ตอนที่ 889 พูดออกมาไม่ได้

เนตรเซียนทะลุสมบัติ

ตอนที่ 889 พูดออกมาไม่ได้

ลัวย่าวหัวรู้สึกสงสัยมาก ” ที่เธอพูดหมายความว่าอะไร ? หรือว่าเธอเคยฝันแบบนี้มาก่อน ? “
หยางโปส่ายหน้า บ่งบอกว่าไม่เข้าใจ

หยางโปถือไฟฉายส่องเข้าไปข้างใน ในป่าไผ่ที่หนาทึบ กลับไม่มีอะไรผิดปกติ หยางโปถึงขั้นมั่นใจว่าคงไม่มีค่ายกลกระบี่อยู่ที่นี่ !

” ไป  พวกเราเข้าไปดูกัน ” หยางโปกล่าว
ลัวย่าวหัวพยักหน้า ” อืม พวกเราเข้าไปกันเถอะ “
ไม่นานคนกลุ่มนี้ก็เดินเข้าไปด้านใน

ป่าไผ่สีม่วงแห่งนี้มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก หลังจากเดินผ่านป่าไผ่ลู่ลมเสียดสีดังเอี๊ยดอ๊าด

หยางโปมองไปข้างหน้าก็เห็นหญิงสาวคนนั้นเดินไปได้สักพัก ก็หยุดชะงัก

หญิงสาวเข้าไปกอดไผ่สีม่วงแล้วร้องสะอื้นไห้ออกมา

หยางโปแปลกใจมาก เขาและลัวย่าวหัวมองหน้ากันด้วยความตกใจ  เพราะรู้ดีว่า ท่าทีที่หญิงสาวทำตัวแปลกๆมาตลอดทางถึงมันจะดูเยอะไป และยังมีนิสัยแปลกๆ แต่เธอก็ดูไม่เหมือนกลัดกลุ่มใจอะไร  ทำไมถึงต้องมาร้องไห้อยู่ที่นี่ ?

หยางโปขยับเข้ามาใกล้หญิงสาวและยืนอยู่ห่างไปแค่สี่ห้าก้าว เขาก็หยุดลง “ นี่คุณเป็นอะไรไป ? ”
หญิงสาวร้องไห้สะอึกสะอื้น เงยหน้าขึ้น  น้ำตานองหน้า  หันมามองหยางโป จากนั้นก็เริ่มร้องไห้ออกมาอีก

หยางโปมองไปรอบๆ ก็ไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติอยู่บริเวณโดยรอบ  และไม่มีสัญญาณบ่งบอกว่ามีสิ่งมีชีวิตใดๆเคลื่อนไหวอยู่โดยรอบ  ดูแล้วมันก็ปกติดี  เขามองหญิงสาวด้วยความมึนงงไม่รู้ว่าในขณะนั้นมันเกิดอะไรขึ้น

ลัวย่าวหัวถือไฟฉายและนำบอดี้การ์ดออกไปค้นหาบริเวณโดยรอบ  แต่ไม่นานก็รีบกลับมา

และหันไปพูดกับหยางโปว่า ” ทางนี้มีต้นไผ่ที่ถูกตัดออกไปแล้ว “

หยางโปเหลือบมองหญิงสาว จากนั้นก็ชี้ไปทางบอดี้การ์ดสองคนอีกครั้ง  บอดี้การ์ดเข้าใจและอยู่รอ  ทางด้านไป่ฮุ่ยและฮวาหลิง ก็รออยู่เช่นกัน ส่วนทางด้านหยางโปและลัวย่าวหัวเดินเข้าไปที่ทางกอไผ่สีม่วงอีกมุมหนึ่ง

ที่นี่ หยางโปเห็นกองไม้ไผ่สีม่วงอยู่กองหนึ่ง ดูเหมือนว่าไม้ไผ่สีม่วงเหล่านี้จะถูกตัดออกไปในเวลาที่ต่างกัน มีบางต้นที่มีต้นตะไคร่ขึ้นแล้ว และมีไผ่สีม่วงบางกองดูเหมือนพึ่งจะถูกตัดออกไปสดๆร้อนๆ

“ ดูเหมือนว่า นี่น่าจะเป็นที่มาของพระพุทธรูปไผ่ม่วงแห่งวัดนันเซ็นจิ ” หยางโปมองสำรวจไปรอบๆ แล้วพูดออกมา

