บทที่ 265 ต้นแบบของคนรุ่นใหม

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

“กล้องยาสูบหยกนี้คาดว่าจะทำจากหยกเหอเทียนบริสุทธิ์ อย่างน้อยก็ต้องใช้เงินสามล้านจึงจะได้มันมา!”

หวงเย่าโจวมาและไปอย่างรวดเร็ว แต่เขายังคงทิ้งความประทับใจลึกๆ ให้กับแขกที่มาร่วมงาน

แม้ว่าตระกูลเฉินจะเป็นหนึ่งในห้าตระกูลใหญ่แห่งเจียงหนัน แต่หวงเย่าโจวก็เป็นบุคคลแรกในอุตสาหกรรมสื่อเจียงหนัน เทียบกับตระกูลเฉินแล้วก็ไม่ได้ด้อยกว่ามากนัก

นอกจากนี้ ทุกคนก็ไม่เคยได้ยินว่าหวงเย่าโจวมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลเฉิน ทำไมหวงเย่าโจวถึงใจกว้างขนาดนี้?

“กล้องยาสูบนี้ คงจะไม่ใช่ที่ถูกประมูลในเทศกาลที่เซียงเจียงเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหรอกนะ?”

ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน เหลียงเหวินเห้าที่กำลังจ้องมองไปที่กล้องยาสูบหยกอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็พูดออกมาด้วยสีหน้าแปลกๆ

“งานประมูลในเทศกาลที่เซียงเจียง ผมไปดูมาแล้วคล้ายกันมาก”

“ผมจำได้ว่ากล้องยาสูบหยกถูกประมูลไปแปดล้านหยวนเต็มๆ”

“ในตอนนั้น ดูเหมือนว่าที่กล้องยาสูบหยกจะถูกซื้อไปโดยนักธุรกิจผู้มั่งคั่งในเจียงหวย เกรงว่ามันจะเป็นอันนี้จริงๆ ”

หลังจากคำชี้แจงของเหลียงเหวินเห้า คนดังมากมายที่เข้าร่วมและเข้าใจเกี่ยวกับการประมูลต่างก็เห็นด้วย

“แปดล้าน!”

ทุกคนต่างมองไปที่กล้องยาสูบหยกในมือของท่านปู่เฉิน และดวงตาของเขาก็เปลี่ยนไป

สำหรับหลายคนในงาน ราคาแปดล้านถือว่าไม่สูงนัก แต่ถ้าให้เป็นของขวัญในวันเกิดความหมายก็ต่างกันออกไป

ในความเป็นจริง แม้ว่าจะมีคนมาเป็นจำนวนไม่น้อย แต่จนป่านนี้ของขวัญวันเกิดที่แพงที่สุดที่เฉินชังไห่ได้รับเป็นเพียงชุดน้ำชาที่มีมูลค่าตลาดหนึ่งล้านเท่านั้น

เมื่อเทียบกับกล้องยาสูบหยกที่หวงเย่าโจวมอบให้ไม่ได้ต่างกันแบบธรรมดา

ภายใต้การสนทนาพูดคุยของฝูงชน ท่านปู่เฉินยิ้มจนหุบปากไม่ลง แต่ดวงตาของเขาเหลือบมองไปที่เย่เทียนอย่างไม่ตั้งใจ

คนแรกที่หวงเย่าโจวมองหาเมื่อตอนเข้ามาคือ เย่เทียน ใครก็ตามที่มีสายตาเฉียบแหลมจะเห็นได้ชัดว่าเขามานี่ก็เพราะเย่เทียน

ท่านปู่เฉินแอบดีใจที่การตัดสินใจให้เฉินหวั่นชิงแต่งงานกับเย่เทียนเป็นการถูกต้อง ดูแล้วผู้อยู่เบื้องหลังเย่เทียนคนนั้นไม่ได้ทอดทิ้งเขาจริงๆ!

การปรากฏตัวของหวงเย่าโจวเป็นเพียงแสงวูบวาบ แขกที่เหลือกลับเข้าสู่ปกติ ทำให้ทุกคนค่อนข้างโล่งใจ

ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือแววตาที่พวกเขามองไปที่เย่เทียนนั้นซับซ้อนไม่มากก็น้อย

“ชิ้นสองชิ้นไม่มีความหมายอะไร ผลประโยชน์ที่บริษัทเฉินมอบให้นั้นมีจำกัดนะ!”

เฉินจุนเหอผู้ถูกละเลยอดไม่ได้ที่จะพูดเยาะเย้ย

เย่เทียนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่เคยคิดที่จะแย่งชิงอะไรกับเฉินจุนเหอ แต่เฉินจุนเหอดันอยากคิดเล็กคิดน้อยกับเขา นี่มันเรื่องอะไรกันนะ? !

