ตอนที่ 152 นี่เขาไม่เป็นที่โปรดปรานแล้วใช่ไหม / ตอนที่ 153 จูบผมที

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 152 นี่เขาไม่เป็นที่โปรดปรานแล้วใช่ไหม

 

 

           สายตามาหยุดลงที่ริมฝีปากของเจียงมู่เฉิน ซือเหยี่ยนคันยิบๆ ที่หัวใจ ข่มใจจะโถมเข้าไปกินสักคำไม่ได้ แต่พอคิดว่าวันนี้ตัวเองจัดบท ‘รัก’ ให้เขาหนักพอแล้ว ถ้ามาครั้งนี้อีก จะเป็นการยั่วโทสะเจียงมู่เฉินจริงๆ แล้ว

 

 

           นิสัยหยิ่งผยองนี้ของเฉินเฉินของเขา เวลาฉุนเฉียวขึ้นมา เขาหาข้อดีไม่เจอเลยสักนิด

 

 

           คิดได้แบบนี้ ซือเหยี่ยนถอนหายใจเงียบๆ ทำได้แค่เพียงกล้ำกลืนฝืนทนกับน้องชายตัวเองไปก่อน

 

 

            สิ่งที่คิดในหัวเขาตอนนี้ ถ้าให้เจียงมู่เฉินรู้ ต้องด่าเขาว่าเป็นสัตว์แน่ ในหัวมีแต่เรื่องทะลึ่งๆ เต็มไปหมด

 

 

           รถจอดสนิทหน้าประตูทางเข้าคฤหาสน์ตระกูลเจียง ทั้งสองคนลงจากรถแล้วเดินเข้าไปด้วยกัน

 

 

           คุณแม่เจียงเห็นพวกเขากลับมาแล้ว ก็รีบถามด้วยความเป็นห่วงทันที “ทำไมกลับมาค่ำจัง กินข้าวมาหรือยังลูก”

 

 

           เจียงมู่เฉินโดนไอ้หมอนั่นจับกดอยู่บนเตียงจัดหนักจัดเต็มกว่าสามชั่วโมง หิวจนไม่ไหวมาตั้งแต่แรกแล้ว เขารีบพยักหน้า “ใกล้จะหิวตายแล้วครับ”

 

 

           “มาๆๆ นั่งลงก่อน แม่จะไปอุ่นอาหารให้แป๊บนึง”

 

 

           ซือเหยี่ยนกับเจียงมู่เฉินนั่งอยู่หน้าโต๊ะ เจียงมู่เฉินมองคุณแม่เจียง แล้วหันไปยักคิ้วให้ซือเหยี่ยน “แม่ฉันดีสุดๆ เลยใช่ไหมล่ะ”

 

 

           ซือเหยี่ยนยิ้มหัวเราะ “อืม แม่ดีมากจริงๆ”

 

 

           เจียงมู่เฉิน “……” ไอ้หมอนี่หนังหน้าหนาจริงๆ “แม่ฉันกลายเป็นแม่นายตั้งแต่เมื่อไหร่ ซือเหยี่ยนหน้านายหนาขนาดนี้ เวลาจะบูรณะกำแพงเมืองจีนไม่ได้หยิบเอาไปใช้ น่าเสียดายน่าดู”

 

 

           ซือเหยี่ยนลูบจมูกปอยๆ หัวเราะเบาๆ “ต่อให้ตอนนี้ไม่ใช่ ไม่ช้าก็เร็วเดี๋ยวก็ใช่เอง”

 

 

           “ฉันไม่คิดจะยกแม่ฉันให้นายหรอกนะ”

 

 

           ซือเหยี่ยนเชิดมุมปากขึ้น “งั้นผมจะยกแม่ผมให้คุณ แม่ผมชอบคุณมากเป็นพิเศษมาตลอดเลย”

 

 

           เจียงมู่เฉินใช้เท้าเตะซือเหยี่ยนอยู่ใต้โต๊ะ “นายมีเหตุผลหน่อยจะได้ไหม”

 

 

           ซือเหยี่ยนเลิกคิ้ว “ทำไมผมไม่มีเหตุผลไปได้ล่ะ”

 

 

           ‘พวกเขาคบกัน แม่ทั้งสองคนก็เป็นแม่พวกเขา ไม่มีเหตุผลเหรอ’

 

 

           เจียงมู่เฉินขบกรามแน่น กำลังอยากจะซัดกลับไป คุณแม่เจียงก็ยกอาหารออกมาแล้ว “รีบกินซะนะจ๊ะ จะได้ไม่หิว”

 

 

