“เข้ามาสิครับ” เปปเปอร์นั่งพิงหัวเตียง ในมือกำลังถือหนังสือเล่มหนึ่งอ่านอยู่
พิศมัยผลักประตูเข้าไป “เปปเปอร์ นี่อย่าที่ทำมาให้ลูก อย่าลืมกินนะ”
“ขอบคุณครับแม่” เปปเปอร์พยักหน้าเล็กน้อย
“งั้นลูกพักผ่อนเร็วหน่อยนะ แม่ออกไปก่อน” พิศมัยชี้ไปที่ประตูทางเข้า
เปปเปอร์ตอบอืม “ค่อยๆ เดินนะครับ”
หลังจากพิศมัยไปแล้ว เขาก็ปิดหนังสือในมือ หยิบยาและแก้วน้ำที่หัวเตียง กลืนยาเหล่านั้นที่มีสีสันฉูดฉาดแค่มองก็ขมแล้วลงไปด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
ทานยาเสร็จแล้ว เขาก็อ่านหนังสืออีกสักพัก ไม่นานก็ค่อยๆ รู้สึกวิงเวียน
เขารู้ ยาเมื่อครู่นี้นั้น มีผลทำให้ง่วงซึม
ตอนอยู่โรงพยาบาล ทุกครั้งที่เขาทานยาเสร็จ ก็เริ่มเวียนศีรษะอยากนอนเช่นกัน
เปปเปอร์วางหนังสือไว้ข้างๆ นอนลงไป ไม่นานก็ผล็อยหลับ
ในคืนนี้ เขาฝันร้ายอันยาวนาน
ในฝัน หลังจากส้มเปรี้ยวฟื้น เขาก็พาเธอกลับมา จากนั้นก็ให้มายมิ้นท์ย้ายออกไปเหมือนความเป็นจริง แต่ที่ต่างจากความเป็นจริงคือ มายมิ้นท์ไม่ยอมย้าย เขาจึงให้คนโยนของมายมิ้นท์ออกไปจากคฤหาสน์ตระกูลนวบดินทร์
และภายในฝัน มายมิ้นท์ไม่ได้หย่ากับเขา ในทางกลับกันเขาเป็นคนขอหย่า แต่มายมิ้นท์ไม่ยอมหย่า เขาจึงเหยียดหยามมายมิ้นท์ต่างๆ นานา บีบบังคับให้เธอหย่า
นอกจากนี้ เขายังฝันว่าส้มเปรี้ยวทำร้ายมายมิ้นท์ต่างๆ นานาเหมือนความเป็นจริงด้วย ภายในฝัน เขากลับคิดว่ามายมิ้นท์กำลังรังแกส้มเปรี้ยว จากนั้นจึงทรมานกลั่นแกล้งมายมิ้นท์ทุกวิถีทาง ถึงขนาดส่งมายมิ้นท์เข้าคุกด้วย……
เปปเปอร์ตกใจตื่นจากฝันนี้ เมื่อตื่นขึ้นมาก็เหงื่อแตกไปทั้งร่าง
เขามองมือตัวเอง แล้วมองห้องตัวเองอีกครั้ง สุดท้ายก็โล่งใจ
ยังดี นี่มันก็แค่ฝัน ไม่ใช่เรื่องจริง
แต่ในใจเขากลับมีเสียงกำลังบอกเขาว่า ถ้าตอนแรกมายมิ้นท์ไม่ออกตัวขอหย่า บางทีมายมิ้นท์อาจจะถูกเขาปฏิบัติแบบในฝันจริงๆ ก็ได้!
ทันใดนั้น โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เปปเปอร์ระงับความคิดไว้ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย เสียงค่อนข้างแหบ “มีเรื่องอะไร?”
“ประธานเปปเปอร์ วันนี้คุณมาบริษัทไหมครับ?” ผู้ช่วยเหมันตร์ซักถามในโทรศัพท์
เปปเปอร์ตอบอืม “มา”
“คืองี้นะครับ เมื่อกี้ประธานเยี่ยมบุญโทรมานัด อยากเจอคุณ ผมได้ยินน้ำเสียงเขาไม่ค่อยดีนัก แถมยังพูดถึงคุณส้มเปรี้ยวด้วย ผมเดาว่าเป็นเพราะท่าทีของคุณที่มีต่อคุณส้มเปรี้ยวสองวันนี้ ทำให้ประธานเยี่ยมบุญไม่ค่อยพอใจ จึงอยากมาคุยกับคุณด้วยตัวเองครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์พูด
เปปเปอร์ขมวดคิ้ว “ฉันรู้แล้ว ให้เขามาตอนนี้เลย”
“ครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้า
“แล้วก็ นัดจิตแพทย์ให้ฉันคนหนึ่งด้วย” เปปเปอร์ผลุบตาลงแล้วพูดขึ้น
เขาอยากปรึกษาสักหน่อยว่าร่างกายตัวเองเกิดปัญหาอะไรกันแน่ ทำไมเมื่อเห็นส้มเปรี้ยว แล้วได้รับอิทธิพลจากส้มเปรี้ยว
“จิตแพทย์?” ผู้ช่วยเหมันตร์ค่อนข้างสงสัย “ประธานเปปเปอร์ คุณหาเองหรือใครจะหาครับ?”
