ราชันเร้นลับ 409 : ธันวาคม โดย Ink Stone_Fantasy
อะไรนะ? ให้เราสืบข่าวตัวเองอีกแล้ว?
ไคลน์เริ่มสงสัยว่านี่อาจเป็นบททดสอบจากพระเจ้า
จริงอยู่ องค์กรลับผู้ใช้ไพ่ทาโรต์ค่อนข้างน่าสนใจ เราก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่เราไม่มีทางขายตัวเองแน่นอน… ไม่ผิดแน่ ตัวตนแท้จริงของคาพินย่อมไม่ธรรมดา มันมีผู้วิเศษคอยอารักขามากถึงสี่คน บางที อาจมีองค์กรลับทรงพลังคอยหนุนหลัง แบบนี้ไม่ต่างอะไรกับการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับแวดวงชนชั้นสูง…
แต่นักสืบเชอร์ล็อกต้องทำเป็นไม่รู้เรื่องนี้…
ไคลน์ก้มหน้าตรึกตรองและชั่งน้ำหนักข้อเสนออย่างถี่ถ้วน
“การสืบหาเบาะแสขององค์กรลับไม่ใช่เรื่องง่าย แถมยังอันตรายมากด้วย”
คล้ายกับทาลิมคาดหวังคำตอบไว้แล้ว
“เชอร์ล็อก คุณไม่จำเป็นต้องเสี่ยงอันตรายเลยสักนิด บุคคลสำคัญเพียงต้องการให้คุณช่วยรวบรวมข่าวลือเกี่ยวกับองค์กรดังกล่าวเท่านั้น นี่คือเงินห้าปอนด์เป็นค่าเสียเวลา ต่อให้คุณไม่ได้รับเบาะแสใดเพิ่มเติม เงินก้อนนี้ก็จะยังเป็นของคุณอยู่ดี แต่ถ้าพบเบาะแสสำคัญ ทางนั้นยินยอมเพิ่มเงินก้อนโต รวมถึงอนุญาตให้คุณเบิกค่าเสียหายระหว่างภารกิจ”
เงื่อนไขยอดเยี่ยมขนาดนี้เชียว? บุคคลสำคัญเป็นฝ่ายเดียวกับคาพิน หรือเป็นฝ่ายตรงข้าม และต้องการตามหาองค์กรลับสัญลักษณ์ไพ่ทาโรต์เพื่อคอยสนับสนุนกันแน่?
หืม… อนุญาตให้เบิกค่าเสียหาย… ไม่ได้ยินคำนี้มานานแค่ไหนแล้ว…
ในเมื่ออีกฝ่ายมีน้ำใจยื่นข้อเสนอหอมหวานถึงเพียงนี้ หากนักสืบเอกชนแสนธรรมดาอย่างเราตอบปฏิเสธ นั่นจะยิ่งเพิ่มความน่าสงสัย… และเหนือสิ่งอื่นใด เราคือผู้กำหนดทิศทางการสืบสวน โดยเฉพาะการสืบหาเบาะแสของตัวเอง…
ไคลน์แสร้งลังเลสักพัก ก่อนจะกล่าว
“เข้าใจแล้ว ผมจะพยายามก็แล้วกัน”
ชายหนุ่มไม่มากพิธี ใช้มือคว้าธนบัตรห้าปอนด์ของทาลิมมาเก็บ โดยภายในใจมีแผนจะมอบเบาะแสอย่างกว้างให้อีกฝ่ายทุกหนึ่งสัปดาห์หรือสอง
ในเมื่อชุมนุมแสงเหนือกำลังพลิกแผ่นดินตามล่าเดอะฟูล และเดอะฟูลคือชื่อไพ่ทาโรต์ในสำรับหลัก หมายความว่าเราสามารถฉวยโอกาสทองครั้งนี้ ชักนำให้ ‘บุคคลสำคัญ’ ช่วยจัดการมิสเตอร์ A ทางอ้อมได้!
