ตอนที่ 768 : ร่วมสร้างยันต์

Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน

ฉินหยุนไม่คิดลงมือสังหารสัตว์อสูรดวงดาวหมาป่าสีดำ ชัดเจนว่ามันเป็นการสิ้นเปลืองพลัง ยิ่งไปกว่านั้น พลังจิตของเขาอย่างไรแล้วก็ไม่เทียบเท่าเจี้ยนหลิงหลง เขาจึงเพียงรับหน้าที่ขวางอุปกรณ์ลึกล้ำผลึกแก้วของผู้อื่น

มู่เฟิงเร่งรีบส่งเสียงสื่อสารบอกต่อฉินหยุน “ฉินหยุน การกระทำเจ้าอันตรายนัก มันจะกระตุ้นโทสะผู้คน!”

“ข้าย่อมไม่หวั่นเกรงใด! เหล่ามู่ อย่าได้เปิดโปงข้า!” ฉินหยุนกล่าวตอบกลับ

“วางใจเถอะ!” อุปกรณ์ลึกล้ำผลึกแก้วของมู่เฟิงเองก็ถูกสกัดขัดขวางเอาไว้ และเขาก็หยุดดิ้นรนแล้วด้วย

กลุ่มอาจารย์จารึกทั้งหลายต่างเผยสีหน้าน่าเกลียด

“จ้าวสำนักดาบ เขาทำผิดกฎ!” หนึ่งในชายชราตะโกนขึ้นด้วยโทสะ

“ถูกต้อง มันกำลังขวางไม่ให้ผู้อื่นลงมือ!”

“เร่งรีบห้ามปรามมัน และเริ่มรอบที่สามใหม่!”

“เจ้าปีศาจน้อยนี้แปลกเกินไปแล้ว!”

“นี่มันแกะสลักอักขระประหลาดใดไปกันแน่?”

เจี้ยนสือเทียนเริ่มหารือกับผู้อาวุโสทั้งหลาย เพราะพวกเขาไม่คาดคิดว่าเรื่องราวเช่นนี้จะเกิดขึ้น

เจี้ยนหลิงหลงกล่าวคำขึ้น “กฎการแข่งขันไม่ได้กล่าว ว่าพวกเราไม่อาจขวางผู้อื่น การกระทำนี้จึงไม่ขัดต่อกฎใด เพราะไม่มีกฎเช่นนี้คงอยู่ตั้งแต่แรก!”

เจี้ยนสือเทียนปวดหัว เขาคิดไม่ออกว่าควรหาทางแก้เรื่องนี้อย่างไรดี

“เจ้าปีศาจน้อย จงเร่งรีบหยุดการกระทำเจ้า! ไม่อย่างนั้น ข้าจะหักขาเจ้าและบดขยี้ระบบสืบพันธุ์เจ้า!” ชายชราตะโกนออกด้วยความกราดเกรี้ยว

“ตาเฒ่าเอ๋ย หากเจ้ามีความกล้า เช่นนั้นจงเข้ามา พวกเราจะได้เห็นกันว่าผู้ใดจึงถูกบดขยี้กันแน่!” ฉินหยุนหัวเราะดัง “ตาเฒ่า ตาเฒ่า จงเข้ามา จงเข้ามา”

อีกฝ่ายคือผู้อาวุโสของตระกูลเจี้ยน แม้โกรธเป็นล้นพ้น ทว่าเขาไม่อาจลงมือ เพราะมันจะเป็นการสร้างความเสื่อมเสียแก่ตระกูลเจี้ยน ยิ่งไปกว่านั้น เขาอาจถูกเจี้ยนหลิงหลงคิดชำระหนี้แค้น เมื่อครู่ เจี้ยนหลิงหลงเพิ่งจูบเด็กหนุ่มผู้นี้ไป หากลงมือ บางทีเจี้ยนหลิงหลงอาจมาสำเร็จโทษตัวเขาถึงที่!

