หลิงฮันใช้คันศรตะวันยอแสงยิงราชันกระบี่น้อยเพื่อนำเลือดของอีกฝ่ายมาใส่ในขวดหยกต้องสาป อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายนั้นแข็งแกร่งมากและป้องกันการโจมตีของเขาได้หมด แต่การโจมตีของฮูหนิวไม่ได้เป็นเช่นนั้น
เขาใช้นิ้วสัมผัสไปที่อักขระแห่งความตายบนขวดหยก
แต่เรื่องที่ทำให้หลิงฮันประหลาดใจคืออักขระพวกนั้นมันไม่ส่องแสง
“เกิดอะไรขึ้น?” หลิงฮันรู้สึกแปลกใจ ดูเหมือนว่าถ้าเขาต้องการสังหารราชันกระบี่น้อยมันจะต้องใช้เลือดที่มากพอ หากมีเลือดของมันน้อยนิดพลังของคำสาปก็จะบั่นทอนลง
หลิงฮันพูดกับตัวเองว่า “หากคำสาปใช้ไม่ได้ แล้วเจ้าจะมีค่าอะไร!”
หลิงฮันลองใช้มันอีกครั้ง และในครั้งนี้อักขระได้ส่องแสงสว่างขึ้น
ซึ่งหมายความว่าคำสาปที่เขาสามารถใช้ได้คืออาการเจ็บป่วย หรือโรคที่หลิงฮันไม่รู้
หลิงฮันเริ่มออกเดินทางอีกครั้ง ครั้งนี้เขารู้สึกว่าเขามีไพ่เหนือกว่าอีกฝ่าย เรือทองคำของเขาถูกทำลายไปแล้วและเสียลูกศรไปสามดอก ในอนาคต เขาจะต้องกำจัดราชันกระบี่น้อยให้ได้เพื่อชดเชยสมบัติที่เขาได้สูญเสียไป
แต่ตอนนี้หลิงฮันตัดสินใจที่จะทะลวงผ่านระดับตัวอ่อนวิญญาณให้เร็วที่สุด มิฉะนั้นเขาจะทำได้แค่หนีถ้าเผชิญหน้ากับราชันกระบี่น้อยและถ้าเขาไม่มีหอคอยทมิฬ เขาคงไม่มีโอกาสแม้แต่จะหลบหนี
ภายใต้แรงกดดัน ทำให้จิตวิญญาณต่อสู้ของเขาลุกโชติ
แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขารู้สึกได้ถึงอันตรายและเปิดปากพูดออกมาว่า “หากเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว ทำไมไม่ปรากฏตัวออกมาล่ะ?”
ราชันกระบี่น้อยปรากฏตัวออกมาและพูดอย่างเย็นชาว่า “เจ้าคิดหรือว่าจะหลบหนีข้าไปได้? ช่างไร้เดียงสายิ่งนัก!”
“ข้าไม่ได้ไร้เดียงสา แต่ข้าคิดว่ามันเป็นเจ้าต่างหากที่โชคร้าย!” หลิงฮันยิ้ม
“โอ้ว ข้าน่ะหรือโชคร้าย?” ราชันกระบี่น้อยกล่าวขณะจ้องมองไปที่หลิงฮัน มันไม่รู้สึกกังวลแม้แต่น้อย เพราะมันสัมผัสกลิ่นอายของฮูหนิวไม่ได้ ซึ่งเด็กสาวตัวน้อยนั่นสามารถใช้ทักษะอสนีบาตเก้าทิวาได้ แม้แต่การป้องกันของมันยังถูกทำลาย
หลิงฮันขบคิดอยู่ชั่วขณะและพูดว่า “ข้ากำลังรอเจ้าอยู่เลย!”
