ตอนที่ 561 - ผลกระทบจากปรากฏการณ์ผีเสื้อขยับปีก

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】

Ep.561 – ผลกระทบจากปรากฏการณ์ผีเสื้อขยับปีก

ระหว่างเฝ้ารอการประชุมในอีกสามวันข้างหน้า ฉินเฟิงก็เริ่มวางแผนว่าจะขายอะไรออกไปดี และเทคโนโลยีใดที่ตนอยากจะทิ้งไว้ในภายภาคหน้า

ขณะเดียวกัน ณ สถานที่รกร้างห่างไกลไร้ผู้คน ด้านในภูเขาสูงที่เชื่อมต่อกับเขตแดนลับ ในที่สุดก็เริ่มเกิดปฏิกิริยา

เขตแดนลับแห่งนี้ อันที่จริงถูกค้นพบมาเป็นเวลานานแล้ว ทว่าแม้เวลาจะผ่านมานานกว่าสองปีเต็ม แต่กลุ่มองค์กรที่ค้นพบมันก็ยังไม่สามารถเปิดเขตแดนลับในชั้นนี้ได้

อย่างไรก็ตาม หลังจากใช้เรือเหาะที่เพิ่งซื้อมา ระเบิดคลื่นพลังงานอันทรงพลังใส่อุปสรรคเขตแดนลับ ในที่สุดเปลือกชั้นนอกของเขตแดนลับก็ปริร้าวและแตกออก

“ยอดเยี่ยม ยอดไปเลย มันเปิดแล้วจริงๆ!”

“ ในที่สุดเงินที่เสียไปก็ไม่เปล่าประโยชน์”

“ฮึ่ม! นี่คืออาวุธของกลุ่มเฟิงหลี มีต้นแบบมาจากอาวุธที่สามารถสังหารเลเวล A ได้ ถ้ากระทั่งมันยังทำลายไม่ได้ ฉันก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว”

“ก่อนอื่นพวกเราไปดูข้างในกันเหอะ ว่าจะมีของดีอะไรบ้าง”

ฟังจากที่พวกเขาสนทนากัน คาดว่าที่พวกเขาลงทุนลงแรงถึงขนาดนี้ ก็เพื่อค้นหาสมบัติ

ผู้คนในปัจจบุัน นอกเหนือไปจากเลเวล C สองคนแล้ว ที่เหลืออีกแปดเป็นผู้ใช้พลังเลเวล D และลูกน้องเลเวล E หรือต่ำกว่าอีกห้าสิบคน ทั้งหมดต่างเดินเข้าไปสำรวจเขตแดนลับแห่งนี้

ตลอดทั้งเขตแดนลับแบ่งเป็นหกชั้น ในชั้นแรก ต้องใช้พละกำลังเพียวๆในการทำลาย , ชั้นต่อไปเป็นกำลังภายใน , ชั้นต่อไปเป็นพลังงานจากจักรกล และตอนนี้ ชั้นที่สี่ได้ถูกเปิดออกแล้ว

และคนเหล่านี้ต่างก็รู้ดี ว่ายิ่งจำนวนชั้นสูงเท่าไหร่ สมบัติที่ได้รับก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น อย่างในชั้นสาม พวกเขาได้รับเกราะรบเทคโนโลยี และเงื่อนไขคือเลเวล E สามารถใช้ได้

นั่นหมายความว่า หากทะลวงชั้นสี่ได้สำเร็จ สมบัติที่อยู่ในชั้นนี้ย่อมไม่พ้นเป็นในส่วนเลเวล D ขณะเดียวกันชั้นที่ห้าและหก จะเป็นเลเวล C , B ตามลำดับ

นี่เองคือสาเหตุที่กลุ่มฮงรีให้ความสำคัญกับสถานที่แห่งนี้ตลอดมา กระทั่งยอมส่งเลเวล C มาช่วยเหลือที่นี่

“หัวหน้าเทียน สมบัติพวกนี้เป็นของเลเวล D จริงๆด้วย แถมยังมีโลหะหายากอีกมากมาย!”

“นั่นปืนใหญ่พลังงาน พวกเราได้รับอาวุธใหม่อีกแล้ว!”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ยอดเยี่ยมนัก ด้วยสมบัติพวกนี้ กลุ่มฮงรีของพวกเรา ย่อมติดปีกทะยานสู่ฟากฟ้า”

ฝูงชนเร่งเก็บกู้อาวุธปืนในชั้นสี่อย่างรวดเร็ว เพื่อเตรียมนำมันกลับไปวิเคราะห์ และดูว่าสามารถนำไปผลิตเป็นจำนวนมากได้หรือไม่

สำหรับเลเวล C ทั้งสองคน พวกเขาไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งนี้ แต่ก้าวนำออกไปข้างหน้า ตรงเข้าสู่ชั้นต่อไป

อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงอุปสรรคเข้าสู่ชั้นต่อไป ทั้งสองกลายเป็นแข็งค้าง เพราะอุปสรรคในชั้นนี้ เงื่อนไขในการปลดมันคือพลังสมาธิ แต่ทั้งคู่เป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณ

“เฮ้ มีบางอย่างไม่ถูกต้อง ดูตรงนั้นสิ”

“ไหนๆ อะไรที่มันไม่ถูกต้อง?”

