ตอนที่ 1581 ราคาที่เกราะเงินต้องจ่าย

Monster Paradise

ตอนนั้นเอง โลกที่เต็มไปด้วยเถาวัลย์ก็สั่นสะเทือนอย่างแรง

 

คลื่นความร้อนนี้ไม่ใช่คลื่นความร้อนธรรมดาแต่เป็นพลังลำดับเทพแสนน่าหวาดหวั่น

 

แม้กระทั่งเก้าเถาวัลย์ก็ไม่รู้ว่าพลังลำดับเทพนี้คืออะไร เขาตัดสินว่ามันคือไฟที่มีพลังทำลายล้างถึงขีดสุด

 

ในระดับหนึ่ง ไฟประเภทนี้ร้ายกาจยิ่งกว่าเพลิงมังกรซะอีก

 

ร่างจริงของเก้าเถาวัลย์หนีลงใต้ดินอย่างหวาดกลัว ในเวลาเดียวกัน เขาก็ควบคุมเถาวัลย์นับไม่ถ้วนให้ต้านไฟ เขาไม่มีความหวังที่ว่าจะดับไฟได้ เขาแค่หวังให้มันช่วยต้านคลื่นไฟสักนิด รวมถึงลดขอบเขตของมันง

 

‘เกราะเงินมันบ้าถึงขั้นระดับตัวตายเชียวรึ?’เก้าเถาวัลย์ลอบสาปแช่งขณะหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาไม่กล้าปลดปล่อยพลังเทวะเพื่อทำการตรวจสอบอะไรด้วยซ้ำ กลัวว่าไฟจะเผาจิตวิญญาณเขา

 

แต่ทว่า ไม่ช้า เขาก็ถอนการคาดเดาเดิม

 

นี่เพราะเขาสัมผัสได้ว่านอกจากตัวเขาแล้ว ยังมีกลิ่นอายอื่นหลงเหลือในเขตแดนเทพ

 

เกราะเงินยังไม่ตาย!

 

ไม่ใช่แค่นั้น มอนสเตอร์ร่างมนุษย์ยังค่อยๆ ก่อตัวจากไฟสีแดงเข้มภายในหลุมลึกไหม้เกรียม

 

อย่างน่าประทับใจ ร่างกายของมอนสเตอร์คล้ายกับเกราะเงิน 70%-80% แต่หัวกลับใหญ่กว่ามาก เขาในตอนนี้สูงอย่างน้อยพันเมตร

 

ไม่เหมือนกับตัวเขา ซึ่งเป็นสีแดงเข้ม มันมีกลุ่มไฟสีขาวร้อนแรงในจุดที่ควรเป็นลูกตาเขา

 

เขายืนอยู่กับที่ราวกับตกอยู่ในภวังค์ แต่ไฟสีขาวในดวงตาของเขากลับยิ่งทวีความรุนแรง

 

ทั้งหมดที่เขาทำคือยกขาเล็กน้อย และเขาก็สามารถก้าวออกจากหลุมลึกที่เพิ่งโดยไฟระเบิดได้ ทุกครั้งที่เขาก้าวเท้า พื้นจะแยก และลาวาสีแดงก็จะพุ่งจากรอยแยก

 

เขาเดินอย่างไร้จุดหมายไปข้างหน้า เหวี่ยงหมัดหนักใส่ทุกอุปสรรคที่ขวางทางอย่างป่าเถื่อน

 

ภูเขา แม่น้ำ บึง…ทุกที่ที่เขาผ่าน สถานที่นั้นจะกลายเป็นทะเลลาวา

 

โดยธรรมชาติ เก้าเถาวัลย์เองก็สัมผัสได้ว่าเขตแดนเทพของเขาปนเปื้อนอย่างรุนแรง

 

ทุกก้าวที่เกราะเงินเดิน และทุกหมัดที่เขาชก มันจะทำลายเขตแดนเทพของเก้าเถาวัลย์

 

หลังยับยั้งตัวเองเป็นเวลานาน สุดท้าย เก้าเถาวัลย์ก็ไม่สามารถทนได้อีกและกระจายจิตเทวะเพื่อสัมผัสสถานการณ์

 

ขณะที่จิตเทวะของเขากวาดผ่าน เขาก็พลันสังเกตเห็นมอนสเตอร์ไฟที่ดูเหมือนจะคลุ้มคลั่ง

 

แม้กลิ่นอายกับขนาดจะเปลี่ยนไปมาก เก้าเถาวัลย์ก็บอกได้ว่ามันคือเกราะเงินเพราะร่องรอยกลิ่นอายของเกราะเงินยังอยู่บนตัว

 

“เจ้าหมอนั่นเปลี่ยนเป็นตัวประหลาดแบบนี้ได้ไง?!”เก้าเถาวัลย์ตกตะลึง นี่คืออีกสิ่งมีชีวิตอย่างสิ้นเชิง

 

แต่ทว่า ไม่ช้า เก้าเถาวัลย์ก็ไม่สามารถไตร่ตรองเรื่องได้อีกเพราะเขาสัมผัสได้ว่าสายตาของเกราะเงินกำลังจับจ้องมาทางเขา

 

การตรวจสอบด้วยจิตเทวะได้เปิดโปงตัวเขาเอง!