เจี้ยนหลิงหลงจัดการสัตว์อสูรดวงดาวหมาป่าสีดำทั้งสิ้นสองพันตัวโดยง่าย! ผู้คนเวลานี้ล้วนได้เห็น ว่าผลึกแก้วแกนกลางเหล่านั้น มันมีแต่คำ “เจี้ยนหลิงหลง” ปรากฏอยู่

เวลานี้เอง เจี้ยนหลิงหลงและฉินหยุนจึงก้าวทะยานขึ้นจากลำดับสุดท้ายสู่ลำดับที่หนึ่ง พวกเขาได้รับผลึกแก้วแกนกลางมาสองพันกับอีกเล็กน้อย ส่วนลำดับที่สอง มีกันเพียงแค่หนึ่งร้อยสามสิบเท่านั้น! ทั้งฉินหยุนและเจี้ยนหลิงหลงหาได้ใช้พลังจิตไปมากมาย ทั้งสองยังคงมีเรี่ยวแรงประหนึ่งมังกรและพยัคฆ์ร้ายที่ดุดัน!

เจี้ยนสือเทียนใช้โอกาสนี้ประกาศกล่าว “ระหว่างควบคุมอุปกรณ์ลึกล้ำผลึกแก้วเพื่อสังหารสัตว์อสูรดวงดาว จะไม่สามารถตั้งใจเข้ารบกวนผู้อื่นได้!”

ฉินหยุนถามขึ้น “อย่างนั้นแล้ว หากมีผู้ใดเผลอเข้าไปกระทบกระทั่งเข้า นั่นจะเป็นการขัดต่อกฎหรือไม่?”

เจี้ยนสือเทียนพยักหน้ารับและกล่าว “อย่างนั้นก็เรียกว่าเป็นการรบกวนโดยไม่เจตนา คววามผันแปรทางพลังงานย่อมต้องมุ่งเน้นไปที่สัตว์อสูรดวงดาว เรื่องนี้ข้าย่อมตรวจพบทราบได้!”

เจี้ยนหลิงหลงเข้ามาลูบไล้ใบหน้าหล่อเหลาของฉินหยุนพลางยิ้มกล่าว “นี่ไม่สำคัญ เหลืออีกเพียงสองรอบ พวกเราย่อมต้องได้รับอันดับหนึ่ง!”

อันดับหนึ่ง จะได้รับผลึกแก้วแกนกลางจำนวนหนึ่งหมื่นเป็นรางวัล นี่ถือเป็นรางวัลใหญ่! จำนวนของผลึกแก้วแกนกลางมากมายระดับนี้ แม้เป็นบรรดาอาจารย์จารึกเต๋าเหล่านี้ ก็กล่าวว่ายากได้รับ และพวกมันยังมีประโยชน์มากมายมหาศาล

ฉินหยุนเผยยิ้มสดใสกล่าวตอบ “เป็นเช่นนั้น!”

บรรดาอาจารย์จารึกที่เย้ยหยันเจี้ยนหลิงหลงเมื่อครู่ เวลานี้ล้วนริษยา พวกเขาไม่คิด ว่าเจี้ยนหลิงหลงจะร่วมมือกับเด็กหนุ่มผู้นั้นได้ดีเพียงนี้

ทางด้านที่นั่งผู้รับชม หยางฉีเย่ว์ลอบมองทางเชี่ยวเสวียนฉิน สื่อชิงเฉิง และสุ่ยเทียนสื่อ นางพบเห็นอาการจากคนทั้งสาม ดังนั้นจึงส่งเสียงสื่อสารถามไปยังเชี่ยวเสวียนฉิน “พี่เย่ว์ฉิน เด็กหนุ่มผู้นั้นคือเสี่ยวหยุน?”

