ทุกคนต่างคิดว่าเจ้าสุนัขหยางด่าทอเหวินเส่าอี๋เช่นนี้ เหวินเส่าอี๋ไม่มีทางปล่อยเขาไปอย่างแน่นอน

แต่ไม่คิดว่าเหวินเส่าอี๋จะกล่าวอย่างราบเรียบ “ทุกคนแยกย้ายกันไปเถอะ”

ทุกคน……

ทุกคนแยกย้ายกันไปเถอะ……

พวกเขาไม่ได้หูฝาดไปใช่หรือไม่?

ต้องเผชิญกับความอัปยศอดสูเช่นนี้ เขายังสงบนิ่งอยู่ได้อย่างไร?

สวีชิงก็คิดว่าตัวเองหูฝาดไปเช่นกัน และกล่าวอย่างงุนงงว่า “นายน้อย ท่าน……เมื่อครู่ท่านว่าอะไรนะ?”

“เรื่องนี้จบลงแล้ว ต่อไปห้ามใครพูดถึงเรื่องนี้อีก”

เจ้าสุนัขหยางหัวเราะเยาะ “ข้าคิดว่าจะเก่งกาจเสียอีก ก็แค่นี้เอง สวะก็คือสวะ ต่อให้เป็นบุตรชายของผู้หัวหน้าเผ่าแล้วอย่างไร หากไม่มีวรยุทธ แม้แต่สุนัขตัวหนึ่งก็เป็นไม่ได้”

เหวินเส่าอี๋ทนได้ แต่สวีชิงไม่สามารถทนได้

แม้ว่าวันนี้เขาจะต้องตายที่ตำหนักเฉินหยู เขาก็จะต้องฉีกปากของเจ้าสุนัขหยางให้ได้

เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว สวีชิงก็ต่อยเขาอย่างแรง จนฟันหน้าของเจ้าสุนัขหยางหลุดและเลือดก็กระเซ็นลงบนพื้น

“หากเจ้ากล้าพูดว่านายน้อยเป็นสวะอีก เชื่อหรือไม่ข้าจะฆ่าเจ้าเดี๋ยวนี้”

“สวีชิง เจ้ากล้าต่อยข้า……ต่อต้านแล้ว ข้าจะทำให้เจ้าต้องเลือดตกยางออก”

ฟันหน้าของเขาหลุด คำพูดของเขารั่วออกมา และฟังไม่ชัดว่าเขาพูดอะไร

เมื่อเห็นว่าเจ้าสุนัขหยางปากคอเราะรายและกัดสวีชิงไม่ปล่อย เขาจึงถูกสวีชิงผลักลงไปที่พื้น และทั้งต่อยทั้งเตะ

“นายน้อยเพิ่งจะอายุแค่เท่าไหร่ แต่วรยุทธก็ถึงระดับหกแล้ว ปีนี้เจ้าอายุเกือบจะสามสิบ แต่เป็นมีวรยุทธเพียงแค่ระดับสองเท่านั้น ยังมีหน้ามาว่านายน้อยอีก ถุย เป็นแค่สุนัขรับใช้แล้วยังอวดเบ่ง

“ข้า……ข้าเป็นคนของรองหัวหน้าเผ่า……”

“อย่าว่าแต่เจ้าเป็นคนของรองหัวหน้าเผ่าเลย ต่อให้เข้าเป็นรองหัวหน้าเผ่า วันนี้ข้าก็จะต้องสอนให้บทเรียนแก่เจ้า”

ในขณะที่เหวินเส่าอี๋กำลังตำหนิให้สวีชิงหยุด

ทันใดนั้นพลังที่แข็งแกร่งบางอย่างก็ค่อย ๆ เข้ามา

ไม่เพียงแต่จะทำให้เขาหายใจไม่ออก แต่ยังทำให้สวีชิงและคนอื่น ๆ กระเด็นออกไป และได้รับรับบาดเจ็บสาหัสจนกระอักเลือด

