ตอนที่ 328 แอบลงมือ / ตอนที่ 329 แต่งงานแทน

ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด

ตอนที่ 328 แอบลงมือ

 

 

“บ่าวชื่ออวี้เอ๋อร์เจ้าค่ะ”

 

 

“เจ้าทำงานเก่งเช่นนี้ เดี๋ยวไปรับรางวัลแล้วกัน!”

 

 

“ขอบคุณเจ้าค่ะผู้คุมกฎ”

 

 

หลิงอวี้จื้อรับคำอย่างดีใจ หยิบหวีจากโต๊ะเครื่องแป้งมาหวีผมเฟิงอิ๋น ฉวยโอกาสตอนที่หวีผม หลิงอวี้จื้อแอบเอาผงแป้งที่ซ่อนอยู่ในเล็บโรยลงบนหัวของเฟิงอิ๋น แทรกเข้าไปในผมของเฟิงอิ๋นอย่างเงียบเชียบ

 

 

พอเห็นผงแป้งแทรกเข้าไปในผมของเฟิงอิ๋นแล้ว หลิงอวี้จื้อก็แอบถอนหายใจโล่งอก สิ่งต่างๆ ถือว่าราบรื่นดี ต่อไปต้องรอดูชุนเหนียงแล้ว

 

 

หวีผมเสร็จแล้ว หลิงอวี้จื้อก็รับรางวัลแล้วออกไปก่อน ได้รับทองคำหนักมาหนึ่งแท่ง ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดวันนั้นเซียวเหยี่ยนถึงได้บีบกำไลแก้วจนกลายเป็นผุยผง

 

 

หลิงอวี้จื้อออกไปได้ไม่นาน เฟิงอิ๋นก็เปลี่ยนเป็นชุดแต่งงานสีแดง จากนั้นก็นั่งตรงหน้ากระจกทองแดงรอสาวใช้แต่งหน้าทำผมให้ ทำผมเสร็จแล้ว สาวใช้ก็กำลังจะคลุมผ้าแดงให้เฟิงอิ๋น

 

 

ตอนนั้นเองชุนเหนียงก็ถือของขวัญเข้ามา พอเข้ามาแล้วก็ให้สาวใช้ที่ปรนนิบัติเฟิงอิ๋นอยู่ในห้องออกไป เห็นชุนเหนียง เฟิงอิ๋นก็ยิ้มปลอมๆ แล้วพูดว่า

 

 

“ชุนเหนียง เหตุใดวันนี้จึงมาเช้าเช่นนี้”

 

 

“วันนี้เป็นวันมงคลใหญ่ของผู้คุมกฎเฟิง ข้าย่อมต้องรีบมาเอาใจเจ้าเป็นคนแรก นี่เป็นของขวัญเจ้าสาวที่ข้าเตรียมไว้ให้ผู้คุมกฎเฟิง หวังว่าผู้คุมกฎเฟิงจะอยู่กับท่านหลานเขยไปจนแก่เฒ่า”

 

 

ชุนเหนียงหัวเราะคิกคักมอบ**บผ้าในมือให้เฟิงอิ๋น

 

 

“ขอบคุณชุนเหนียงมาก ลำบากเจ้าแล้ว”

 

 

เฟิงอิ๋นรับ**บผ้าไป พูดขอบคุณอย่างสุภาพมาก นางไม่อยากปะทะกับชุนเหนียงในวันงานมงคล ดังนั้นจึงพูดจากับชุนเหนียงอย่างสุภาพยิ่ง

 

 

เห็นชุนเหนียงยังไม่มีทีท่าว่าจะไป เฟิงอิ๋นก็เริ่มขับไล่ น้ำเสียงเจือความแดกดัน

 

 

“ชุนเหนียง เจ้าก็ควรไปดูแลท่านอาจารย์ได้แล้ว ตอนนี้ข้างกายท่านอาจารย์ขาดเจ้ามิได้เลย”

 

 

“วันนี้ข้าได้รับคำสั่งจากเจ้าสำนักให้มาอยู่เป็นเพื่อนผู้คุมกฎเฟิง ทำไมหรือ ผู้คุมกฎเฟิงไม่อยากให้ข้าอยู่เป็นเพื่อนหรือ”

 

 

หางตาชุนเหนียงเฉียงขึ้น แววตามีเสน่ห์ กลิ่นแป้งฝุ่นเข้มข้นโชยปะทะหน้า

 

 

เฟิงอิ๋นขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ กำลังจะตอบกลับ อยู่ๆ ก็รู้สึกเริ่มเวียนหัว นางจะลุกขึ้น แต่ร่างกายกลับไม่มีแรงแม้แต่น้อย ไม่นานนางก็เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จึงชี้หน้าด่าชุนเหนียง

 

 

“เจ้า…เจ้ากำลังทำอะไร”

 

 

ชุนเหนียงโน้มตัวลง แนบข้างหูเฟิงอิ๋นแล้วพูดเสียงต่ำ

 

 

“เฟิงอิ๋น เจ้าไม่ได้เจอผู้ชายมานานเกินไปแล้วใช่หรือไม่ ถึงได้สุ่มจับผู้ชายคนหนึ่งจากข้างนอกกลับมาด้วย แล้วเอาตนเองไปแต่งงานกับเขา

