ตอนที่ 1929

 

“ไม่ แต่พวกเราสามารถมอบเม็ดยา สมุนไพรวิญญาณและคัมภีร์ลับอื่นๆให้ได้ ตราบใดที่โยมต้องการ”

 

พระผู้อาวุโสคนนั้นก็พยายามที่จะเจรจาต่อรองกับเซี่ยปิงเพื่อให้ได้ลูกประคําวังวนกลับคืนมา

 

“ถ้าอย่างนั้นก็ลืมมันไปเถอะ สิ่งเหล่านี้ข้าก็มีอยู่แล้ว ไม่ได้ขาดแคลน”

 

เซี่ยปิงก็พูดอย่างไม่แยแส

 

พระผู้อาวุโสจํานวนมากก็มีสีหน้าที่อึ้งพูดอะไรไม่ออก พวกเขาก็นึกขึ้นได้ถึงการประมูลก่อนหน้านี้ เพียงแค่การประมูลนี้ เจ้าเด็กนี่ก็ได้ครอบครองสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ไปถึงเก้าชิ้น แน่นอนว่าเขาไม่ได้ขาดแคลนสิ่งใด

 

ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเจ้าเด็กนี่ร่ํารวยยิ่งกว่าพวกเขาถึงกี่เท่า

 

แน่นอนว่าสําหรับทั่วทั้งพระพุทธศาสนา ความมั่งคั่งเช่นนั้นนี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องคํานึงถึง แต่ปัญหาก็คือว่าพวกเขาจะต้องนําสิ่งประดิษฐ์เซนต์ขั้นต่ํานั่นกลับคืนมาให้ได้ไม่ว่าจะต้องจ่ายราคาแพงแค่ไหน พวกเขาก็ยินยอม

 

“โยม ลูกประคําวังวนเป็นสิ่งประดิษฐ์เซนต์ทางพระพุทธศาสนาของข้า มีสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเซนต์ที่อยู่ข้างใน ถึงอย่างไรโยมก็ไม่สามารถกลั่นกรองมันได้ ควรที่จะนํากลับมาให้พวกเรา นี่ก็จะส่งผลดีต่อทั้งสองฝ่าย”

 

พระผู้อาวุโสก็เอ่ยออกมา

 

“เรื่องนี้ไม่มีปัญหา ข้ามีวิธีการของข้าอยู่”

 

เซี่ยปิงก็กวักมือ

 

เมื่อได้ยินเช่นนี้ กลุ่มของพระจํานวนมากก็มองเชียปิงอย่างล้ําลึกหนึ่งครั้ง เหมือนเป็นสายตาที่เผยความมุ่งร้ายเล็กน้อย

 

“เอาล่ะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็ต้องขอตัวก่อน”

 

พระผู้อาวุโสคนนั้นก็ไม่ได้คะยั้นคะยอใดๆอีกและบอกลาเซียปิงโดยตรง

 

พระคนอื่นๆก็กลับไปด้วยกัน

 

“อู๋ตี้ สิ่งประดิษฐ์เซนต์-คทาแห่งความรุ่งโรจน์ของเผ่าพันธุ์เทวดาของข้า เจ้ารีบส่งมันกลับมาเดี๋ยวนี้ รู้หรือไม่ว่าการปล้นชิงสิ่งประดิษฐ์เซนต์ของเผ่าพันธุ์ข้าเป็นความผิดที่ร้ายแรงแค่ไหน เจ้าอยากตายและถูกฆ่าล้างทั้งเก้าชั่วโคตรอย่างนั้นรึ?”

 

ในตอนนี้กลุ่มของเทวดาก็เดินเข้ามาอย่างก้าวร้าว ดูเหมือนว่าจะต้องการยกทัพมาถามโทษ

 

วิซ!

 

เซียปิงก็ไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย ร่างของเขากะพริบหายไป ล็อกเอาท์ออกไปทันที ไม่ต้องการที่จะพูดจาไร้สาระอะไรกับพวกเขา

 

“ไอ้สารเลวนั่นหลบหนีไปแล้ว ไม่คาดคิดว่าจะหลบหนีออกไปโดยตรง นี่เขาไม่ได้เห็นหัวของพวกเราเลยรึ?!”