“อา? เอ่อ… อืม… ใช่ เป็นเขา!” เชี่ยวเสวียนฉินไม่คาดคิด ว่าหยางฉีเย่ว์พบเห็นง่ายดายเพียงนี้

“พวกเจ้า… เรื่องใหญ่เช่นเสี่ยวหยุนกลับมา เหตุใดไม่บอกให้ข้าได้ทราบ!” หยางฉีเย่ว์ร้องตะโกนดังเข้าโสดประสาทเชี่ยวเสวียนฉิน กระนั้น หัวใจนางกลับพองโตยินดีแทบแย่แล้ว

“พวกเราคิดว่าเจ้าจะเร่งรีบมาพบเขา หากออกห่างจากข้างกายท่านยายหยุนเหยา เรื่องราวจะกลายเป็นอันตราย!” เชี่ยวเสวียนฉินเร่งร้อนอธิบาย

“เขากลับมาก็ดีแล้ว! ทันทีที่ข้าได้เห็นสตรีเช่นหลิงหลงมีท่าทีโอนอ่อนต่อเจ้าปีศาจน้อยนั่น ข้าก็ทราบแล้วว่าเรื่องราวไม่ถูกต้อง!” หยางฉีเย่ว์ยิ้มกล่าว “ข้าไม่อาจไปพบเขาตอนนี้ได้ ทว่าเขาสามารถมาพบข้า!”

“กลับไปแล้วข้าจะบอกเขาให้!” เชี่ยวเสวียนฉินกล่าว

“เด็กน้อยเย่ว์เหม่ยทำเขาเป็นเช่นนี้อย่างนั้นหรือ?” หยางฉีเย่ว์ยิ้มถาม

“ใช่ เย่ว์เหม่ยเองก็อยู่ที่นี่ ทว่าไม่ทราบแล้วว่านางไปซ่อนตัวที่ใด!” เชี่ยวเสวียนฉินตอบกลับขณะหันมองรอบ

หยางฉีเย่ว์กังวลถึงฉินหยุนมาโดยตลอด เพราะวิกฤตครั้งใหญ่ได้มาเยือนต่อเขตแดนอ้างว้างจันทราทมิฬ และตอนนี้ นางได้ทราบว่าฉินหยุนกลับมาอย่างปลอดภัย เรื่องราวมีแต่ทำให้นางโล่งใจได้มากขึ้นเป็นล้นพ้น

รอบที่สี่กำลังจะเริ่มขึ้น!

ฉินหยุนควบคุมอุปกรณ์ลึกล้ำผลึกแก้วเข้าโจมตีสัตว์อสูรดวงดาว การโจมตีเป็นไปดังเช่นปกติ กระนั้น อุปกรณ์ลึกล้ำผลึกแก้วของเขาสามารถปลดปล่อยสายลมประหลาด มันสามารถพัดเอาพลังจิตของอุปกรณ์ลึกล้ำผลึกแก้วผู้อื่นให้กระจายหาย

เช่นนี้ ยามเมื่ออาวุธลึกล้ำผลึกแก้วของเขาโจมตีสัตว์อสูรดวงดาว ในละแวกใกล้เคียง พลังของผู้อื่นจะถูกลดทอนอย่างมหาศาล พวกเขาจำเป็นต้องเพ่งการโจมตีหลายครั้งจึงเปิดผิวหนังสัตว์อสูรดวงดาว

อุปกรณ์ลึกล้ำผลึกแก้วของเจี้ยนหลิงหลงหาได้รับผลกระทบใดยามเข้าใกล้อุปกรณ์ลึกล้ำผลึกแก้วของฉินหยุนไม่ นางสามารถลงแรงแข็งขันเต็มที่ เก็บเกี่ยวเอาชีวิตของหมาป่าสีดำฝูงใหญ่มาได้

ฉินหยุนและเจี้ยนหลิงหลงได้รับอันดับหนึ่งแน่นอนแล้ว กระนั้น ทั้งสองก็ยังคงทำการสังหารสัตว์อสูรดวงดาวต่อเนื่อง นี่ก็เพราะเจี้ยนหลิงหลงคิดอยากระบายโทสะ! นางไม่คิดอยากให้บรรดาอาจารย์จารึกเต๋าเฒ่าชราที่สูงส่งได้สำเร็จผลอันใด

