ตอนที่ 212 ฉันไม่ต้องการ

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

เมื่อถังซีมาถึงบ้านเซียวหงอี้ เซียวหงอี้กำลังรอเธออยู่ที่ประตู ขณะถังซีลงจากรถเซียวเจี่ยนออกมาจากบ้านพอดี เมื่อเห็นถังซีเขาก็ยิ้มให้ แล้วก้าวขายาวๆ มารับกระเป๋าเดินทางจากคนขับรถ “ยินดีต้อนรับกลับบ้าน” เขากล่าว 

 

 

ถังซียิ้ม “ขอบคุณค่ะ ฉันแค่จะมาอยู่สักพักเพียงช่วงสั้นๆ เมื่อแม่หายดีแล้วฉันก็จะไป” 

 

 

เซียวเจี่ยนเลิกคิ้ว “ยังไงก็ได้ตามที่เธอต้องการ” 

 

 

เขาศึกษาหาข้อมูลเรื่องอาการป่วยของมารดา หลินหรูเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูเขา เขาเป็นห่วงเธอมาก ทันทีที่มารดาประสบอุบัติเหตุ เขาก็หาข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องอัมพาตและการกระทบกระเทือนทางสมอง และรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะรักษาให้หาย หรือถึงแม้จะรักษาให้หายได้ แต่นั่นต้องใช้เวลาอย่างน้อยหลายปี ซึ่งในระหว่างช่วงเวลานั้นน้องสาวจะอยู่กับพวกเขา 

 

 

ถังซีทักทายเซียวหงอี้โดยเรียกเขาว่า ‘พ่อ’ เซียวหงอี้ทักตอบอย่างมีความสุข และถามเธอว่า “มีกระเป๋าใบอื่นอีกไหม” 

 

 

ถังซียิ้ม “ไม่มีแล้วค่ะ หนูจะไม่อยู่ที่นี่นานนัก ก็เลยไม่ได้เอาอะไรมามากมาย มีแค่เสื้อผ้าที่เอามาเปลี่ยนเท่านั้นค่ะ” 

 

 

เซียวเจี่ยนเลิกคิ้ว ส่งกระเป๋าให้คนรับใช้และบอกถังซีว่า “ห้องเธอเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วขึ้นไปดูสิ ถ้าไม่ชอบใจเราจะจัดห้องอื่นให้ แล้ว… ถ้าอยากได้อะไรเพิ่มเติมเดี๋ยวพี่พาออกไปช็อปปิ้ง” 

 

 

เมื่อได้ยินเซียวเจี่ยนบอกว่าจะพาถังซีออกไปช็อปปิ้ง คนรับใช้ทุกคนก็พากันประหลาดใจ และมองเซียวเจี่ยนด้วยท่าทางตกใจ แม้นายน้อยจะใจดีกับคุณจิ้นหนิงมาก แต่ก็ไม่เคยพาเธอไปช็อปปิ้งเลย แต่เมื่อเขาได้ยินว่าน้องสาวที่แท้จริงกำลังจะกลับมา เขาก็ออกจากที่ทำงานกลับมาบ้านตอนเที่ยง ซึ่งหาได้ยากจริงๆ และตอนนี้เขาจะไปช็อปปิ้งกับคุณหนู! 

 

 

นั่นหมายความว่าในใจนายน้อย คุณเซียวโหรวมีความสำคัญมากกว่าคุณเซียวจิ้นหนิงใช่ไหม 

 

 

ถังซีเองก็เห็นท่าทีตกใจและความประหลาดใจบนใบหน้าบรรดาคนรับใช้ เธอยิ้ม เงยหน้าขึ้นมองเซียวเจี่ยน “พี่คะ พี่ไม่ต้องไปทำงานเหรอ” 

 

 

เซียวเจี่ยนรู้สึกดีใจอย่างมากเมื่อได้ยินถังซีเรียกเขาว่า ‘พี่’ ฟังดูดีกว่า ‘ลูกผู้พี่’ ตั้งเยอะ เซียวเจี่ยนจึงอารมณ์ดีช่างพูดช่างคุยกว่าปกติ และพาถังซีขึ้นไปบนห้องเธอด้วยตัวเอง พร้อมกับตอบว่า “ไม่ไปแล้ว พี่ไม่ทำงานแล้ววันนี้ พี่พร้อมเสมอสำหรับเธอ” 

 

 

หางตาถังซีหรี่ลง ทำไมเธอถึงไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเซียวเจี่ยนเป็นคนปากหวาน! นี่ถ้าเธอเป็นสาวน้อยผู้ไร้เดียงสา เธอคงหลงคารมในคำพูดหวานๆ ของเขาแน่! 