 

กลุ่มของเทวดาก็คลุ้มคลั่งขึ้นมา โมโหจนเจียนตาย มีสีหน้าที่แดงก่ํา ร่างกายสั่นเทา

 

ก่อนหน้านี้ที่กลุ่มของพระผู้อาวุโสเหล่านั้นเข้าไปหา เจ้าเด็กนั่นก็ยังพูดคุยเป็นระยะเวลาหนึ่ง ทว่าเมื่อพวกเขามาถึง เจ้าเด็กนั่นกลับไม่คิดที่จะพูดคุยด้วยซ้ํา เพิกเฉยต่อพวกเขาอย่างสมบูรณ์

 

“จะต้องเป็นเพราะเจ้าเด็กนั่นหวาดกลัวพวกเราอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงได้หลบหนีหางจุกตูดออกไป”

 

“พูดถูก นี่ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ให้เห็นถึงอํานาจบารมีของพวกเราเผ่าพันธุ์เทวดา”

 

“ทว่าหากเจ้าเด็กนั่นหลบหนีออกไป แล้วสิ่งประดิษฐ์เซนต์ขั้นกลาง-คทาแห่งความรุ่งโรจน์ของเผ่าพันธุ์เทวดาของพวกเราล่ะ?”

 

“ใช่ เจ้านั่นมีความสามารถในการหลบซ่อนตัวที่ล้ําเลิศ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครที่สามารถตามหาตําแหน่งของเขาได้”

 

“เหอะ ทําได้เพียงแค่ร้องขอให้เซนต์ในเผ่าพันธุ์เทวดาของข้าเคลื่อนไหวออกไปและใช้กระแสเวลาไหลย้อนกลับ จะสามารถตามหาเบาะแสของเขาได้อย่างแน่นอน”

 

“ตาย เจ้ามนุษย์นั่นจะต้องตาย ใครกันที่ท้าทายเผ่าพันธุ์เทวดาของพวกเราและจะได้โลดแล่นอยู่ในจักรวาลอย่างเป็นอิสระ ต่อให้จะหลบหนีไปถึงอีกฝากหนึ่งของจักรวาล เขาก็จะต้องถูกจับมา จะต้องแผดเผาร่างของเขาให้ไหม้เป็นเถ้าถ่าน”

 

เทวดาจํานวนมากก็กัดฟันอย่างแน่น ออร่าจิตสังหารกําลังเดือดดาลออกมา

 

ระยะที่ห่างออกไป กลุ่มของพระผู้อาวุโสก็เห็นเหตุการณ์นี้เช่นกัน พวกเขายังคงมีสีหน้าที่สงบนิ่งและกําลังพูดคุยหารือกัน

 

“เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด อาตมากล่าวไว้แล้ว เจ้าอู๋ตี้นั่นได้กลั่นกรองและขจัดสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเซนต์ภายในลูกประคําวังวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” พระผู้อาวุโสที่สวมใส่ชุดจีวรสีเหลืองได้เอ่ยขึ้นมา

 

“ไม่คาดคิดว่าเจ้าอู๋ตี้จะมีความสามารถในด้านนี้เช่นกัน นั่นคือสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเซนต์ หากไม่ใช่เซนต์ ใครกันที่จะสามารถทําลายมันได้ หรือว่าเบื้องหลังของเขาจะมีเซนต์คอยสนับสนุนอยู่เช่นกัน?”

 

พระผู้อาวุโสอีกคนก็เอ่ยขึ้นมาอย่างเคร่งขรึม

 

“จะต้องใช่อย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะกล้าทําตัวบ้าบิ่นเช่นนี้”

 

“เป็นจริงอย่างที่ว่า ยิ่งไปกว่านั้นด้วยวิทยายุทธของเขา รากฐานที่มั่นคง พลังอํานาจที่ยิ่งใหญ่มหาศาลเช่นนั้น หากเขาไม่ได้เติบโตขึ้นมาในกลุ่มอิทธิพลที่ทรงพลัง ก็ไม่มีทางที่จะบรรลุถึงระดับนั้นได้”

 

“ในอีกคําพูดหนึ่งก็คือมีความเป็นไปได้สูงว่าเจ้าเด็กนั่นอาจจะเป็นทายาทของเซนต์ในเผ่าพันธุ์มนุษย์ หรือไม่ก็เป็นผู้สืบทอดโดยตรงของตระกูลโบราณ”

 

“นั่นก็ไม่จําเป็นเสมอไป บางทีเขาก็อาจจะเป็นเพียงบุคคลที่ไม่ได้เป็นที่รู้จัก เพราะถึงอย่างไร ภายในเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็มีผู้คนมากมายที่เก็บตัวเงียบและปิดบังความสามารถที่แท้จริงของตนเองไว้เป็นดั่งเสือซ่อนเล็บ”

 

“หากเป็นเช่นนั้น พวกเราก็ยิ่งคาดเดาสถานะของเขายากขึ้นไปอีก”

 