ชายหนุ่มผุดความคิดสุดบรรเจิด
…
ใต้มหาวิหารนักบุญแซมมัว
นักปลอบวิญญาณ โซสต์ เรียกลูกทีมทุกคนมารวมตัวเพื่อประชุมหารือเกี่ยวกับแผนการหลังจากนี้
มันหันไปจ้องบุรุษผมดำยุ่งเหยิง ดวงตาเขียวมรกต เลียวนาร์ด·มิเชล และซักถามเชิงลองภูมิ
“ถ้าผมมอบภารกิจนี้ให้ คุณมีแผนสืบสวนคดีเกี่ยวกับไพ่ทาโรต์ทั้งสองอย่างไรบ้าง”
เลียวนาร์ดเลื่อนมือขึ้นมาสางเส้นผม อมยิ้ม และมอบคำตอบ
“ประการแรก ผมจะทำตามแผนเดิมในหัว ย้อนสืบหาว่าใครกำลังตามล่าตัวสาวกของเดอะฟูลอยู่ ทางนั้นต้องมีข้อมูลของอีกฝ่ายแน่นอน ประการสอง รื้อสองคดีไพ่ทาโรต์ขึ้นมาสืบสวนใหม่ทั้งหมด ตรวจสอบว่ามีผู้เกี่ยวข้องคนใดบ้าง ไม่ว่าจะน่าสงสัยหรือไม่ก็ตาม จากนั้นก็ใช้พลังฝันร้ายเข้าไปเค้นความจริงทีละคน ผมเชื่อว่า ตัวการสำคัญต้องซ่อนอยู่ในกลุ่มคนน่าสงสัยน้อยกว่าใครเพื่อนแน่!”
โซสต์หัวเราะ
“ผมได้อ่านเอกสารแล้ว คดีทั้งสองมีผู้เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก อาศัยคนละเขตโดยสิ้นเชิง การสืบสวนใหม่หมดจึงเป็นไปได้ยาก และไม่เพียงเท่านั้น หลายคนยังเป็นผู้วิเศษนอกกฎหมาย เก่งกาจด้านซ่อนตัว พวกเราไม่มีทางทราบแหล่งกบดานครบทุกคน ถ้าคุณต้องการรื้อคดีออกมาทำใหม่จริง คงต้องร้องขอให้โบสถ์ส่งฝันร้ายมาเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่าห้านาย หรือไม่ก็เหยี่ยวราตรีลำดับสูงกว่านั้น และแน่นอน ยังต้องมีหน่วยสนับสนุนระดับล่างอีกหลายสิบนาย”
“อย่าลืมสิ ขอบเขตงานของหน่วยเรามีเพียงการเฝ้าระวังพิธีกรรมอัญเชิญปีศาจ” ถุงมือแดงคนหนึ่งกล่าวเตือนสติเลียวนาร์ด
ชายหนุ่มมิได้แสดงสีหน้าโกรธเคือง เพียงเผยรอยยิ้มมุมปาก
“ผมทราบ แต่ในเมื่อถูกถาม ผมก็ต้องตอบในมุมมองตัวเอง ส่วนใครจะนำไปใช้หรือไม่ ก็สุดแล้วแต่ท่านหัวหน้าโซสต์”
ชายหนุ่มเว้นวรรคพลางขมวดคิ้วฉงน
“แต่ผมไม่เข้าใจ ทำไมคดีไพ่ทาโรต์ทั้งสองถึงได้รับความสนใจจากโบสถ์น้อยมาก โดยเฉพาะคดีแรกซึ่งเกี่ยวข้องกับการจุติของทายาทเทพมารโดยตรง น่าจะเป็นอันตรายยิ่งกว่าพิธีกรรมอัญเชิญปีศาจตามปรกติอีกไม่ใช่หรือครับ”
โซสต์ยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบ และมอบคำตอบอย่างเป็นกันเอง