 

เก้าเถาวัลย์หนีโดยไม่ยั้งคิด

 

ในขณะเดียวกัน ยักษ์ไฟที่อยู่ห่างไปอย่างน้อยหมื่นกิโลเมตรก็ได้จับเข้ากับกลิ่นอายของเก้าเถาวัลย์ ดวงตาของเขาพ่นประกายไฟสีขาวออกมาขณะวิ่งใส่เก้าเถาวัลย์เหมือนคนบ้า

 

เก้าเถาวัลย์เร็ว แต่ยักษ์ไฟเร็วกว่า

 

ในเวลาแค่สิบนาที ยักษ์ไฟก็ไล่ทันเก้าเถาวัลย์

 

ส้นเท้าของยักษ์กระทืบลงโดยไม่ลังเลและทั้งผิวดินก็ทรุด

 

รอยร้าวลุกลาม เปลี่ยนเป็นลาวาหลอมเลวที่เริ่มกระจายไปทุกทิศทาง

 

การกระทืบดุร้าย แต่เก้าเถาวัลย์สามารถหลบมันได้ทัน พอดีกับที่เท้ายักษ์กระทืบลง เก้าเถาวัลย์ก็แหวกออกจากพื้นและหลบการโจมตีได้พอดี

 

แต่ทว่า การหลบของเขาก็ได้เปิดเผยรูปลักษณ์ของเขาออกมาอย่างสมบูรณ์

 

มันคือเถาวัลย์สีดำที่ประกอบกันเป็นงูยักษ์​ด้วยผิวสะท้อนที่ดูเหมือนเกล็ดงู

 

แค่มอง ขนาดของเก้าเถาวัลย์นั้นดูใหญ่จริง มันหนากว่าครึ่งเมตร และยาวอย่างน้อยร้อยเมตร แต่ทว่า ตอนนี้ ต่อหน้ายักษ์ไฟ เขาไม่แตกต่างจากปลาดุก

 

ตอนนี้ คนตกปลากับปลาดุกดูเหมือนจะสลับตำแหน่งกัน

 

เก้าเถาวัลย์รู้ว่าเขาไม่สามารถหลบหนีได้

 

ขณะสังเกตกเราะเงินเงียบๆ เขาเองก็รีบตรวจสอบรอยประทับของเหล่าวิญญาณคืนชีพ พยายามอัญเชิญพวกมันใหม่

 

“เกราะเงิน ทำไมเราไม่จบการต่อสู้ของเราไว้แค่นี้ละ”เก้าเถาวัลย์พยายามซื้อเวลาให้ตัวเขา”ดูสิ เราใช้ไพ่ตายกันหมดแล้ว ถ้าเรายังสู้กันต่อ มันจะมีแต่ความตาย ไม่จำเป็นต้องทำถึงขั้นนั้นหรอก..”

 

แต่ทว่า ยักษ์ไฟเมินสิ่งที่เก้าเถาวัลย์พูดอย่างสิ้นเชิง โดยไม่รอให้เขาพูดจบ ฝ่ามือยักษ์ก็ตบลงใส่จุดที่เก้าเถาวัลย์อยู่

 

ท้องฟ้าดูเหมือนจะถล่มลงมาพร้อมฝ่ามือ

 

เก้าเถาวัลย์ไม่กล้าต่อต้านตรงๆ และรีบหลบอีกครั้ง

 

เขาไม่สามารถต่อสู้กับเกราะเงินได้ แต่อย่างน้อยก็สามารถเคลื่อนย้ายสั้นๆเพื่อหลบการโจมตีได้

 

ยักษ์ไฟคลุ้มคลั่งตอนการโจมตีพลาดและเริ่มโจมตีทุกอย่างรอบตัว ความคิดของเก้าเถาวัลย์เริ่มผ่อนคลาย และเขาก็เริ่มคิด

 

ความคิดของเกราะเงินเห็นได้ชัดว่าไม่อยู่กับเนื้อกับตัวในสภาพนี้ มันสามารถบอกได้ว่าเขาพึ่งพาแค่สัญชาตญาณต่อสู้อย่างเดียว