เหวินเส่าอี๋ สวีชิง และคนอื่น ๆ เงยหน้าขึ้น และเห็นว่าผู้ที่มาคือรองหัวหน้าเผ่าซือคง และสองผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่าเพลิงฟ้า

ใบหน้าของพวกเขาเย็นชา และสะดุดตาของทุกคนในทันทีที่ก้าวเข้ามา

นอกจากพวกเขาแล้ว ด้านหลังพวกเขายังมีสาวกอีกหลายสิบคนของเผ่าเพลิงฟ้า

สาวกเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสาวกใต้บังคับบัญชาของเขา และแต่ละล้วนเป็นยอดฝีมือระดับสูงของเผ่าเพลิงฟ้า

ทันทีที่พวกเขาออกมา พวกเขาก็ปิดล้อมเหวินเส่าอี๋และคนอื่น ๆ

เมื่อเจ้าสุนัขหยางเห็นรองหัวหน้าเผ่าซือคงในแวบแรก เขาก็รู้สึกเหมือนเห็นที่พึ่งสุดท้าย

เขาร้องไห้ด้วยความคับข้องใจ “รองหัวหน้าเผ่า ท่านต้องให้ความเป็นธรรมกับข้าน้อยนะขอรับ นายน้อยด่าทอว่าท่านบ้าอำนาจ ทำตามความต้องการของตนเองโดยไม่สนว่าผู้อื่นจะเป็นอย่างไร ข้าน้อยโต้เถียงพวกเขาเพียงแค่ไม่กี่คำ แต่ไม่คิดว่านายน้อยจะรู้เห็นเป็นใจกับลูกน้องของเขา ทำร้ายทุบตีข้าน้อยอย่างไร้เหตุผล จนฟันของข้าน้อยหลุด และถูกทำร้ายจนเป็นแผลทั้งตัว”

คำพูดของเขาคลุมเครือ หลังจากที่ผู้คนได้ยินก็ต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะเข้าใจความหมายของเขา

ลูกน้องคนหนึ่งของสวีชิงกล่าวว่า “เจ้าพูดจาเหลวไหล เป็นเจ้าต่างหากที่ไม่เคารพนายน้อยก่อน พวกเราจึง……”

“ใครก็ได้ ลากตัวสวีชิงและลูกน้องทั้งหมดของเขาออกไป แล้วเฆี่ยนตีให้ตาย”

รองหัวหน้าเผ่าซือคงออกคำสั่งอย่างเย็นชา โดยไม่รอให้คนผู้นั้นพูดจบ

สาวกที่อาวุธครบมือเหล่านั้นจัดการนำสวีชิงและคนอื่น ๆ ที่ยังงุนงงไปมัดมือไว้ข้างหลังในทันที

เหวินเส่าอี๋ขมวดคิ้ว “รองหัวหน้าเผ่า ท่านจะทำอะไร?”

“เป็นเพราะเผ่าเพลิงฟ้ามีคนจำนวนมากที่ชอบสร้างปัญหา ทำให้ในเผ่าต้องโกลาหล ในตอนนี้หัวหน้าเผ่าอยู่ระหว่างการบำเพ็ญเพียร ข้าในฐานะรองหัวหน้าเผ่า จึงต้องชำระสะสางแทน”

นี่เรียกว่าชำระสะสางหรือ?

เป็นการอาศัยอำนาจส่วนรวมเพื่อแก้แค้นส่วนตัว และการฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจอย่างเห็นได้ชัด

“เรื่องในวันนี้เป็นเพียงข้อพิพาทเล็ก ๆ น้อย ๆ รองหัวหน้าไม่จำเป็นต้องทำกับพวกเขาเช่นนี้” เหวินเส่าอี๋กล่าว

“ข้อพิพาทเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มากเกินไป มักจะก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ นายน้อยคงไม่อยากให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นในเผ่า”

