ตอนที่ 213 แล้วตอนนี้ล่ะ

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

เซียวเจี่ยนไม่ถือคำพูดของเธอจริงจัง เขาคิดว่าถังซีเขินอายเพราะเพิ่งกลับมาอยู่บ้าน และยืนยันจะพาเธอไปซื้อเสื้อผ้า ถังซีไม่รู้จะจัดการกับพี่ชายที่ดื้อรั้นคนนี้อย่างไร โชคดีที่มีคนจากเซียวกรุปโทรหาเซียวเจี่ยน ขอให้เขากลับไปที่บริษัท ในที่สุดเซียวเจี่ยนก็ยอมแพ้ เขากล่าวขอโทษถังซีและสัญญาว่าคราวหน้าจะพาเธอไปซื้อ จากนั้นก็หันหลังเดินจากไป 

 

 

เมื่อเห็นเขารีบร้อนกลับไปถังซีก็ส่ายศีรษะแล้วถอนหายใจ “ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะ ฉันไปซื้อเองได้!” 

 

 

จากนั้นเธอหันไปมองหญิงสาวที่ยืนรอคำสั่งจากเธออยู่ข้างๆ แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าหยางจิ้งเสียนฝากซุปไก่มาให้หลินหรู เธอมองไปรอบๆ แต่ไม่เห็นกระติกเก็บความร้อน จึงรีบถามว่า “เอ้อ นี่เธอเห็นกระติกเก็บความร้อนไหม” 

 

 

หญิงสาวผิวขาวร่างท้วมพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “คุณหนูหมายถึงซุปไก่หรือเปล่าคะ ฉันเอาไปไว้ที่ห้องครัวแล้วค่ะ” 

 

 

ถังซีพยักหน้า “ช่วยไปเทใส่ถ้วยให้ที คุณแม่ทำมาให้แม่ฉัน เดี๋ยวฉันจะเอาซุปไปป้อนแม่” 

 

 

หญิงสาวรีบไปที่ห้องครัว จากนั้นก็กลับมาพร้อมถ้วยซุปไก่และส่งให้ถังซี ถังซียิ้มขอบคุณเธอ รับถ้วยมาแล้วหันหลังกำลังจะเดินไป แต่จู่ๆ ถังซีก็หยุด หันกลับไปมองหญิงสาว “นี่ เธอชื่ออะไรน่ะ” 

 

 

หญิงสาวหน้าแดง ก้มศีรษะลงและตอบว่า “ฉันชื่อลิลลี่ค่ะ คุณหนู” 

 

 

ถังซีพยักหน้า ยิ้มแล้วถามอย่างอึกอักเล็กน้อย “ฮื่อ ลิลลี่ ห้องแม่ฉันอยู่ทางไหน” 

 

 

เซียวโหรวถูกไล่ออกจากบ้านก่อนที่จะได้มีโอกาสเห็นห้องแม่ของเธอ เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนเป็นห้องหลินหรู… 

 

 

ลิลลี่ยิ้ม “ทางนี้ค่ะ คุณหนู” 

 

 

ถังซียิ้มและไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนอีกต่อไป เธอเดินตามลิลลี่ไปที่ห้องหลินหรู และขอบคุณสาวใช้หลังจากไปถึง ถังซียกมือขึ้นเคาะประตูเบาๆ เซียวหงอี้เป็นคนมาเปิดประตู เมื่อเห็นเขาถังซีก็บอกว่า “ซุปไก่ค่ะ คุณแม่ทำมาให้แม่” 

 

 

เซียวหงอี้พยักหน้า หลีกทางให้เธอ แล้วบอกว่า “พ่อจะไปอยู่ที่ห้องทำงานข้างๆ นี้นะ เรียกพ่อได้ ถ้าลูกมีอะไร” 

 

 

ถังซีพยักหน้า เข้าห้อง และปิดประตูลงตามหลัง 

 

 

