หลินหรูพยักหน้าด้วยความพยายามอย่างหนัก และขยับริมฝีปากกล่าวว่า “คุณพ่อ…” ด้วยความยากลำบากอย่างมาก

 

 

ถังซีตัวนิ่งแข็ง ขณะคุณปู่เซียวและเซียวหงอี้ยังคงตกตะลึง เธอรีบเปิดใช้งาน 008 และเดินไปที่เตียงหลินหรูอย่างรวดเร็ว เธอนั่งลงเอื้อมมือไปจับชีพจรหลินหรู เมื่อเซียวหงอี้ได้สติกลับคืนมาเขาก็เห็นถังซีกำลังจับชีพจรหลินหรู เขาลืมประหลาดใจไปเลยว่าเธอไปอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไร ได้แต่ถามว่า “แม่เป็นอย่างไรบ้าง ไม่เป็นอะไรใช่ไหม”

 

 

ถังซียิ้มมองหน้าเซียวหงอี้ “อาจเป็นเพราะคำพูดของคุณปู่ ปาฏิหาริย์ถึงได้เกิดขึ้นกับแม่ ตอนนี้เราพาแม่ไปโรงพยาบาลก่อนดีกว่าค่ะ จะได้ตรวจอาการให้แน่ใจ”

 

 

คุณปู่เซียวไม่คาดคิดว่าหลินหรูซึ่งพูดไม่ได้ จะเรียกท่านออกมาว่า “คุณพ่อ” เพียงเพราะคำพูดของท่าน ด้วยความตกใจท่านรีบกล่าวทันที “เร็วสิ รีบพาเธอไปโรงพยาบาล ไปโรงพยาบาลหลินอัน บอกหมอให้เตรียมพร้อม สามารถตรวจร่างกายเธอได้ทันทีที่เราไปถึง!”

 

 

เซียวหงอี้รีบรับคำ “ครับ” แล้วโทรไปโรงพยาบาล ถังซีเข็นรถเข็นเข้ามา หลังจากเซียวหงอี้อุ้มหลินหรูนั่งลงบนรถเข็น เธอก็หยิบผ้าห่มมาคลุมให้หลินหรู เมื่อเห็นน้ำตาหลินหรูไหลเอ่อ ถังซีก็ยิ้ม นั่งลงตรงหน้ามารดา จับมือเธอไว้และกระซิบว่า “แม่จะหายในไม่ช้านี้ค่ะ แม่จะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ดูสิคะ วันนี้แม่พูดได้แล้ว แม่จะดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกวันค่ะ”

 

 

ทั้งหมดรีบไปโรงพยาบาล เมื่อไปถึงก็เห็นคุณหมอรออยู่ที่ประตู ก่อนที่ทุกคนจะลงจากรถหมอก็พาหลินหรูเข้าไปข้างในแล้ว เป็นเวลาเดียวกับที่เซียวเจี่ยนมาถึงพอดี เมื่อเห็นถังซีกับบิดาและคุณปู่ เขาก็วิ่งเข้าไปในโรงพยาบาลทันทีพร้อมกับถามว่า “แม่เป็นยังไงบ้างครับ แม่พูดได้แล้วจริงๆ เหรอ”

 

 

ถังซีหันไปมองเซียวเจี่ยนซึ่งดูท่าทางอ่อนล้าแล้วพยักหน้า “จริงๆ ค่ะ แม่พูดได้แล้ว เราได้ยินกันทุกคน เรากำลังคอยดูว่าหมอจะว่ายังไงต่อไป”

 

 

หลังจากรออยู่นาน คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็ออกมาจากห้องตรวจ ทั้งหมดรีบเข้าไปหาคณะแพทย์ เซียวหงอี้ถามแพทย์คนหนึ่งด้วยท่าทางกังวลใจ “ศาสตราจารย์เฉิน ภรรยาผมเป็นยังไงบ้าง”

 

 

ศาสตราจารย์เฉินมองใบหน้าวิตกกังวลของเซียวหงอี้แล้วหัวเราะ “ท่านประธานเซียว คุณไม่เห็นหรือผมหัวเราะด้วยความยินดี นี่ก็หมายความว่าอาการของภรรยาคุณดีขึ้น และเธออาจสามารถลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง!”

