กลุ่มอาณาจักรแห่งการฝึกฝนแต่ละกลุ่มจะมีวัตถุโบราณที่ถูกควบคุมโดยกลุ่มนักบุญสามฝ่าย ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของดาจิน ทุกอย่างกลายเป็นซากปรักหักพังและรกร้าง เนื่องด้วยเวลาอันยาวนาน สิ่งก่อสร้างนานพันปีจึงพังทลานลง แนวราบต่างๆ ถูกกัดเซาะจนเกือบเดาไม่ถูกว่ามันเคยเป็นอะไรมาก่อน
ในโลกใบเล็กแต่กว้างใหญ่นี้ไม่มีใครรู้ว่าสถานที่นี้คืออะไรและนอกจากนี้ไม่มีใครรู้ว่าคนที่ได้มาเหยียบที่นี้ก่อนหน้านี้ยังมีชีวิตอยู่ในโลกหรือเปล่า
ท้องฟ้าอันสดใสเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีส้มจนเกือบแดงกล่ําราวกับอาทิตย์ตกดิน มองดูสถานที่รอบๆ ตัดกับแสงอาทิตย์สถานที่นี้คล้ายว่าเคยเป็นสนามรบโบราณขนาดใหญ่มาก่อน อาวุธโบราณสนิทเกาะถูกทิ้งกระจัดกระจายไว้ที่นี่
เสียงระฆังบนช่องสี่เหลี่ยมของนักบุญทั้งสามดังขึ้นสามครั้งเป็นสัญญาณว่าถึงเวลากลับมาของผู้ฝึกฝนที่เดินทางเข้าแดนฝึกหัด
ผู้ฝึกฝนสองคนของหยุนเสียนมองย้อนกลับไปโดยไม่รู้ตัว
“ดู .. นั่นอะไร!?”
พวกเขามองย้อนกลับไปเห็นก้อนหินขนาดใหญ่ ด้านในลึกเข้าไปกําลังลอยขึ้นอย่างช้าๆ ราวกับว่ามันกําลังตอบรับการเรียกร้อง
…
ติ้ง!
ฟางฉีหยิบนาฬิกาปลุกที่กําลังร้องลั่นขึ้นมาปิดแล้วโยนทิ้ง … เขากลับไปนอนต่อ
หลินเอ๋อตื่นแต่เช้าตรู่ .. เธอนึกขึ้นได้ว่าวันนี้จะมีคอมใหม่มา เธอสงสัยว่ามันจะมาถึงเมื่อไรกันในเมื่อเจ้านายยังไม่ได้ออกจากร้าน
เธอเดินลงมาด้วยความตกใจ .. สิ่งแรกที่เธอเห็นคือคนมากมายยืนรออยู่หน้าประ
“เปิดประตูหน่อย!” ถังหยูและชายหนุ่มคนอื่นๆ แทบจะเบียดเสียดกันอยู่หน้าร้าน พวกเขากลัวว่าจะไม่มีที่นั่งพอหากมาสาย
ข้างหลังพวกเขาซุนหยุนตะโกน “ทําไมวันนี้พวกเจ้ามากันเร็วจัง!”
“ข้ามาถึงที่นี่ตอนหกโมงเช้า!”
เขาเหลือบมองคนตรงหน้า “ชายคนนี้มาตั้งแต่กี่โมง!?”
ชายคนที่ยืนตรงหน้าถังหยูสวมเสื้อคลุมสีดํา
“ข้าจะไปรู้ได้ยังไง ..” ผู้คนต่างกระซิบกระซาบ
“ดูเหมือนว่าเมื่อคืนเข้าจะไม่ได้กลับ ..”
“เปิดแล้ว!” ในที่สุดหลินเอ๋อก็ปลดล็อคประตู แน่นอนผู้คนรุมเข้าไปในร้าน
“ทําไมข้างในถึงได้ขยายออกกว้างขวางขนาดนี้” คนที่เข้ามาอุทาน
“มันเป็นคาถาจิตวิญญาณในการขยับขยายพื้นที่ ข้ารู้สึกประหลาดใจที่ได้เห็นมันที่นี่”
“สุดยอด ..”
