ตอนที่ 213 แย่งชิงขวดยานัตถุ์ 

 

 

 

 

 

ผ่านไปไม่นาน อวี้จื่อเยียนก็เดินเข้ามา ในมือของนางโอบอุ้มสุราไว้ไหหนึ่ง ส่วนสาวใช้ที่ติดตามมาด้านหลังก็ถือไหสุราเข้ามาอีกสองสามไห วางเอาไว้ที่โต๊ะด้านหลัง แล้วจึงจัดแจงเสื้อผ้าพร้อมทั้งทำการคารวะหลิงอ๋อง “ลูกคารวะเสด็จพ่อเพคะ” 

 

 

“ลุกขึ้นเถิด” หลิงอ๋องเลิกคิ้วขึ้น 

 

 

หลังจากที่สาวใช้รินสุราให้กับทุกคนจนเต็มจอแล้ว ทุกคนก็ยกจอกสุราขึ้นมาแล้วชูไปทางหลิงอ๋อง “ขออวยพรให้ท่านอ๋องเพคะ” 

 

 

“นั่งลงเถิด วันนี้เราอารมณ์ดี ไม่ว่าจะเป็นคุณหนูหรือรวมไปถึงเหล่าอนุและสาวใช้ ข้าขอตกรางวัลให้จงหนัก!” หลิงอ๋องโบกมืออย่างยินดีเป็นอย่างยิ่ง ตกรางวัลผู้ใต้อาณัติเป็นการใหญ่ เงินทองมากมายล้วยใช้จ่ายเพื่อการนี้ 

 

 

เมื่อได้ยินว่าเขาจะตกรางวัล อวี้อาเหราและอวี้จื่อเยียนก็รีบร้องขึ้นว่า “เสด็จพ่อเพคะ” 

 

 

“หืม?” นี่เป็นครั้งแรกที่หลิงอ๋องเพิ่งจะเคยเห็นพวกนางทั้งสองคนร้องขึ้นเป็นเสียงเดียวกัน ทันใดนั้นก็หันมามองในทันที 

 

 

“เสด็จพ่อ ลูกเพียงอยากขอ…” ขณะที่อวี้จื่อเยียนกำลังจะเอ่ยปากพูดนั้น อวี้อาเหราก็รีบชิงพูดในทันทีว่า “เสด็จพ่อ ในเมื่อท่านกล่าวจะประทานรางวัล ลูกก็ได้ยินมาว่าที่เสด็จพ่อมีขวดยานัตถุ์หยกขาวลายกล้วยไม้อยู่ขวดหนึ่ง เช่นนั้นจะประทานให้ลูกได้หรือไม่เพคะ” 

 

 

“เจ้าก็อยากได้ขวดยานัตถุ์หรือ” อวี้จื่อเยียนอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะรีบพูดแทรกขึ้นอย่างไม่พอใจ 

 

 

หลิงอ๋องและผู้คนทั้งหลายพากันตกตะลึง และไม่คิดว่าพวกนางที่ไม่ถูกกันนั้นจะต้องการของสิ่งเดียวกัน 

 

 

อวี้อาเหรากวาดตาอวี้จื่อเยียนเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขอร้องหลิงอ๋องต่อ “หวังว่าเสด็จพ่อจะประทานให้ลูกเพคะ”  

 

 

“ไม่ได้ ขอเสด็จพ่อทรงประทานให้เยียนเอ๋อร์เถิดเพคะ” อวี้จื่อเยียนไม่ยอมรับในทันที นางอยากได้ขวดยานัตถุ์ก็เพราะว่าจะเอาไปต่อรองกับหวังกงกง ในวังนั้นหวังเซิ่งเต๋อมีอำนาจไม่น้อย หากสามารถต่อรองกับเขาได้ต่อไปนางและท่านแม่ก็คงจะได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ เมื่อถึงตอนนั้นแม้แต่อวี้อาเหราเองก็คงไม่อาจรังแกนางได้ง่ายๆ 

 

 

อีกอย่าง ในหมู่หญิงสาวสูงศักดิ์ด้วยกันนั้น นางมีหน้าตาที่งดงาม เป็นบุตรสาวภรรยาน้อยแล้วอย่างไร ในเมื่อหน้าตาของนางดีกว่าบุตรสาวจากภรรยาเองตั้งมากมายนัก 

 

 

แต่นางกลับคิดไม่ถึงว่า อวี้อาเหราก็ยังต้องการขวดยานัตถุ์เช่นเดียวกัน! 