 

 

เซียวหงอี้หันไปมองถังซีอย่างไม่อยากเชื่อ ตอนที่เซียวโหรวบอกว่าอาหรูจะลุกขึ้นยืนได้อีกครั้งนั้นเขาไม่เชื่อเลย แต่สิ่งที่เธอพูดกลับกลายเป็นความจริงในช่วงเวลาเพียงสั้นๆ!

 

 

อาหรูจะลุกขึ้นยืนได้อีกครั้งจริงๆ ใช่ไหม

 

 

รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าไร้ความรู้สึกของเซียวเจี่ยน

 

 

เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางไม่อยากเชื่อของเซียวหงอี้ หมออีกคนก็กล่าวว่า “ไม่เพียงแค่นั้นนะครับ แต่เราพบว่าเส้นลมปราณของภรรยาคุณดูเหมือนจะปลอดโปร่งดีมาก แม้แต่จุดดำในสมองก็หายไปด้วย”

 

 

“ใช่! มหัศจรรย์มาก! ตอนที่เราตรวจร่างกายเธอเมื่อเช้านี้ ไม่มีสัญญาณว่าอาการเธอจะดีขึ้นเลย แต่นี่ยังไม่ถึงยี่สิบชั่วโมงด้วยซ้ำปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เหลือเชื่อจริงๆ!”

 

 

เซียวหงอี้มองถังซีด้วยสายตาประหลาดใจ เขามั่นใจว่าเป็นเพราะการฝังเข็มรักษาของถังซี ที่ทำให้อาหรูฟื้นตัวได้รวดเร็วเช่นนี้

 

 

ถังซีมองหน้าคณะแพทย์เหล่านั้น และถามอย่างใจเย็น “นั่นก็หมายความว่าแม่ฉันจะหายเป็นปกติเร็วๆ นี้ใช่ไหมคะ”

 

 

ศาสตราจารย์เฉินมองหน้าถังซีด้วยความชื่นชม เธอคนนี้สงบมากมาตั้งแต่แรก ซึ่งหาได้ยากจริงๆ เขาพยักหน้า “ใช่ครับ คุณแม่คุณจะสามารถลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง ตราบใดที่เธอพักอยู่ที่โรงพยาบาล เพื่อเข้ารับการฟื้นฟูสุขภาพร่างกายทุกวัน ไม่ช้าร่างกายเธอก็จะหายเป็นปกติ”

 

 

ถังซีเลิกคิ้วถามด้วยรอยยิ้มน้อยๆ “ถ้าอย่างนั้นฉันขอถามหน่อยค่ะ จะต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าแม่จะกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง”

 

 

ศาสตราจารย์เฉินยิ้ม “ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าครึ่งปีเป็นอย่างเร็ว หรืออย่างช้าไม่เกินหนึ่งปี”

 

 

เซียวหงอี้หันไปหาถังซี ถามเบาๆ ว่า “โหรวโหรว นี่หมายความว่า…”

 

 

ถังซีขอบคุณศาสตราจารย์เฉิน แล้วกล่าวว่า “ดึกมากแล้ว ขอโทษนะคะที่มารบกวน ฉันจะพาแม่กลับบ้านแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ”

 

 

ศาสตราจารย์เฉินกล่าวกับถังซีอีกครั้ง “คุณหนูเซียว ควรให้คุณแม่ของคุณพักที่โรงพยาบาลนะครับ เธอจะฟื้นตัวเร็วขึ้น ถ้าเธอได้รับการบำบัดฟื้นฟูสุขภาพร่างกายทุกวันที่นี่”