 

แม้คู่ต่อสู้ของเขาจะทรงพลังมากในสภาวะนี้ แต่สำหรับเก้าเถาวัลย์ มันมีจุดอ่อนร้ายแรง

 

นี่เพราะตอนสู้โดยใช้สัญขาตญาณ เกราะเงินจะไม่มีความสามารถคำนวณ เขาทำได้แค่ใช้ท่าที่ตรงไปตรงมา และการกระทำทั้งหมดก็สามารถอ่านออกได้ง่ายๆ

 

นี่ทำให้เก้าเถาวัลย์โล่งใจขึ้นม เขาไม่รีบหนี เขากลับยืนอยู่ที่เดิมและจัดการกับยักษ์ไฟ

 

ขณะหลบการโจมตีซ้ำๆของงยักษ์ไฟ เขาก็วางแผนโจมตี

 

การระเบิดอย่างฉับพลันที่เกิดจากการแปลงร่างของเกราะเงินได้ทำลายศพคืนชีพทั้งหมดที่เก้าเถาวัลย์อัญเชิญ

 

ส่วนใหญ่ไม่เพียงโดนทำลายร่างกาย แต่รอยประทับวิญญาณพวกมันยังสลายไปด้วย

 

ที่การทำลายระดับนี้ เก้าเถาวัลย์จึงไม่มีทางอัญเชิญพวกมันได้ไหม

 

แต่ทว่า โชคดี ยังมีหยิบมือหนึ่งที่โดนทำลายแค่ร่างกาย รอยประทับวิญญาณพวกมันยังไม่บุบสลาย ไม่ใช่แค่นั้น ที่เหลือยังเป็นพวกที่ทรงพลังสุด

 

เก้าเถาวัลย์กระตือรือร้นมากตอนสัมผัสได้ถึงรอยประทับวิญญาณที่เหลือ

 

เขาลอบรวบรวมพลังเทวะและรอโอกาสอัญเชิญเงียบๆ

 

สิบกว่านาทีผ่านไป

 

วินาทีที่ยักษ์ไฟกระทืบพื้น เถาวัลย์นับไม่ถ้วนก็โผล่ออกมาและรัดคอกับแขนขาของยักษ์ไว้

 

แม้ไฟบนตัวยักษ์จะทำลายเถาวัลย์อย่างบ้าคลั่ง เถาวัลย์ก็ยังพุ่งมาไม่รู้จบ ยับยั้งการเคลื่อนไหวไว้ชั่วคราว

 

ด้วยการยับยั้งชั่วคราวนี้ เก้าเถาวัลย์จึงอัญเชิญวิญญาณขึ้นใหม่โดยไม่ลังเล

 

เนื้อเยื่อยักษ์ เนตรเพลิง นางพญางูสามหาง..ยอดฝีมือทั้งหมดระดับราชากับพวกที่ใกล้เคียงกับระดับราชาถูกเรียกมาใหม่

 

ทันทีที่ผู้คืนชีพกว่าสิบปรากฏ พวกมันก็ร่วมมือกันโดยไม่ลังเลเพื่อโจมตียักษ์ไฟ ที่ตอนนี้ขยับตัวไม่ได้

แม้กระทั่งเก้าเถาวัลย์ก็ยังฉวยโอกาสสู้ ปลดปล่อยกระบวนท่าไม้ตาย

 

เถาวัลย์นับไม่ถ้วนเริ่มกินพลังเทวะภายในตัวของยักษ์ไฟ

 

พอการจู่โจมระลอกนี้เริ่ม ยักษ์ไฟก็คำรามและพยายามสลัดเถาวัลย์ให้หลุด

 

แต่ทว่า เขายังช้าไป เขาทำได้แค่ป้องกันตัวเองจากการโจมตีส่วนน้อย ส่วนใหญ่นั้นโดนเขาเข้าจังๆ

 

แม้ยักษ์ไฟจะไม่ตาย ขนาดของมันก็ลดลงไปมาก ขณะที่สีบนตัวหม่นลง

 

ตอนเขาเห็นการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เก้าเถาวัลย์ก็รู้ว่ากลยุทธ์ของเขาถูก

 

“โจมตีต่อไป ผลาญพลังเทวะมัน!’