 

 

ทั่วทั้งเมืองเฟิ่งเฉิงล้วนได้ยินมาว่าหวังกงกงนั้นชื่นชอบขวดยานัตถุ์ นอกจากจะนำไปให้เขาแล้วก็ไม่มีเหตุผลใดอีก เพราะเช่นนั้นอย่างไรเสียนางก็ไม่อาจให้อวี้อาเหราได้มันไปแน่ 

 

 

หลิงอ๋องมองไปที่คนทั้งสองด้วยความลำบากใจ “แต่พ่อก็มีเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น จะให้อย่างไร..” 

 

 

“เสด็จพ่อ ยามนี้ท่านแม่กำลังตั้งครรภ์ มีคุณูปการต่อจวนหลิงอ๋องยิ่ง เยียนเอ๋อร์จะขอประทานขวดยานัตถุ์ก็ไม่ได้เชียวหรือเพคะ” อวี้จื่อเยียนเริ่มยกเรื่องความดีความชอบขึ้นมาอ้าง 

 

 

และก็เป็นเช่นนั้นจริง เมื่อเห็นว่าหลิงอ๋องเริ่มที่จะหวั่นไหวขึ้นมา อวี้อาเหราก็รีบพูดขึ้นว่า “นับตั้งแต่เสด็จแม่จากไป ลูกก็ไม่เคยร้องขออะไรจากเสด็จพ่ออีกเลย ยามนี้เพียงแค่ขวดยานัตถุ์เล็กๆ เพียงขวดเดียว เสด็จพ่อก็จะประทานให้ผู้อื่นหรือเพคะ ถ้าเช่นนั้นแล้วตำแหน่งธิดาเอกแห่งจวนอ๋องของลูกจะมีความหมายอะไรกันเพคะ” 

 

 

“น้องสาวกล่าวผิดเสียแล้ว” อวี้จื่อเยียนมองนาง “เป็นเพราะเจ้ามีสถานะเป็นถึงธิดาเอก ไม่ว่าต้องการอะไรมีหรือจะไม่ได้ว่า ภายหลังสิ่งของที่ดีกว่าขวดยานัตถุ์ก็จะล้วนเป็นของเจ้า เช่นนั้นครั้งนี้ก็ยอมให้พี่เถิดนะ” 

 

 

“ไม่ได้” อวี้อาเหราส่ายหน้าอย่างหนักแน่น หากเป็นคนอื่นมายื้อแย่งของอะไรกับนางก็คงจะใจอ่อนยอมยกให้ไปแล้ว แต่เพราะนี่เป็นอวี้จื่อเยียน ไม่ว่านางจะพูดอะไรตนก็จะไม่ยอมถอยเด็ดขาด! ทันใดนั้นน้ำตาก็ไหลพรากลงมาทันที “เสด็จพ่อ หากจะมอบให้พี่สาว ลูกก็ไม่มีสิ่งใดจะพูดแล้วเพคะ แต่ว่าเมื่อเช้าลูกเพิ่งถูกอนุรองและพี่สาวเข้าใจผิด มาตอนนี้ก็ยัง…” 

 

 

เมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนเช้า สีหน้าของอวี้จื่อเยียนและอนุรองก็กลายเป็นไม่น่าดูขึ้นมา 

 

 

หากไม่ใช่เพราะนางตั้งใจให้เกิดขึ้น นางก็คงไม่อาจตกหลุมพรางได้โดยง่าย เมื่อคิดเช่นนี้ อวี้จื่อเยียนก็ต้องเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน 

 

 