“เหยี่ยวราตรีมีกำลังคนจำกัด จึงต้องแบ่งความสำคัญของเนื้องานตามระดับภัยคุกคาม แต่จนกระทั่งตอนนี้ องค์กรลับไพ่ทาโรต์ยังมิได้แสดงความเป็นภัยออกมา กลับกัน พฤติกรรมของพวกเขาออกจะ… ค่อนข้างเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายเรา ไม่ว่าจะเป็นการทำลายแผนจุติของพระผู้สร้างแท้จริง หรือการเปิดโปงว่าคาพินไม่ใช่นักค้ามนุษย์ธรรมดา แต่อาจมีเรื่องราวเบื้องลึกซ่อนอยู่อีกมาก”
เมื่อกล่าวจบ โซสต์ยิ้มมุมปาก
“บางที พวกเขาอาจช่วยเราเปิดโปงเรื่องราวแสนโสมมได้มากกว่านี้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะไม่ตามสืบ ในฐานะองค์กรลับนอกรีต ไม่มีสิ่งใดรับประกันว่าพวกเขาจะไม่กลายมาเป็นศัตรูในอนาคต”
“เข้าใจแล้วครับ ท่านหัวหน้าโซสต์ พวกเรากลับมาทำคดีอัญเชิญปีศาจต่อเถอะ”
เลียวนาร์ดกล่าวจากใจจริง
…
สำหรับกรุงเบ็คลันด์ มีสองสิ่งมิอาจถูกพรากไปจากฤดูหนาวได้ หนึ่งคือเตาผิง และสองคือหมอกหนาสีเทาเย็นเฉียบ
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก เหลืออีกเพียงครึ่งเดือนก็จะถึงเทศกาลปีใหม่
ไคลน์ดับไฟเตาผิง หยิบโค้ทดำกระดุมสองแถวตัวใหญ่ออกมาสวมทับเสื้อกั๊กขนสัตว์สีแดงเข้ม
ราวสามสัปดาห์ก่อน เลพเพิร์ดสำเร็จการจดสิทธิบัตรจักรยานและเริ่มค้นหาผู้ร่วมลงทุนระลอกสอง จนกระทั่งไปเตะตาเจ้าพ่อแห่งวงการไอน้ำ ฟามี่·เคจ เข้า
หลังจากนัดพบปะเพื่อพูดคุยอยู่หลายหน ทั้งสามจึงตกลงร่างสัญญาฉบับสุดท้ายในวันนี้
ตลอดเดือนผ่านมา ไคลน์ใช้ชีวิตราบเรียบและไม่หวือหวา มันสืบหาข้อมูลเรื่อยเปื่อยพลางใช้เทคนิคสวมบทบาทอย่างสม่ำเสมอ ปัจจุบันจึงขาดเพียง ‘การแสดงกล’ รอบใหญ่อีกสักหนก็จะทำให้โอสถย่อยสมบูรณ์ทันที
แต่ถ้าเราไม่รีบ ก็ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชิงลงมือกับใครก่อน เน้นปลอดภัยเป็นหลัก…
ขณะปล่อยความคิดล่องลอย ไคลน์หยิบหมวกทรงกึ่งสูงออกจากราวแขวนผ้า และใช้แปรงกับผ้าเช็ดหน้าปัดฝุ่นทำความสะอาด
ถึงแม้เข็มกลัดของลาเนวุสจะระบุว่าวันนัดหมายการชุมนุมรอบถัดไปคือ 4 มกราคม แต่ชายหนุ่มก็ไม่คิดไปเสี่ยงเยือนโดยเด็ดขาด
ตลอดเดือนผ่านมา ชุมนุมทาโรต์ถูกจัดขึ้นตามปรกติ ไคลน์ได้อ่านไดอารีจักรพรรดิโรซายล์เพิ่มหลายหน้า และได้เป็นสักขีพยานการเติบโตของโรซายล์ จากไก่อ่อนผู้เอาแต่เพ้อฝันถึงสาวงาม จนกระทั่งเป็นเสือผู้หญิงนักล่า
แต่นอกจากนี้ก็แทบไม่มีอะไรคืบหน้า ถึงแม้จะให้เดอะเวิร์ลนำตะกอนพลังมนุษย์หมาป่าไปฝากแฮงแมนขาย แต่ธุรกิจระดับหนึ่งพันปอนด์ก็มิได้บรรลุกันง่ายนัก ยิ่งเป็นตะกอนพลังบนเส้นทางต้องคำสาปด้วยแล้ว ใครได้ยินเป็นต้องหวาดกลัวจนหัวหด
