ตอนที่ 475 ศัตรูหัวใจก่อความลำบาก

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

สวะเซี่ยชอบเสแสร้ง แต่ทักษะในการแสดงละครของเขาต่อมู่เฉียนซีและน่าหลานอวี้แย่ลงเรื่อย ๆ ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงไม่ได้สนใจอะไรมากนัก

มู่เฉียนซีเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกล่าว “เจ้าสวะเซี่ย ข้ากับน่าหลานอวี้นั้นปกป้องทรัพย์สมบัติล้ำค่าของแคว้นเจ้าก็ลำบากมากแล้ว จากนี้ไปเจ้าจะต้องทำตัวให้เป็นประโยชน์บ้าง หากไร้ประโยชน์ ก็อย่าได้โทษข้าเมื่อข้าทอดทิ้งเจ้า”

“ฮือ… เสี่ยวซีซียังคงโหดเหี้ยมเช่นเคย” เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวอย่างเสียอกเสียใจ

ในฐานะองค์รัชทายาทเซี่ยผู้ซึ่งถูกทุกคนแย่งชิงสมบัติของชาติ ประโยชน์เดียวของเขาคือนำทาง

มู่เฉียนซีรู้สึกหมดหนทาง ความรู้สึกนี้… เหตุใดมันจึงรู้สึกเหมือนกับการเดินทางไปทางทิศตะวันตกนักนะ

ระหว่างทาง มู่เฉียนซีและน่าหลานอวี้ปกป้ององค์รัชทายาทเซี่ยผู้มีสายเลือดสูงศักดิ์ และกําจัดเหล่าปีศาจร้ายไปด้วย

เมื่อมาถึงพื้นที่หนึ่ง เชียนอ้าวเซี่ยก็หยุดฝีเท้าลงและกล่าวว่า “เสี่ยวซีซี พวกเราจะไปถึงตําหนักปิงเสว่หลิงในไม่ช้า เส้นทางนี้จะผิดแปลกและอันตรายมาก เจ้ากับอวี้ต้องระวังตัวให้มาก”

แม้ว่าความแข็งแกร่งของเชียนอ้าวเซี่ยจะไม่มีเลยจนเรียกได้ว่าเขาไร้ประโยชน์มาก แต่สถานการณ์ในดินแดนลึกลับกลับมีการบันทึกโดยบรรพบุรุษตระกูลเชียนของเขานับไม่ถ้วน  มีเพียงผู้สืบทอดสายเลือดสายตรงอย่างเขาเท่านั้นที่จะสามารถมองเห็นได้

ก่อนมา เสด็จพ่อของเขาจับเขาและบอกให้เขาจําเนื้อหาที่บันทึกข้างต้น และด้วยสัญชาตญาณของเขา เขารู้ดีว่าพวกเขาได้เข้าสู่ดินแดนที่อันตรายมากเข้าให้แล้ว

มู่เฉียนซีพยักหน้า “พวกเรารู้แล้ว เข้าไปข้างในเถอะ”

“ข้าเดินนําหน้าเอง ข้านั้นไม่เชื่อว่าสถานที่ที่บรรพบุรุษทิ้งไว้จะทําร้ายลูกหลานของเขา”

เชียนอ้าวเซี่ยอยากจะเป็นวีรบุรุษสักครั้ง แต่มู่เฉียนซีกลับดึงร่างเขามาอยู่ข้างหลังนาง “เจ้าอย่าได้เคารพภักดีบรรพบุรุษของเจ้าเกินไปนัก หากไม่รอบคอบแล้วเจ้าตกอยู่ในอันตรายจะทำอย่างไร ? เจ้าไม่มีพลังวิญญาณ ไปอยู่ด้านหลังเถอะ”

มู่เฉียนซีแข็งแกร่งที่สุด และยังมีไม้ตายจํานวนมากอยู่กับตัว นางจึงเดินนําหน้าเขา ให้เชียนอ้าวเซี่ยอยู่ตรงกลาง และมีน่าหลานอวี้อยู่ท้ายสุด

— แกร๊ก! —

มู่เฉียนซีเหยียบพื้นน้ำแข็ง ทันใดนั้นก็มีเสียงดังออกมา

น้ำหนักของตนเองไม่หนักเท่าธารน้ำแข็งที่ไม่รู้ว่าหนามากเพียงใด นั่นหมายความว่ามีกับดักอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา

— ปัง — ทั้งร่างของมู่เฉียนซีตกลงไปข้างล่างอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ในตอนนี้เอง นางได้เห็นเงาร่างเงาหนึ่งที่ขาวดั่งหิมะพุ่งเข้า และจับมู่เฉียนซีเอาไว้

เชียนอ้าวเซี่ย “เสี่ยวซีซีจับข้าเอาไว้ อย่าปล่อยมือเชียวนะ!”