 

 

ถังซียักไหล่กล่าวว่า “พี่เจี่ยนขอบคุณนะคะ ฉันต้องไปห้างจริงๆ ด้วยค่ะ ต้องไปซื้อของใช้ส่วนตัวบางอย่าง แล้วอีกอย่างหลังจากซื้อของเสร็จแล้ว ฉันต้องไปหาพี่จิ่งที่เฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุป ถ้าพี่จะพาฉันไปช็อปปิ้ง พี่ไปส่งฉันที่บริษัทพี่จิ่งด้วยคงไม่เป็นไรใช่ไหมคะ” 

 

 

เห็นได้ชัดว่าก้าวเดินของเซียวเจี่ยนหยุดชะงักอยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่นานเขาก็ส่ายศีรษะ และตอบตกลง “ไม่เป็นไรเลย แน่นอน ไม่มีปัญหา ว่าแต่เธออยากดูห้องของเธอก่อนไหม” 

 

 

พี่น้องทั้งสองพูดคุยกัน โดยที่เซียวหงอี้ไม่สามารถพูดแทรกตรงไหนได้สักคำ เขาจึงตรงไปหาหลินหรู 

 

 

ในเมื่อเดินขึ้นบันไดมาแล้ว ถังซีก็ไม่อยากย้อนกลับลงไปเฉยๆ เธอจึงพยักหน้าแล้วบอกว่า “อ้อ แล้วมีอย่างหนึ่งค่ะ ฉันเป็นคนจู้จี้จุกจิก ฉันจะไม่อยู่ในห้องที่เคยมีคนอื่นอยู่มาก่อนนะคะ” 

 

 

เมื่อได้ยินอย่างนี้เซียวเจี่ยนก็ยิ้ม “ดูเหมือนเราจะมีอะไรหลายอย่างเหมือนๆ กัน พี่ก็ไม่ชอบแบบนั้น เพราะฉะนั้นเธอมั่นใจได้เลยว่าห้องเธอเป็นห้องว่าง อยู่ตรงกันข้ามห้องพี่ เป็นห้องที่ใช้สำหรับให้แขกพัก” 

 

 

ด้วยไม่คาดคิดมาก่อนว่าเซียวเจี่ยนจะมีน้ำใจเช่นนี้ ถังซีจึงเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ ในเวลานั้นสาวใช้ที่ยกกระเป๋าถังซีเข้าไปเก็บในห้องของเธอก็เดินออกมา พร้อมกับบอกว่า “ใช่แล้วค่ะ นายน้อยใจดีกับคุณหนูจริงๆ เมื่อได้ยินนายท่านบอกว่าคุณหนูจะกลับมาอยู่บ้าน เขาก็กลับมาตกแต่งห้องด้วยตัวเอง ห้องที่อยู่ตรงกันข้ามห้องนายน้อยนั้นใหญ่มากค่ะ คุณจิ้นหนิงอยาก…” สาวใช้ชะงัก ชำเลืองดูสีหน้าสองพี่น้องก่อนจะกล่าวต่อไปเมื่อเห็นว่าทั้งสองไม่มีร่องรอยโกรธเคือง “อยากมาอยู่ห้องนี้ เธอบอกเสมอ แต่นายน้อยปฏิเสธเธอ บอกว่านายน้อยจะใช้ห้องนี้เป็นห้องทำงาน แต่ตอนนี้เขายกห้องนี้ให้คุณหนู” 

 

 

เซียวเจี่ยนเลิกคิ้วมองถังซี ราวกับจะอธิบายว่าทำไมเขาถึงปฏิเสธเซียวจิ้นหนิง เขาเอ่ยขึ้นง่ายๆ ว่า “พี่ชอบความเงียบสงบ เลยไม่อยากให้จิ้นหนิงมาอยู่ตรงกันข้ามห้องพี่” 

 

 

ถังซียิ้ม “พี่นี่แปลกจริงๆ แล้วฉันจะอยู่ตรงกันข้ามห้องพี่ได้เหรอคะ” 

