นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 605 นักเรียกจนๆคนหนึ่ง
หัวหน้าที่พูดพร้อมกับออกคำสั่งไล่อย่างหมอความอดทน แต่เย่ซีก็ไม่ยอมแพ้ เธอเม้มปากพูด:”ให้โอกาสฉันสักครั้งได้มั้ยคะ หรือให้ฉันได้เจอกับคนในแผนกดนตรีหน่อยได้มั้ยคะ”
หัวหน้ามองด้วยสายตาคมกริบ:”เธอคิดว่าเธอเป็นใคร ถ้าหากเธอยังไม่ไปละก็ ฉันจะรีบเรียกยามมาจับเธอออกไป”
เขาที่พูดเสร็จเสร็จก็บ่นพึมพำ:”คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ก็แค่นักเรียนจนๆ คนหนึ่ง”
เย่ซีที่มีนิสัยเงียบและอ่อนหว่าน ไม่ได้พูดโต้แย้งแต่อย่างไร เธอมองด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ:”งั้นเอาต้นฉบับมา……..”
เธอยังพูดไม่ทันจบ หัวหน้าก็ยกมือขึ้นผลักเธอออกไป:”รีบออกไปได้แล้ว!”
เย่ซีที่ถูกผลักออกมาจากบริษัทสตาร์เอนเตอเทนเมนท์ แล้วเธอก็หันไปมองตึกใหญ่โตพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า
บางทีเธอก็ยังเก่งไม่พอหรอ
ขณะเดียวกัน ซูฉิงก็ได้รับสายของหลิวเสี่ยวหนิง หลิวเสี่ยวหนิงส่งเสียงดีใจมากมาตามปลายสาย แล้วเล่าเรื่องที่เธอมีความสุขให้เธอฟัง
เพราะทางผู้กำกับหวังได้ยืนยันตัวนักแสดงแล้ว คืนนี้จะมีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว
หลิวเสี่ยวหนิงได้แสดงเป็นนางรอง แม้จะไม่ใช่นางเอก แต่เรื่องนี้มีการรวบรวมนักแสดงไว้มากมาย แม้แต่ตัวประกอบนิดเดียวก็ยังเป็นรุ่นพี่นักแสดงที่หลิวเสี่ยวหนิงให้การเคารพ
ดังนั้นได้เป็นนางเอกรองในละครเรื่องนี้ หลิวเสี่ยหนิงก็รู้สักว่าเป็นเกียรติมาก
“พี่เสี่ยวฉิง ฉันใกล้จะดังแล้ว พวกเราไปฉลองกันหน่อยมั้ย”
ซูฉิงที่พอได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะเบาๆ :”จะฉลองทำไมต้องมาชวนฉันละ น่าจะไปชวนแฟนของเธอมากกว่านะ และเธอก็ใกล้จะห่างจากเขาเพื่อไปถ่ายละคร ไม่ถือโอกาสนี้เก็บความรู้สึกดีๆ ไว้ละ”
แต่ปรากฏว่าเสียงแค้นเคืองของหลิวเสี่ยวหนิงดังมาตามสาย:”อย่าพูดถึงเขาเลย เขาไปทำงานนอกสถานที่แล้ว”
หลิวเสี่ยวหนิงได้นัดกับจินจิ่นหรานไว้แล้วคืนนี้ แต่ทางจินจิ่นหรานก็ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลว่าจะต้องไปทำงานนอกสถานที่ ทำให้หลิวเสี่ยวหนิงเศร้าใจทันที
“ฉันก็นึกว่าเธอจะนึกถึงฉันเป็นคนแรกเสียอีก”