           เจียงมู่เฉินถลึงตาใส่ซือเหยี่ยนแวบหนึ่ง นี่เขาเห็นแก่หน้าแม่ตัวเองหรอกนะ ถึงได้ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับซือเหยี่ยน

 

 

         “เสี่ยวเหยี่ยนกินเยอะๆ หน่อย ดูสิผอมหมดแล้ว” คุณแม่เจียงนั่งลงข้างๆ ดวงตาคู่นี้จดจ้องมาที่ซือเหยี่ยน

 

 

           นัยน์ตาดอกท้อคู่นี้ของเจียงมู่เฉินแอบจ้องเขม็งใส่ซือเหยี่ยน บทบาทของเขากับซือเหยี่ยนไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่นะ เขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ เหรอ

 

 

           ‘แม่เขาควรจะเป็นห่วงว่าเขาผอมหรือไม่ผอม ไม่ใช่หรือไง ให้เขากินเยอะขึ้นหน่อยไหม’

 

 

           ‘ทำไมพอมาถึงแม่เขา ทุกอย่างกลับกันหมดเลย’

 

 

           “แม่ครับ ผมเป็นลูกชายแม่นะ แม่ควรเป็นห่วงเป็นใยผมไม่ใช่เหรอ”

 

 

           คุณแม่เจียงกวาดสายตามองเจียงมู่เฉินอย่างเย็นชา แล้วกลับไปมองซือเหยี่ยนอย่างเบิกบานใจ “ไม่รู้ว่าทำไมทุกครั้งที่เจอเสี่ยวเหยี่ยนจะรู้สึกมีความสุขเป็นพิเศษเลย แม่สงสัยมาตลอดเลย ว่าตอนเล็กๆ อุ้มผิดมาหรือเปล่า”

 

 

           “……” เพราะฉะนั้น ตอนนี้เขาไม่เป็นที่โปรดปรานแล้วใช่ไหม

 

 

           ซือเหยี่ยนเห็นเจียงมู่เฉินถูกหักหลังแบบนี้ก็ดูน่าขำไม่เบาทีเดียว เขาอดจะยกมุมปากขึ้นไม่ได้

 

 

           เจียงมู่เฉินเพิ่งจะเห็นเขาแอบยิ้มพอดี ฉวยโอกาสตอนที่คุณแม่เจียงไม่เห็น แอบถลึงตาใส่เขาแวบหนึ่ง รอกลับไปห้องก่อน ดูว่าเขาจะลงโทษซือเหยี่ยนยังไง

 

 

           อาหารมื้อนี้ภายใต้การจับตาดูของคุณแม่เจียง ในที่สุดก็กินด้วยกันเสร็จแล้ว หลังมื้ออาหารผ่านไป ซือเหยี่ยนอยู่ชั้นล่างคุยอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่เจียงต่อ เจียงมู่เฉินก็ถือโอกาสนี้เผ่นขึ้นข้างบนไป

 

 

           ‘ถึงยังไงก็มีลูกชายคนใหม่อยู่ด้วยแล้ว แม่เขากำลังมีความสุข ยังจะมานึกถึงเขาได้อยู่เหรอ’

 

 

           เจียงมู่เฉินนอนฟุบถอนหายใจอยู่บนเตียง จะไม่ยอมรับเด็ดขาดว่าเขากำลังแย่งชิงเป็นลูกรักกับซือเหยี่ยนอยู่

 

 

           นอนฟุบเล่นเกมอยู่บนเตียง เจียงมู่เฉินมองดูเวลาก็ล่วงเลยใกล้จะสามทุ่มแล้ว เขาได้ยินเสียงหัวเราะของซือเหยี่ยนกับคุณแม่เจียงดังขึ้นมาลางๆ จากชั้นล่าง

 

 

           เขาถอนหายใจ ปีนลงจากเตียงไปอาบน้ำ

 

 

           เจียงมู่เฉินเอนกายฟุบอยู่ในอ่างอาบน้ำ ครุ่นคิดอย่างจริงจัง ไม่แน่ว่าต่อไปตอนที่พวกเขาสองคนสารภาพความจริง แม่เขาคงอยากฟาดเขามากกว่า ทำใจฟาดซือเหยี่ยนไม่ลง

 

 

           หมอกไอน้ำแผ่ปกคลุมไปทั่วห้องน้ำ เขาแช่น้ำอุ่นๆ เปลือกตาหนักแทบยกจะไม่ขึ้นแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่นานผลข้างเคียงจากการโดนซือเหยี่ยน ‘ทำ’ แบบนั้น ทุกอย่างปรากฏออกมาหมด

 