อนุรองไม่อาจตีสีหน้าเรียบเฉยต่อไปได้อีกแล้ว สีหน้าของนางเปลี่ยนไปในทันที “วันนี้เป็นข้าน้อยที่เข้าใจคุณหนูรองผิดไป ทำผิดกับนางก็เหมือนทำผิดต่อพระชายา เพราะอย่างนั้นท่านอ๋องก็ทรงประทานขวดยานัตถุ์ให้คุณหนูรองเถิดเพคะ” 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 214 ปิ่นหยกรูปดอกโบตั๋น 

 

 

 

 

 

“ท่านแม่!” อวี้จื่อเยียนไม่ยินดีแม้แต่น้อย เหตุใดจึงจะต้องยื่นของให้ศัตรูเช่นนี้! นี่นางก็ยังเป็นท่านแม่ของตนจริงๆ หรือ เช่นนั้นจึงพูดเพื่ออวี้อาเหราถึงเพียงนี้ 

 

 

เมื่อหลิงอ๋องได้ยินอนุรองพูดเช่นนี้ก็พยักหน้าลง “ดี หากเช่นนั้นพ่อก็มอบขวดยานัตถุ์ให้อาเหราแล้วกัน” 

 

 

“ขอบพระทัยเพคะเสด็จพ่อ” แม้ในใจของอวี้อาเหราจะไม่เข้าใจว่าเหตุใดอนุรองถึงขอขวดยานัตถุ์ให้นาง นางคงไม่มีทางนึกถึงเรื่องบุญคุณอะไรขึ้นมาได้แน่ หรือว่าบางทีอาจเป็นเพราะวันนี้ถูกนางจัดการไปครั้งหนึ่งแล้ว เช่นนั้นจึงไม่กล้าที่จะก่อเรื่องอะไรอีก 

 

 

ในเมื่อเรื่องราวเป็นเช่นนี้ อวี้จื่อเยียนก็ไม่กล้าที่จะกล่าวอะไรให้มากความ ทำเพียงส่งสายตาเรียบเย็นจ้องมองไปทางอวี้อาเหรา ท่าทางไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด 

 

 

หลิงอ๋องโบกมือยกใหญ่ รับสั่งให้คนนำขวดยานัตถุ์หยกขาวมา อวี้อาเหราเมื่อรับมาแล้วก็เปิดดู เห็นเป็นขวดยานัตถุ์หยกขาวอยู่ในกล่องกำมะหยี่ ด้านบนสลักด้วยลายดอกกล้วยไม้งดงาม นางเห็นแล้วก็ดีใจจนยิ้มมุมปาก แต่อวี้จื่อเยียนยิ่งเห็นยิ่งโกรธเคือง 

 

 

หากไม่มีอวี้อาเหราที่สมควรตายเข้ามาก่อกวน ขวดยานัตถุ์นี้ก็คงจะเป็นของนางแล้ว! 

 

 

เมื่อหลิงอ๋องเห็นดังนั้น ก็พูดขึ้นว่า “เจ้าก็อย่าได้เสียใจไปเลย วันนี้พ่อได้ปิ่นหยกมาใหม่ ได้ยินมาเป็นของของราชวงศ์ก่อน ไม่ได้ด้อยไปกว่าขวดยานัตถุ์นี้เท่าไหร่หรอก พ่อให้เจ้าดีหรือไม่” 

 

 

“ปิ่นหยก?” อวี้จื่อเยียนตกตะลึงเล็กน้อย 

 

 

หลิงอ๋องให้คนนำปิ่นนี้เข้ามา เป็นปิ่นปักผมที่แกะสลักเป็นรูปดอกโบตั๋นสวยงามวิจิตรยิ่งนัก ดูแล้วคงเป็นของมีค่ามีราคา ดวงตาของอวี้จื่อเยียนส่องประกาย ในใจรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก ไม่ชักสีหน้าอีกต่อไป 

 

 

