โอกาสมาถึงอย่างรวดเร็ว หลังจากวันนั้นเฉียวซือมู่ก็มาเยี่ยมคุณนายเฉียวที่โรงพยาบาลทุกวัน จิ้นหยวนทำหน้าที่มาส่งเธอทุกครั้ง และบางครั้งเขายังอยู่ดูแลคุณนายเฉียวเป็นเพื่อนเฉียวซือมู่อีกด้วย ทำให้คุณนายเฉียวรู้สึกประทับใจในตัวจิ้นหยวนเพิ่มมากขึ้น 

 

 

เมื่อมีเฉียวซือมู่อยู่ด้วยตลอดเวลาจึงทำให้คุณนายเฉียวไม่มีโอกาสลองใจจิ้นหยวนสักที วันหนึ่งเธอจึงตัดสินใจแน่วแน่ ในขณะที่เฉียวซือมู่กำลังดูแลเธออยู่นั้นจู่ๆ เธอก็เอ่ยกับลูกสาวว่าอยากกินเค้กชิฟฟ่อนร้านดังในย่านเฉิงซีและขอให้เธอออกไปซื้อให้หน่อย เฉียวซือมู่ไม่สงสัยคำร้องขอของคุณนายเฉียวเลยสักนิดเพราะรู้อยู่แล้วว่าท่านชอบกินของหวานพวกนี้เป็นพิเศษ 

 

 

เฉียวซือมู่ออกไปซื้อขนมเค้กทันทีที่ได้รับอนุญาตจากคุณหมอว่าคุณแม่สามารถรับประทานของหวานได้บ้างเล็กน้อย ระหว่างทางที่เดินออกไปเธอกะจะหยิบโทรศัพท์มือถือเพื่อโทรหาจิ้นหยวนแต่กลับหาโทรศัพท์มือถือไม่เจอ เธอถึงนึกขึ้นได้ว่าคุณแม่ขอยืมมันไป 

 

 

ช่างเถอะ กลับมาแล้วค่อยโทรก็ได้ เธอหมุนตัวแล้วเดินไปโบกรถแท็กซี่ ตอนนี้เธอต้องทำตัวเป็นลูกกตัญญูที่ออกไปซื้อเค้กให้คุณแม่ก่อน 

 

 

ในขณะเดียวกัน คุณนายเฉียวคิดวิธีที่ไม่น่าอภิรมย์สักเท่าไหร่เพื่อลองใจจิ้นหยวนว่าเขาจริงใจกับลูกสาวตัวเองจริงหรือไม่ 

 

 

เธอใช้โทรศัพท์มือถือของเฉียวซือมู่ส่งข้อความหาจิ้นหยวน ข้อความที่ถูกส่งไปสั้นมากเพราะมีเพียงแค่สองคำเท่านั้น “รีบมา!” ส่วนเธอคำนวณเวลาเรียบร้อยและหาผู้ร่วมขบวนการเอาไว้เรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกัน 

 

 

เธอรักษาตัวที่นี่เป็นเวลานานมากแล้ว อีกทั้งนิสัยใจคอที่ร่าเริงแจ่มใส ทำให้นางพยาบาลทั้งหลายรู้สึกดีกับเธอไม่น้อย ดังนั้นเธอจึงหาคนที่ยินดีช่วยเหลือเธอได้อย่างง่ายดาย 

 

 

จิ้นหยวนรีบออกไปหาเฉียวซือมู่จริงๆ ตั้งแต่เกิดเรื่องที่เธอถูกลักพาตัวครั้งก่อน ทำให้เขาระวังความปลอดภัยของเธอมากเป็นพิเศษ ตอนที่เขาเห็นข้อความที่ดูผิดปกติเขาก็รีบโทรศัพท์หาเธอทันทีแต่กลับไม่มีคนรับสาย เขาร้อนใจแทบเป็นบ้า รีบวางงานทุกอย่างในมือลงแล้วออกไปหาเธอทันที 

 

 

จิ้นหยวนมาถึงหน้าห้องคนไข้ของคุณนายเฉียว เขาสังเกตเห็นว่ามันเงียบมากผิดปกติจนเขาเริ่มหวั่นใจ หัวคิ้วของเขาชนกันแน่น อย่าบอกนะว่าคนพวกนั้นใจกล้าถึงขั้นกล้าลักพาตัวคนถึงในโรงพยาบาล? 