 

 

ถังซีปฏิเสธด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจนะคะ แต่ฉันอยากพาแม่กลับบ้าน”

 

 

“ที่นี่จะมีพยาบาลมืออาชีพคอยดูแลเธอ พวกคุณจะไม่ต้องยากลำบากใดๆ เลย และการรักษาเยียวยาคุณแม่ของคุณจะเป็นไปอย่างมืออาชีพ ผมหวังว่าคุณจะพิจารณาตามคำแนะนำของศาสตราจารย์เฉินนะครับ คุณหนูเซียว” นายแพทย์อีกคนเสริม

 

 

ถังซีพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ แต่ฉันต้องการพาแม่กลับบ้าน”

 

 

เมื่อจบคำพูดถังซีก็หันไปมองเซียวหงอี้ เขารีบกล่าวขึ้นทันที “ใช่ครับ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของโหรวโหรว ให้เรากลับบ้านดีกว่า ขอบคุณนะครับ คุณหมอ”

 

 

เมื่อเห็นว่าพวกเขาตัดสินใจแล้ว คณะแพทย์ก็ยอมแพ้ และกล่าวลาพวกเขา

 

 

เมื่อหลินหรูเห็นถังซีเข้ามา เธอมองลูกสาวด้วยสายตาเปี่ยมความหวัง ถังซียิ้มให้ “คุณหมอบอกว่าแม่จะลุกขึ้นยืนได้อีกครั้งเร็วๆ นี้ค่ะ บางทีแม่อาจลุกขึ้นยืนได้ภายในหนึ่งเดือน ภายใต้การดูแลของหนู… หมอที่รักษาได้อย่างมหัศจรรย์”

 

 

หลินหรูยิ้ม ยกมือขึ้นจับมือถังซี ถังซีเบิกตาโตด้วยความตกใจ ชี้ไปที่มือมารดา “แม่คะ… แม่ยกมือขึ้นได้!”

 

 

หลินหรูดูท่าทางท้อแท้ เธอจ้องมองถังซีและพยายามขยับริมฝีปากอยู่นาน กว่าจะเอ่ยออกมาเป็นคำพูดได้ “โหรว…”

 

 

ถังซียิ้ม หันกลับไปมองเซียวหงอี้และเซียวเจี่ยน “ดูเหมือนว่าปาฏิหาริย์ได้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ ค่ะ”

 

 

อารมณ์เซียวเจี่ยนที่ถูกทำลายจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่เซียวกรุปวันนี้ดีขึ้นมาก เพราะคำพูดที่หลินหรูเพิ่งเอ่ยออกมา เขายิ้มขณะเข็นหลินหรูออกมาข้างนอกโดยมีถังซีเดินอยู่ข้างๆ เขาเริ่มบทสนทนากับเธอ “ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นเพราะเธอกลับมา”

 

 

ถังซียิ้มแล้วส่ายศีรษะ “ไม่ใช่หรอกค่ะ พี่เข้าใจผิดแล้ว ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับแม่เพราะคุณปู่มาเยี่ยมแม่คืนนี้ คุณปู่พูดอะไรอย่างหนึ่งกับแม่ และแม่รู้สึกประทับใจในคำพูดของคุณปู่ แม่อยากพูดอะไรบางอย่าง ปาฏิหาริย์ก็เลยเกิดขึ้น”

 

 

เซียวเจียนหันไปมองถังซีด้วยความประหลาดใจ “คุณปู่พูดว่าอะไรหรือ”

 

 

เขาจำได้ว่าตั้งแต่เขายังเด็ก คุณปู่ไม่ชอบมารดาเขา และบ่นอยู่เสมอว่าเธอสนใจแต่งาน คุณปู่ซึ่งไม่ชอบแม่พูดอะไร ถึงทำให้แม่ประทับใจมากจนเกิดปาฏิหาริย์ขึ้นได้