 

 

เซียวเจี่ยนตอบว่า “ได้แน่นอน เพราะเธอแตกต่าง” 

 

 

ถังซีหัวเราะเบาๆ เดินตามสาวใช้เข้าไปในห้อง ทันทีที่เดินเข้าไปสิ่งแรกที่เห็นคือสีโทนเย็น ซึ่งแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้โดยสิ้นเชิง แต่สร้างความพึงพอใจให้เธออย่างมาก นี่เป็นสไตล์ที่แท้จริงของเธอ โทนสีเขียวเข้มทำให้ห้องดูกว้างขวาง การตกแต่งเรียบง่าย มีโต๊ะเขียนหนังสือกับตู้หนังสือด้วย ถังซีมองดูโดยรอบ สังเกตเห็นว่ามีห้องเก็บเสื้อผ้ากว้างกว่ายี่สิบตารางเมตร แม้จะไม่ใหญ่มากแต่ก็เพียงพอ จากการตกแต่งเห็นได้ชัดว่า ทุกรายละเอียดได้รับการปรับเปลี่ยนจนสมบูรณ์แบบที่สุด 

 

 

ทันทีที่เดินออกจากห้องเก็บเสื้อผ้า ถังซีก็เห็นเซียวเจี่ยนยืนพิงกรอบประตูมองดูเธออยู่ เธอยิ้มให้ เขาเลิกคิ้วถามว่า “เธอพอใจไหม” 

 

 

ถังซีพยักหน้า “พอใจมากค่ะ ขอบคุณนะคะพี่เจี่ยน” 

 

 

“พี่ยินดี” เซียวเจี่ยนกล่าว สำหรับเขาแล้วความพึงพอใจของเซียวโหรวคือความสุขของเขา 

 

 

ถังซียิ้มแล้วลากกระเป๋าเดินทางเข้าไปในห้องเก็บเสื้อผ้า หลังจากจัดข้าวของเสร็จเสื้อผ้าเธอมีไม่ถึงครึ่งห้อง เซียวเจี่ยนเดินเข้ามา เมี่อเห็นเสื้อผ้าและรองเท้าของถังซีแขวนเต็มเพียงตู้เดียว เขาก็ขมวดคิ้ว เขาจำได้ว่าเสื้อผ้าเซียวจิ้นหนิงนั้นมีเต็มรถบรรทุกทั้งคัน ตอนที่หลินหรูนำไปบริจาค “เธอมีเสื้อผ้าแค่นี้เองหรือ” 

 

 

ถังซีเลิกคิ้วมองเซียวเจี่ยน “ใช่ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ” 

 

 

เซียวเจี่ยนพยักหน้า “มีสิ!” เขาลากตัวถังซีออกจากประตูโดยไม่พูดไม่จา ถังซีมองหน้าเซียวเจี่ยนซึ่งทำเหมือนใช้อำนาจบังคับเธอด้วยความประหลาดใจ แล้วกล่าวอย่างเยือกเย็น “พี่เจี่ยน พี่จะทำอะไร ปล่อยฉัน!” 

 

 

เซียวเจี่ยนหยุดทันที ปล่อยมือเธอ แล้วหันกลับมามอง “จะทำให้ห้องเก็บเสื้อผ้าของเธอเต็มไงล่ะ!” 

 

 

เมื่อได้ยินอย่างนี้ถังซีก็ไม่รู้จะพูดว่าอย่างไร ได้แต่แอบถอนหายใจอยู่ภายใน แล้วกล่าวว่า “ถ้าเฉียวเหลียงรู้ว่าพี่พูดแบบนี้กับฉัน เขาต้องโกรธจนกระโจนใส่พี่อย่างแน่นอน พี่ไม่รู้หรือคะว่าคำพูดกำกวมแบบนี้ พี่พูดได้แต่กับแฟนพี่เท่านั้น พี่ใช้คำพูดแบบนี้กับน้องสาวได้ยังไง… 

 

 

…เฮ้อ พี่เจี่ยน ฉันมีเสื้อผ้ามากพอแล้วค่ะ ฉันไม่ต้องการมากไปกว่านี้ แล้วนั่นไม่ได้หมายความว่าฉันไม่มีปัญญาซื้อ ฉันแค่ไม่ต้องการ”