บทที่ 233 เริ่มโจมตีก่อน

รักหวานอมเปรี้ยว

มายมิ้นท์ยืดหลังตรง “เจอแล้วเหรอ?”

“ใช่” ทามทอยพยักหน้า

มายมิ้นท์กัดปาก “เจอที่ไหน?”

“ที่ชนบท มาจากครอบครัวชายเป็นใหญ่ครอบครัวหนึ่ง และเธอโดนทารุณกรรมตั้งแต่เด็ก และไม่ได้ไปโรงเรียนด้วย” ทามทอยตอบ

มายมิ้นท์ขมวดคิ้วสวย “จะมีอะไรไม่ค่อยเหมาะสมไหม?”

ไม่ได้ไปเรียน จะเป็นผู้แฝงตัวข้างในให้พวกเขาได้อย่างไร?

ดูเหมือนจะเดาความคิดในใจเธอออก ทามทอยก็ยิ้ม “ไม่ๆๆ กลับกันเลย เธอเหมาะสมมากๆ ดวงตาเธอเหมือนคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์เป๊ะเลย ที่สำคัญที่สุดก็คือ ลูกสาวที่โดนทารุณกรรมตั้งแต่เด็ก แถมยังไม่เคยไปเรียน ก็จะยิ่งน่าสงสารไม่ใช่เหรอ?”

แววตามายมิ้นท์สั่นไหวเล็กน้อย เข้าใจความหมายเขาทันที “นายอยากใช้ประโยชน์ที่เยี่ยมบุญคู่สามีภรรยารู้สึกผิดต่อชวนชมเหรอ?”

“ถูกต้อง ยิ่งชวนชมมีชีวิตที่แย่มากเท่าไร เยี่ยมบุญคู่สามีภรรยาก็จะยิ่งดีกับชวนชม เมื่อเป็นแบบนี้ ชวนชมของเราก็จะเข้าไปภายในตระกูลภักดีพิศุทธิ์ได้ราบรื่นขึ้น ช่วยเราส่งข้อมูลที่เราต้องการ” ทามทอยนอนบนเตียง พูดขึ้นอย่างพึงพอใจ

มายมิ้นท์ควงปากกาหมึกซึม “ฉันรู้แล้ว จะเตรียมให้ชวนชมตัวปลอมกับคนในตระกูลภักดีพิศุทธิ์เจอกันเมื่อไร?”

“อีกสองวันแล้วกัน สองวันนี้ฉันกำลังยุ่งกับการฝึกชวนชมตัวปลอม ถึงเวลาเธอจะได้ไม่โป๊ะแตก แล้วก็ฉันอยากให้คุณช่วยฉันเอาตัวอย่าง DNA ของคนในตระกูลภักดีพิศุทธิ์มา จากนั้นฉันจะให้คนไปโรงพยาบาลใหญ่แอบทำของปลอม พอเป็นแบบนี้ ไม่ว่าคนในตระกูลภักดีพิศุทธิ์จะตรวจดีเอ็นเอกับชวนชมตัวปลอมยังไง ชวนชมตัวปลอมก็จะเป็นลูกแท้ๆ ของพวกเขาอยู่ดี”

มายมิ้นท์กระตุกปาก “งั้นฉันจะหาวิธีเอามา”

“โอเค” ทามทอยบิดขี้เกียจ “ฉันเชื่อใจคุณนะ”

จบบทสนทนาทางโทรศัพท์ มายมิ้นท์วางโทรศัพท์ลง มีแสงละเอียดริบหรี่ในดวงตา

ดูเหมือนเธอต้องหาวิธีเจอกับส้มเปรี้ยว แบบนี้ถึงจะเอาเส้นผมส้มเปรี้ยวมาได้

ส่วนเยี่ยมบุญคู่สามีภรรยานั้น มายมิ้นท์แสดงออกว่า มันไม่อยู่ในขอบเขตการพิจารณาของตัวเอง

ประการแรกคือเธอกับเยี่ยมบุญคู่สามีภรรยาไม่มีเหตุผลที่จะมาเจอกัน ประการต่อมาถึงแม้จะเจอกันแล้ว เธอก็เอาเส้นผมสองคนนี้มาไม่ได้ ไม่สามารถดึงออกมาตรงๆ ได้

แต่ส้มเปรี้ยวไม่เหมือนกัน เธอสามารถดึงเส้นผมส้มเปรี้ยวโดยตรงได้จริงๆ

ขณะที่คิด มายมิ้นท์ก็เรียกเลขาซินดี้เข้ามา

“ประธานมายมิ้นท์ มีอะไรรับสั่งคะ?” ซินดี้ยืนนิ่งหน้าโต๊ะทำงานเธอ

มายมิ้นท์เอนไปด้านหลัง “เธอหาวิธีให้คนจับตาดูส้มเปรี้ยวหน่อย ดูว่าอีกสองวัน ส้มเปรี้ยวจะไปที่ไหน”

ถึงแม้ซินดี้จะสงสัยว่าทำไมเธอต้องทำแบบนี้ แต่ก็ไม่ถามมาก พยักหน้าตอบรับ “เข้าใจแล้วค่ะ”

