ตอนที่ 600

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ฆ่าผิดคน

สร้อยข้อมือบนแขนราชันกระบี่น้อยส่องประกายและกลายเป็นลำแสงพุ่งเข้าหาฮูหนิว ทำให้นางถูกมัดมือ และนางรู้สึกกังวลเป็นอย่างมากจึงใช้ปากกัดเพื่อทำลายมัน

ฟริ้ว หลิงฮันยิงธนูออกไป เขาไม่ได้ใช้คันศรตะวันยอแสง แต่ใช้พลังก่อเกิดสร้างธนูและลูกศรขึ้นมา เพราะไม่มีเวลาที่จะนำคันศรตะวันยอแสงออกมา

ราชันกระบี่น้อยไม่ประมาท มันหลบการโจมตีของหลิงฮัน ทำให้พลาดโอกาสที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่จะโจมตีฮูหนิว

หลังจากที่ลูกศรพุ่งผ่านไป ราชันกระบี่น้อยพบว่าพลังของลูกศรนี่น้อยกว่าก่อนหน้านี้ ช่วยไม่ได้ที่มันจะแสดงสีหน้าอับอายเพราะความทนงตัว กลอุบายของอีกฝ่ายทำให้มันพลาดโอกาสอันยอดเยี่ยมที่จะเอาชนะเด็กสาวตัวน้อย

“กลับมาฮูหนิว!”หลิงฮันกรีดร้อง เขาไม่ต้องการให้เด็กสาวตัวน้อยตกอยู่ในอันตรายอีกครั้ง

ฮูหนิวพยักหน้าและกระโดดกลับมาอย่างรวดเร็ว นางหันหน้าไปเผชิญหน้ากับราชันกระบี่น้อยและพูดว่า “ส่งกลิ่นเหม็น!”

ราชันกระบี่น้อยคิดว่าฮูหนิวกำลังเยาะเย้ยมันเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน ช่วยไม่ได้ที่มันจะรู้สึกโกรธ นี่ถือเป็นความอัปยศอย่างมากในความคิดของมัน

“หนีกันก่อน!” ต่อหน้าสายตาของผู้คนจำนวนมาก หลิงฮันไม่อาจใช้หอคอยทมิฬได้ เขาคว้าตัวฮูหนิวด้วยมือซ้ายและจูเสวี่ยนเอ๋อด้วยมือขวาแล้วใช้ทักษะย่างก้าวเทพธิดาเพื่อหลบหนีทันที

หลังจากเดินไปได้สองก้าว หลิงฮันรับรู้ได้ถึงอันตราย เขารีบหลบไปอยู่ด้านข้างและกระโจนหลบ

ตู้ม!

หมัดอันทรงพลังบดขยี้ถนน ทำให้เกิดฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว ถ้าหลิงฮันไม่เปลี่ยนเส้นทาง เขาคงถูกหมัดนั่นบดขยี้ไปแล้ว หุ่นเชิดเพชรนั้นสามารถหักเหแสงได้ ทำให้ยากที่จะสังเกตเห็น

เมื่อฝุ่นที่ฟุ้งกระจายหายไป ปรากฏหลุมขนาดใหญ่บนถนน มันมีความลึกมากกว่าสิบฟุต แสดงให้เห็นถึงอนุภาพของหมัดเมื่อครู่

หลิงฮันกระอักเลือดออกมา แม้ว่าเขาจะหลบการโจมตีเมื่อครู่ได้ทันเวลา แต่ยังคงได้รับผลกระทบ พลังของระดับก้าวสู่เทวาน่าสะพรึงกลัวมาก แม้จะหลบได้ทันแต่พวกเขาทั้งสามคนก็ยังคงได้รับบาดเจ็บ

“เจ้าคิดจะหนีไปที่ไหนรึ?” ราชันกระบี่น้อยกล่าวอย่างเย็นชาขณะกวัดแกว่งกระบี่ที่อยู่ในมือ และสังหารทุกคนที่กระบี่กวาดผ่าน ทำให้เกิดสายโลหิตหลั่งไหลออกมานับไม่ถ้วน