ลัวย่าวหัวพยักหน้า ” มันน่าจะอยู่ที่นี่ “
ลัวย่าวหัวมองไปรอบๆ ” นายเดาสิว่าทำไมเมื่อสักครู่หญิงสาวคนนั้นถึงร้องไห้ออกมา ? “

” ฉันจะไปรู้ได้ยังไง ? ” หยางโปส่ายหน้า
ลัวย่าวหัวยิ้ม “ เธอคงจะไม่ใช่แม่ชีในวัดนันเซ็นจิหรอกนะ ? ” “ จะเป็นไปได้ยังไง ” หยางโปส่ายหน้า “ ผมของเธอดูเงาสลวยมากมันน่าจะเป็นผมจริงนะ ”

ลัวย่าวหัวส่ายหน้า ” ฉันรู้สึกว่ามันอาจจะเป็นไปได้   สัญชาตญาณของฉันค่อนข้างแม่นยำ “
หยางโปยังคงไม่เชื่อ  เขาหันมองไปรอบๆ แต่ก็ไม่พบอะไร จึงหันหลังกลับและเดินกลับมา

เขาถึงกับคิดว่าคืนนี้ไม่น่าจะค้นเจออะไร

หลังจากกลับมาที่เกิดเหตุ  เขาก็เห็นสีหน้าที่ประหลาดใจของไป่ฮุ่ยและฮวาหลิง หยางโปก็อดไม่ได้ที่เกิดความสงสัย ” เกิดอะไรขึ้น ? “

ฮวาหลิงอุทานออกมาด้วยความตกใจ ” เธอ… เธอไม่มีผม ! ” ได้ยินแบบนั้นหยางโปก็ตกใจถึงกับผงะไปเลย

 

เขาหันกลับไปมองหญิงสาวที่แต่งงานแล้ว ก็เห็นว่าเธอกุมผมเอาไว้ และมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจ

เห็นท่าไม่ดีหญิงสาวที่แต่งงานแล้วก็กำลังจะวิ่งออกไปข้างนอก

 

หยางโปรีบตะโกนเรียก “ จับตัวเธอเอาไว้ อย่าปล่อยให้เธอหนีไปได้ ! ”
ลัวย่าวหัวตอบสนองอย่างรวดเร็ว รีบเข้าไปขว้างและหยุดเธอเอาไว้  หญิงสาวต่อต้านอย่างรุนแรงทั้งทึ้งทั้งกัด แต่ลัวย่าวหัวมีบอดี้การ์ดคอยปกป้องอยู่ ในไม่ช้าก็เอาชนะเธอจนได้ !

เมื่อจับตัวหญิงสาวไว้ได้  หยางโปจึงมองไปที่ผมที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นและชำเลืองมองศีรษะโล้นของเธอ จึงอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความแปลกใจว่า ” นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? “

หญิงสาวเหลือบมองหน้าหยางโป แต่ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไร

หยางโปขมวดคิ้วขึ้นจากนั้นบอดี้การ์ดก็กดเธอลงอย่างแรง ” ตอบคำถามมา ! “

เมื่อหญิงสาวเงยหน้าขึ้นและชำเลืองมองหน้าหยางโป ” ฉันเป็นแม่ชีจากวัดนันเซ็นจิพวกแกฆ่าฉันไม่ได้ ! “

หยางโปจ้องหน้าเธอ ” คุณเคยมาที่นี่มาก่อนใช่ไหม ? “
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นแต่ไม่ได้พูดอะไร

หยางโป ถามต่อไปว่า ” คุณถูกขืนใจที่นี่ใช่ไหม ! “
หญิงสาวตัวสั่นเทา แต่ไม่ได้พูดอะไร

หยางโปตกใจมาก เพราะเขารู้ดีว่าเขาทายถูก !
“ คนที่ขืนใจคุณเป็นคนของวัดนันเซ็นจิ ! ” หยางโปถามต่อ

ทันใดนั้นหญิงสาวก็เบิกตากว้างและหันมองมา ดวงตาแดงก่ำอยู่ในความมืด ” เขาเป็นคนบ้า

เป็นสัตว์ร้าย  เขายังเทียบไม่ติดกับสัตว์ร้ายเลยเสียด้วยซ้ำ ! “

หยางโปจ้องหน้าหญิงสาวเขม็ง ” เขาเป็นใครกันแน่ ? เขาทำอะไรอีก ? “

เมื่อถามถึงข้อนี้ปฏิกิริยาของหญิงสาวก็ยิ่งตอบสนองรุนแรงขึ้นใบหน้าที่งดงามของเธอดูบึ้งตึงขึ้น  โดยเฉพาะศีรษะที่ไม่มีผมเลยของเธอ มันยิ่งทำให้เธอดูน่ากลัวมากขึ้นไปอีก !