 

 

ข้าดูออกว่าเจ้าชอบผู้ชายคนนี้เหลือเกิน อย่างไรข้าก็จะไม่ให้เจ้าสมหวัง”

 

 

“ชุนเหนียง เจ้าต้องคิดให้ดีว่าเจ้ากำลังทำอะไร เจ้ากล้าฆ่าข้า รอข้าฟื้นขึ้นมา ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าแน่ มันไม่คุ้มกับที่เจ้าจะทำเรื่องโง่ๆ เช่นนี้”

 

 

ชุนเหนียงยืนตัวตรง ขยับปิ่นบนมวยผม

 

 

“ข้าเกรงว่าเจ้าจะขู่ไม่สำเร็จน่ะสิ เฟิงอิ๋น เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน เจ้าก็เป็นแค่หมาตัวหนึ่งที่เจ้าสำนักเลี้ยงมาเท่านั้น ถือตัวเป็นเจ้าของจริงๆ เสียแล้ว ข้าไม่กล้าฆ่าเจ้า แล้วเจ้ากล้าฆ่าข้าหรือ ตราบใดที่เจ้าสำนักยังมีชีวิตอยู่ เจ้าก็ทำอะไรข้าไม่ได้แม้แต่ปลายผม”

 

 

เฟิงอิ๋นยังอยากพูดอีก เพียงแต่สติยิ่งเลือนรางลงไปทุกที ฉากตรงหน้ามืดลง แล้วเป็นลมไปโดยสมบูรณ์

 

 

เห็นเฟิงอิ๋นเป็นลมไปแล้ว ชุนเหนียงก็เตะตัวเฟิงอิ๋นอีกหนึ่งครั้ง

 

 

“เจ้ามากร่างอะไรต่อหน้าข้า วันนี้นับว่าเจ้าตกอยู่ในมือของข้าแล้ว”

 

 

สาวใช้ของชุนเหนียงล่อสาวใช้ประจำตัวของเฟิงอิ๋นไปแล้ว หลิงอวี้จื้อที่ซ่อนในที่ลับผลักประตูเข้ามา

 

 

ชุนเหนียงจัดผมเผ้าอยู่หน้ากระจกทองแดง ชี้ไปที่เฟิงอิ๋นซึ่งฟุบอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง

 

 

“เฟิงอิ๋นสลบไปแล้ว เจ้ารีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นาง”

 

 

“นี่…”

 

 

หลิงอวี้จื้อทำหน้าหวาดกลัว

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 329 แต่งงานแทน

 

 

ชุนเหนียงเริ่มทนไม่ไหวแล้ว

 

 

“เร็วหน่อย ตอนนี้เจ้าไม่มีสิทธิ์จะมาตัดสินเรื่องนี้แล้ว มิเช่นนั้นเจ้าต้องตายตอนนี้เลย เจ้าอยากตายหรือ”

 

 

“ชุนเหนียงไว้ชีวิตด้วยเจ้าค่ะ บ่าวฟังชุนเหนียงเจ้าค่ะ”

 

 

หลิงอวี้จื้อพูดจบก็ถอดชุดแต่งงานบนตัวเฟิงอิ๋นออกด้วยความเร็วสูงสุด แล้วเอาเสื้อผ้าตนเองเปลี่ยนให้เฟิงอิ๋น พร้อมทั้งสวมหน้ากากหน้าคนที่ชุนเหนียงเตรียมเอาไว้

 

 

เฟิงอิ๋นสูงกว่าเธอ แต่ไม่ได้สูงกว่ามากนัก ดูแล้วอย่างมากก็สูงหนึ่งเมตรหกสิบพอดี กะดูแล้วยังขาดอีกเล็กน้อย เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องความสูง เธอจึงตั้งใจใช้ของยัดไว้ใต้รองเท้า

 

 

ชุนเหนียงประคองเฟิงอิ๋นที่สลบอยู่เดินออกจากห้องด้วยตนเอง เฟิงอิ๋นคอตก ผมที่ปรกลงมาปิดบังใบหน้าของนาง ชุนเหนียงเดินไปพูดไป

 

 

“โอ๊ยตาย แม่สาวน้อยคนนี้จริงๆ เลย แค่ตำหนินางไม่กี่คำ นึกไม่ถึงว่าจะสลบไปได้ เคราะห์ร้ายจริง เซียนเอ๋อร์ รีบมาประคองนางทีเถิด!”