ในการแข่งขันจารึก นางคิดอยากสำแดงศักยภาพอย่างสูงสุดออกมา เพื่อเป็นการสั่นคลอนต่อบรรดาอาจารย์จารึกเต๋าที่มองเหยียดหยามต่อนาง

ในรอบที่สี่ เจี้ยนหลิงหลงสังหารหมาป่าสีดำไปได้กว่าหนึ่งพันตัว อำนาจของอักขระเต๋าที่นางแกะสลักบนอุปกรณ์ลึกล้ำผลึกแก้วถือว่าอยู่ระดับชวนสะพรึง! เวลานี้ หาได้มีผู้ใดมองเหยียดต่อนางอีกไม่

ยอดฝีมือย่อมทราบ ว่าอาวุธที่ไร้ซึ่งอักขระใดแกะสลักนั้นไร้ค่าเพียงใด และยามที่อักขระเต๋าถูกแกะสลักที่ตัวอุปกรณ์ลึกล้ำผลึกแก้ว พลังอำนาจของมันจึงเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว!

อุปกรณ์ลึกล้ำผลึกแก้วของเจี้ยนหลิงหลง สามารถปลดปล่อยร่างดาบจำแลงผ่านอักขระเต๋า กระทั่งพลังจิตยังต้องเพิ่มพูนขึ้นหลายเท่า ตัวนางเวลานี้จึงสามารถเก็บเกี่ยวชีวิตหมาป่าสีดำฝูงใหญ่ได้ง่ายดาย

รอบที่ห้าไม่มีอันใดผิดคาด เจี้ยนหลิงหลงสังหารฝูงใหญ่ได้อีกครั้งคราหนึ่ง

การแข่งขันล่าสัตว์อสูรดวงดาวจบสิ้นลงแล้ว!

อันดับหนึ่งตกเป็นของเจี้ยนหลิงหลงและฉินหยุน กลุ่มของทั้งสองคนล่าสัตว์อสูรดวงดาวหมาป่าสีดำมาได้กว่าสี่พันตัว! อันดับที่สอง หากเทียบก็น่าเวทนานัก พวกเขาได้เพียงกว่าสี่ร้อยตัว ความแตกต่างถึงกับมากมายนับสิบเท่า!

เป็นที่ทราบกันว่า กลุ่มของอันดับที่สองเป็นอาจารย์จารึกเต๋าของตระกูลเจี้ยนผู้มีชื่อเสียงมากล้ำ! พวกเขาพ่ายแพ้ต่อเจี้ยนหลิงหลงด้วยความแตกต่างอันมหาศาล เช่นนี้ผู้คนเพียงคิด ย่อมทราบว่าสีหน้าพวกเขาจะน่าเกลียดเพียงใด!

เจี้ยนหลิงหลงยินดีเป็นที่สุด นางหัวเราะกล่าว “พวกเราได้อันดับหนึ่ง! เร่งรีบนำรางวัลของพวกเราออกมา!”

เจี้ยนสือเทียนยิ้มกล่าว “เจ้าช่างเหมาะสมเป็นศิษย์ของตระกูลเจี้ยนเรา ด้วยความเลิศล้ำนั้น นี่คือรางวัล”

เจี้ยนหลิงหลงรับกระเป๋ามิติเก็บของมา จากนั้นจึงโยนให้แก่ฉินหยุน นางกล่าว “เจ้าปีศาจน้อย นี่ให้เจ้า พี่สาวผู้นี้หาได้ต้องการใช้ของเล็กน้อยพวกนี้ไม่!”

ฉินหยุนรับกระเป๋ามิติเก็บของพลางหัวเราะอย่างมีเลศนัย จากนั้นจึงเก็บมันไป หลายผู้คนต่างริษยากันอย่างไม่รู้จบสิ้น! ถึงกับได้รับผลึกแก้วแกนกลางจำนวนหนึ่งหมื่นก้อนง่ายดายเพียงนี้ มันถือเป็นสมบัติหล่นทับก็ไม่ปาน!

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น จึงเป็นการแข่งขันจารึกรอบที่สาม และช่วงบ่าย จึงเป็นรอบที่สี่!