“ไปสิ” มายมิ้นท์เชิดคางขึ้น

ซินดี้หันตัวเดินออกไป

มายมิ้นท์ถือปากกาหมึกซึมไว้ แล้วเริ่มทำงาน

สองวันต่อมา จากข้อมูลที่คนที่ซินดี้ให้ไปเฝ้าติดตามส่งมา ส้มเปรี้ยวแทบไม่ได้ออกจากประตูตระกูลภักดีพิศุทธิ์เลย

ออกจากบ้านไปแค่สองครั้ง ก็คือไปโรงพยาบาล น่าจะไปเยี่ยมเปปเปอร์

แต่ไม่รู้ทำไม ส้มเปรี้ยวอยู่แค่สองนาทีก็ออกมาแล้ว ขับรถกลับไปที่ตระกูลภักดีพิศุทธิ์ เป็นแบบนี้ทั้งสองครั้ง จากนั้นก็ไม่ก้าวออกจากประตูใหญ่ตระกูลภักดีพิศุทธิ์อีกเลย

นี่มันทำให้มายมิ้นท์ร้อนใจอย่างช่วยไม่ได้ ทางด้านทามทอยจะฝึกชวนชมตัวปลอมเสร็จแล้ว แต่เธอยังไม่ได้เส้นผมส้มเปรี้ยวเลย

“ไม่ได้การแล้ว” มายมิ้นท์หยิบเสื้อคลุมพาดบ่า หยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วออกไปจากห้องทำงาน

เธอต้องเริ่มโจมตีก่อน รอเฉยๆ ไม่ได้แล้ว

ข้อมูลที่ส่งมาจากคนเฝ้าติดตามเมื่อครู่นี้ บอกว่าส้มเปรี้ยวขับรถออกจากบ้านไป ทิศทางก็คือโรงพยาบาล ถึงจะไม่รู้ว่าครั้งนี้ส้มเปรี้ยวจะอยู่โรงพยาบาลนานแค่ไหน แต่เธอต้องรีบมาดักส้มเปรี้ยวก่อนที่ส้มเปรี้ยวจะออกจากโรงพยาบาล

ไม่นาน มายมิ้นท์ก็มาถึงโรงพยาบาล

เธอโทรหาการันต์ ขณะที่เดินไปที่ประตูใหญ่โรงพยาบาล

“นี่เป็นครั้งแรกที่คุณติดต่อฉันก่อน” การันต์รับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว ในเสียงไม่ปกปิดความดีใจเลยสักนิด ดีใจที่ได้รับสายโทรศัพท์จากเธอ

มายมิ้นท์ไม่รู้ว่าเขาดีใจจริงๆ หรือหลอกๆ ยืนอยู่มุมหนึ่งของห้องโถงใหญ่แล้วถามขึ้น “ส้มเปรี้ยวยังอยู่โรงพยาบาลไหม?”

“คุณตามหาเธอเหรอ?” การันต์ขมวดคิ้วทันที

มายมิ้นท์ตอบอืม “เธอยังอยู่ไหม?”

“อยู่นอกประตูห้องผู้ป่วยของเปปเปอร์ อยากเจอเปปเปอร์ แต่เปปเปอร์ไม่อยากเจอเธอ” การันต์มองผู้หญิงกำมือทำหน้าไม่ยินยอมอยู่นอกประตูห้องผู้ป่วยที่อยู่ไม่ไกล ในดวงตามีความเยาะเย้ยเคลื่อนผ่านไป

มายมิ้นท์กะพริบตาอย่างประหลาดใจ “เปปเปอร์ไม่อยากเจอเธอ?”

เป็นไปได้อย่างไร!

ส้มเปรี้ยวคือสุดที่รักของเขา เขาไม่อยากเจอเหรอ?

“ใช่ สองวันนี้เปปเปอร์แปลกมาก ยอมเจอทุกคน คนเดียวที่ไม่อยากเจอคือส้มเปรี้ยว” การันต์ดันแว่นแล้วพูดขึ้น

มายมิ้นท์ตกใจสุดๆ

ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง ไม่เจอส้มเปรี้ยวสองวัน ไม่แปลกใจที่คนเฝ้าดูบอกว่า สองวันนี้ส้มเปรี้ยวอยู่โรงพยาบาลไม่ถึงสองนาทีก็ออกมาแล้ว ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง

ได้อย่างไรกัน พวกเขารักกันมากไม่ใช่เหรอ? ไม่คิดว่าจะทะเลาะจนเพิกเฉยใส่กัน?

มายมิ้นท์หัวเราะเยาะ ไม่คิดเยอะอีกแล้ว พูดกับในโทรศัพท์ต่อ “ฉันรู้แล้ว ให้นายช่วยอะไรหน่อยได้ไหม?”

“คุณว่ามาสิ คุณอยากให้ฉันทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น” การันต์ตื่นเต้นขึ้นมาทันที

เธอให้เขาช่วยแล้ว นางฟ้าของเขาเริ่มให้อภัยเขาแล้วใช่ไหม?