ทันทีที่เซียวหงอี้เข้าไปในห้องทำงานและปิดประตู คนรับใช้ที่แอบดูถังซีอยู่ก็รวมตัวกันทันที และเริ่มนินทา “พระเจ้า เธอดูแตกต่างจากครั้งแรกที่เราเห็นอย่างสิ้นเชิง ดูท่าทางเธอสิงามสง่าจัง เซียวจิ้นหนิงดูธรรมดาไปเลย เทียบเธอไม่ติด” 

 

 

ลิลลี่ส่ายศีรษะ “ก็เธอคือคุณหนูที่แท้จริงนี่นา กลับมาบ้านตัวเองไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลย” 

 

 

สาวใช้อีกคนกล่าวว่า “ไม่ใช่อย่างนั้นน่ะสิ ฉันจำได้ว่าตอนเธอมาที่นี่ครั้งแรก เธอไม่กล้าแม้แต่จะมองเราเวลาเราเรียกเธอว่าคุณหนู แต่วันนี้เธอดูเหมือนเคยชินมากกับการที่เราเรียกเธอว่าคุณหนู แล้วไม่ได้ยินเหรอ เธอยังบอกด้วยซ้ำว่าเธอจะไม่อยู่ห้องที่เซียวจิ้นหนิงเคยอยู่” 

 

 

“เป็นฉันก็จะทำแบบนั้นเหมือนกัน!” สาวใช้คนหนึ่งเม้มริมฝีปาก “ใครจะอยากอยู่ห้องที่เซียวจิ้นหนิงเคยอยู่ล่ะ ผู้หญิงที่น่ารังเกียจอย่างนั้น!” 

 

 

ลิลลี่กล่าวว่า “หยุดได้แล้ว ถ้าคุณหนูมาได้ยินพวกเราพูดถึงคุณหนูตัวปลอมเธออาจจะโกรธ!” 

 

 

“เฮอะ เธอคิดว่าเธอเป็นใครหรือ ก็แค่นอนโรงพยาบาลอยู่เดือนหนึ่ง แล้วหลังจากนั้นก็ไปอยู่บ้านคุณเซียวหงลี่อีกเดือนหนึ่ง” หญิงสาวอีกคนที่นิ่งเงียบอยู่นานกล่าวขึ้นอย่างเหยียดหยาม “ถึงเธอจะเป็นหงส์ตัวจริง แล้วไงล่ะ ก็แค่เด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่ไม่รู้อะไรเลย ทำไมต้องกลัวเธอขนาดนั้นด้วย” 

 

 

ลิลลี่หน้าแดงด้วยความโกรธ เมื่อนึกถึงตอนที่คุณหนูกล่าวขอบคุณเธออย่างอ่อนโยนเมื่อกี้ เธอก็กล่าวด้วยความโมโห “เซียงเอ๋อ เธอพูดอย่างนั้นได้ยังไง ถึงอย่างไรเธอก็เป็นคุณหนูของเรานะ คุณหนูจะโกรธถ้าได้ยินคำพูดของเธอ!” 

 

 

“โอ้โห นี่เธอเพิ่งมาถึงหล่อนก็ตั้งหน้าตั้งตาประจบประแจงแล้วเหรอ? ยังมีโอกาสอีกเยอะที่จะประจบ ทำไมต้องรีบร้อนอย่างนี้ด้วย” เซียงเอ๋อสวยที่สุดในบรรดาสาวใช้ และรับผิดชอบทำความสะอาดห้องเซียวเจี่ยน ด้วยความคิดว่าตัวเองแตกต่างจากสาวใช้คนอื่น เธอจึงมักดูถูกคนรับใช้คนอื่นๆ 

 

 

“เซียงเอ๋อ!” ลิลลี่โกรธมาก แต่ไม่รู้จะตอบโต้อย่างไร 

 

 

เมื่อเห็นลิลลี่พูดไม่ออกเซียงเอ๋อก็คำรามเสียงดัง “เธอจะมาอยู่บ้านนี้ไม่กี่วัน หล่อนจะยกให้เธอเป็นเจ้านายด้วยเหรอ โง่!” 