“ท่านพระพุทธเจ้าได้ถ่ายทอดคําสั่งมา ไม่จําเป็นที่จะต้องยึดติดกับเรื่องนี้มากเกินไป บางที การที่สูญเสียสิ่งประดิษฐ์เซนต์นี้ไปอาจจะเป็นเรื่องที่โชคชะตาฟ้าลิขิตไว้แล้ว หากมีโชคชะตาร่วมกันจริงๆ ไม่ช้าก็เร็วมันก็จะกลับมาอยู่ในมือพวกเราอีกครั้ง”

 

“เป็นจริงอย่างที่ว่า นี่คือวัฏจักรของเวรกรรม เมื่อมีเหตุก็ต้องมีผล บางครั้งการสูญเสียก็ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายเสมอไป”

 

“สมกับที่เป็นท่านพระพุทธเจ้า ช่างมีสติปัญญาที่อยู่ในระดับที่สูงเกินไป สิ่งที่พวกเราไม่อาจเข้าใจได้ ทว่าท่านกลับมองทะลุได้อย่างชัดเจน

 

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็รอดูไปก่อนเถอะ ไม่ช้าก็เร็วเจ้าอู๋ตี้นั่นจะต้องเปิดเผยตัวออกมา แม้ว่าหนูจะซ่อนอยู่ในกระสอบ สุดท้ายมันก็ต้องออกมาหาอาหาร ไม่มีทางที่จะหลบซ่อนได้ตลอดกาล”

 

พระผู้อาวุโสจํานวนมากก็พูดคุยกันด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม ตัดสินใจได้ในทันที

 

ในช่วงเวลานี้ ในดินแดนลี้ลับบางแห่งของจักรวาล นี่คือสํานักงานใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรบรรพกาล เป็นรังของสายพันธุ์โบราณที่หายสาบสูญจํานวนมาก

 

“ขอรายงานท่านผู้อาวุโส มีเรื่องสําคัญเกิดขึ้น”

 

สายพันธุ์โบราณที่หายสาบสูญตัวหนึ่งก็ได้เริ่มรายงานขึ้นมา “ครั้งนี้ที่เข้าไปในพื้นที่ ของแผนผังโชคชะตาราศี สายพันธุ์โบราณที่หายสาบสูญของพวกเราได้เผชิญกับอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ถูกเจ้ามนุษย์ที่มีนามว่าอู๋ตี้จับตัวไป ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นตายร้ายดีอย่างไร ยากที่จะคาดเดาได้ ผู้ที่ถูกจับตัวไปก็มีเฝยอี้นกอสูรทมิฬ พยัคฆ์หินเขี้ยว สิงโตเก้าเศียร ผีเสื้อห้วงมิติ มดทองคําและยอดฝีมืออื่นๆอีกมาก”

 

ข่าวนี้ที่ถูกเปิดเผยออกมา ทันใดนั้นก็สั่นคลอนไปทั่วทั้งกลุ่มพันธมิตรบรรพกาล

 

สําหรับกลุ่มพันธมิตรบรรพกาล ในเวลาปกติมันเป็นเพียงแค่องค์กรที่หละหลวมและไร้ระเบียบเท่านั้น ไม่รุกล้ําซึ่งกันและกัน มีความเป็นอิสระอย่างมาก

 

ทว่ากฏต้องห้ามสองข้อที่ห้ามละเมิดเด็ดขาดก็คือหนึ่งการสังหารสายพันธุ์โบราณที่หายสาบสูญและสองคือการจับสายพันธุ์โบราณที่หายสาบสูญไปเป็นทาส

 

ไม่ว่าจะละเมิดกฏข้อห้ามข้อใดในสองข้อนี้ มันจะทําให้ทั่วทั้งกลุ่มพันธมิตรบรรพกาลสั่นคลอนทันที จะกระตุ้นให้สายพันธุ์โบราณที่หายสาบสูญจํานวนนับไม่ถ้วนโมโหขึ้นมา เป็นการกระตุกหนวดเสืออย่างแท้จริง

 

“อาจหาญอย่างถึงที่สุด เจ้ามนุษย์นั้นคิดที่จะทําลายสนธิสัญญาที่พวกเราได้ทําร่วมไว้กับเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างนั้นรึ? ไม่คาดคิดว่าจะกล้ากระทําการเช่นนี้” ผู้อาวุโสของสายพันธุ์โบราณที่หายสาบสูญก็เดือดระอุขึ้นมาทันที

 

“ผู้อาวุโส เจ้ามนุษย์อู๋ตี้นั่นเป็นปีศาจร้าย ว่ากันว่าเป็นผู้ทรยศของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาไม่ใช่เพียงแค่สังหารสายพันธุ์โบราณของพวกเราเท่านั้น ทว่าเขายังสังหารแม้กระทั่งมนุษย์ด้วยกัน ก่อกรรมทําชั่วมานับไม่ถ้วน แม้แต่ตอนนี้เผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ตั้งรางวัลค่าหัวสําหรับเขา”

 

สายพันธุ์โบราณที่หายสาบสูญตัวนั้นก็เอ่ยขึ้นมา

 

“นี่มัน!”