“นายท่านจี้และคุณหนูจี้ของตระกูลจี้มาถึงแล้ว!”

ในช่วงเวลานี้ ข้างนอกมีเสียงสูงของคนรับใช้ดังขึ้น

“ไม่มั้ง นายท่านจี้มาด้วยตัวเองเหรอ?”

“นายท่านจี้ไม่ได้ปรากฏตัวในสถานการณ์เช่นนี้มาหลายปีแล้วใช่ไหม? แต่ทำไมครั้งนี้มาได้?”

ในงานคนรวยและมีผู้มีอำนาจส่วนใหญ่ต่างก็รู้สึกนั่งไม่ติด

เมื่อเทียบกับหวงเย่าโจว ชื่อเสียงของจี้เจิ้งโก๋ นั้นโด่งดังกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย

ตระกูลจี้ ไม่ได้เป็นสองรองใครในเจียงหนัน แม้ว่าเมืองเจียงหวยทั้งจังหวัด อย่างน้อยพวกเขาก็ดำรงอยู่เป็นหนึ่งใน 20 อันดับแรก!

หลังจากนั้นไม่นาน ร่างสองร่างหนึ่งชราและหนึ่งสาว ค่อยๆปรากฏขึ้นที่ทางเข้าห้องโถงด้านข้าง

คนที่เดินนำคือจี้เจิ้งโก๋ที่มีใบหน้าเปล่งปลั่งดุจทารก ซึ่งเต็มไปด้วยพลังและรูปลักษณ์ที่อ่อนเยาว์ สำหรับคนที่อยู่ข้างหลังครึ่งก้าวก็คือจี้เยียนหรันอย่างไม่ต้องสงสัย

เป็นเรื่องยากที่จี้เยียนหรันจะยอมเปลี่ยนเครื่องแบบที่ไม่ได้เปลี่ยนตลอดทั้งปี แต่กลับแทนที่ด้วยชุดสีเหลืองอ่อน

แม้แต่ นิสัยของเธอที่ขี้หงุดหงิดอารมณ์ร้อน ก็ถูกแทนที่ด้วยความอ่อนหวานและมารยาทดี ค่อนข้างเหมือนเป็นพี่สาวเพื่อนบ้านที่ดี

“ยินดีต้อนรับเจ้าบ้านจี้ เสียมารยาทที่ต้อนรับไม่ทั่วถึง! ”

การมาด้วยตัวเองของนายท่านจี้ทำให้เฉินชังไห่รู้สึกปลาบปลื้มเล็กน้อย จึงรีบลุกขึ้นทักทายอย่างรวดเร็ว

จี้ เฉินสองตระกูลต่างก็เป็นหนึ่งในห้าตระกูลใหญ่แห่งเจียงหนัน แต่ในใจท่านปู่เฉินรู้ชัดเจนดีว่า มรดกของตระกูลจี้นั้นเหนือกว่าตระกูลเฉินมาก

ยิ่งไปกว่านั้น นายท่านจี้แตกต่างจากหวงเย่าโจวเขาเป็นรุ่นเดียวคราวเดียวกับเขาด้วย

ตามเหตุและผล ท่านปู่เฉินไม่กล้าที่จะวางอำนาจต่อหน้าจี้เจิ้งโก๋

“น้องหยัง คุณเกรงใจเกินไปแล้ว วันนี้คุณเป็นเจ้าของวันเกิดนะ พี่ขออวยพรวันเกิดของคุณณ.ที่นี้เลย”

“ขอให้มีรอยยิ้มอยู่เสมอ ครอบครัวสุขสันต์!”

จี้เจิ้งโก๋ประสานมือทั้งสอง ประพฤติตนอย่างสุภาพมาก

“คุณปู่ฉิน เยียนหรันขอพรให้ท่านโชคลาภวาสนาดั่งมหาสมุทร รุ่งโรจน์ชัชวาล!”

จี้เยียนหรันเลียนแบบนายท่านจี้ และประสานมือเพื่อแสดงความยินดี ซึ่งมีส่วนคล้ายชาวยุทธภพเล็กน้อย

“ขอบคุณ ขอบคุณ!”

เฉินชังไห่รีบพยุงจี้เจิ้งโก๋ขึ้น รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาเกือบจะฉีกไปที่ถึงหู

“น้องหยัง พี่อย่างผมไม่มีอะไรดีๆจะให้ ภาพวาดนกกระเรียน ภาพนี้เมื่อสองสามปีก่อนมีคนให้ผมมา ก็ถือว่าเป็นการยืมดอกไม้ไปถวายพระแล้วกันนะ”

ในขณะที่นายท่านจี้เปิดปากพูด จี้เยียนหรันก็ร่วมมือด้วยดีรีบส่งภาพในมือของเธอ

“เฮ้!” เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดเหล่านั้น ก็อดไม่ได้ที่จะหายใจเข้าลึกๆ

ชื่อเสียงของภาพนกกระเรียนนี้ที่มาไม่เบา ตามตำนาน มันคือผลงานของหลินเหลียงในราชวงศ์หมิง มูลค่าตลาดตอนนี้น่าจะราวๆ สิบล้าน!