“ฉันหาเอง” เปปเปอร์เผยอริมฝีปากบางตอบกลับเบาๆ “ช่วงนี้รู้สึกกดดันมาก”
“อย่างนี้นี่เอง” ผู้ช่วยเหมันตร์เชิดคางขึ้น และไม่สงสัยอะไร “งั้นผมจะไปนัดคุณหมอสตีฟให้”
“ไม่ เปลี่ยนคนซะ ไม่เอาสตีฟกับการันต์” เปปเปอร์เพ่งดวงตาพูดขึ้น
สองคนนี้ คนหนึ่งคือหมอของส้มเปรี้ยว อีกคนหนึ่งก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับส้มเปรี้ยว
ถ้าให้พวกเขารู้ว่าเขาปรึกษาอะไร ไม่นานก็คงถึงหูส้มเปรี้ยว
“ได้ครับ งั้นผมจะไปหาคนอื่น” ถึงแม้ไม่รู้ว่าทำไมเปปเปอร์ต้องทำแบบนี้ แต่ในฐานะลูกน้อง ผู้ช่วยเหมันตร์ก็ไม่ถามมาก ทำตามคำสั่งทันที
วางสายไปแล้ว เปปเปอร์ยกผ้าห่มขึ้น ค่อยๆ ยันขอบเตียงลงจากเตียง นั่งรถเข็นแล้วไปล้างหน้าแปรงฟันที่ห้องน้ำ
ในเวลาเดียวกัน ณ คอนโดพราวฟ้า
มายมิ้นท์เก็บของเรียบร้อยหยิบกระเป๋าขึ้นมาออกจากบ้าน มาเจอกับทามทอยที่ชั้นล่าง
“ขึ้นรถสิ องค์หญิงของฉัน” ทามทอยยืนหน้ารถ เปิดประตูรถที่เบาะหลัง ทำตัวสุภาพบุรุษมีมารยาทที่สง่างาม
มายมิ้นท์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก “พอได้แล้ว ขนลุกไปทั้งตัว องค์หญิงอะไรล่ะ”
ทามทอยหัวเราะฮ่าๆ “เอาล่ะ หยุดแล้ว ขึ้นรถเถอะ”
มายมิ้นท์พยักหน้า โน้มตัวขึ้นรถไป
ทามทอยก็รีบกลับไปยังที่นั่งคนขับ ขับรถมุ่งหน้าไปยังที่พักอาศัยปัจจุบันของชวนชมตัวปลอม
ระหว่างทาง เขาพูดเรื่องการฝึกฝนชวนชมตัวปลอมมากมายให้มายมิ้นท์ฟัง ให้มายมิ้นท์เข้าใจชวนชมตัวปลอมมากขึ้น
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา ก็มาถึงที่พักอาศัยชวนชมตัวปลอมแล้ว คือห้องชุดที่ค่อนข้างเป็นความลับภายใต้ชื่อทามทอย
ทามทอยเคาะประตู ประตูก็เปิดออกอย่างรวดเร็ว
มายมิ้นท์เห็นคนที่เปิดประตูคือผู้หญิงที่มีอายุเท่าๆ กับตัวเอง
ผู้หญิงหน้าตาไม่ได้สวยเป็นพิเศษ นอกจากนี้ผิวยังหยาบเหลือง ตัวก็ผอมมาก แค่เห็นก็รู้แล้วว่าเกิดจากการขาดสารอาหารในระยะยาว ผอมจนรองรับไม่ได้แม้แต่เสื้อผ้าบนตัว
แม้แต่นิสัยเฉพาะตัวก็ยอมคน ไม่กล้ามองคนอื่นตรงๆ
มายมิ้นท์เข้าใจ นี่คงเป็นคนคนนั้นที่พวกเขาหามาปลอมตัวเป็นชวนชม
อย่างที่คิดไว้ ทามทอยชี้ไปที่ชวนชมตัวปลอมแล้วพูดกับมายมิ้นท์ว่า “เธอคือชวนชมตัวปลอมที่ฉันหามา”
ชวนชมตัวปลอมหยิบแก้วชาสองแก้วขึ้นมา ส่งให้มายมิ้นท์ก่อนหนึ่งแก้ว “คุณ……คุณมายมิ้นท์สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเจินเจิน ฉัน……”
มายมิ้นท์ขมวดคิ้วสวย ขัดจังหวะการแนะนำตัวของหญิงสาวที่อ้ำๆ อึ้งๆ “เธอไม่ใช่เจินเจิน ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เธอคือชวนชม จำเอาไว้ ต่อไปใครถามเธอ เธอต้องตอบว่าเธอคือชวนชม เข้าใจไหม?”