“พี่เสี่ยวฉิง พี่คงจะไม่พอใจฉันเพราะเรื่องเล็กน้อยอย่างนี้ใช่มั้ย “หลิวเสี่ยวหนิงที่ถามด้วยน้ำเสียงอ้อน “ขอร้องนะพี่เสี่ยวฉิง อีกอย่างฉันรู้ว่ามามีร้านบาร์ร้านหนึ่งดีมาก ที่นั่นมีนักร้องหล่อมากด้วย”
ซูฉิงเลิกคิ้ว:”หลิวเสี่ยวหนิงเธออยากจะติดคำค้นหายอดฮิตรึไง”
“พี่เสี่ยวฉิง พี่ก็สงสารฉันหน่อยนะ เดี๋ยวฉันจะต้องเข้าป่าตั้งสามเดือนเลยนะ”
ในที่สุดคำคยั้นคยอของหลิวเสี่ยวหนิงก็เป็นผล ซูฉิงได้ตอบตกลง
ช่วงนี้บริษัทของฮ่อหยุนเฉิงก็งานยุ่งบางวันก็กลับบ้านดึก งั้นซูฉิงก็เลยตอบรับปากหลิวเสี่ยวหนิงที่จะไปร้านบาร์ด้วยกัน
ร้านบาร์ที่หลิวเสี่ยวหนิงรู้จักนั้นบรรยากาศดีมาก เป็นสไตล์ที่ซูฉิบชอบ ทั้งสองหาที่นั่งแล้วนั่งฟังเพลงอยางเงียบๆ
ซูฉิงที่เห็นหลิวเสี่ยวหนิงกลับมานั่งพร้อมกับแก้วไวน์ ยกมืลูบแก้มเธอ:”เธอสนิทกับเจ้าของร้านหรอ”
เจ้าของร้านบาร์เป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่ง มีความสง่างามทุกท่วงท่าอิริยาบถ
“อืม ฉันรู้จักกับเจ้าของร้านนานแล้ว ก่อนที่ฉันจะเข้าวงการเสียอีก”
หลิวเสี่ยวหนิงพยักหน้าตอบ เธอจำได้ว่าตอนนั้นเพราะเธอเจอกับฝนตก เธอเลยตั้งใจจะหลบฝน แต่ฝนก็ไม่หยุดตกสักที เจ้าของร้านคนนี้เลยเอาร่มมาให้เธอ
หลังจากนั้นหลิวเสี่ยวหนิงก็มักจะเป็นแขกประจำของร้านบาร์ร้านนี้
“คิดไม่ถึงว่าเธอที่มีชีวิตยุ่งวุ่นวาย ฉันก็นักว่าเธอแค่หาที่ดื่มก็เท่านั้นเอง”ซูฉิงพูดเยาะ
หลิวเสี่ยวหนิงได้ยินอย่างนั้นก็ทำแก้มป่อง :”ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นคนชอบกิน แต่ฉันก็ไม่ได้กินตลอดเวลามั้ย.
หลิวเสี่ยวหนิงที่พูดพร้อมกับนั่งลง เธอมองไปรอบๆ แล้วก็ถอนหายใจ:”น่าเสียดายจัง คืนนี้นักร้องคนหล่อไม่มา”
“หลิวเสี่ยวหนิง เธอมีแฟนแล้วนะ จะพูดจะจาอะไรก็ระวังด้วย”ซูฉิงหรี่ตามองหลิวเสี่ยวหนิง
“มีแฟนแล้วยังไง คนก็ต้องรักของสวยๆงามๆอยู่แล้วนี่ พี่ก็ไม่ใช่เห็นคนหล่อเดินเข้าออกบริษัทอยู่บ่อย ๆ หรอ “หลิวเสี่ยวหนิงพูด
ซูฉิงคร้านจะถือสาเธอแล้ว
และทันใดนั้นเอง เสียงอ่อนนุ่มของผู้หญิงก็ค่อยดังขึ้นมาทันใดนั้นก็ดึงดูดความสนใจของซูฉิง
เธอหันไปมองนักร้องก็เห็นว่าเป็นเด็กสาวคนหนึ่ง มือของเธอที่ถือกีตาร์พร้อมกับร้องฮัมเพลงก่อนจะลุกขึ้น
เป็นเพลงที่ซูฉิงไม่เคยฟังมาก่อน แต่เพียงแค่เอ่ยร้องประโยคแรกก็โดนใจซูฉิงแล้ว
