บทที่ 237 อยากเลิกกับส้มเปรี้ยว

รักหวานอมเปรี้ยว

พิศมัยไม่รู้ว่าเปปเปอร์มองตัวเองด้วยสายตาแบบไหน ก็ยังพูดขึ้นอย่างดีใจ “เปปเปอร์ ส้มเปรี้ยวมาหาลูกโดยเฉพาะเลย สองวันนี้ลูกไม่ยอมเจอเธอ ถึงแม้ระหว่างพวกลูกจะเกิดความขัดแย้งกัน ก็ควรเคลียร์ปัญหาคืนดีกันได้แล้ว พอดีเลย คืนนี้ส้มเปรี้ยวจะพักที่บ้าน พวกลูกคุยกันให้เต็มที่”

“ไม่ต้องหรอกครับ” เปปเปอร์ผลุบตาลงปฏิเสธคำแนะนำของเธอด้วยเสียงเรียบๆ

ส้มเปรี้ยวเบิกตากว้าง “เปปเปอร์ ฉันทำอะไรผิดเหรอ สองวันนี้คุณเย็นชากับฉันมาก คุณบอกฉันสิ ฉันจะเปลี่ยนมัน โอเคไหม?”

เธอกุมหัวใจตัวเอง มองเขาด้วยแววตาโศกเศร้า

ท่านย่าและปีโป้มองเปปเปอร์พร้อมกัน อยากรู้เหตุผลเหมือนกัน

เปปเปอร์เม้มริมฝีปากบาง “คุณไม่ได้ทำอะไรผิด”

เหตุผลอยู่ที่ตัวเขา เขาไม่ได้รักเธอแล้ว ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเธออย่างไร

และที่สำคัญที่สุด การเผชิญหน้ากับเธอ ความคิดและความรู้สึกของเขามันได้รับอิทธิพลจากเธอ ทำบางสิ่งบางอย่างที่เขาไม่คิดว่าตัวเองจะทำมันออกมาได้

ตัวอย่างเช่นเมื่อก่อน เธอฟื้นและออกจากโรงพยาบาล เขาสั่งให้มายมิ้นท์ย้ายออกไปเพียงเพราะเธอพูดประโยคเดียว ในตอนนั้นมายมิ้นท์ยังเป็นภรรยาเขาอยู่เลย ถึงแม้เขาไม่ได้รักมายมิ้นท์ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะสั่งให้มายมิ้นท์ย้ายออกไป แต่เขาก็ทำมัน

นอกจากนี้ส้มเปรี้ยวยังเล่นงานมายมิ้นท์สองสามครั้ง ถึงแม้บุคลิกที่สองในตัวจะเป็นคนทำ นั่นมันก็ผิดกฎหมาย และเขาก็ไม่เคยมีความคิดจะส่งเธอไปสถานีตำรวจเลย

สิ่งที่แปลกที่สุดคือ เมื่อก่อนเขาไม่เคยรู้สึกว่าที่ตัวเองทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง จนกระทั่งอุบัติเหตุรถยนต์ในครั้งนี้ เขาถึงเข้าใจในทันทีว่าตัวเองในอดีต ไม่เพียงแต่ไร้สติปัญญา แม้แต่มุมมองต่อโลกขั้นพื้นฐานยังไม่มีเลย!

นั่นไม่ใช่เขา

เปปเปอร์กัดฟันกรามแน่น

เขากล้ายืนยัน ตัวเองก่อนเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ ไม่ใช่ตัวเองตัวจริง!

ตัวเองที่ได้รับการศึกษาสำหรับชนชั้นนำตั้งแต่เด็ก ไม่มีทางทำพฤติกรรมติงต๊องแบบนี้ออกมาได้

ในตัวเขา จะต้องมีปัญหาอะไรบางอย่างแน่ๆ

“โป้ พาฉันไปส่งข้างบนหน่อย” เมื่อคิดถึงตรงนี้ เปปเปอร์ก็ก้มศีรษะเล็กน้อย ยับยั้งความเย็นชาบนหน้าเอาไว้ แล้วสั่งเสียงเข้ม

“อ่อๆ” ปีโป้ตอบรับสองครั้ง แล้วเข็นเขาเดินไปที่ลิฟต์

ลิฟต์นี้เขาให้ผู้ช่วยเหมันตร์หาคนมาติดตั้งเมื่อวาน

เพื่อให้เขาขึ้นชั้นบนอย่างสะดวกหลังออกมาจากโรงพยาบาล

“เปปเปอร์……” ส้มเปรี้ยวเห็นเปปเปอร์ไม่มองตนเลย ไม่พูดกับตนเลยแม้แต่ประโยคเดียว ขึ้นข้างบนทันที ก็ร้อนใจอยากตามขึ้นไปด้วย

เธอมาที่นี่ ก็เพราะอยากคุยกับเปปเปอร์ให้รู้เรื่อง ว่าเขาเป็นอะไรกันแน่ ทำไมไม่อยากเจอเธอ ทำไมเย็นชากับเธอแบบนี้

