ท่านย่าพยักหน้า “ใช่แล้ว แบบที่เคยเป็น หลานคนเดิม ไม่เหมือนกับหลานในตอนนี้ หลานคนเดิมไม่ได้เย็นชาแบบนี้ อ่อนโยนมากด้วยซ้ำ แต่เมื่อหกปีก่อน……หลังจากเกิดเรื่องนั้น เหมือนหลานก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน ถ้าไม่ใช่เพราะไฝบนตัวหลาน ย่าคิดว่าหลานโดนสับเปลี่ยนตัวแล้ว”
เปปเปอร์ดวงตาหดลง
ได้ยินคำอธิบายของคุณย่า เขาคนเดิม กับเขาในตอนนี้ มีลักษณะนิสัยสองแบบอย่างแท้จริง แต่เขาไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับนิสัยตัวเองในอดีตเลยสักนิด
นี่มันปกติไหม?
เปปเปอร์กดหน้าผาก เริ่มปวดศีรษะอีกแล้ว ในสมองมีภาพแปลกๆ บางอย่างโผล่ออกมาอีกครั้ง เหมือนโคมม้าวิ่งเลย มันแวบไปมาอย่างรวดเร็ว เร็วจนทำให้เขาจับไม่ได้
“เปปเปอร์หลานเป็นอะไร?” เห็นความผิดปกติของเปปเปอร์ ท่านย่าก็รีบถาม
เปปเปอร์ขมวดคิ้ว “ผมไม่เป็นอะไรครับ คุณย่า คุณเล่าให้ผมฟังหน่อย เกี่ยวกับผมคนเดิม”
“ได้” ท่านย่าตอบด้วยความยินดี “หลานในอดีต ไม่ได้พูดน้อยแบบนี้ สุภาพอ่อนโยนกับทุกคน หลังจากหลานบอกย่าว่า หลานกับเพื่อนทางจดหมายชื่อส้มเปรี้ยวคบกัน ย่าก็พบว่าในใจหลานมีแต่ส้มเปรี้ยวคนเดียว ไม่เห็นอย่างอื่นเลย หลานเอาแต่อยู่รอบๆ ส้มเปรี้ยว เหมือนเป็นหุ่นเชิด”
“ไม่ เป็นไปไม่ได้” เปปเปอร์กำหมัดแน่น ปฏิเสธว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริงโดยไม่รู้ตัว
เขาจะเหมือนหุ่นเชิดได้อย่างไร
แต่พอนึกย้อนกลับไปถึงการเอาอกเอาใจและการปกป้องที่ไม่มีขอบเขตของตนที่มีต่อส้มเปรี้ยว เขาก็พูดไม่ออก
ทั้งๆ ที่เขารู้ว่าส้มเปรี้ยวทำผิดเยอะมาก แต่เขาไม่เคยคิดตำหนิเธอเลย ไม่เคยคิดลงโทษเธอด้วย แต่กลับช่วยเธอจบเรื่องราวโดยที่จิตใจลังเล เพียงเพราะเธอร้องไห้ เขาจึงใจอ่อนทำแบบนี้ นี่ไม่ใช่หุ่นเชิดแล้วมันคืออะไร?
แต่เขาไม่ควรเป็นแบบนี้ แต่ความทรงจำในสมองบอกเขาว่า เขากลายเป็นคนแบบนี้แล้วจริงๆ
เห็นหลานชายจมดิ่งในความสงสัยตัวเองอย่างลึกซึ้ง ท่านย่าก็ถอนหายใจ
“เอาล่ะๆ ไม่พูดเรื่องพวกนี้แล้ว พูดเรื่องพวกนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์ พูดเรื่องอื่นดีกว่า ทำไมหลานไปเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ที่บ้านมิ้นท์ หลานไปหามิ้นท์มาเหรอ?” ท่านย่าลูบหน้าผากเปปเปอร์แล้วถามขึ้น
ดวงตาเปปเปอร์หลีกเลี่ยงทันที ไม่ได้ตอบ
ท่านย่าเบ้ปาก “ไม่พูดก็ได้ ย่าไปพักผ่อนดีกว่า มิ้นท์บอกว่า ถึงจะเป็นห่วงหลานมากแค่ไหน แต่ก็ไม่พักผ่อนไม่ได้”
“มายมิ้นท์รู้ว่าผมเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เหรอ?” สีหน้าท่าทางเปปเปอร์ขยับเล็กน้อย และเอ่ยปากถามทันที
ท่านย่าพยักหน้า “ใช่แล้ว ที่ลูกเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์พาดหัวข่าวหมดแล้ว เธอจะไม่รู้ได้ยังไง”
เปปเปอร์ผลุบเปลือกตาลง ปกปิดอารมณ์ในดวงตาที่ไม่ง่ายต่อการสังเกต “แล้วเธอ……”
ถามถึงผมไหม หรือเคยมาเยี่ยมผมที่โรงพยาบาลไหม?