แต่ในการชุมนุมหนล่าสุดเมื่อไม่กี่วันก่อน แฮงแมนบอกกับเดอะเวิร์ลว่า มีช่างฝีมือจากโบสถ์จักรกลไอน้ำสนใจจะซื้อตะกอนพลังดังกล่าวไปทำเป็นสมบัติวิเศษ
ได้แต่ภาวนาให้แฮงแมนปิดการขายได้ภายในสัปดาห์นี้… แต่ในทางกลับกัน เรายังไม่มีเบาะแสโอสถผู้รับใช้วายุไปให้แฮงแมน…
ไคลน์ใช้มือสำรวจสัมภาระ สวมหมวก จับไม้เท้า และย่างกรายออกจากบ้าน
ผู้รับใช้วายุคือโอสถลำดับ 6 การหาเบาะแสย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย ส่งผลให้แฮงแมน อัลเจอร์·วิลสัน รอคอยสิ่งนี้นานเกินกว่าหนึ่งเดือนแล้ว
จัสติส ออเดรย์ ผู้เผชิญบททดสอบและการเฝ้าสังเกตมาสักระยะ ได้รับการยินยอมให้เข้าร่วมสมาคมแปรจิตอย่างเป็นทางการ เธอแจ้งว่าจะมีการทดสอบสุดท้ายในสัปดาห์นี้
เด็กสาวระบุชัดว่า เพื่อให้การทดสอบเป็นไปอย่างราบรื่นไร้กังวล เธอต้องการถูกท่านเดอะฟูล ‘อวยพร’ ล่วงหน้า และหากเข้าร่วมสมาคมแปรจิตสำเร็จเมื่อไร ตนมีแผนจะนำไดอารีจักรพรรดิโรซายล์จำนวนมากมาให้อ่านโดยไม่คิดค่าตอบแทน
ในส่วนซากสิ่งมีชีวิตภายในคลังสมบัติดยุคนีแกน ออเดรย์ให้คนยืนยันแล้วว่านั่นคือซากของนักล่าพันหน้าจริง เพียงแต่มันเป็นของจัดแสดงและปราศจากออร่าพลังวิญญาณ
ส่วนสองพันปอนด์ซึ่งเด็กสาวยังติดค้างกับผู้รับใช้เดอะฟูล ออเดรย์ไม่สามารถจ่ายได้จนกว่าจะถึงช่วงกุมภาพันธ์หรือมีนาคมของปีถัดไป สืบเนื่องมาจาก ถึงเธอจะมีอายุครบสิบแปดปีในช่วงปีใหม่ และได้รับสืบทอดมรดกมหาศาลจากผู้เป็นพ่อ แต่ก็ไม่สามารถขายสมบัติเหล่านั้นกินได้ทันที เพราะทรัพย์สินยังคงอยู่ในความดูแลของพ่อแม่ไปอีกสักพัก
เหนือสิ่งอื่นใด เธอยังค้างหนี้ไวเคาต์กายลินอยู่มาก จึงต้องเร่งมือหาคืนให้ทางนั้นก่อน
ทางด้านเมจิกเชี่ยน ฟอร์ส ด้วยความช่วยเหลือจากแฮงแมน หญิงสาวได้รับเลือดของปลามาร์ลินทะเลลึก โดยต้องนำเงินจำนวนสามร้อยยี่สิบปอนด์ไปแลก ส่งผลให้เงินเก็บในปัจจุบันเหลือเพียงหนึ่งร้อยยี่สิบปอนด์เท่านั้น
เพื่อเป็นการเร่งหาเงินซื้อถุงกระเพาะอาหารของผู้กลืนวิญญาณ รวมถึงทำให้เงินออมกลับไปอยู่ในระดับน่าพึงพอใจ ฟอร์สเร่งมือเขียนนิยายเรื่องใหม่จนเกิดเป็นรูปเป็นร่างภายในระยะเวลาแสนสั้น เป็นเรื่องเกี่ยวกับการผจญภัย ความรัก การท่องเที่ยว ลมพายุ โจรสลัด และปัจจัยแฟนตาซีด้านอื่น หลอมรวมอยู่ในเรื่องเดียว
เธอและโดเรียน·เกรย์ยังคงเขียนจดหมายถึงกันเป็นระยะ โดยอีกฝ่ายแจ้งว่า จะเข้ามาในกรุงเบ็คลันด์เพื่อเคารพศพลาโบโร่ อาริสา และลอว์เรนซ์