ฉินหยุนคิดเร่งรีบฝึกฝน ดังนั้น เขาจึงเร่งรีบตามเชี่ยวเย่ว์เหม่ยกลับสู่ห้องชุดของตำหนักจารึกเทวะ เชี่ยวเสวียนฉินและผู้อื่นต่างติดตามมาภายหลังในระยะเวลาไม่ห่างกันมากนัก

ฟ้ามืด ฉินหยุนและสตรีทั้งหลายฝึกฝนร่วมกัน พลังงานจากผลึกแก้วแกนกลางสัตว์อสูรดวงดาว เวลานี้ถูกสูบกลืนอย่างรวดเร็ว

“พี่หยางช่างยอดเยี่ยม ถึงขั้นมองท่านออกในระยะเวลาอันน้อยนิด!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว “นี่ต้องเป็นเพราะพี่หลิงหลงเผยท่าทีต่อท่านมากเกินไป!”

“ข้าจะยังไม่ไปพบพี่หยางเป็นการชั่วคราว ข้าต้องใช้เวลาที่มีฝึกฝนให้ดี ก่อนที่งานประลองยุทธ์จะเริ่มขึ้น ข้าต้องฝึกฝนแก่นเต๋าลึกล้ำ และก้าวถึงขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำให้ได้!” ฉินหยุนกล่าว

“ได้ ข้าจะบอกต่อนางให้ นางย่อมต้องเข้าใจอย่างแน่นอน” เชี่ยวเสวียนฉินรับคำ

“ป้าเชี่ยว ครั้งหน้ามาที่นี่ พาพี่สาวจิ้งจอกร่วมทางมาด้วย ดูกันว่านางสามารถฝึกฝนร่วมกับข้าได้หรือไม่!” ฉินหยุนกล่าว

“พี่ชาย ข้าไม่นึก ว่าท่านจะถึงขั้นมีสัมพันธ์ทางลับกับพี่สาวจิ้งจอก!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเผยยิ้มซุกซน

“อย่าได้กล่าววาจาไร้สาระ! พวกเราเป็นสหายต่อกัน ทั้งยังร่วมมือต่อกันมาหลายครั้งคราแล้ว!” ฉินหยุนเร่งรีบอธิบาย

เรื่องนี้ทำเอาสุ่ยเทียนสื่อและผู้อื่นต่างหัวเราะร่วน

ฉินหยุนและสตรีทั้งหลายได้ฝึกฝนกันตลอดทั้งค่ำคืน ผลึกแก้วเต๋าวิญญาณลึกล้ำของเขาตอนนี้ใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อย ด้วยความเร็วระดับนี้ อีกเพียงไม่กี่วันเขาสมควรต้องเลื่อนระดับพลังได้

วันถัดมา ฉินหยุนมาถึงที่คฤหาสน์เซียนดาบแต่เช้า เจี้ยนหลิงหลงได้ไปยืนบนเวทีแข่งขันรอฉินหยุนอยู่ก่อนแล้ว

“ฉินหยุน เหตุใดเจ้ายังไม่ถึงขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ?” เจี้ยนหลิงหลงเอ่ยถามผ่านเสียงสื่อสาร

ฉินหยุนได้แต่ต้องอธิบายเรื่องเดิม ถึงเวลาของเขาที่หายไประหว่างเดินทางผ่านช่องว่างกาลอวกาศ

“หลังการแข่งขันจารึกจบ ข้าจะช่วยเจ้าหาผลึกแก้วแกนกลางมาให้ เจ้าจะได้เลื่อนระดับโดยเร็ว!” เจี้ยนหลิงหลงกล่าว

“ขอบคุณพี่สาวหลิงหลงแล้ว!” ฉินหยุนยิ้มกล่าว

บรรดาอาจารย์จารึกที่เข้าแข่งขัน รวมถึงผู้ชม เวลานี้ต่างเริ่มมาถึง

วันนี้เหลืออยู่เพียงสามสิบกลุ่ม หรือก็คือหกสิบคน มู่เฟิงยังอยู่ที่นี่ เขายังไม่ถูกคัดออกไป

เจี้ยนสือเทียนกล่าวคำขึ้น “การแข่งขันรอบถัดจากนี้ คือการสร้างยันต์ลึกล้ำ ยันต์ใดล้วนสามารถสร้าง ทราบเท่าที่มันเผยพลังอันเลิศล้ำออกมาถือว่าเป็นใช้ได้!”