“ว่าไงนะ!” ราชันกระบี่น้อยประหลาดใจ และคิดแค่ว่าหลิงฮันพยายามข่มขวัญมัน และยังคงเพ่งเล็งไปที่หลิงฮัน เมื่อใดที่อีกฝ่ายขยับตัวแม้แต่น้อย มันก็จะกวัดแกว่งกระบี่ทันทีเพื่อปลิดชีพฝ่ายตรงข้าม
เหตุผลที่มันยังไม่เคลื่อนไหวเพราะมันต้องการรู้ตำแหน่งของฮูหนิวก่อน เพราะอีกฝ่ายสามารถใช้ทักษะอสนีบาตเก้าทิวาได้ ซึ่งอาจทำให้มันตกอยู่ในอันตราย
“อ๊าก!” ในขณะนั้นราชันกระบี่น้อยรู้สึกปวดท้องและกรีดร้องออกมา
สีหน้าของราชันกระบี่น้อยดูตกใจมาก
ใช่แล้ว มันกำลังปวดท้อง!
นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน!
หลังจากที่ทะลวงผ่านระดับบุปผาผลิบาน จอมยุทธจะแตกต่างจากคนทั่วไปและเป็นไปไม่ได้ที่จะเจ็บป่วย ยิ่งอาการปวดท้องไม่จำเป็นต้องพูดถึง ทว่าตอนนี้มันกลับรู้สึกปวดท้องมากราวกับมันกำลังจะระเบิดออกมา
นี่เป็นเรื่องที่ไร้เหตุผลสิ้นดี!
“ดูสิ เจ้าเป็นคนที่โชคร้ายจริงด้วย” หลิงฮันยิ้ม
ราชันกระบี่น้อยต้องการที่จะโจมตีหลิงฮัน ใบหน้าของมันกลายเป็นสีเขียวและขมิบก้นไปมาแล้วแบบนี้มันจะโจมตีอีกฝ่ายได้อย่างไร?
“จ…เจ้ารอขอก่อนเถอะ!” ราชันกระบี่น้อยต้องการไปปลดทุกข์ มันจะต่อสู้ทั้งที่ปวดท้องอยู่ได้อย่างไร และเดินขมิบก้นเข้าไปในพุ่มหญ้า ปู้ด ปู้ด เสียงปลดทุกข์ของมันดังไปทั่วอากาศ
“น่าชื่นชมยิ่งนัก” หลิงฮันพูดอยู่ในระยะไกลว่า “ราชันกระบี่น้อย เจ้าเป็นคนที่น่าทึ่งยิ่งนัก แม้แต่กลิ่นเหม็นของเจ้ายังลอยมาถึงนี่เลย”
ราชันกระบี่น้อยอยากจะเข้าไปตบปากหลิงฮัน แต่ทว่าตอนนี้มันกำลังปลดทุกข์อยู่และส่งเสียงร้องออกมาอย่างมีความสุขแทน
“กินลูกธนูของข้าหน่อยเป็นไง!” หลิงฮันดึงสายคันศรตะวันยอแสงที่มีลูกธนูอยู่บนสายแล้ว
“หลิงฮัน เจ้ามันคนไร้ยางอาย!” ราชันกระบี่น้อยคำราม ถ้าไม่มีฮูหนิว มันก็ไม่หวาดกลัวลูกธนูของหลิงฮัน แต่สถานการณ์ของมันในปัจจุบัน มันจะกวัดแกว่งกระบี่และจดจ่อไปที่การโจมตีของหลิงฮันได้อย่างไร?