 

 

ถังซีซึ่งนั่งอยู่บนเตียงตักอาหารป้อนให้หลินหรู ได้ยินคำพูดของพวกเธอทุกคำ เธอส่ายศีรษะแล้วกล่าวกับหลินหรู ซึ่งกำลังเพลิดเพลินกับซุปอย่างมีความสุข “สาวใช้พวกนี้ตลกจังเลยนะคะ ไม่รู้จักหลบไปหาที่ไหนสักแห่งที่มิดชิดเป็นส่วนตัวกว่านี้ ถ้าอยากนินทาหนู มาพูดกันในห้องนั่งเล่นอย่างนี้ได้ยังไง ถึงแม้ผนังบ้านจะเป็นฉนวนป้องกันเสียงได้ดีก็เถอะ แต่หนูหูไวมาก” 

 

 

หลินหรูมองหน้าถังซีอย่างงุนงง ถังซียิ้มเช็ดปากให้มารดาด้วยกระดาษเช็ดปาก แล้วถามว่า “วันนี้แม่รู้สึกยังไงบ้างคะ หลังจากรักษาด้วยการฝังเข็มแม่รู้สึกดีขึ้นบ้างไหม” 

 

 

หลินหรูรู้สึกว่าร่างกายเธอเบาสบายขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ และเธอไม่ง่วงอีกต่อไป เธอไม่ได้นอนเลยตั้งแต่กลับจากโรงพยาบาล เธอยิ้มและพยักหน้า 

 

 

ถังซียิ้ม พยักหน้าและกล่าวว่า “เยี่ยมเลยค่ะ หนูดีใจมากที่ได้ยินแบบนี้ เราจะฝังเข็มรักษากันต่อในวันพรุ่งนี้นะคะ” 

 

 

ถังซีอยากให้หลินหรูทานซุปมากกว่านี้ แต่หลินหรูอิ่มแล้ว ถังซีจึงพยักหน้าด้วยความเข้าใจ เช็ดปากให้มารดาเรียบร้อย แล้วกล่าวกับเธอว่า “หนูจะออกไปทำธุระนิดหน่อยนะคะ เดี๋ยวหนูจะเรียกพ่อมาอยู่ดูแลแม่” 

 

 

เมื่อคิดว่าถังซีกำลังจะจากไปหลินหรูก็ดูกังวลขึ้นมา เธออ้าปากแต่พูดอะไรไม่ออก ถังซีรู้ว่าเธอต้องการพูดอะไรจึงรีบปลอบใจ “หนูจะออกไปสักพักเดียวค่ะ แล้วจะรีบกลับ หนูจะฝังเข็มให้แม่ทุกวัน เพราะฉะนั้นหนูจะไม่ไปไหนหรอกค่ะ” 

 

 

หลินหรูพยักหน้าเมื่อได้ยินอย่างนี้ ถังซียิ้มให้เธอแล้วเดินถือถ้วยซุปออกไป 

 

 

เมื่อได้ยินเสียงเธอเดินออกจากห้อง บรรดาสาวใช้ก็แยกย้ายกันกระจัดกระจายทันที ถังซียิ้มแล้วร้องเรียก “เซียงเอ๋อ มานี่ซิ มาเก็บเศษกระเบื้องบนพื้นให้หมด แล้วทำความสะอาดเช็ดพื้นให้เรียบร้อย” 

 

 

หญิงสาวร่างสูงหน้าตาสวยหันกลับไปมองถังซีอย่างงุนงง “คุณหนูคะ พื้นสะอาดดีแล้วนี่คะ พวกเราทำความสะอาดแล้ว… ไม่เห็นมีอะไรเศษอะไรอยู่บนพื้นเลย” 

 

 

ถังซียิ้ม เลิกคิ้วขึ้นมองเซียงเอ๋อ แล้วจู่ๆ ก็หน้าบึ้ง “อ้อ งั้นเหรอ” ในวินาทีต่อมาถังซีก็โยนถ้วยซุปในมือลงบนพื้น ถ้วยกระเบื้องกระแทกกับพื้นแตกเป็นเสี่ยงๆ ซุปไก่สาดกระจายไปทั่วพื้น สาวใช้กรีดร้องอย่างตื่นตระหนก ถังซีเลิกคิ้ว “แล้วตอนนี้ล่ะ”