 

           เขานอนฟุบอยู่ข้างใน ทั้งร่างกายอ่อนเพลียอยากจะนอนหลับบ้างแล้ว

 

 

           หลังจากพูดคุยอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่เจียงแล้ว ถึงได้ขึ้นชั้นบนมา เขาเดาไว้ว่าเจียงมู่เฉินควรจะกำลังเล่นเกมอยู่ ทันทีหลังจากผลักประตูเปิดเข้ามาก็ไม่เห็นใคร รู้สึกแปลกใจหน่อยๆ แล้ว

 

 

           เขาเดินมาถึงหน้าห้องน้ำ ยื่นมือผลักประตูเปิดเข้าไปก็เห็นทั้งห้องเต็มไปด้วยไอร้อน เจียงมู่เฉินนอนฟุบสัปหงกอยู่ในอ่างอาบน้ำ

 

 

 

 

ตอนที่ 153 จูบผมที

 

 

           ซือเหยี่ยนกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะยามที่สายตาจดจ่อถูกจุดสำคัญ รอยช้ำบนแผ่นหลังเจียงมู่เฉิน แววตาคมเข้มดำดิ่งหยั่งลึกลงไปในความรู้สึก

 

 

           ขณะเจียงมู่เฉินกำลังง่วงๆ มึนๆ ก็ได้ยินเสียงเปิดประตู เขาเอียงหัวเล็กน้อยปรือตามองไปข้างหลัง เมื่อเห็นซือเหยี่ยน ก็ยกมุมปากขึ้นโดยจิตใต้สำนึก “นายเข้ามาทำไม”

 

 

           เดิมทีเจียงมู่เฉินคิดว่าซือเหยี่ยนจะปิดประตูเดินออกไป ผลคือคิดไม่ถึงว่าเขาจะลงมือปิดประตูแล้วเดินตรงมาทางเขา

 

 

           เขาทำทุกอย่างตรงๆ และชัดเจน เริ่มจากการยืนตรงนั้นถอดเสื้อผ้าบนตัวออก ตั้งแต่เสื้อเชิ้ตยันกางเกงสูท ไม่มีเหลือสักชิ้น ซือเหยี่ยนเอาเสื้อผ้าวางบนชั้นวาง แล้วค่อยๆ เดินเข้าไปหาเจียงมู่เฉิน

 

 

           เจียงมู่เฉินหรี่ตาลง รู้สึกว่าไอ้หมอนี่ช่างหน้าไม่อายจริงๆ ถึงแม้จะว่าหยามอีกฝ่าย แต่ก็ไม่คิดจะละสายตาไปเช่นกัน

 

 

           ถึงอย่างไร รูปร่างของซือเหยี่ยนไม่ต้องพูดถึงจริงๆ ขายาวสูงแข็งแรง เอวคอดเพรียว ที่สำคัญคือใบหน้าของซือเหยี่ยนที่ดูดีถึงขั้นคนกับเทพต้องมาแย่งชิงกัน

 

 

           แม้แต่เจียงมู่เฉินคนที่หลงตัวเองขนาดนี้ยังรู้สึกว่ารูปร่างหน้าตาของซือเหยี่ยนช่างไร้ที่ติ เขาเลือกส่วนที่ไม่ดีออกมาไม่ได้อยู่แล้ว

 

 

           เขาเห็นซือเหยี่ยนเดินเข้ามาทีละก้าวทีละก้าว จนมายืนอยู่ต่อหน้าเขา

 

 

           เจียงมู่เฉินกลืนน้ำลายเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ “นาย นายมาทำอะไร”

 

 

           ซือเหยี่ยนกวาดสายตามองเขาแวบหนึ่งด้วยสีหน้าเรียบเฉย “อาบน้ำไง”

 

 

           “นายไม่เห็นว่าฉันอาบน้ำอยู่หรือไง”

 

 

           “อย่าสิ้นเปลืองเลย พวกเราประหยัดทรัพยากรน้ำกันหน่อยดีกว่า อาบน้ำด้วยกันก็ได้แล้ว”

 

 

           “……” ปั้นน้ำเป็นตัว ปั้นน้ำเป็นตัวเกินไปแล้ว คาดไม่ถึงว่าจะใช้เหตุผลนี้เป็นข้ออ้าง

 

 

           เมื่อเจียงมู่เฉินได้ยินก็ยืนขึ้น เตรียมจะออกไปทันที “ฉันอาบเสร็จแล้ว นายค่อยๆ อาบเถอะ”

 

 

           ซือเหยี่ยนเลิกคิ้ว กดมือเจียงมู่เฉินไว้แล้วพลิกมือ จับคนกดลงไป

 