 

 

ได้ยินเสียงของชุนเหนียง เซียนเอ๋อร์ก็วิ่งมาทันที ประคองเฟิงอิ๋นไว้ สองคนพาเฟิงอิ๋นออกจากเรือนอย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้ แต่กลับไม่ได้ดึงดูดความสนใจของผู้อื่น

 

 

หลิงอวี้จื้อคลุมผ้าแดงนั่งอยู่ตรงหน้ากระจกทองแดง ขณะนี้อารมณ์เธอสับสน ฉากนี้เธอเคยจินตนาการมานับครั้งไม่ถ้วน ขนาดฝันยังเคยฝันมาแล้ว

 

 

วันนี้ ในที่สุดก็ได้ใส่ชุดแต่งงานสีแดง แต่กลับได้แต่งงานกับเซียวเหยี่ยนในสถานะของคนอื่น เรื่องศักดิ์สิทธิ์ขนาดนี้กลับมาถูกผู้หญิงอีกคนบังคับจนทำพัง ทำเอาเธอเหมือนเป็นมือที่สามอย่างไรอย่างนั้น เป็นใครก็ไม่มีความสุขทั้งนั้น

 

 

ชุนเหนียงไปแล้ว ชิวเยี่ยซึ่งเป็นสาวใช้ประจำตัวของเฟิงอิ๋นก็เดินเข้ามา ถามเสียงเบา

 

 

“ผู้คุมกฎเจ้าคะ บ่าวเพิ่งเห็นสาวใช้ของท่านหลานเขยสลบไป ท่านไม่เป็นไรนะเจ้าคะ”

 

 

หลิงอวี้จื้อเป็นนักแสดง การเปลี่ยนเสียงไม่ใช่เรื่องยากอะไรสำหรับเธอ เธอเองก็สามารถพากย์เสียงได้ ความสามารถในการทำงานยังนับว่ายอดเยี่ยม เธอพูดเลียนเสียงของเฟิงอิ๋น

 

 

“ข้าไม่เป็นอะไร นางแค่เอาสาวใช้คนหนึ่งมาระบายอารมณ์ วันนี้เป็นวันมงคลของข้า อย่าไปเสียอารมณ์กับเรื่องเล็กน้อยแค่นี้เลย”

 

 

“ผู้คุมกฎพูดถูกเจ้าค่ะ ชุนเหนียงก็ไม่กล้าทำอะไรผู้คุมกฎอยู่แล้ว แค่ปากพูดจาไม่ดีไม่กี่คำ ท่านผู้คุมกฎอย่าใส่ใจเลยเจ้าค่ะ อีกไม่กี่วัน เจ้าสำนักก็คงเบื่อชุนเหนียงแล้ว ถึงตอนนั้นผู้คุมกฎจะจัดการนางอย่างไรก็จัดการได้ทั้งนั้น”

 

 

“เหตุใดข้าจะต้องเห็นนางอยู่ในสายตาด้วย ใช่แล้ว เมื่อวานไม่ใช่มีสาวใช้มาใหม่กลุ่มหนึ่งหรอกหรือ เจ้าหามาสักสองคนที่หน้าตาสวยสักหน่อยมาดูแลรับใช้ จะได้ไม่อายเขา”

 

 

ชิวเยี่ยไม่ได้คิดมาก ออกไปอย่างเร็ว ไม่นาน มั่วชิงก็ถูกนำตัวเข้ามา พูดเรื่องหน้าตา นางอยู่ที่นี่ย่อมเหนือกว่าใคร

 

 

มั่วชิงเพิ่งมาถึง ก็ได้ฤกษ์พอดี สี่เหนียง [1] ประคองหลิงอวี้จื้อไปกราบไหว้ฟ้าดิน ผู้เป็นสักขีพยานในงานแต่งก็คือเจ้าสำนักอู๋จี๋ หลิงอวี้จื้อคลุมผ้าแดงอยู่จึงมองเห็นไม่ค่อยชัดว่าเจ้าสำนักผู้ลึกลับนี้หน้าตาเป็นอย่างไร เพียงแต่ได้ยินเสียงของเจ้าสำนักเท่านั้น เสียงต่ำมาก เหตุใดถึงเสียงคล้ายผู้ชายขนาดนี้ มิน่าถึงชอบผู้หญิง

 

 

เธอเดาว่าเจ้าสำนักเป็นผู้ชายที่คล้ายผู้หญิงมาก

 

 

เธอยังไม่ได้แตะตัวเซียวเหยี่ยนโดยตรง สองคนถือผ้าไหมสีแดง ต่างคนต่างถือตรงปลายอีกด้าน คุกเข่ากราบไหว้ภายใต้เสียงตะโกนบอกของสี่เหนียง

 

 

จากนั้นหลิงอวี้จื้อก็ถูกส่งไปยังห้องหอ ชิวเยี่ยยังอยู่ข้างๆ ตลอดเวลาเธอไม่ได้พูดอะไรเลย รอเซียวเหยี่ยนมาอย่างเงียบๆ เวลาค่อยๆ ผ่านไป ฝ่ามือเธอมีเหงื่อซึม ทำไมถึงขี้ขลาดเช่นนี้ ละครที่มีการแต่งงานเช่นนี้แสดงมาไม่รู้กี่รอบแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะยังกังวลจนเหงื่อออกอีก

 

 

จริงสิ อีกสักครู่เซียวเหยี่ยนจะมาแล้ว ตนเองควรจะพูดอะไรดี

 

 

 

 

——

 

 

[1] สี่เหนียง (喜娘)หญิงแต่งงานแล้วที่ทำหน้าคอยช่วยเหลือแนะนำเจ้าสาวในพิธีแต่งงานในสมัยโบราณ