เขานำเอาหอคอยขนาดเล็กออกมาและกล่าว “หลังเสร็จงานสร้างยันต์ ให้ใส่มันที่ในหอคอยนี้และเผยพลังอำนาจออก ตราบเท่าที่มีกำลังแข็งแกร่งพอ หอคอยนี้จะสั่นไหว ระดับการสั่นไหวมีทั้งสิ้นหนึ่งร้อยระดับ และสิบกลุ่มที่ได้ระดับสูงสุดจึงค่อยเข้าสู่รอบถัดไป!”

“แกะสลักได้แต่อักขระลึกล้ำอย่างนั้นหรือ?” เจี้ยนหลิงหลงขมวดคิ้วกล่าว

“อักขระเต๋าไม่อาจใช้งาน เช่นกัน หากมีความสามารถ อักขระดวงดาวและจันทราสามารถใช้งาน หลังจากที่ยันต์ลึกล้ำถูกสร้างขึ้น มันจะต้องถูกส่งเข้าทดสอบ หากมีการตรวจพบอักขระเต๋าใด เมื่อนั้นจะถือว่าหมดสิทธิ์!” เจี้ยนสือเทียนกล่าว

เรื่องนี้สร้างความผ่อนคลายแก่อาจารย์จารึกทั้งหลายอย่างมหาศาล! เพราะเจี้ยนหลิงหลงครอบครองจารึกวิญญาณจ้าวเต๋า เวลานี้แรงกดดันจากนางจะไม่ส่งผลกระทบต่อพวกเขาแล้ว!

เจี้ยนหลิงหลงกล่าวถามอีกครั้ง “อักขระโทเทมแกะสลักได้หรือไม่?”

เจี้ยนสือเทียนเผยยิ้ม “ย่อมทำได้! ทว่ามันคงต้องใช้เวลายาวนาน ตราบเท่าที่ทำได้สำเร็จทันเวลาที่กำหนด เช่นนั้นทำอะไรล้วนทำได้! ตราบเท่าที่ไม่ใช้อักขระเต๋า ทั้งหมดล้วนเป็นไปได้!”

เจี้ยนหลิงหลงผ่อนคลายได้มาก เพราะฉินหยุนครอบครองโทเทมมากมาย และส่วนใหญ่เป็นโทเทมสัตว์

“ระยะเวลาจำกัดคือสามชั่วยาม!” เจี้ยนสือเทียนนำนาฬิกาทรายออกมา “เริ่มกันได้!”

งานเมื่อเริ่ม เจี้ยนหลิงหลงจึงส่งเสียงสื่อสารหาฉินหยุน “ข้าจะทำกระดาษยันต์ เจ้าแกะสลักอักขระ เจ้าเลือกได้หรือยังว่าคิดแกะสลักอักขระใด?”

“ให้ข้าร่วมทำกระดาษยันต์ด้วย ไม่อย่างนั้นข้าคงเบื่อแทบตายแล้ว!” ฉินหยุนยิ้มกล่าว

ส่วนว่าเขาคิดแกะสลักอักขระใด ฉินหยุนยังไม่ได้ตัดสินใจ เขาเชี่ยวชาญอักขระที่ดีมากมาย กระนั้น เขายังไม่อาจตัดสินใจว่าจะใช้ส่วนผสมใด!

ผู้อื่นเริ่มยุ่งกับงาน พวกเขาต่างสร้างกระดาษยันต์ด้วยกัน ส่วนเรื่องอักขระที่คิดแกะสลัก พวกเขาต่างหารือกันทางลับผ่านเสียงสื่อสาร