แต่ไม่คิดว่า เขาไม่ให้โอกาสนี้กับเธอเลย

ส้มเปรี้ยวยังเดินไม่ถึงสองก้าว ก็ถูกคุณย่าห้ามเอาไว้

ท่านย่าไม่ปกปิดความสะใจในดวงตาสักนิด “คุณส้มเปรี้ยว ดึกแล้ว หลานชายฉันต้องพักผ่อน เธอก็ควรกลับไปได้แล้ว”

“แต่คุณป้าให้คืนนี้ฉัน……”

“ที่บ้านฉัน หล่อนไม่ได้เป็นคนตัดสินใจ” ท่านย่าชำเลืองมองพิศมัยอย่างเย็นชา

พิศมัยกลัวแม่สามีคนนี้มาตลอด เมื่อได้รับสายตาจากท่านย่า ก็รีบก้มศีรษะลงทันที

“ใครก็ได้มานี่หน่อย ไปส่งคุณส้มเปรี้ยว!” ท่านย่าเอ่ยปากตะโกนเรียกคนรับใช้

คนรับใช้รีบมา ทำท่าเชิญให้คุณส้มเปรี้ยว “คุณส้มเปรี้ยว เชิญค่ะ”

ส้มเปรี้ยวกัดปาก มองท่านย่าด้วยความไม่พอใจ สุดท้ายก็ก้าวเท้าออกไป

ชั้นบน ปีโป้เข็นเปปเปอร์เข้าห้องไป “พี่ พี่พักผ่อนให้เต็มที่ ผมออกไปก่อนนะ”

“เดี๋ยวก่อน” เปปเปอร์เรียกเขาไว้

ปีโป้หันร่างกลับมา “พี่ มีเรื่องอะไรอีกเหรอ?”

“ทำไมจู่ๆ นายก็เกลียดส้มเปรี้ยว? ฉันจำได้ว่า เมื่อก่อนนายก็ชอบส้มเปรี้ยวเหมือนแม่ไม่ใช่เหรอ?” เปปเปอร์เงยหน้าจ้องมองเขา

ปีโป้เกาศีรษะ “ใช่ เมื่อก่อนได้ยินแม่พูดตลอดเลยว่า ส้มเปรี้ยวนิสัยดีมาก รวมถึงพี่ก็ชอบเธอด้วย ผมก็คิดว่าผู้หญิงที่คนโดดเด่นอย่างพี่ชอบก็ต้องดีจริง ผมก็เลยรู้สึกดีกับส้มเปรี้ยว แต่หลังจากนั้นผมเห็นนิสัยที่แท้จริงของเธอชัดๆ แล้ว ผมก็เลยเกลียดเธออ่ะ”

เปปเปอร์เงียบไป

ใช่แล้ว เมื่อใครสักคนค้นพบว่าใครคนหนึ่งที่ตอนแรกนึกว่าเป็นคนดีมาก แต่ที่จริงแล้วสันดานเดิมนั้นโหดร้ายและเลวร้าย ก็เลือกที่จะตีตัวออกหาก

แต่เขาไม่ได้ละทิ้งความคิดนี้อย่างแท้จริง

เห็นพี่ใหญ่ไม่พูดอะไร ปีโป้ก็กะพริบตา “พี่ พี่ถามเรื่องนี้ทำไม?”

“ไม่มีอะไร” เปปเปอร์ตอบเสียงเรียบ

ปีโป้กลอกตา ถามด้วยใบหน้านินทา “จริงสิพี่ พี่กับส้มเปรี้ยวเกิดอะไรขึ้น? ทะเลาะกันเหรอ?”

“เปล่า”

“ผมไม่เชื่อ” ปีโป้มองเขาด้วยสีหน้า ‘พี่เสแสร้งล่ะสิ’ “สถานการณ์ของพวกคุณ ถ้าไม่ใช่ทะเลาะเกิดความขัดแย้งกัน จะมีท่าทางเหมือนอยากเลิกกันได้ยังไง”

เปปเปอร์เม้มริมฝีปากบางเล็กน้อย “บางที ฉันควรเลิกกับเธอจริงๆ”

เขาอยากเป็นคนปกติ ไม่ใช่หุ่นเชิดที่ถูกส้มเปรี้ยวจูงความคิดและความรู้สึก

สำหรับสัญญาที่เขาเคยให้เธอก่อนหน้านี้ เขากำลังสงสัยว่า นั่นคือสัญญาที่เขาเต็มใจยินยอมจริงๆ ไหม?

ในใจเขารู้สึกอย่างคลุมเครือ ว่ามันไม่ใช่!

“พี่ เมื่อกี้พี่ว่าไงนะ? พี่……พี่อยากกับส้มเปรี้ยว……”

“ออกไป ฉันอยากพักผ่อน” เปปเปอร์ไม่รอปีโป้พูด ก็เอ่ยปากไล่

ปีโป้เดินออกจากห้องเขาด้วยความเหม่อลอย นานสักพักกว่าจะได้สติกลับมา แล้วกลืนน้ำลาย

พระเจ้า พี่ใหญ่อยากเลิกกับส้มเปรี้ยวแล้ว!