คนผู้นี้ไม่สนใจชีวิตของมนุษย์เลยแม้แต่น้อย สำหรับมันแล้วมนุษย์ทุกคนล้วนแต่เป็นมดปลวก

หลิงฮันรู้สึกโกรธ แววตาของเขากลายเป็นหนาวเย็น เขายกมือข้างขวาขึ้นมาและโยนร่างของมนุษย์คนหนึ่งใส่มัน มันเป็นร่างของเฝิงเหว่ยฉี

เฝิงเหว่ยฉีปรากฏตัวออกมาจากหอคอยทมิฬอย่างกะทันหัน และไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทันใดนั้นมันได้เห็นแสงของกระบี่กำลังพุ่งเข้ามาหา ซึ่งมันไม่คิดเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม แสงกระบี่นั่นมันดูคุ้นเคยมาก และเขาเคยเห็นมันมาหลายครั้ง

มันเป็นลูกชายของเขา!

ทำไมลูกชายของตัวเองต้องโจมตีเขาด้วย?

“อ๊ากก–” เฝิงเหว่ยฉีกรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัวและถูกกระบี่เล่มนั้นผ่าเป็นสองส่วน

ราชันกระบี่น้อยเหลือบมอง มันคิดไม่ถึงเลยว่าหลิงฮันจะโยนชายร่างใหญ่ออกมาจากอากาศที่ว่างเปล่าได้ มันหันไปมองร่างของเฝิงเหว่ยฉี และช่วยไม่ได้ที่มันจะเดินโซเซไปมา

นี่คือพ่อของมัน ซึ่งมันคิดว่าถูกหลิงฮันกักขังไว้ที่ไหนสักแห่ง แต่อีกฝ่ายกับโยนพ่อของมันออกมาจากอากาศที่ว่างเปล่าได้!

“พ่อ!” มันอุทานออกมาด้วยใบหน้าที่ซีดขาวราวกับจะเป็นลม

มันสามารถพรากชีวิตของทุกคนบนโลกใบนี้ได้ แต่เฝิงเหว่ยฉีนั้นเป็นพ่อของมัน และเป็นคนเดียวที่มีสายเลือดเดียวกัน แต่กลับถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของมันเอง

หลิงฮันจ้องมองไปที่มันและพูดอย่างเย็นชาว่า “เอาล่ะ ทีนี้เจ้าจะกล้าพูดหรือไม่ว่าคนที่เจ้าเพิ่งฆ่าไปนั้นเป็นแค่มดปลวก?”

“หลิงฮัน!” ราชันกระบี่น้อยรู้สึกเดือดดาลอย่างถึงที่สุด แววตาของมันลุกโชติไปด้วยเปลวเพลิง และคิดแค่ว่าต้องฆ่าหลิงฮันให้จงได้

หลิงฮันยักไหล่และพูดว่า “อย่ามองข้าด้วยสีหน้าแบบนั้น ก่อนที่เจ้าจะโทษคนอื่น จงดูสิ่งที่เจ้าทำซะก่อน! ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าเป็นคนฆ่าเฝิงเหว่ยฉีด้วยตัวเอง ซึ่งมันไม่เกี่ยวอะไรกับข้าเลย”

“หุบปาก!” ราชันกระบี่น้องกระโจนไปข้างหน้าและต้องการฆ่าหลิงฮัน

หลิงฮันใช้ย่างก้าวเทพธิดาปีศาจและล่าถอยอย่างต่อเนื่อง

ตู้ม อีกด้านหนึ่งหุ่นเชิดเพชรเองก็กระโจนเข้าหาหลิงฮันเช่นกัน กลิ่นอายของระดับก้าวสู่เทวานั้นน่าหวาดกลัวกว่าราชันกระบี่น้อยเสียอีก

“พอได้แล้ว มันผู้ใดที่กล้าก่อเรื่องในเมืองเก้าเมฆาของข้า?” ในขณะนั้น กลิ่นอายที่ทรงพลังปรากฏออกมาตามมาด้วยชายร่างสูงที่มีอายุเกือบห้าสิบปี แต่เมื่อเขาเห็นหุ่นเชิดเพชร ทำให้เขารู้สึกตกใจมาก และรีบหันหลังหนีจากไปอย่างรวดเร็ว

นี่มันเรื่องอะไรกัน เขาเป็นแค่จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณ แต่อีกฝ่ายเป็นระดับก้าวสู่เทวาแล้วเขาจะไปทำอะไรได้?