รองหัวหน้าเผ่าซือคงขึ้นเสียง “งุนงงอะไรอยู่ รีบไปจัดการสิ”

“หยุดนะ”

เหวินเส่าอี๋ตะโกนด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น เขาค่อย ๆ เดินไปหารองหัวหน้าเผ่าซือคง และจ้องมองเขา

“สวีชิงมีความดีความชอบในการรบเพื่อเผ่าเพลิงฟ้า มีมากกว่ายี่สิบชีวิตที่อยู่ที่นี่ รองหัวหน้าเผ่าซือคงไม่แม้แต่จะไต่สวน และต้องการที่จะฆ่าคน ท่านรีบร้อนเกินไปหรือไม่?”

“ข้าเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อครู่แล้ว และได้สวีชิงพูดจาสามหาว ยโสโอหัง และไม่เห็นกฎระเบียบอยู่ในสายตา จึงไม่จำเป็นต้องไต่สวนอีก”

คนทั้งหมดที่นี่ล้วนแต่เป็นคนของรองหัวหน้าเผ่าซือคง เขาสูญเสียวรยุทธ และสถานะในเผ่าของเขาก็ลดลง

เหวินเส่าอี๋มีลางสังหรณ์ในใจ

เขารู้สึกว่าเรื่องในวันนี้จะไม่จบลงง่าย ๆ

และ……

สิ่งที่รองหัวหน้าเผ่าซือคงทำ ก็เพื่อเชือดไก่ให้ลิงดูว่าอย่าต่อต้านเขา

ตามกฎของเผ่าเพลิงฟ้า รองหัวหน้าเผ่ามีอำนาจที่จะจัดการกับสาวกในเผ่าได้ รวมทั้งผู้อาวุโสในเผ่าด้วย

เหวินเส่าอี๋จำเป็นต้องก้มหัว

“สวีชิงและคนอื่น ๆ ไม่ได้มีโทษถึงตาย รองหัวหน้าเผ่าได้โปรดเมตตาด้วย”

“นายน้อยแก้ตัวแทนสวีชิงเช่นนี้ หรือว่าระหว่างพวกเจ้าจะมีข้อตกลงบางอย่าง หรือบางทีระหว่างพวกเจ้าอาจจะมีความลับอะไร”

“ข้าเป็นคนใจกว้าง จะมีความลับอะไร”

“ในเมื่อไม่มีความลับ เจ้ากับสวีชิงก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน ทำไมเจ้าถึงห้ามไม่ให้ข้าฆ่าสวีชิงและคนอื่น ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า”

ไม่ว่าสวีชิงจะโง่เขลาแค่ไหน เขาก็ดูออกว่าครั้งนี้รองหัวหน้าเผ่าซือคงต้องการจะฆ่าเขา และเกรงว่าจะไม่ใช่แค่พวกเขา

แต่รวมไปถึงนายน้อยด้วย

เหอะ……

ปกติแล้วนายน้อยปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพ แต่ในตอนนี้นายน้อยสูญเสียวรยุทธ เขาร่วมมือกับผู้อาวุโสสูงเพื่อจะกำจัดนายน้อย

สวีชิงกล่าวว่า “ข้าเงยหน้าอย่างไม่ละอายต่อฟ้า ก้มหน้าอย่างไม่ละอายต่อดิน และไม่ละอายแก่ใจ ท่านอยากฆ่าก็ฆ่า ฆ่าฉัน ไม่ต้องพูดให้มากความ”

“ลงมือ”

“ไม่ว่าใครก็ห้ามลงมือ”

รองหัวหน้าเผ่าและนายน้องของเผ่าเผชิญหน้ากัน

โดยไม่มีใครยอมถอย

รองหัวหน้าเผ่าซือคงฝืนยิ้ม “นายน้อย ก่อนที่เจ้าจะออกหน้าปกป้องพวกเขา เจ้าควรจะป้องกันตัวเองให้ได้ก่อน”