 

 

เขารีบก้าวเท้ายาวๆ ไปหยุดอยู่หน้าประตูห้อง ขณะที่เขากำลังยื่นมือออกไปเพื่อจะเปิดประตูนั้น จู่ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งโผล่มาชนเขาเข้าอย่างจัง 

 

 

เขาก้าวถอยหลังไปหลายก้าวแล้วกวาดสายตามองคนที่เดินชนเขา เธอเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาที่สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ยังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยอะไรเธอก็ชิงเอ่ยขึ้นก่อนอย่างขวัญหนีดีฝ่อ “ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ…” จิ้นหยวนหันกลับไปเตรียมจะเปิดประตูโดยไม่สนใจเธออีก 

 

 

ทันใดนั้น สายตาของหญิงสาวคนนั้นเป็นประกายวาบ เธอมองเขาด้วยแววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความดีใจ “ท่านประธานจิ้น คุณคือจิ้นหยวนแห่งตระกูลจิ้นนั่นเอง ฉันดีใจมากเลยค่ะที่ได้พบคุณ” 

 

 

เธอตั้งใจเดินเข้าไปใกล้เขาเพื่อขวางไม่ให้เขาเปิดประตูได้ “ท่านประธานจิ้นคะ พอดีฉันมีธุระอยากจะคุยกับคุณ ไม่ทราบว่าคุณพอจะมีเวลาว่าง…” 

 

 

จิ้นหยวนเอ่ยปฏิเสธเธอทั้งๆ ที่เธอยังพูดไม่จบ “ผมไม่ว่าง” เขาเอ่ยจบพลางผลักเธอออกอย่างไม่แยแส สายตาของเขาเต็มไปด้วยความรำคาญ อย่านึกว่าเขาจะดูเธอไม่ออก ผู้หญิงแบบนี้เขาเห็นมานักต่อนักแล้ว พอรู้ว่าเขาเป็นใครก็ทำตัวเหมือนแมลงวันที่เห็นเลือดแล้วบินเข้าดูดเลือดพวกนั้นทันที มันทำให้เขารู้สึกขยะแขยงและสะอิดสะเอียนเป็นที่สุด 

 

 

หญิงสาวคนนั้นถูกผลักออกอย่างไม่ไยดีจึงแสร้งปั้นหน้าน่าสงสาร “ฉันมีธุระจะคุยกับท่านประธานจิ้นจริงๆ นะคะ ฉันขอเวลาคุณแค่แป๊บเดียวเอง” เอ่ยพลางดึงรั้งมือเขาเอาไว้ “จริงๆ นะคะ ฉันไม่ได้มีเจตนาไม่ดีจริงๆ คุณต้องเชื่อฉันนะคะ” 

 

 

“ที่บ้านฉันเกิดเรื่องขึ้นฉันก็เลยอยากจะขอให้คุณช่วย ถ้าคุณยอมช่วยฉัน ฉันก็จะ…” เธอแสร้งทำเป็นเขินอายเมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ 

 

 

เธอเป็นนางพยาบาลที่นี่จริง แต่เธอเป็นคนรักความฟุ้งเฟ้อ ความปรารถนาอันสูงสุดในชีวิตคือการได้แต่งงานกับคนรวย เธอหวั่นไหวมากยามเมื่อได้เห็นว่าจิ้นหยวนรักและเอาใจเฉียวซือมู่มากขนาดไหน เพียงแต่เธอยังไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดเขา ในที่สุดโอกาสของเธอก็มาถึงเสียที คุณนายเฉียวผู้โง่เขลาดันคิดจะใช้กลหญิงงามมาลองใจลูกเขยของตัวเอง ช่างโง่เง่าเสียจริง 

 

 

กระนั้นมันก็เป็นโอกาสดีสำหรับเธอ เธอไม่เชื่อหรอกว่าชายหนุ่มที่ประสบความสำเร็จอย่างเขาจะยอมมีผู้หญิงแค่คนเดียว มันเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ดังนั้น ตอนนี้เธอจึงรู้สึกตื่นเต้นดีใจมากที่จิ้นหยวนกำลังมองเธออยู่ 

