ตอนที่ 1589 นางพญาซูหย่า (4)

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 1589  นางพญาซูหย่า (4)

“เข้าใจแล้วก็ไสหัวไปซิ!  มัวยืนบื้อเกะกะลูกตาแม่อยู่ได้!”  ซูหย่าตะโกนอย่างเย็นชา

พวกผู้เยาว์พากันขาสั่นจากเสียงตะโกนของซูหย่า  ทุกคนรีบวิ่งหนีกระจายกันไปคนละทิศละทาง  พร้อมกับนึกเสียใจที่พ่อแม่ไม่ได้ให้กำเนิดพวกเขามาพร้อมขาเพิ่มอีกสองข้าง

“กลับมา!”  ซูหย่าตะโกนเสียงต่ำ  ผู้เยาว์ทุกคนที่วิ่งหนีเอาตัวรอดพากันแข็งทื่ออยู่กับที่

“เอาไอ้ขยะนี่ไปให้พ้นหน้าข้าด้วย  เห็นแล้วขยะแขยง”  ซูหย่าชี้นิ้วไปที่สวี่มู่ซึ่งนอนอยู่บนพื้นอย่างรังเกียจเป็นที่สุด  ผู้เยาว์หลายคนจึงจำใจวิ่งกลับมาแบกสวี่มู่ออกไป

หลินเฮ่าอวี่ทำตัวกลมกลืนหนีไปกับฝูงชนอย่างรวดเร็ว  เขากลัวว่าจะถูกจวินอู๋เสียเห็นเข้าแล้วจะขอให้ซูหย่าจัดการกับเขาด้วย

“ศิษย์ของสำนักธาราเมฆนี่แย่ลงทุกรุ่น  ขี้ขลาดเหมือนหนู  น่าอายจริงๆ”  ซูหย่ามองเหล่าผู้เยาว์ที่วิ่งหนีกระจัดกระจายกันออกไป  แล้วเบะปากอย่างดูถูก  พอหันหน้ากลับไปก็เห็นศิษย์ของนางกำลังมองนางด้วยแววตาที่มีรอยยิ้ม

ซูหย่าเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ  นางยกมือขึ้นตบหัวศิษย์ตัวน้อยของนาง

แต่เมื่อเทียบกับแรงที่ใช้ตบสวี่มู่แล้ว  ตบนี้อ่อนโยนนุ่มนวลเหมือนสายน้ำ

“ไม่ต้องมายิ้มเลย  ถ้าข้าออกมาช้ากว่านี้นิดเดียว  คนที่ต้องลงไปนอนบนพื้นก็คือเจ้า  ดูสิว่าเจ้ายังจะยิ้มออกไหม”  พลังวิญญาณขั้นสีม่วงอาจไม่เท่าไรในสายตานาง  แต่พลังวิญญาณของจวินอู๋นั้นต่ำมาก  ถ้าโดนเข้าไปสักที  เขาทนไม่ไหวแน่

จวินอู๋เสียแตะปลายจมูก  นางรู้ว่าซูหย่าเป็นห่วงนาง  เพื่อซ่อนตัวตนเอาไว้  นางได้กินยากดพลังวิญญาณเป็นประจำ  จากสายตาของคนอื่น  พลังวิญญาณของนางอยู่ในขั้นสีแดงเท่านั้น  เรียกว่าต่ำมาก

นั่นจึงหลอกซูหย่าไปด้วย

“เอาเถอะ  ไม่ต้องเสียใจไป  รีบกลับไปฝึกซะ  เผ่าของเจ้าไม่ใช่เผ่าต่อสู้  เจ้านั่นเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงใช่ไหม?  รอจนวิชาเสริมวิญญาณของเจ้าแข็งแกร่งกว่านี้  ถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่พลังวิญญาณสีม่วงเลย  แค่เจ้ากวักมือ  ผู้ใช้พลังวิญญาณสีเงินทั้งฝูงก็มาคุกเข่าประจบประแจงเจ้าแล้ว  อย่ามัวเสียเวลา  รีบไปฝึกซะ”  ซูหย่าอาจจะพูดจาร้ายกาจ  แต่นางก็อดไม่ได้ที่จะปลอบประโลมหัวใจดวงน้อยที่ “บาดเจ็บ” ของจวินอู๋เสีย  แต่ก็เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า  นางไม่มีพรสวรรค์ในการปลอบใจคนจริงๆ

จวินอู๋เสียพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง  และวิ่งกลับเข้าหอจันทร์แรมไปแช่ตัวในสระเหล้าต่อตามคำสั่งสอนของซูหย่า

ซูหย่าไม่ได้กลับเข้าไปในทันที  แต่ยืนนิ่งอยู่นอกประตู  เงียบอยู่พักหนึ่ง  แล้วก็ก้าวเท้าออกเดินไปยังทิศทางอื่น

ที่ห้องหนังสือแห่งหนึ่งในสำนักธาราเมฆ  เทียนเจ๋อกำลังจมอยู่กับหนังสือกองโต  แล้วจู่ๆประตูห้องที่ล็อคอยู่ก็ถูกเตะเปิดออกอย่างแรง  เทียนเจ๋อขมวดคิ้วเงยหน้าขึ้น  พอเห็นว่าคนที่มาเป็นใคร  สีหน้าไม่พอใจของเทียนเจ๋อก็หายวับทันที  แทนที่ด้วยรอยยิ้มฝืดเฝื่อน

“ศิษย์……ศิษย์พี่……ท่านมาที่นี่ทำไม?”  เมื่อเห็นซูหย่า  หัวใจดวงน้อยๆของเทียนเจ๋อก็สั่นระริก

ซูหย่าหันมองไปรอบๆ  แล้วทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ด้านข้าง  ขายาวๆของนางไขว้กันอย่างสง่างาม  จากนั้นก็เอนหลังพิงเก้าอี้ด้วยท่าทางเป็นกันเอง

“ข้าตบไอ้โง่คนหนึ่งจากสาขาพลังวิญญาณมา”

“หา?”  เทียนเจ๋อนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง  “เอ่อ  เป็นครูหรือว่า……”

ซูหย่าเลิกคิ้วเล็กน้อย  “เจ้าคิดว่าไอ้โง่พวกนั้นยังกล้าโผล่หน้ามาให้ข้าเห็นอีกเรอะ?”

เทียนเจ๋อกลืนน้ำลาย  เข้าใจทันทีว่าไอ้โง่พวกที่สองที่ซูหย่าเอ่ยถึงคือครูของสาขาพลังวิญญาณ

“ไม่กล้าหรอก”  เทียนเจ๋อตอบตรงๆ

ทั่วทั้งสำนักธาราเมฆ  นอกจากอาจารย์ของพวกเขาแล้ว  ไม่มีครูคนไหนกล้าหาเรื่องซูหย่า