เหวินเส่าอี๋เลิกคิ้วขึ้น
กู้ชูหน่วนครุ่นคิดอยู่หลายรอบ และพอที่จะเข้าใจว่ารองหัวหน้าเผ่าซือคงต้องการจะทำอะไร

“ห้ายอดฝีมือขั้นสูงสุดระดับหกของเผ่าเพลิงฟ้าเคลื่อนไหวแล้ว ในนั้นมีสี่ผู้อาวุโสสูงสุดที่มีวรยุทธขั้นสูงสุดระดับหก และสาวกที่ยอดเยี่ยมกว่าสองพันคน พวกเขาทั้งหมดสละชีวิตเพื่อเข้าไปในเผ่าหยก แต่มีเพียงเจ้าคนเดียวที่กลับมาได้ เรื่องนี้เจ้าจะไม่อธิบายหน่อยหรือ?”

“เมื่อหลายวันก่อนในห้องปรึกษากิจ ข้าก็บอกไปแล้วไม่ใช่หรือ?เพื่อที่จะช่วยข้า ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสี่จึงถูกเผ่าหยกฆ่า และสาวกที่ยอดเยี่ยมกว่าสองพันคนก็เช่นกัน……”

เมื่อกล่าวถึงพวกเขา ร่องรอยของความเจ็บปวดก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเหวินเส่าอี๋

หากเป็นไปได้ เขาไม่อยากจะจำฉากนั้นเลย

เขาได้รับการเลี้ยงดูจากผู้อาวุโสสูงสุดทั้งห้ามาตั้งแต่เด็ก

สี่คนในนั้นต้องตายที่เผ่าหยกเพื่อช่วยเขา

และสาวกที่ยอดเยี่ยมกว่าสองพันคนก็เป็นสาวกที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีจากเหล่าผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหลาย และแต่ละคนก็ล้วนจงรักภักดี

แผนการที่วางไว้หลายสิบปี เผ่าหยกทั้งหมดกลายเป็น……

“เท่าที่ข้ารู้ เผ่าหยกมีผู้อาวุโสที่บรรลุวรยุทธขั้นสูงสุดระดับหกเพียงสองคนเท่านั้น และผู้อาวุโสสูงของเผ่าหยกล้วนได้รับบาดเจ็บสาหัสตั้งแต่แรกเริ่ม โดยพื้นฐานแล้วไม่สามารถที่จะต่อสู้ได้อีก เผ่าเพลิงฟ้าของเราไปกันตั้งมากมาย เป็นไปได้อย่างไรที่ต้องสละชีวิตทั้งหมด”

“รองหัวหน้าเผ่า ท่านต้องการจะพูดอะไรกันแน่”

“ข้าได้ยินมาว่านายน้อยมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับหัวหน้าเผ่าหยก และยอมที่จะสละชีวิตหลายครั้งเพื่อช่วยนาง เดิมทีแล้วข้าไม่อยากจะสงสัยนายน้อย แต่หลังจากที่ส่งผู้คนจำนวนมากไป และพวกเขาก็สละชีวิต แต่การกลับมาของเจ้า ทำให้ผู้คนต้องครุ่นคิด”

สวีชิงกล่าวอย่างโกรธเคือง “ท่านพูดจาให้ร้ายผู้อื่น นายน้อยจะสมรู้ร่วมคิดกับเผ่าหยก และทรยศต่อเผ่าเพลิงฟ้าได้อย่างไร?”

“ฆ่าซะ”

เพียงแค่คำว่าฆ่า เหวินเส่าอี๋ยังไม่ทันได้พูดอะไร ลูกน้องของรองหัวหน้เผ่าซือคงก็ชักดาบออกมาแล้ว หนึ่งคนหนึ่งดาบ จากนั้นก็ปาดคอของสวีชิงและคนอื่น ๆ ต่อหน้าต่อตาเหวินเส่าอี๋

เลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว และบางส่วนก็กระเด็นไปโดนเสื้อผ้าของเหวินเส่าอี๋