 

           เจียงมู่เฉินยกเท้าขึ้นถีบเขา “โคตรพ่อง ปล่อยมือฉันนะ”

 

 

           ซือเหยี่ยนยิ้มเล็กน้อยไม่ปล่อยมือแน่นอน เจียงมู่เฉินดิ้นต่อสู้ แต่ดึงมือตัวเองออกมาไม่ได้ เขาขบกรามถลึงตาใส่ซือเหยี่ยน “นี่นายกินอะไรโตมากันแน่ ถึงได้แรงเยอะขนาดนี้”

 

 

           เขาแปลกใจแล้ว ตัวเองเป็นผู้ชายอกสามศอก พละกำลังก็ไม่ได้ถือว่าน้อยอะไร แต่ทำไมจะขยับทีก็ถูกซือเหยี่ยนกดเอาไว้ ยังกระดุกกระดิกไม่ได้เลย

 

 

           ซือเหยี่ยนเห็นท่าทางหัวร้อนของเขา ก็ขำจนยกมุมปากขึ้น “อยากรู้มากเลย?”

 

 

           เจียงมู่เฉินพยักหน้า “ก็อยากรู้นิดหน่อย”

 

 

           “อยากรู้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้” เขากะพริบตาปริบๆ “จูบผมที แล้วผมจะบอกคุณ”

 

 

           “” เจียงมู่เฉินหน้านิ่วคิ้วขมวด ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าซือเหยี่ยนกำลังใช้มุขที่ใช้กับผู้หญิงมาใช้กับเขา

 

 

           “อยากบอกไม่บอก ใจที่อยากรู้อยากเห็นของคุณชายก็ไม่ได้หนักขนาดนั้น” เรื่องเอาอกเอาใจ เขาทำไม่ถนัดหรอก

 

 

           ซือเหยี่ยนถอนหายใจ “งั้นก็ได้ ในเมื่อเฉินเฉินไม่ยอม ผมก็บังคับไม่ได้อยู่แล้ว” เขาคลายมือออกเล็กน้อย “อยากออกไปก็ไปเถอะ”

 

 

           เจียงมู่เฉินเหล่ตามองเขาแวบหนึ่ง “ยอมให้ฉันออกไปจริงๆ เหรอ นายจะไม่เล่นลูกไม้กันใช่ไหม”

 

 

           ซือเหยี่ยนยักไหล่ “เชิญตามสบายเถอะ”

 

 

           เจียงมู่เฉินมองซือเหยี่ยนด้วยความสงสัย รู้สึกมาเสมอว่าเขาไม่น่าจะมีเจตนาดีอะไร เขาลุกขึ้นยืนแล้วก้าวออกจากอ่างอาบน้ำ ไหนเลยจะรู้ว่าด้านหลังตัวเอง ซือเหยี่ยนกำลังใช้มือเท้าคางชื่นชมเพลิดเพลินกับภาพสวยงามประจักษ์สายตาตรงหน้า

 

 

           ถึงรูปร่างของเจียงมู่เฉินไม่ได้แข็งแรงกำยำเท่าซือเหยี่ยน แต่แขนขาเพรียวยาวได้สัดส่วน ผิวกายขาวผ่องราวกับผู้หญิง ตากแดดอย่างไรก็ไม่คล้ำลง อะไรทำนองนี้ ดูๆ ไปแล้วช่างถูกตาต้องใจเหลือเกิน

 

 

           เจียงมู่เฉินเช็ดตัวให้แห้ง แล้วหยิบเสื้อผ้าที่อยู่ข้างๆ มาสวมใส่ ตอนใส่กางเกงขาสั้น ขาก็ค่อยๆ ยกขึ้น…

 

 

           ดวงตาสีดำขลับของซือเหยี่ยนมืดลง ถ้าไม่คิดว่าเมื่อตอนบ่ายจัดบท ‘รัก’ ให้เขาหนักพอแล้ว เจียงมู่เฉินไม่มีทางจะออกจากห้องน้ำนี้อย่างปลอดภัยได้แน่

 

 

           เขาใส่เสื้อผ้าเสร็จก็หันมาสบสายตาคมเข้มที่กำลังดำดิ่งของซือเหยี่ยน หัวใจก็อดจะสั่นระรัวรุนแรงไม่ได้ เขารีบกำหมัดราวกับจะยับยั้งอารมณ์ของตัวเองที่ถาโถมดั่งระลอกคลื่นซัดฝั่ง กดเสียงต่ำเอ่ยด่าทออีกฝ่าย “สัตว์”