ที่เบื้องล่างนั้นเป็นเหวลึกอย่างไร้จุดสิ้นสุด ถ้าหากว่าเชียนอ้าวเซี่ยไม่ได้จับนางไว้แล้วนางตกลงไปข้างล่างละก็ ทั้งร่างและกระดูกนั้นคงแหลกไม่มีเหลือ

ถึงแม้ว่าเชียนอ้าวเซี่ยจะถูกเลี้ยงตามใจมา แต่อย่างไรเสียเขาก็เป็นชาย แรงของเขานั้นมีมาก

ด้วยเพราะยืมเอาพลังของเชียนอ้าวเซี่ย ทันทีที่มู่เฉียนซีขยับตัว นางก็กระโดดขึ้นมาบนพื้นเรียบได้สำเร็จ ในที่สุดก็ปลอดภัยแล้ว มีความตื่นเต้นแต่ไร้อันตราย

น่าหลานอวี้กล่าวขึ้น “ซีเอ๋อร์ เจ้าไม่เป็นไรนะ โชคดีที่เซี่ยตอบสนองไว”

สายตาของน่าหลานอวี้มองไปยังผมสีดำที่รุงรัง ใบหน้าของชายผู้นั้นดูมีเสน่ห์ราวกับเทพมาร

ปฏิกิริยาของเซี่ยเมื่อสักครู่นี้เร็วกว่าเขา  ความรวดเร็วของเซี่ยนั้นไวเกินกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าแต่เล็กมานั้น เซี่ยไม่สามารถที่จะฝึกยุทธ์ได้ แต่ความเร็วของเขากลับรวดเร็วได้เช่นนั้น ทำให้น่าหลานอวี้ประหลาดใจอยู่บ้าง

เชียนอ้าวเซี่ยเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองไปทางน่าหลานอวี้ น่าหลานอวี้ก็ชะงักไป  พวกเขาทั้งสองรู้จักกันมาเกือบยี่สิบปี ความเข้าใจกันโดยปริยายนี้ยังคงมีอยู่

เชียนอ้าวเซี่ยมองมู่เฉียนซีแล้วกล่าว “เสี่ยวซีซี ข้าทำให้เจ้าตกใจเสียแล้ว”

มู่เฉียนซี “ดูเหมือนว่าข้าจะดูเบาจักรพรรดิปิงเสว่หลิงตี้แล้ว แดนลับที่เขาแก้ไขแล้วนั้น ไม่ธรรมดาอย่างที่คิดเอาไว้ อีกอย่าง พวกเราต้องการที่จะเข้าไปยังใจกลางของแดนลับนี้ แน่นอนว่ามันคงจะไม่ง่ายดายนัก”

มู่เฉียนซีที่หล่นลงไปนั้นไม่ได้เห็นการเคลื่อนไหวของเชียนอ้าวเซี่ย แน่นอนว่านางไม่สงสัยในปีศาจหิมะอย่างสวะเซี่ย นางนั้นคิดเพียงแค่ว่าเขาอยู่ห่างจากนางไม่มาก และก็แค่บังเอิญคว้านางไว้ได้ทันก็เท่านั้น

เชียนอ้าวเซี่ย “เช่นนั้นแล้วเสี่ยวซีซี จากนี้ไปให้ข้าเดินอยู่ด้านหน้าดีไหม ?”

“ไม่ได้…”

“แต่ข้าไม่อยากให้เกิดเรื่องน่าตกใจเช่นนั้นขึ้นกับเจ้าอีกแล้ว” ดวงตาของเชียนอ้าวเซี่ยทอแววขอร้อง

“ใช่ ดวงของเจ้าเซี่ยแข็งมาก” ในเวลานี้น่าหลานอวี้เองก็ยืนอยู่ข้างเดียวกับเชียนอ้าวเซี่ย เขารู้มาโดยตลอดว่าเชียนอ้าวเซี่ยนั้นเป็นผู้ที่เป็นคมในฝัก องค์รัชทายาทผู้ที่มีพลังความสามารถดั่งผู้พิการ จะไปเป็นท่านผู้นำหอเชียนอินได้อย่างไรกัน รู้จักเขามานานหลายปี นับวันเซี่ยยิ่งทำให้ผู้อื่นจับไม่ได้ แต่ทว่าผู้อื่นคาดเดาไม่ได้แล้วเช่นไรเล่า ? มาวันนี้อารมณ์ความรู้สึกของพวกเขานั้นเหมือนกัน ก็คือต้องการที่จะปกป้องสตรีคนเดียวกัน

มู่เฉียนซีกล่าวขึ้น “เช่นนั้นเราสามคนเดินไปพร้อมกันเถอะ”

เชียนอ้าวเซี่ยยิ้มตาหยีแล้วกล่าวว่า “วิธีนี้ไม่เลว แต่ว่าเสี่ยวซีซี เจ้าจูงมือข้าเดินได้หรือไม่ ?”