ดูเหมือนว่าผู้ที่พิจารณาจะเป็นคนจากตระกูลเก่าแก่ที่เคยรู้จักคาถาจิตวิญญาณเหล่านี้มาก่อน
“ซื่อบื้อ!” ผู้นําตระกูลหลายคนเอ่ยแซวพวกเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้มาเหยียบที่นี่ทุกวัน แต่พวกเขามักจะมาที่นี่เพื่อศึกษเทคนิคและความรู้พื้นฐานต่างๆ ในเซียนกระบี่พิชิตมาร สาวกของตระกูลก็เช่นกันพวกเขามาที่นี่เพื่อเสพความรู้และความสนุก
ชายวัยสามคนอายุราวๆวัยกลางคนมีท่าทางสง่างามเขาสามคนพาชายหนุ่มสวม หูฟังคล้ายนักวิชาการในชุดคลุมสีแดงลวดลายมังกร “พี่ซุนหยวนเชิญทางนี้”
ปรมาจารย์ตระกูลซุนเอ่ย “ดูท่าทางของท่านตกใจไม่น้อย”
“เอ๊ะ ..” ชายชุดคลุมสีแดงเดินก้าวเข้ามาในร้าน
เขาดูเงียบสงบท่ามกลางผู้เล่นที่กําลังตื่นเต้นกับการตกแต่งภายใน
“มันประตูอะไร?” ถึงหยูเอ่ย
ขณะที่พวกเขากําลังเดินไปเคาน์เตอร์เสียงตื่นเต้นในร้านยังคงครึกคัก
ถังหยูที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ําผลักเข้าไปเขาพบว่าเขายืนอยู่จุดเดิมที่เดิมแต่ ทําไมทุกอย่างดูโอ่อ่าแตกต่างไปจากเดิมเพียงแค่คืนเดียว
หลินเอ๋อที่กําลังเฝ้าเคาน์เตอร์กําลังจะพักและเปลี่ยนเวรเป็นหลี่วู่หยาที่เพิ่งเดินลงมามองดูสถานการณ์ในร้าน
ถังหยูยังคงวนเวียนอยู่กับประตูและสิ่งแปลกตา
“!??” เขาไม่เข้าใจ
เขาเดินกลับไปที่ประตูอีกครั้งและเงยหน้าขึ้นมองหน้าพนักงานในร้าน เขาเดินออกไปข้างนอกและเดินกลับเข้ามาก็ยังพบว่า ตัวเองอยู่ในร้านเดิมแต่มันใหม่
“พวกเจ้าลองดูนี่สิ!” ถังหยูเอ่ยชวนให้ดูที่ประตู
“เลิกโวยวายได้แล้ว!” ถังอู๋ปรามาจารย์ประจําตระกูลถังกล่าวด้วยความไม่พอใจ “อย่าเอะอะโวยวาย เจ้าลืมคําสอนของข้าแล้วหรือ”
เขาแสดงกิริยาที่กระโตกกระตากเกินไป
ถังคู่ถอนหายใจ “มันแปลกตรงไหน?” เขาเดินไปจับประตูตามคําชวนของถังหยู
“ฮึ!?”
“พวกเขาอยู่ที่ไหน?” ทันใดนั้นเขาไม่เห็นใครนอกจากผู้เฒ่าหลี่วู่หยา
ทันใดนั้นเขาออกไปข้างนอกแล้วเดินเข้ามาอีกครั้ง
“!?? เป็นไปไม่ได้… ของข้ากําลังเล่นตลกอยู่หรือเปล่า?”
เขาออกไปและเข้ามาอีกครั้ง
ใบหน้าของปรมาจารย์ครอบครัวซุนและครอบครัวหวังกระตุก “นั่นพี่ถังทําอะไร?
น่าอายไม่น้อยที่ทําตัวแปลกแยกต่อหน้าคนมากมาย
“ไม่ …” ถังอู่ชี้ไปที่ประตูข้างหน้าเขาด้วยความงุนงง “ประตูนี้ ..”
“แล้วปรูตูนี้มันมีดีอะไร?” พวกเขาเดินไปด้วยความสงสัย
… สิบวิต่อมา
ซุนหยวนเฝ้ามองเหล่าตระกูลโบราณเดินเข้าเดินออกครั้งแล้วครั้งเล่า
“พวกเจ้าไปทําอะไรอยู่ตรงนั้น?”
สามนาทีต่อมา ฟางฉียึดตัวและเดินลงมาจากข้างบนหลังจากอาบน้ําแต่งตัวเสร็จ
เขาเห็นชายวัยกลางคนสามสี่คนและหนุ่มสาวกลุ่มใหญ่ยืนอยู่หน้าประตู พวกเขา ผลักมันออกและเดินเข้าไปอย่างเป็นระเบียบ .. แต่แป๊ปๆ พวกเขาก็เดินออกมาจาก นั้นก็ผลักเข้าไปอีกครั้ง
ขณะที่พวกเขากําลังทําเช่นนี้ พวกเขามองขึ้นลงไปที่ประตูด้วยความสนใจ
“พวกบ้า ..” ฟางฉีพึมพํามองดูพวกเขา
“เจ้าของ!” พวกเขามีนงงไปหมดในฐานปรมาจารย์ของครอบครัวใหญ่ พวกเขาไม่เข้าใจความลับของประตูนี้เลย
มันเป็นกลอุบายหลอกลวงหรือเปล่า?
“นี่ ..” พวกเขาเดินไปหาฟางฉีด้วยความข้องใจ “มันอะไร?”
“ทําไม.. ข้าสามารถเดินเข้าไปในร้านสองร้านผ่านประตูเดียวกันได้”
ฟางอธิบายแบบงุ่มง่าม ..
“มันเป็นคล้ายห้วงอากาศ” ฟางฉีตอบ
“หืม ..เจ๋งมาก!”
“ไม่ … ข้าต้องการค้นหาว่ามันทํายังไง?”
พวกเขายังคงเดินเข้าเดินออก
ฟางฉีทนไม่ไหว “พวกท่านจะเล่นหรือไม่เล่น!?”
ตอนต่อไป →