“มายมิ้นท์พูดถูก ที่เธอปลอมตัวเป็นชวนชมมันเรื่องใหญ่มาก ถ้าเธอโป๊ะแตก จุดจบที่รอเธออยู่มันไม่ดีแน่ๆ ดังนั้นเธอห้ามโป๊ะแตกเด็ดขาด” ทามทอยจ้องมองเจินเจิน และก็คือชวนชมตัวปลอม พูดด้วยน้ำเสียงเข้มงวด
ชวนชมตัวปลอมรีบร้อนพยักหน้า “ฉัน……ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะไม่โป๊ะแตก”
เพื่อเงินหนึ่งล้าน เธอต้องแกล้งเป็นชวนชมให้แนบเนียนที่สุด!
เห็นชวนชมตัวปลอมจดจำไว้แล้ว คิ้วมายมิ้นท์ที่ขมวดก็คลายลง
หลังจากนั้น เธอก็หยิบกล่องหนึ่งออกมาจากกระเป๋า เปิดมัน ด้านในคือสร้อยคอเส้นหนึ่ง มันคือสร้อยคอของลูกสาว
มายมิ้นท์ยืนขึ้น เดินไปตรงหน้าชวนชม สวมสร้อยคอให้เธอด้วยตัวเอง “สร้อยคอเส้นนี้ คือกุญแจในการกลับไปตระกูลภักดีพิศุทธิ์ของเธอ และเป็นสิ่งยืนยันพิสูจน์ว่าเธอคือชวนชม เธอทำมันหายไม่ได้เด็ดขาด และเธอต้องจำเอาไว้ สร้อยคอเส้นนี้คือสร้อยที่เธอสวมตั้งแต่เล็กจนโต จนกระทั่งก่อนหน้านี้ ก่อนที่ชายชราผู้ที่รับเลี้ยงเธอเสียชีวิต ได้บอกเธอว่า เธออาจจะเป็นลูกสาวตระกูลร่ำรวย เธอเลยเอาสร้อยคอไปปรึกษาร้านเพชรพลอย”
“อืมๆ ฉันจะจำมันไว้ค่ะ” ชวนชมจับสร้อยคอขณะตอบกลับ
มายมิ้นท์ตบบ่าเธอ แล้วกลับไปนั่งที่ตำแหน่งเมื่อครู่นี้
ในเวลานี้ ประตูทางเข้าก็มีเสียงเคาะ
ทั้งสามหันไปพร้อมกัน เห็นชายคนหนึ่งยืนอยู่นอกประตูที่กำลังเปิด
“ประธานทามทอย” คนที่มาคือผู้ช่วยประธานทามทอย
ทามทอยให้เขาเข้ามา “มีเรื่องอะไร?”
“เส้นผมส้มเปรี้ยวที่คุณให้ผมเอาไปเมื่อวาน มีปัญหานิดหน่อยครับ” ผู้ช่วยตอบ
มายมิ้นท์กำลังดื่มชาอยู่ “ปัญหาอะไรอ่ะ?”
หรือว่าไม่มีรากผม ก็เลยใช้การไม่ได้?
ไม่จริงหน่า เธอดึงออกมาจากศีรษะส้มเปรี้ยวแรงๆ เส้นผมที่ดึงแรงๆ ปกติต้องมีรากผม ถ้าร่วงเองจะไม่มี
“ผมเอาเส้นผมแยกส่งไปที่โรงพยาบาลใหญ่ต่างๆ ในเมืองเดอะซี สิ่งที่ไม่คาดคิดคือ โรงพยาบาลแรกมีข้อมูลการตรวจร่างกายของส้มเปรี้ยวและคนในตระกูลภักดีพิศุทธิ์”
“แล้วมันมีอะไร แค่เคยไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล โรงพยาบาลก็จะมีข้อมูลสำรองการตรวจร่างกายอยู่แล้ว” ทามทอยไม่เห็นด้วย
ผู้ช่วยส่ายหน้า “ปัญหาอยู่ตรงนี้ครับ ผมดูข้อมูลการตรวจร่างกายของคนในตระกูลภักดีพิศุทธิ์ พบว่าเลือดของส้มเปรี้ยวไม่ตรงกับสามีภรรยาตระกูลภักดีพิศุทธิ์”
“หมายความว่าไง?” มายมิ้นท์ทำหน้าตึงเครียด “นายคงไม่ได้บอกว่า ส้มเปรี้ยวไม่ใช่ลูกสาวตระกูลภักดีพิศุทธิ์หรอกใช่ไหม?”
ทามทอยก็รีบมองผู้ช่วย “มายมิ้นท์พูดถูกไหม?”
“ถูกครับ ส้มเปรี้ยวไม่ใช่ลูกสาวของสามีภรรยาตระกูลภักดีพิศุทธิ์จริงๆ ตอนแรกผมนึกว่าเลือดในข้อมูลการตรวจร่างกายส้มเปรี้ยวเกิดข้อผิดพลาด เลยให้หมอไปทดสอบผมส้มเปรี้ยว พบว่าไม่ผิดพลาด เธอไม่ใช่ลูกสาวตระกูลภักดีพิศุทธิ์จริงๆ เส้นผมส้มเปรี้ยวจึงใช้การไม่ได้ครับ