“ทำไมข้าจะต้องสนใจเรื่องพวกนั้นด้วย?” หลิงฮันยิงธนูออกไป เขายังคงรู้สึกโกรธที่อีกฝ่ายสังหารผู้คนบริสุทธิ์จากทั้งสองหมู่บ้าน และตัดสินใจยิงธนูออกไปเพื่อทำให้อีกฝ่ายอับอายมากยิ่งขึ้น
พรึบ ลูกธนูกลายเป็นลำแสงสีขาวเหมือนกับมังกรที่กำลังแหวกว่ายอยู่บนท้องฟ้า
ราชันกระบี่น้อยไม่มีทางเลือกนอกจากกวัดแกว่งกระบี่และเช็ดก้นเพื่อป้องกันลูกศรของหลิงฮัน
“หลิงฮัน ถ้าข้าสังหารเจ้าไม่ได้ ข้าสาบานว่า–ปู้ด!” ราชันกระบี่น้อยยังพูดไม่ทันจบ มันก็นั่งลงปลดทุกข์อีกครั้ง
“ฆ่าข้า? ข้าต่างหากที่จะฆ่าเจ้า!” หลิงฮันกล่าว เขาล้มเลิกที่จะยิงธนูและหันหลังจากไป
อีกฝ่ายยังคงมีหุ่นเชิดเพชรอยู่กับตัว มันอาจกำลังจับตามองเขาอยู่เพื่อหาโอกาสโจมตีเขา
หลิงฮันบินจากไปข้างหน้าและดูเหมือนว่าเขาจะยังคงได้ยินเสียงปลดทุกข์ของมันอยู่เลย
…
สามวันต่อมา หลิงฮันก็เดินทางมาถึงเมือง อักขระบนขวดหยกต้องสาปดับลงแล้ว โลหิตของราชันกระบี่น้อยถูกใช้จนหมด ทำให้เขาไม่สามารถสาปมันได้อีกต่อไป
เขาเรียกจูเสวี่ยนเอ๋อและฮูหนิวออกมา และทั้งสามคนเดินไปตามถนน แต่ในไม่ช้าใครบางคนชี้นิ้วมาที่พวกเขา หลังจากนั้นไม่นาน หลิงฮันก็เห็นภาพของเขาและฮูหนิวติดไปทั่วทั้งเมือง
นี่คือประกาศจับ ถ้าใครพบที่อยู่ของพวกเขาและมีข้อมูลให้จะได้รับรางวัลมากมาย อย่างไรก็ตาม มันมีแค่รูปของเขาและฮูหนิวเท่านั้น และไม่มีชื่อเขียนอยู่
เห็นได้ชัดว่าประกาศพวกนั้นเป็นของราชันกระบี่น้อย มันไม่กล้าใส่ชื่อของหลิงฮัน นั่นเป็นเพราะหลิงฮันเป็นนักปรุงยาระดับสวรรค์ มันประกาศจับโจ่งแจ้งแบบนี้ นี่มันไม่กลัวสมาคมนักปรุงยาจะโกรธเลยหรือ?
ตอนนี้มันเป็นแค่จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณ และยังไม่บรรลุระดับทลายมิติ
หลิงฮันรีบพาฮูหนิวและจูเสวี่ยนเอ๋อออกไป ในไม่ช้าราชันกระบี่น้อยจะต้องไล่ล่าพวกเขาต่อแน่นอน เขาเข้าไปในหอคอยทมิฬพร้อมกับฮูหนิวและจูเสวี่ยนเอ๋อแล้วแปลงโฉมด้วยเม็ดยา
“หลิงฮัน!”่ ในขณะที่พวกเขากำลังจะออกจากเมือง จิตสังหารของราชันกระบี่น้อยพุ่งมาที่พวกเขา โดยมุ่งเป้ามาที่หลิงฮันและฮูหนิว
เจ้านั่นรู้ได้ยังไงว่าพวกเขากำลังปลอมตัวอยู่?
หลิงฮันรู้สึกแปลกใจ เขารีบใช้ทักษะย่างก้าวเทพธิดาปีศาจเพื่อหลบหนี แต่ทว่าฮูหนิวกลับหันหลังและกลายเป็นลำแสงเพื่อสังหารราชันกระบี่น้อย
“เจ้าคิดที่จะใช้ลูกไม้แบบนี้ต่อหน้าข้าเป็นครั้งที่สองงั้นรึ?” ราชันกระบีน้อยแสยะยิ้ม