“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นเด็กอายุเท่าไรกัน ? ยังจะมาให้ข้าจูงเจ้าเดินอีก” มู่เฉียนซีขมวดคิ้ว นางนั้นคร้านจะสนใจเขา

ทั้งสามก็ได้เดินไปพร้อม ๆ กัน ทว่าต่อมาเกิดเรื่องขึ้น …มิใช่เพราะว่าเชียนอ้าวเซี่ยนั้นมีสายเลือดที่บริสุทธิจึงได้รับความโปรดปรานจากจักรพรรดิปิงเสว่หลิงตี้ ครานี้ผู้ที่ตกลงไปเป็นเขา

“เสี่ยวซีซีช่วยข้าด้วย!” ทันทีที่เขาตกลงไป เขาก็ตะโกนออกมาและมู่เฉียนซีก็เร่งหยิบผ้าสีขาวออกมามัดเขาเอาไว้อย่างรวดเร็ว

น่าหลานอวี้ที่อยู่ด้านข้างก็ได้เข้ามาช่วยดึงตัวเขาขึ้นมา

มู่เฉียนซี “เจ้าระวังตัวเองหน่อยเซ่!” “อืม เจ้าวางใจได้เลย ต่อไปข้าจะระวังให้มาก” เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวให้คำมั่น

เส้นทางในส่วนนี้ล้วนแต่เต็มไปด้วยกับดัก เมื่อเดินพ้นมาแล้วครึ่งทาง ทางในต่อจากนั้นก็เป็นหมอกหนาหนาวเย็นกลุ่มหนึ่ง หมอกนั้นครอบคลุมพวกเขาเอาไว้

ในพริบตาความกระหายเลือดในใจของมู่เฉียนซีไม่อาจจะควบคุมเอาไว้ได้ จิตสังหารจึงได้แผ่ซ่านออกมา

— ตูม! —

กระบี่มังกรเพลิงถูกชักออกมา และได้เปิดทางหมอกนั้นออก จากนั้นมันก็ค่อย ๆ ประสานกลับเข้าหากันทีละก้อน ๆ  พลันปรากฏบุรุษในชุดสีขาวสองคนขึ้นมา เชียนอ้าวเซี่ยสวมชุดสีขาวทั้งตัว แต่กลับมีรูปลักษณ์ราวกับเทพมาร เขาเหมือนกับปีศาจหิมะ

ส่วนน่าหลานอวี้เองก็ใส่ชุดสีขาว แต่กลับให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลราวกับหยกเนื้อดี

— ปัง! —

เดิมทีพวกเขาทั้งสองลงมือต่อสู้กับมู่เฉียนซี แต่ในตอนที่พวกเขาทั้งสองได้เข้าไปใกล้กัน กลับเปลี่ยนทิศทางการโจมตีไป หันไปสู้กันเอง

น่าหลานอวี้มีพลังความแข็งแกร่งระดับราชาแห่งภูต ส่วนเชียนอ้าวเซี่ยนั้นมีเพียงกระบี่วิญญาณน้ำแข็ง จึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของน่าหลานอวี้เลย — เคร้ง! —

มู่เฉียนซีลงมือ

เดิมทีในใจนางนั้นคิดที่จะฆ่าสองคนนี้เสีย แต่กลับไปป้องกันกระบี่ที่น่าหลานอวี้จะโจมตีเชียนอ้าวเซี่ยให้ถึงแก่ชีวิต

หัวใจของน่าหลานอวี้นั้นรู้สึกเจ็บปวดอยู่บ้าง  เขามองมู่เฉียนซีแล้วกล่าวขึ้นว่า “ซีเอ๋อร์ เจ้าชอบเซี่ยใช่ไหม ถึงแม้ว่าข้ากับเจ้าจะรู้จักกันมาก่อนเขา แต่ในใจของเจ้านั้น ข้าไม่ได้เป็นอะไรเลยสักอย่างใช่หรือไม่ ?”

เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวขึ้นด้วยเสียงเย็นชา “เสี่ยวซีซีนั้นชอบข้า ใครก็ตามที่มีจิตใจคิดไม่ซื่อต่อนางล้วนต้องตาย รวมถึงเจ้าด้วยสหายรักของข้า น่าหลานอวี้!”

นัยน์ตาเชียนอ้าวเซี่ยเยือกเย็นราวน้ำแข็งหมื่นปี ในความเยือกเย็นของมันมีจิตสังหารที่บ้าคลั่งอยู่ นี่มันวุ่นวายไปหมดแล้ว!

เวลานี้น่าหลานอวี้และเชียนอ้าวเซี่ยนั้นวุ่นวายในจิตใจ แต่สำหรับมู่เฉียนซี นางกำลังรู้สึกว่าความคิดในหัวนางวุ่นวายเหลือเกิน

อาวุธนั่นมีความแปลกประหลาด มันชักนำให้พวกเขาฆ่าฟันกันเอง นางจะต้องรีบหาวิธีที่จะหยุดมัน

.