เดอะซัน เดอร์ริค แสร้งทำตัวใสซื่อตามคำแนะนำของแฮงแมนมาตลอด ไม่ประกอบพิธีกรรมแม้แต่ครั้งเดียว ตรงกันข้าม แต่ละวันยังเข้าร่วมหน่วยลาดตระเวนและสร้างผลงานอย่างต่อเนื่อง
เมื่อถึงเวลาชุมนุมทาโรต์ เดอร์ริคจะแอบงีบอย่างแนบเนียนเสมอ และทำให้น่าสงสัยน้อยลงโดยการหาโอกาสงีบพร่ำเพรื่อทั้งวันจนผู้อื่นมองว่าเป็นนิสัยประจำตัว
จากคำบอกเล่าของเด็กหนุ่ม อาวุโสโลเฟียร์ถูกผู้นำสูงสุดสั่งกักตัวใต้หอคอยมาไม่ต่ำกว่าเจ็ดวัน
ทางด้านชุมนุมแสงเหนือและมิสเตอร์ A แผนการค้นหาตัวสาวกของเดอะฟูลย่อมไม่มีความคืบหน้า ไคลน์จงใจไม่เปิดเผยเบาะแสแม้แต่เรื่องเดียวตลอดหนึ่งเดือนผ่านมา
และถึงพวกมันจะคว้าน้ำเหลวอย่างไร แต่ผู้วิเศษในชุมนุมมิสเตอร์ A ก็ไม่ใช่คนโง่ ย่อมไม่มีทางเอ่ยนามเต็มของเดอะฟูลเป็นภาษาเฮอร์มิสส่งเดช นอกเสียจากจะไม่มีสมองเหลืออยู่แล้ว หรือไม่ก็ชีวิตกำลังจะถึงจุดจบ เพราะการสวดภาวนาถึงเทพมารโดยตรง ไม่ต่างอะไรกับการร้องขอให้ความตายย่างกรายเข้ามาเยือน
ระหว่างนั้น แวมไพ์เอ็มลิมระบุว่า มันมีเบาะแสของหนึ่งในวัตถุดิบตรงตามความต้องการของไคลน์จริง เพียงแต่ต้องยืนยันกับแวมไพร์ชนชั้นสูงให้แน่ใจอีกครั้ง
แต่ปัญหาคือ เรายังไม่มีเงินซื้อ…
ขณะถอนหายใจด้วยสีหน้าหดหู่ ชายหนุ่มเดินตรงยังบ้านของนักกฎหมายเยอร์เก้นพร้อมกับไม้ค้ำในมือซ้าย
เมื่อกดกริ่งเสร็จ ไคลน์รีบถอยหลังสองเก้าตามสัญชาตญาณและความเคยชิน
เพียงอึดใจเดียว ประตูบ้านเปิดออกพร้อมกับมาดามดอริส ผู้มีใบหน้ายิ้มแย้ม กำลังอ้าแขนเตรียมสวมกอดไคลน์อย่างอบอุ่น
“คุณนักสืบ คุณหมอเพื่อนคุณช่างยอดเยี่ยมมาก! ฉันไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองสุขภาพดีแบบนี้มาหลายปีแล้ว!”
เมื่อโดริสมองเห็นว่าอีกฝ่ายยืนถัดไปค่อนข้างไกล เธอจึงหดแขนกลับมากอดอกตัวเองด้วยสีหน้าซาบซึ้ง
ไคลน์กล่าวติดตลกเสียงเรียบ
“มาดามดอริสครับ คุณพูดแบบนี้กับผมมาแล้วเก้าครั้ง”
ขณะเดียวกัน ชายหนุ่มเหลือบเห็นแมวดำ โบรดี้ กำลังนั่งบนราวแหวนผ้าสูงในลักษณะหวาดเสียวเกรงว่าจะหล่น แต่จนแล้วจนรอด แมวก็ยังเป็นแมว
ไม่ได้เจ๋งเลยสักนิด เราก็ทำแบบนั้นได้เหมือนกัน… ไคลน์นำตัวเองไปเทียบกับแมว
“งั้นหรอกหรือ…” หญิงชราขมวดคิ้ว
ตามด้วยการโยนคำถามกลับพร้อมรอยยิ้ม
“มาหาเยอร์เก้นใช่ไหม”
ไคลน์ยิ้มตอบ
“ใช่ครับ”
การลงนามในสัญญาธุรกิจสำคัญ ย่อมขาดนักกฎหมายมือฉมังไม่ได้อยู่แล้ว
……………………