“เธออะไร?” ท่านย่ามองเขา
เปปเปอร์เผยอริมฝีปากบาง สุดท้ายก็ไม่ได้พูดคำหลังออกมา เปลี่ยนเป็นพูดว่า “ไม่มีอะไรครับ”
“เจ้าเด็กคนนี้” ท่านย่าจ้องเขา “ช่างเถอะ ย่าไปก่อนนะ หลานพักผ่อนเถอะ”
เปปเปอร์ตอบอืม ในดวงตามีความจิตตกเล็กน้อย
ดูเหมือนมายมิ้นท์จะไม่ได้ถามถึงเขา และไม่ได้มาเยี่ยมเขาด้วย
ไม่อย่างนั้นพวกคุณย่า จะไม่พูดได้อย่างไรกันล่ะ
รู้ว่าเขาเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ที่คอนโดพราวฟ้า มายมิ้นท์ไม่มีทางเดาไม่ออก ว่าเขาไปเพื่อตามหาเธอ
แต่เธอกลับไม่มาเยี่ยมเขา เธอจิตใจเย็นชาขนาดนี้จริงๆ เหรอ?
ใบหน้าหล่อของเปปเปอร์เศร้าหมอง หัวใจก็หงุดหงิดไม่สบายใจ
……
ณ เทนเดอร์กรุ๊ป
ราเม็งกับมายมิ้นท์ดื่มชายามบ่ายในห้องทำงานกันสักพัก ก็ได้รับสายจานายหน้า ให้เขากลับไปประชุมที่บริษัทนายหน้า
เขาเพิ่งจะเดินออกไป ชาหวานก็มาถึง
รู้ว่าราเม็งไปแล้ว เธอก็ทำหน้าขมขื่นทันที “มาช้าไปหนึ่งก้าว”
“ทำไมเธอสนใจราเม็งขนาดนี้?” มายมิ้นท์ชี้ไปที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม บ่งบอกให้เธอนั่ง
ชาหวานนั่งลงแล้ว ก็ทำสีหน้าจริงจังขึ้นมา “ประธานมายมิ้นท์ ฉันจะพูดกับคุณตามตรงนะ ฉันสงสัยว่า เขาคือคนที่ฉันกำลังตามหา”
“ฮะ?” มายมิ้นท์สงสัย
ชาหวานยกแก้วชาขึ้นมาดื่มชา “ประธานมายมิ้นท์ คุณน่าจะรู้ใช่ไหมว่าฉันกำลังตามหาใครคนหนึ่งมาตลอด?”
มายมิ้นท์พยักหน้า “รู้ เมื่อก่อนเธอลางานสองครั้งก็เพราะเรื่องนี้”
“ถูกต้องค่ะ” ชาหวานถอนหายใจ “ที่จริงฉันเป็นคนเมืองหลวง เป็นบอดี้การ์ดตระกูลชั้นสูงตระกูลหนึ่ง ฉันมาเมืองเดอะซีครั้งนี้ ก็เพื่อตามหาลูกชายคนเล็กของนายท่าน”
“งั้นตอนนี้เธอสงสัยว่าราเม็ง ก็คือลูกชายคนเล็กของนายท่านเธอเหรอ?” มายมิ้นท์เลิกคิ้ว
“ใช่ค่ะ เพราะคุณราเม็งหน้าเหมือนนายท่านมาก และอายุก็พอดีกับนายน้อยคนเล็กด้วย ตอนนี้ฉันก็เลยมั่นใจว่าเขาคือนายน้อยคนเล็ก”
มายมิ้นท์ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ถ้าไม่ใช่ล่ะ? อีกอย่างราเม็งก็มีพ่อแม่ ถึงจะเสียไปนานมากแล้ว แต่ฉันเคยเห็นรูป หน้าเหมือนราเม็งมาก”
“ที่ฉันพูดแบบนี้ แน่นอนว่ามีหลักฐาน อันดับแรกก็คือสถานที่ที่คุณราเม็งเติบโต อำเภอแสงดาว และเราตรวจสอบได้ว่านายน้อยคนเล็กเมื่อก่อนใช้ชีวิตที่อำเภอแสงดาว รวมถึงคุณราเม็งหน้าตาคล้ายกับนายท่านของเรา สองเรื่องนี้บังเอิญมาก ดังนั้นเขาจะไม่ใช่นายน้อยคนเล็กได้ยังไงคะ”
“ก็จริงแฮะ” มายมิ้นท์พยักหน้า
ชาหวานจับมือเธอไว้ “ประธานมายมิ้นท์ ช่วยฉันหน่อยนะคะ ช่วยฉันเอาเส้นผมคุณราเม็งมาสองเส้น ฉันอยากเอาไปตรวจ”