“ เขาคือปีศาจเขาคือปีศาจ ! ” หญิงสาวพึมพำออกมา
“ เขาเป็นใครกันแน่ ? ” หยางโปสอบถามต่อ

หยางโปอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ ” มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ? ” ลัวย่าวหัวที่ยืนอยู่ข้างๆก็รู้สึกแปลกใจเช่นกัน ” มันแปลกมากจริงๆ “

” นำตัวเธอไป ” หยางโปสั่ง
หยางโปและผู้ติดตามของเขา พากันหายใจหอบปีนลงจากบนภูเขาเพื่อกลับไปที่จอดรถ

ไป่ฮุ่ยและฮวาหลิง ดูเหมือนจะตกใจกลัวมาก  หยางโปจึงพูดปลอบโยนไป แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก

ในขณะที่รถขับเคลื่อนออกไปอยู่นั้น  หยางโปได้หยิบเงินสดออกมายื่นให้ ไป่ฮุ่ยและฮวาหลิง

” นี่คือค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปท่องเที่ยวยุโรปของพวกคุณ ” ฮวาหลิงจ้องไปที่เงินก้อนนั้น

และกลืนน้ำลายลงคอ เอื้อมมือจะไปรับ แต่กลับถูกไป่ฮุ่ยห้ามเอาไว้ “ คุณผู้ชาย ที่เราสามารถพาคุณมาที่นี่ได้ พวกเราก็ถือว่าได้ติดรถมาด้วยแล้ว เงินพวกนี้ไม่จำเป็นแล้ว ”

หยางโปยิ้มและเป็นธรรมดาที่จะเข้าใจว่าไป่ฮุ่ยรู้สึกหวาดกลัว และไม่อยากคบค้าสมาคมกับเขาเขาจึงส่งยิ้มให้ “ พวกคุณไม่ต้องกังวลไป  ในอนาคตพวกเราจะไม่ได้พบกันอีก ” ไป่ฮุ่ยหันมองไปทางด้านหลัง เพราะในรถสองคันหลังนั้น มีหญิงสาวที่หัวโล้นนั่งอยู่ เธอกลัวว่า ในอนาคตหยางโปจะมาตามหาเธอ จึงรีบขอให้หยุดรถตรงหน้า

หยางโปเข้าใจความคิดของเธอ  จึงไม่ได้พูดขัดอะไร หลังจากคนขับรถหยุดรถ  หยางโปจึงปล่อยให้พวกเธอสองคนลงจากรถ

จากนั้นรถก็ขับเคลื่อนและขับมุ่งไปข้างหน้า  จนมาถึงพื้นที่ห่างไกลและลับตาคน  หยางโปจึงสั่งให้หยุดรถ  จากนั้นเขาก็เข้าไปนั่งด้านหลังของรถอีกคันหนึ่ง เขานั่งอยู่ด้านข้างของหญิงสาวและกระซิบถามว่า ” คุณชื่ออะไร ? ” ” ไอซ์โกะฟุคุดะ ” หญิงสาวตอบ ดูเหมือนว่าเธอจะได้สติกลับมาแล้ว

หยางโปโบกมือส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ดออกไปจากที่นี่ จากนั้นลัวย่าวหัวก็เข้าไปนั่งประจำตำแหน่งคนขับแทน

“ ตอนนี้คุณสามารถพูดได้แล้ว ” หยางโปกล่าว

ไอซ์โกะฟุคุดะเหลือบมองมาทางหยางโป ” พูดอะไร ? ” ” เล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ของคุณและไอ้ปีศาจตัวนั้น ! ” หยางโปตอบ

ไอซ์โกะฟุคุดะกวาดตามองหยางโป ส่ายหัวและพูดว่า ” ช่างเถอะคุณไม่สามารถเอาชนะเขาได้

เขาอยู่ยงคงกระพันฉันเคยเห็นเขาถูกลอบสังหารด้วยตาตัวเองแต่เขาก็ไม่ตาย ! “

หยางโปส่ายหัว ” ไม่มีใครสามารถอยู่ยงคงกระพันได้ ” ” เขาเป็นคนแบบนี้ เขาเป็นปีศาจตัวใหญ่ พวกคุณไม่สามารถเอาชนะเขาได้ ฉันพูดออกมาไม่ได้จริงๆ ! ” ไอซ์โกะฟุคุดะกล่าว