ข่าวดีแบบนี้ เขาต้องบอกพี่มายมิ้นท์

ปีโป้หยิบโทรศัพท์ออกมา โทรเบอร์มายมิ้นท์อย่างตื่นเต้น

มายมิ้นท์กำลังอาบน้ำอยู่ ได้ยินโทรศัพท์ดัง ก็หยิบมาดู ไม่อยากรับมันทันที และวางสายไปโดยตรง

ปีโป้บุ้ยปากอย่างน้อยใจ “อะไรกันน่ะ ทำไมวางสายฉัน! คุณยิ่งวางฉันก็ยิ่งอยากโทร ดูสิว่าคุณจะรับไม่รับ”

ทำเสียงฮึดฮัด ก่อนที่เขาจะโทรไปอีก

มายมิ้นท์รับสายอย่างไม่สบอารมณ์ “มีอะไรก็ว่ามา!”

“พี่มายมิ้นท์ พี่หยาบคายแบบนี้ไม่ดีเลยนะ” ปีโป้พิงกำแพงบนทางเดินสั่นขาอย่างเอื่อยเฉื่อยอยู่ ในใจก็ภูมิใจสุดขีด

เฮอะ ไม่รับโทรศัพท์เขาไม่ใช่หรือไง?

ตอนนี้ก็ยังต้องรับมัน

“ไม่ใช่เรื่องของนาย เจ้าเด็กเมื่อวานซืนยังกล้าสอนฉันอีกนะ” มายมิ้นท์เบ้ปากอย่างไม่สบอารมณ์ “รีบๆ เลย มีอะไรก็พูดมา ไม่มีฉันจะวางแล้ว อาบน้ำอยู่”

ได้ยินคำว่าอาบน้ำ ใบหน้าหล่ออ่อนเยาว์ก็แดงทันที เสียงก็พูดติดๆ ขัดๆ “ฉัน……ฉันแค่อยากบอกข่าวดีคุณ พี่ใหญ่ฉันจะเลิกกับส้มเปรี้ยวแล้ว”

“ว่าไงนะ?” มายมิ้นท์อึ้งก่อนอันดับแรก จากนั้นก็นั่งตัวตรงขึ้นมาจากอ่างอาบน้ำด้วยความประหลาดใจ “เลิก?”

“ใช่แล้ว นี่พี่ใหญ่ฉันพูดเองเลยนะ พี่มายมิ้นท์ ดีใจไหม?”

มายมิ้นท์ขมวดคิ้ว “ดีใจกับผีนายน่ะสิ มันเกี่ยวอะไรกับฉัน นายคิดว่าพวกเขาเลิกกันแล้ว ฉันยังจะแต่งงานใหม่กับพี่ใหญ่นายหรือไง?”

เธอกลอกตา ในใจก็อดเดาไม่ได้ว่าที่เปปเปอร์อยากเลิกกับส้มเปรี้ยว คงไม่ใช่เพราะสิ่งที่เธอพูดในโรงพยาบาลวันนี้หรอกนะ

“ทำไมแต่งงานใหม่กับพี่ใหญ่ไม่ได้ล่ะ ฉันคิดว่าคุณกับพี่ใหญ่เหมาะสมกันมาก” ปีโป้กระซิบ

ดวงตามายมิ้นท์มีความเยาะเย้ยเคลื่อนผ่านไป น้ำเสียงก็เย็นชาขึ้นมาก “ปีโป้ นายพูดคำนี้ละอายใจบ้างไหม? อย่าลืมนะ เมื่อก่อนนายคิดว่าฉันไม่คู่ควรกับพี่ใหญ่ของนาย คิดด้วยซ้ำว่ามันเป็นเพราะฉัน พี่ใหญ่ของนายก็เลยแต่งงานกับส้มเปรี้ยวไม่ได้ ตอนนี้นายมาพูดแบบนี้ มันน่าเยาะเย้ยจริงๆ”

พูดจบ เธอก็วางสายโทรศัพท์ทันที ทิ้งโทรศัพท์ไว้ด้านข้าง แล้วอาบน้ำต่อ

และปีโป้ที่อยู่ปลายสาย ก็ก้มศีรษะสำนึกผิดเพราะคำพูดนี้ของมายมิ้นท์

“ลูกมายืนตรงนี้ทำไม?” พิศมัยถือยาขึ้นมา เห็นลูกชายคนเล็กกำลังยืนเป็นทุกข์อยู่บนทางเดิน ทำหน้าไม่พอใจอย่างอดไม่ได้

“ไม่มีอะไรครับ……” ปีโป้ตอบกลับอย่างหมดอาลัยตายอยาก เปิดประตูเข้าห้องตัวเองไป

“เจ้าเด็กคนนี้ มีปัญหาอะไรน่ะ?” พิศมัยส่ายหน้า ไม่คิดอะไรมาก ไปเคาะประตูห้องเปปเปอร์ “เปปเปอร์ ลูกอยู่ข้างในไหม?