 

 

ฟันขาวสวยของเธอกัดลงบนริมฝีปากล่างที่แดงระเรื่ออวบอิ่มของตัวเองเบาๆ พลางชม้อยชายตารอคำตอบรับไมตรีจากเขาอย่างมีความหวัง แต่เธอไม่นึกเลยว่าคำพูดของจิ้นหยวนจะกลายเป็นน้ำเย็นที่ราดลงบนศีรษะเธอแทนจนทำให้เธอหนาวสะท้านไปถึงทรวง “อย่าคิดนะว่าผมจะไม่รู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ ไปให้พ้น!” 

 

 

ยังไม่ทันที่เธอจะได้ตั้งตัวพลันรู้สึกถึงแรงผลักมหาศาลที่ถูกส่งมา เธอเซถอยหลังไปหลายก้าวจนล้มลงกับพื้น เธอได้แต่นั่งมองจิ้นหยวนที่ไม่แลเธอแม้แต่หางตาเดินเข้าไปในห้องคนไข้อย่างหมดสภาพ    

 

 

เธอกัดฟันด้วยความโกรธแค้นแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ทันใดนั้นเธอรู้สึกถึงสายตามากมายที่กำลังจ้องมองมาที่เธอ เธออับอายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี 

 

 

ชั่ววินาทีที่จิ้นหยวนก้าวเท้าเข้าไปในห้องคนไข้เขารีบเก็บสีหน้าเย็นชาทันที เขาทักทายคุณนายเฉียวราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น “สวัสดีครับคุณป้า” 

 

 

คุณนายเฉียวนอนยิ้มกริ่มอย่างอารมณ์ดีอยู่บนเตียงคนไข้ เธอไม่เคยคิดเลยว่าลูกสาวจะสามารถหาแฟนได้ดีเลิศประเสริฐศรีขนาดนี้ นอกจากฐานะร่ำรวยมีหน้ามีตาในสังคมแล้ว เขายังไม่ว่อกแว่กอีกต่างหาก เขาไม่ชายตาแลหญิงสาวที่มาเสนอตัวให้ถึงที่ด้วยซ้ำ ลูกเขยดีเลิศขนาดนี้ยังจะไปหาได้จากที่ไหนอีก ดังนั้น สายตาที่เธอมองจิ้นหยวนจึงกระตือรือร้นเป็นพิเศษจนทำให้เขารู้สึกประหลาดใจไม่น้อยที่ได้รับความเอ็นดูมากมายขนาดนี้จากเธอ 

 

 

หลังจากเรื่องชุลมุนวุ่นวายผ่านไป เขานั่งลงข้างเตียงคนไข้แล้วถามไถ่อาการของเธออย่างใส่ใจ จากนั้นค่อยถามถึงเฉียวซือมู่ “คุณป้า มู่มู่ล่ะครับ?” 

 

 

คุณนายเฉียวยิ้มค้าง “มู่มู่เหรอ ออกไปซื้อเค้กให้ป้าข้างนอกแน่ะ” 

 

 

เขาหน้าถอดสีพลางกระเด้งตัวลุกขึ้นแล้วหมุนตัวเดินออกไปข้างนอกทันทีจนคุณนายเฉียวร้องถามด้วยความตกใจ “เกิดอะไรขึ้น? เกิดอะไรขึ้น?” 

 

 

จิ้นหยวนหันกลับมาตอบเธอด้วยสีหน้าที่ดูแย่มาก “มู่มู่กำลังตกอยู่ในอันตราย!” 

 

 

เขาเอ่ยจบก็เดินออกจากห้องทันที คุณนายเฉียวตกใจจนตะลึงนิ่งอึ้ง เธอคิดไม่ออกเลยว่าทำไมคำพูดแค่ประโยคเดียวของเธอถึงทำให้เขาคิดว่าลูกสาวของเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย 

 

 

จิ้นหยวนรีบวิ่งลงไปชั้นล่างด้วยความร้อนใจพลางเอ่ยสั่งลูกน้องที่ตามมาด้วย “พวกนายรีบวางงานทั้งหมดในมือลงแล้วออกตามหาตัวเธอเดี๋ยวนี้ เร็ว!”