วันนี้ตกลงเกิดอะไรขึ้น? ก่อนอื่นเป็นมือเติบของหวงเย่าโจว เดี๋ยวนี้ก็เป็นจี้เจิ้งโก๋มาด้วยตัวเอง ตระกูลเฉินตกลงทำเรื่องอะไรกันแน่?

แต่พวกเขาจะรู้ได้อย่างไร ว่าหวงเย่าโจวกับจี้เจิ้งโก๋ให้เกียรติขนาดนี้ เพราะเห็นแก่เย่เทียนทั้งนั้น

ไม่อย่างนั้น พวกเขาจะยอมเต็มใจลงทุนด้วยเงินจำนวนมหาศาลได้อย่างไร?

หลังจากปฏิเสธครู่หนึ่ง สุดท้ายเฉินชังไห่ก็รับของขวัญไว้ กำลังเตรียมตัวที่จะเชิญจี้เจิ้งโก๋ขึ้นที่นั่ง

แต่จี้เจิ้งโก๋กลับส่ายศีรษะเล็กน้อยและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “น้องหยังรอเดี๋ยวนะ ผมขอไปทักทายเย่เทียนก่อน”

เย่เทียนถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ แน่นอนเขารู้ว่าจี้เจิ้งโก๋คงจะไม่ปล่อยเขาไปแบบนี้แน่

ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา แขกในห้องโถงด้านข้างก็จ้องมองเบิกตากว้าง มองตามจี้เจิ้งโก๋ที่เดินไปทางเย่เทียนอย่างไม่เชื่อสายตา

“บัดซบ! ตกลงนี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

“เย่เทียนมีคุณธรรมและความสามารถแบบไหน สามรถให้นายท่านจี้โปรดปรานขนาดนี้?”

“ตอนแรกเป็นห่วงเย่าโจว ตอนนี้เป็นท่านจี้ เย่เทียนคนนี้ไม่ธรรมดา!”

แต่จี้เจิ้งโก๋ไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร ค่อยๆเดินไปตรงหน้าเย่เทียนอย่างช้าๆ พูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณชายเย่ ขอบพระคุณสำหรับที่ช่วยชีวิตเยียนหรันเมื่อหลายวันก่อน”

“นายท่านจี้คุณเกรงใจมากไปแล้ว แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น”

เย่เทียนยิ้มและพยักหน้าเล็กน้อย

ตั้งแต่หวงเย่าโจวปรากฏตัวมา เย่เทียนก็เดาออกแล้วว่าวันนี้คงไม่ได้อยู่อย่างสงบสุขแน่

แต่ว่าเย่เทียนก็ไม่ได้สนใจ เรื่องของผู้นำแก๊งเสือเขียว เขาคิดอยู่แล้วจะไม่ปิดบังตัวเองอีกต่อไป ฉวยโอกาสวันนี้เพื่อเปิดเผยตัวเอง

ให้คนชั่วที่คิดไม่ซื่อเหล่านั้นรู้ว่า มีเขาอยู่ในตระกูลเฉิน ไม่ใช่ใครก็จะมายุ่งวุ่นวายได้!

“นายท่านจี้ คุณ คุณรู้จักเย่เทียน”

สีหน้าของเฉินลี่น่าแปลกประหลาดอย่างสุดขีด และถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่เชื่อ

“คุณชายเย่มีความสามารถมาก และเขาก็เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับรุ่นน้องในเจียงหนัน ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รู้จักคุณชายเย่!”

จี้เจิ้งโก๋ไม่ตระหนี่กับคำพูดสรรเสริญแม้แต่น้อย

แม้กระทั่ง ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเย่เทียนกับเฉินหวั่นชิงได้จดทะเบียนแล้ว นายท่านจี้ต้องเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างเย่เทียนกับจี้เยียนหรันอย่างแน่นอน

เย่เทียนเป็นใคร?

นั่นคือปรมาจารย์ปรุงยาในวัยยี่สิบต้นๆ !

แม้ว่าจะไม่พูดถึงด้านการปรุงยา แต่เขายังเป็นคนที่แข็งแกร่งในระดับจังหวัด คนที่โดดเด่นเช่นนี้ มีอนาคตที่ไร้ขีดจำกัดอย่างแน่นอน!