี๋ยวก่อน เหมือนจะมีข่าวด่วนมาจากเจ้าอู่ที่”

 

ทันใดนั้นบางคนก็ตะโกนออกมา

 

“ข่าวด่วน? ครั้งนี้เขาปล้นชิงกลุ่มอิทธิพลไหนอีกหรือ?”

 

บางคนที่เอ่ยถาม

 

“ไม่ ไม่ใช่เช่นนั้น เจ้าเด็กนั่นเข้าไปในเมืองระดับสูง วางแผนที่จะจัดการประมูลขึ้นมา ประมูลเม็ดยาแห่งโชคชะตาและเม็ดยาอื่นๆที่เขาได้ครอบครองมาก่อนหน้านี้ ข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองระดับสูงแล้ว”

 

ตะโกนเสียงดังออกมา

 

อะไรนะ?!

 

ทันใดนั้นบรรดาผู้คนก็ตกตะลึงจนตาค้างไปตามๆกัน