แต่หญิงสาวคนนี้ดูเหมือนตื่นเต้นเล็กน้อย เอาแต่ก้มหน้าจ้องอยู่แต่ปลายเท้าตลอด ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา
หลังจากที่ซูฉิงตั้งใจฟังอย่างเงียบๆ ก็รู้สึกเหมือนยังไม่หนำใจ
และหญิงสาวคนนั้นก็ได้ถือกีตาร์เตรียมจะกลับแล้ว ซูฉิงเห็นอย่างนั้นก็รีบเดินเข้าไปหา
“สวัสดีค่ะ “ซูฉิงยิ้มทักทายหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า
เย่ซีที่ถูกจู่โจมกะทันหันทำให้ตกใจเล็กน้อย จนถอยร่นไปข้างหลัง แล้วเงยหน้ามองซูฉิง
“ส สวัสดีค่ะ “เสียงเบาของเธอ ไม่รู้ว่าผู้หญิงสวยขนาดนี้เข้ามาหาตนด้วยเหตุผลอะไร
ซูฉิงเห็นเด็กสาวมีท่าทีตื่นตระหนกก็รีบพูดปลอบ:”ไม่ต้องตกใจไป ฉันแค่อยากจะถามหน่อยว่าเพลงที่เธอเมื่อกี้เธอแต่งเองหรอ”
เย่ซีที่พอได้ยินอย่างนั้นก็ตาวาวขึ้นมา เธอมองไปทางซูฉิงแล้วพยักหน้าแรงๆ แล้วยิ้มแหยพูด:”เพลงนี้ฉันแต่งเองค่ะ”
ซูฉิงเม้มปาก แล้วพูดชมออกมาจากใจ:”เพราะมากจริงๆ”
เหมือนเป็นคำพูดที่ให้กำลังใจ เย่ซีก็แก้มแดงเห่อขึ้นมา พยักหน้าให้กับซูฉิง”ขอบคุณค่ะ”
“เธอทำงานที่ร้านบาร์นี้หรอ”ซูฉิงถามอย่างสงสัย
“ไม่ใช่ค่ะ “เด็กสาวส่ายหน้า “ฉันแค่มาร้องเพลงที่นี่เป็นบางครั้งเท่านั้นเอง”
ซูฉิงได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกดีใจ แล้วพูดอย่างจริงจัง”งั้นเธออยากจะเข้าวงการบันเทิงเธอมั้ย”
ซูฉิงอยากจะให้เด็กสาวคนนี้มาเซ็นสัญญากับบริษัทของเธอจริงๆ
พรสวรรค์กับน้ำเสียงอย่างนี้ ถือเป็นเหมือนสวรรค์ประธานให้มาจริงๆ
และเพชรเม็ดงามอย่างนี้กลับไม่มีใครพบเห็น ซูฉิงก็รู้สึกเสียดาย
เย่ซีที่คิดไม่ถึงว่าซูฉิงจะถามออกมาอย่างนี้ก็อึ้งอ้าปากค้าง แต่ซูฉิงไม่ลังเลแม้แต่น้อย หยิบเอานามบัตรของตัวเองออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้กับเย่ซี
“ถ้าหากเธออยากจะเข้าวงการก็สามารถมาหาฉันได้ที่สตาร์เอนเตอร์เทนเมนท์”
ซูฉิงพูด ชื่อเสียงของสตาร์เอนเตอร์เทนเมนท์นั้นไม่มีใครที่ไม่รู้จัก ถ้าหากเพื่อนได้รู้เข้าจะต้องตกใจมากแน่ ทว่าสิ่งที้ทำให้ซูฉิงคาดไม่ถึงก็คือ หญิงสาวตรงหน้ากลับมีสีหน้าไม่สู้ดี รอยยิ้มที่ยิ้มให้กับซูฉิงก็จางหายไปทันที
“ฉันไม่ขายเพลงให้กับพวกคุณหรอก!”
หญิงสาวพูดจบก็เดินออกไปทันที ซูฉิงที่ได้ยินอย่างนั้นก็งงงวย พอตั้งสติได้ก็รีบเดินตามเธอไป
“เดี๋ยวก่อน เมื่อเธอหมายความว่ายังไง”ซูฉิงเอ่ยถาม
ขายเพลงอะไร ซูฉิงได้ยินแล้วรู้สึกตงิดใจ