ทุกคนเริ่มรับประทานอาหาร ดื่มกินกันอย่างมีความสุข มีเพียงอนุสามนั้นที่มองอวี้อาเหราอย่างกระวนกระวายเป็นบางครั้ง เมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้แล้วก็ทำให้เหงื่อผุดพรายขึ้นมา ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ ยามที่นางยิ้มนั้นก็ราวกับมีเรื่องอะไรอยู่ในใจอย่างลึกซึ้ง จนทำให้รู้สึกหวาดระแวงว่านางนั้นได้ยินสิ่งที่ตนพูดออกไปหรือไม่กันแน่ 

 

 

หลังจากที่อวี้อาเหราทานอาหารแล้ว ก็เดินนำเจาเอ๋อร์และขวดยานัตถุ์กลับไป 

 

 

เมื่อนายบ่าวทั้งสองกลับมาถึงเรือนพัก เจาเอ๋อร์ก็เปิดกล่องกำมะหยี่ออกดู เอ่ยชื่นชมออกมาว่า “สมแล้วเจ้าค่ะที่เป็นของดี ช่างงดงามยิ่งนัก ของเช่นนี้ให้หวังกงกงไปก็ยังเสียดายอยู่บ้าง แต่จะว่าไปแล้วปิ่นหยกที่ท่านอ๋องมอบให้กับคุณหนูใหญ่นั้นก็งดงามเป็นอย่างมากเลยนะเจ้าคะ” 

 

 

“แม้นเสียดายก็ต้องตัดใจ” อวี้อาเหราเก็บกล่องไป “อย่ามัวพูดเรื่องเสียดายอะไรเลย กระทั่งของชิ้นนี้ก็ได้มาแล้ว ยังกลัวอีกหรือว่าหลังจากนี้ของดีๆ จะไม่ตกเป็นของพวกเราอีก ส่วนปิ่นหยกที่อวี้จื่อเยียยได้ไปนั้นก็ไม่เห็นว่าจะสักเท่าไหร่ ให้นางดีใจไปคนเดียวเถิด” 

 

 

หลังจากที่ได้ไปเห็นของงดงามที่แท้จริงที่จวนเซิ่นอ๋องแล้ว ท่าทีของนางก็นิ่งสงบขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 

 

 

เมื่อมองไปยังกำไลหยกเลือดที่อยู่บนข้อมือของตัวเอง นางก็ยิ้มออกมา ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกชอบ เพราะมันสามารถเปลี่ยนเป็นเงินมหาศาล มากพอที่จะซื้อเมืองเฟิ่งเฉิงทั้งเมืองเลยทีเดียว แต่นางกลับไม่ได้เปิดเผย นางมักจะสวมเสื้อปิดเอาไว้เสมอ เพราะกลัวว่าจะมีคนขโมยไป 

 

 

เมื่อเจาเอ๋อร์เห็นรอยยิ้มของนางแล้ว ก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้ แล้วเอ่ยถามขึ้นว่า “คุณหนูกำลังคิดอะไรอยู่หรือเจ้าจะ ถึงได้ยิ้มออกมาเช่นนี้” 

 

 

“ไม่มีอะไรหรอก เจ้ารีบไปทำเรื่องของเจ้าเถิด” อวี้อาเหราบอกปัดอย่างเกียจคร้าน 

 

 

เจาเอ๋อร์นิ่งไป “หรือว่าคุณหนูกำลังคิดถึงเซิ่นซื่อจื่อ?” 

 

 

“ข้าจะคิดถึงเขาทำไมกัน” อวี้อาเหราหมดคำที่จะกล่าว เขาก็ไม่ใช่เงินหรือของมีค่าเสียหน่อย เหตุใดนางต้องคิดถึงเขาด้วยเล่า! เมื่อคิดเช่นนี้ นางก็ถลึงตาจ้องมองเจาเอ๋อร์ “พูดอะไรเหลวไหล เจ้าบอกว่าจะไปเตรียมอาหารมื้อดึกให้ข้ามิใช่หรือ! ยังไม่รีบไปอีก!” 

 

 

“เจ้าค่ะ คุณหนู” เจาเอ๋อร์ยิ้มออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่