“คือ……ฉันขอถามความยินยอมจากราเม็งก่อนดีกว่า ถ้าเขาไม่ยินยอม ฉันก็ไม่มีทางเลือก” มายมิ้นท์คิดแล้วตอบกลับ
ชาหวานบีบมือเธอด้วยความซาบซึ้ง “ขอบคุณค่ะประธานมายมิ้นท์ คุณช่วยฉันได้ก็ดีมากแล้ว ถ้าเขาไม่ยินยอมฉันจะคิดหาวิธีเอง เอาล่ะประธานมายมิ้นท์ ฉันยังมีงาน กลับไปที่แผนกการเงินก่อนนะคะ”
พูดจบ ชาหวานก็ปล่อยมือมายมิ้นท์ ฮัมเพลงเดินออกไป
“คึกคักจริงๆ” มายมิ้นท์ส่ายหน้าอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ทันใดนั้น โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
มายมิ้นท์วางปากกาหมึกซึมลง หยิบมันขึ้นมาดู ทามทอยโทรมา จึงรับสายทันที “ฮัลโหล”
“คุณน้า” เสียงที่ดังมาจากในโทรศัพท์ไม่ใช่เสียงทามทอย แต่เป็นเสียงเด็กน้อยคนหนึ่ง
มายมิ้นท์ยิ้มขึ้นมาทันที “ไมโลเหรอ?”
“ผมเองครับ คุณน้า ไมโลคิดถึงคุณ” ไมโลสองมือจับโทรศัพท์ไว้ อ้อนเสียงหวาน
หน้ามายมิ้นท์เต็มไปด้วยความหลงใหล “คิดถึงน้าก็ให้คุณอาพาเธอมาสิ”
“ได้ครับ อาผม……”
ไมโลยังพูดไม่จบ มายมิ้นท์ก็ได้ยินเสียงทามทอย “เจ้าหนู เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน”
“ผมไม่ให้” ไมโลซ่อนโทรศัพท์ไว้ด้านหลังแล้วตอบกลับ
ทามทอยเห็นการกระทำเขา ก็ยิ้มเยาะ “เจ้าหนู เธอคิดว่าเธอซ่อนไว้ด้านหลัง แล้วฉันจะหยิบไม่ได้เหรอ?”
ขณะที่พูด ทามทอยก็โน้มตัวไปแย่งโทรศัพท์มาทันที จากนั้นมือใหญ่ก็กดศีรษะไมโลไว้ ทำให้ไมโลเตะต่อยเขาอย่างไรก็ทำไม่ถึง
เห็นสถานการณ์เป็นแบบนี้ ไมโลก็คว่ำปากจะร้องไห้
แต่ทามทอยกลับยิ้มอย่างภูมิใจ มืออีกข้างก็แนบโทรศัพท์ข้างหู “มายมิ้นท์ ฉันเอง”
“นายรังแกไมโลเหรอ?” มายมิ้นท์ซักถาม
ดวงตาทามทอยกลอกวนอย่างร้อนตัว ตอบกลับด้วยใบหน้าจริงจัง “เปล่านะ เขาเป็นหลานฉัน หลานแท้ๆ เลย ฉันจะรังแกเขาได้ยังไง”
“จริงนะ?” มายมิ้นท์หรี่ตา เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยเชื่อ
ทามทอยพยักหน้าซ้ำๆ “จริงแน่นอน ไม่เชื่อฉันจะให้ไมโลบอกคุณเอง”
เขาเอาโทรศัพท์ไว้ตรงหน้าไมโล แต่ปากยื่นชี้ไปที่กองของเล่นบนพื้น เตือนไมโลว่าห้ามพูดจาเหลวไหล ไม่อย่างนั้นจะโดนยึดของเล่น
ไมโลเข้าใจแววตาคุณอานิสัยไม่ดีคนนี้ โกรธจนน้ำตาซึม แต่ก็ไม่กล้าร้องไห้เสียงดัง ภายใต้การข่มขู่ของคุณอานิสัยไม่ดี ทำได้แค่กลืนความขมขื่นอันน่าน้อยใจลงไป แล้วเค้นยิ้มพูดออกมา “คุณน้า คุณอาไม่ได้รังแกผมจริงๆ ครับ”
ได้ยินไมโลพูดแบบนี้ มายมิ้นท์ถึงเชื่อ
ทามทอยมอบแววตาพึงพอใจให้กับไมโล จากนั้นก็ถือโทรศัพท์ขึ้นไปข้างบน “มายมิ้นท์ ตัวแทนของชวนชม ฉันเจอคนที่เหมาะสมแล้ว”