 

ในสภาพนี้ เกราะเงินต้องใช้พลังเทวะภายในตัวมากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า แต่ทว่า มันกลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพนัก

 

การโจมตีของเขาทรงพลังขึ้นแค่เพราะทุกครั้งที่เขาโจมตี การผลาญพลังเทวะของเขาจะสูงกว่าเดิม

 

ตัดสินโดยการเปลี่ยนแปลงในขนาดกับสีของยักษ์ไฟ อีกฝ่ายไม่ได้มีพลังเทวะไร้สิ้นสุด มันสามารถผลาญได้

 

เก้าเถาวัลย์โล่งใจหลังค้นพบ

 

เขตแดนเทพนี้คือเขตแดนของเขา ถ้าแข่งกันในแง่การผลาญพลังเทวะ เขาไม่กลัวใครเลย

 

เก้าเถาวัลย์เริ่มสงบขึ้น

 

เขาไม่ปะทะกับยักษ์ไฟตรงๆอีก เขากลับควบคุมผู้คืนชีพนับสิบให้ใช้กลยุทธ์กองโจรก่อกวนยักษ์เรื่อยๆและผลาญพลังเทวะ

 

ทุกครั้งที่ยักษ์ไฟโจมตี เก้าเถาวัลย์จะควบคุมผู้คืนชีพให้หลบและหนี เลี่ยงการปะทะโดยตรงให้มากที่สุด

กว่าครึ่งชั่วโมงผ่านไป

 

มันเหลือผู้คืนชีพแค่ครึ่งเดียวภายใต้การควบคุมของเก้าเถาวัลย์ แม้เขาจะควบคุมพวกมันให้หลบการโจมตีแล้ว แต่ก็มีบ้างที่พวกมันหลบไม่ทัน

 

แต่ทว่า ขนาดของยักษ์ไฟก็หดจนสูงแค่ร้อยเมตรแล้ว และไฟบนตัวก็เริ่มไม่เสถียร

 

เก้าเถาวัลย์ยื้อการต่อสู้อย่างอดทน

 

หลังผ่านไปอีกสิบนาที ขนาดของยักษ์ไฟก็หดลงอย่างมาก เก้าเถาวัลย์ตกตะลึงตอนเห็น

เขารีบหยุดการโจมตีและรอให้คู่ต่อสู้ของเขาแปลงร่างจนเสร็จ

 

ภายในเวลาแค่ไม่กี่ลมหายใจ ความสูงกว่าร้อยเมตรของยักษ์ไฟก็หดลงเหลือประมาณสองเมตร หรือ-แม้กระทั่งเล็กกว่าขนาดดั้งเดิมของเกราะเงิน

 

หลังตัวของเขาหยุดหด ไฟบนตัวของเกราะเงินก็ค่อยๆหายไป

 

สองถึงสามนาทีต่อมา ไฟได้หายไปอย่างสมบูรณ์ เผยให้เห็นร่างใหม่

 

แทนที่จะเป็นเกราะเงิน ร่างนี้กลับสวมเกราะทอง

 

เกราะทองแดงดูค่อนข้างอ่อนแอ มันเล็กกว่าเกราะเงินมาก

 

ถ้าเก้าเถาวัลย์สัมผัสไม่ได้ถึงกลิ่นอายของเกราะเงินที่หลงเหลืออยู่ เขาอาจสงสัยว่ามันเป็นคนอื่น

 

“งั้นนี่ก็คือราคาที่ต้องจ่ายเพื่อเปลี่ยนเป็นยักษ์ไฟ?”เก้าเถาวัลย์ฉีกยิ้มและมองชายเกราะทองแดงที่กลิ่นอายตกฮวบอย่างมาก

 

ชายเกราะทองแดงตรงหน้าเขาครอบครองพลังต่อสู้แค่เทพสวรรค์ขั้นแปด เขาตกลงมาถึงหนึ่งขั้น!

 

เก้าเถาวัลย์จ้องชายเกราะทองแดงที่ไม่ได้สติสักพัก แต่ไม่ฆ่า เขากลับปล่อยเถาวัลย์สีดำออกไป แทงมันเข้าใส่หัวใจของชายเกราะทองแดง

 

ครู่ต่อมา เถาวัลย์ก็หดกลับ รอยยิ้มบนหน้าของเก้าเถาวัลย์ยิ่งกว่างกว่าเดิม

 

“ช่างเป็นเตียงเพาะเมล็ดที่สุดยอดจริงๆ”

 

ตอนนี้ที่การต่อสู้กับเกราะเงินจบ เก้าเถาวัลย์จึงถอนหายใจยาวเหยียด ต่อมา เขตแดนเทพของเขาก็เริ่มสลายไปช้าๆ เผยให้เป็นป่าโบราณดั้งเดิม

 

ตอนนี้เองที่เขตแดนเทพของเขาถูกเรียกกลับ เก้าเถาวัลย์ก็ได้ยินเสียงหัวเราะที่ลอยเข้าหูเขา

 

“การต่อสู้ระหว่างพวกเจ้าสองคนยืดเยื้อมากจนข้าเกือบหลับ”