มายมิ้นท์ฟังความตื่นเต้นในน้ำเสียงการันต์ออก มุมปากก็ยกขึ้น ไม่เข้าใจว่าตัวเองขอให้เขาช่วยเหลือ เขาจะตื่นเต้นขนาดนี้ทำไม

“ฉันอยากให้นายหาวิธี ล่อส้มเปรี้ยวไปที่ห้องโถงใหญ่ ฉันอยากให้เธอเห็นฉัน”

การันต์หรี่ตาอย่างสงสัย “คุณมีธุระกับเธอเหรอ?”

“ก็ประมาณนั้น” มายมิ้นท์ไม่พร้อมตอบเขาว่าคือเรื่องอะไรอย่างเห็นได้ชัด

การันต์ก็ไม่ถามมาก พยักหน้าเล็กน้อย “ฉันรู้แล้ว ฉันจะช่วยคุณพาเธอไปให้เร็วที่สุด”

“ขอบคุณ” มายมิ้นท์วางสายไป

การันต์วางโทรศัพท์ เดินกลับไปข้างๆ ส้มเปรี้ยว สองมือล้วงเข้าไปในชุดกาวน์ มองประตูห้องผู้ป่วยที่ปิดแน่นด้วยกันกับเธอ “ในเมื่อเขาไม่ยอมเจอเธอ งั้นเธอก็กลับไปก่อนเถอะ รอแบบนี้ต่อไปก็เปล่าประโยชน์ สองวันก่อนเธอก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ?”

ส้มเปรี้ยวกำมือแน่น “รันต์ นายว่าเปปเปอร์รู้ว่าฉันทำอะไรบางอย่างหรือเปล่า? เช่นโรคหลายบุคลิกของฉันเป็นเรื่องโกหก……”

แล้วก็เช่น……ที่เธอปลอมตัวเป็นมายมิ้นท์ เปปเปอร์รู้เข้าแล้ว

เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้สองอย่างนี้ หัวใจส้มเปรี้ยวก็ยิ่งเต้นเร็วและกระสับกระส่าย

เพราะไม่ว่าจะเพราะเหตุผลแรกหรือเหตุผลหลัง เธอก็จบเห่ทั้งหมด

“น่าจะไม่ใช่ ถ้าเป็นแบบนั้น เขาตามหาเธอนานแล้ว คงไม่ใช่ไม่อยากเจอเธอแบบนี้หรอก” การันต์ยักไหล่ตอบ

ส้มเปรี้ยวได้ยินเขาพูดแบบนี้ ในใจก็สงบลงเล็กน้อย แต่ยังคงไม่ค่อยวางใจ “แล้วนายว่า เขาไม่ยอมมาเจอฉันเพราะอะไรกันแน่?”

ถึงแม้ที่เปปเปอร์ไม่อยากเจอเธอ ไม่ใช่เพราะรู้สองเรื่องนั้น แต่ในใจเธอก็ยังกระวนกระวายมาก

เพราะตอนที่เปปเปอร์ไม่รู้สองเรื่องนี้ ยังค่อยๆ เย็นชากับเธอ ตำแหน่งคู่หมั้นของเธอก็เริ่มสั่นคลอนแล้ว

“ใครจะไปรู้ล่ะ บางทีเขาอาจจะยังโกรธที่สองวันก่อนเธอทำแผลเขาเปิดก็ได้” การันต์ยกมุมปาก พูดอย่างครุ่นคิด

ส้มเปรี้ยวอ้าปาก “เปปเปอร์ ไม่ใจแคบขนาดนี้มั้ง?”

“ฉันเดานะ แต่จะใช่หรือไม่ เธอต้องพิสูจน์เอง แต่ตอนนี้เขาไม่ยอมเจอเธออย่างเห็นได้ชัด เธอกลับไปก่อนได้นะ รอผ่านไปอีกสองสามวัน เขายอมเจอเธอ เธอค่อยถามอีกที” การันต์ดันแว่นแล้วพูดขึ้น

ส้มเปรี้ยวคิดๆ แล้วก็จริง “งั้นก็ได้ นายช่วยฉันบอกเปปเปอร์หน่อยนะว่าฉันไปแล้ว”

“ได้” การันต์ตอบตกลง จากนั้นก็ผลักประตูเข้าไป

ส้มเปรี้ยวมองประตูห้องผู้ป่วยปิดลงอีกครั้ง ก็หันตัวเดินไปที่ลิฟต์

ในห้องผู้ป่วย เปปเปอร์กำลังอ่านเอกสาร เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า ก็เอ่ยปากโดยที่ไม่เงยหน้าขึ้น “ยังไม่ถึงเวลาตรวจ นายมีเรื่องอะไร?”

“ส้มเปรี้ยวฝากฉันมาบอก ว่าเธอไปแล้วนะ” การันต์พิงกำแพงริมประตูขณะมองเขา

เปปเปอร์ตอบอืม บ่งบอกว่ารู้แล้ว

การันต์เห็นการตอบสนองเขาสงบนิ่งแบบนี้ ก็เลิกคิ้วอย่างอดไม่ได้ “เย็นชาแบบนี้ ไม่เหมือนท่าทีปกติที่นายมีต่อส้มเปรี้ยวเลยนะ