ในภูมิภาคกลาง จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณไม่ใช่ตัวตนที่สูงที่สุด แต่ก็ถือว่าเป็นปรมาจารย์

หลิงฮันไม่คิดที่จะต่อสู้ ฝ่ายต้องข้ามเป็นถึงจอมยุทธที่อยู่บนจุดสูงสุดของระดับตัวอ่อนวิญญาณและจุดสูงสุดของระดับก้าวสู่เทวา เขาไม่สามารถต่อกรกับพวกมันได้เลย ดังนั้นหลิงฮันจึงนำยันต์อาคมเคลื่อนย้ายพริบตาที่หม่าตั้วเป่าให้มาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าไม่คิดที่จะเล่นกับพวกเจ้า เช่นนั้นคงต้องขอตัว!”

หลิงฮันใช้ยันต์อาคมเคลื่อนย้ายพริบตา ในขณะที่พาจูเสวี่ยนเอ๋อและฮูหนิวกลับเข้าไปในหอคอยทมิฬ ซึ่งราชันกระบี่น้อยจะคิดว่าเขาใช้ยันต์อาคมเคลื่อนย้ายพริบตาหลบหนีไปพร้อมกับผู้หญิงสองคน

“เจ้ามียันต์อาคมเคลื่อนย้ายพริบตามากมายแค่ไหนกัน?” ราชันกระบี่น้อยขมวดคิ้ว ยันต์อาคมเคลื่อนย้ายพริบตาเป็นสมบัติล้ำค่า หากมีมันอยู่ในมือสามารถรับประกันชีวิตได้ในระดับหนึ่ง และมันเป็นเรื่องน่าทึ่งมากที่หลิงฮันมียันต์อาคมเคลื่อนย้ายพริบตามากกว่าสองใบ

“หรือว่ามันจะได้รับมาจากสิบสองพระราชวัง?’ ราชันกระบี่น้อยพูดพึมพัม

จากนั้นมันหันหน้ากลับไปมองร่างของเฝิงเหว่ยฉี และช่วยไม่ได้ที่มันจะปลดปล่อยจิตสังหารออกมาพร้อมกับกำหมัดแน่น ในฐานะมนุษย์ มันจะต้องฆ่าหลิงฮันให้จงได้!

“หลิงฮัน ข้าจะตามหาเจ้าให้เจอและฆ่าเจ้าอย่างแน่นอน!” ราชันกระบี่น้อยพูดพึมพัม ใบหน้าของมันบิดเบี้ยวจนน่าเกลียดราวกับสัตว์อสูรที่กำลังบาดเจ็บ

……

หลังจากที่ราชันกระบี่น้อยจากไปพร้อมกับหุ่นเชิดของมัน หลิงฮันก็ออกมาจากหอคอยทมิฬ เขาลูบคางของตัวเองและพูดว่า “ถ้าข้าไม่สามารถหลอกอีกฝ่ายได้ ข้าคงต้องใช้ยันต์อาคมเคลื่อนย้ายพริบตา และข้าต้องฝึกทักษะอสนีบาตเก้าทิวาให้ได้โดยเร็ว ถึงจะต่อกรกับมันได้”

“สงสัยข้าต้องรอการปรากฏของสายฟ้าจากสวรรค์!”

เมื่อปีใหม่ผ่านไป ฤดูใบไม้ผลิก็ใกล้เข้ามา เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิแล้วก็จะเกิดฟ้าผ่าเพิ่มมากขึ้น แต่หลิงฮันนั้นดวงซวยเป็นอย่างมาก เขาอาศัยอยู่ในเมืองมาเจ็ดวันแต่อากาศทุกวันกลับแจ่มใส

แต่เมื่อหลิงฮันต้องการจะออกจากเมือง จู่ๆอากาศก็เปลี่ยนไป คลื่นฟ้าผ่าเริ่มก่อตัวและผ่าลงมาโดยไม่คาดฝัน