 

กลุ่มของผู้อาวุโสก็พูดไม่ออกไปทันที หากแม้แต่เผ่าพันธุ์มนุษย์เองก็ต้องการสังหารเขา จากนั้นพวกมันจะยกทัพไปถามโทษจากใคร?

 

“อย่ามัวแต่พูดจาไร้สาระ อันที่จริงเจ้าอู๋ตี้นั่นอยู่ที่ใด ส่งคนไปจับตัวมาทันที ฉีกร่างของเขาให้เป็นพันๆชิ้น จะมัวรออะไรกันอยู่” ผู้อาวุโสคนหนึ่งก็ต่อว่าออกมา มีอารมณ์ที่ฉุนเฉียวอย่างมาก

 

“ผู้อาวุโส พวกเราก็ต้องการที่จะจับตัวเขา ทว่าเขาก็ไหลรื่นยิ่งกว่าปลาดุกเสียอีก ไม่สามารถตามหาตําแหน่งของเขาได้ อย่าว่าแต่พวกเราเลย แม้แต่เผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ไม่สามารถตามหาเขา

 

สายพันธุ์โบราณที่หายสาบสูญตัวนั้นก็ได้เอ่ยอย่างจนปัญญา

 

“มีเรื่องเช่นนี้ด้วยรึ?”

 

ทันใดนั้นผู้อาวุโสจํานวนมากก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรออกไป การที่แม้แต่เผ่าพันธุ์มนุษย์เองก็ไม่สามารถตามหาตําแหน่งของเจ้าอู๋ตี้ได้นั้น เป็นไปได้อย่างไรที่พวกมันสายพันธุ์โบราณที่หายสาบสูญซึ่งมีจํานวนน้อยนิดจะตามหาได้

 

เพราะว่าถึงอย่างไรจักรวาลก็กว้างใหญ่เกินไปจริงๆ ต่อให้เป็นเซนต์ก็ยังไม่สามารถตามหาผู้คนได้ทั่วทั้งจักรวาล

 

“ชายชราผู้นี้จะเคลื่อนไหวเอง ไม่คาดคิดว่าจะกล้าจับตัวสายพันธุ์โบราณของพวกเราไปเป็นทาส นี่คือกฏต้องห้าม ไม่ว่าจะเป็นใคร มันผู้นั้นก็จะต้องตาย!”

 

ทันใดนั้นเสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้นมา ถ่ายทอดไปสู่ทั่วทั้งกลุ่มพันธมิตรบรรพกาลนี้ ส่งเสียงบึ้ซขึ้นมา ทําให้เลือดของสายพันธุ์โบราณที่หายสาบสูญจํานวนมากดุเดือดพลุ่งพ่านขึ้นมา แทบที่จะกระอักเลือดและเกือบที่จะลงไปคลานแทบเท้าจากแรงกดดันนี้

 

เห็นเพียงแค่ว่าสิ่งมีชีวิตที่มีรูปลักษณ์ดุร้ายและผิดธรรมชาติปรากฏขึ้นมาต่อหน้าพวกมัน ลําตัวเป็นเหมือนกับเป็นสิ่งโต ทว่าข้างหลังมีปีกงอกออกมา เส้นผมก็แหลมคมราวกับเป็นขนเม่น มีออร่าความชั่วร้ายที่น่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมา

 

เหมือนกับว่าเพียงแค่ออร่าความชั่วร้ายนี้ก็เพียงพอที่จะสังหารสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในดาวเคราะห์จํานวนนับไม่ถ้วนได้

 

“ท่านฉงฉี ท่านบรรพบุรุษเก่าแก่ฉงฉี!”

 

สายพันธุ์โบราณจํานวนมากก็ตกใจไปตามๆกัน พวกมันไม่คาดคิดว่าเรื่องนี้จะกระตุ้นให้หนึ่งในบรรพบุรุษเก่าแก่ของกลุ่มพันธมิตรบรรพกาลเคลื่อนไหวออกมาได้ นี่คือตัวตนในระดับสุดยอดที่แท้จริง นี่คือตัวตนในระดับเซนต์

 

ในยุคสมัยโบราณ นี่ก็คือหนึ่งในสัตว์ร้ายบรรพกาลเช่นกัน