“จากรูปทรง ดูเหมือนว่ามันจะเป็นแบบเดียวกันกับเสื้อคลุมหยกที่พวกเราเคยเจอในชั้นสอง!”

“ว่าไงนะ? เทียนหยาน นายไม่ได้จำผิดใช่ไหม ”

“ฉันจะไปจำผิดได้ยังไง นายลองมองดูดีๆสิๆ เห็นไหม เหมือนว่ามันจะเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดชั้นห้า!”

ในตอนที่ชั้นสองถูกเปิดออก เสื้อคลุมหยกเป็นอุปกรณ์เลเวล E เพียงชิ้นเดียวที่ถูกทิ้งไว้ท่ามกลางอุปกรณ์เลเวล F มันสูงกว่าชิ้นอื่นๆหนึ่งระดับ แต่สูงกว่าแล้วไง? ในสายตาของผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล C นั่นมิใช่สิ่งมีค่าแต่อย่างใด

ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาได้ทดสอบดูแล้ว และพบว่าเอฟเฟคของเสื้อคลุมหยก คือการสวมใส่เพื่อเพิ่มฟูนพลังสมาธินิดๆหน่อยๆเท่านั้น แต่ประเด็นก็คือมันมีขนาดใหญ่ เกะกะเทอะทะ ยามคลุมตัวเหมือนคนใส่หมวกเขียว (ถูกเล่นชู้โดยไม่รู้ตัว) แล้วแบบนี้ใครมันจะอยากไปใส่เจ้าสิ่งน่ารังเกียจนั่นกัน?

เมื่อถูกมองว่าเป็นของน่ารังเกียจ มันจึงขายได้ราคาไม่ดีเช่นกัน ดังนั้นเลยถูกนำไปขายให้กับเมืองที่อยู่ใกล้เคียงของผู้ใช้พลังระดับล่าง

“เหวินไห่ นายรับผิดชอบจัดการเรื่องพวกนี้ใช่ไหม รีบส่งคนไปสอบถามเร็วเข้า!” สีหน้าของเทียนหยานกลายเป็นจริงจัง เพราะมันถูกขายออกไปนานเป็นปีแล้ว เกรงว่ายากนักที่จะหาพบ ต้องรู้นะว่า ในยุคปัจจุบัน อัตราการเสียชีวิตมีสูงเกินไป หากมีคนซื้อเจ้าสิ่งนี้ แล้วตายข้างนอก นี่คงไม่ต่างจากงมเข็มในมหาสมุทร

ข้อมูลถูกส่งกลับมาอย่างรวดเร็ว กระบวนการตรวจสอบ ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งวัน พวกเขาก็ได้รับเบาะแสของเสื้อคลุมหยก

พบว่าเสื้อคลุมหยกชิ้นนี้ถูกขายให้แก่เมืองฟูเฉิง โดยเจ้าหน้าที่จัดซื้อในเวลานั้น ได้รับซื้อมันไปในราคาถูก เพียงเพราะต้องการให้คลังสินค้ามีอะไรมาเติมเต็มเท่านั้น แต่เมื่อหนึ่งปีก่อน มันได้ถูกแลกเปลี่ยนไปโดยคนๆนึง

“เป็นใครกันที่แลกเปลี่ยนไป?”

“หัวหน้า คนๆนั้นมีชื่อว่าฉินเฟิง ใช่ เป็นคนเดียวกับที่คุณคิด เป็นผู้การรัฐทะเลเหนือ ประธานแห่งกลุ่มเฟิงหลี!”

“ที่แท้เป็นเขา!”

เทียนหยานกับเหวินไห่ ย่อมทราบว่าฉินเฟิงเป็นใคร

เพราะท้ายที่สุดแล้ว ปืนใหญ่ที่พวกเขาใช้เพื่อทำลายอุปสรรคสู่ชั้นสี่ของเขตแดนลับแห่งนี้ ก็ยังซื้อมาจากกลุ่มเฟิงหลี

คนตรวจสอบรายงานต่อว่า “หัวหน้า แต่ประเด็นก็คือ พวกเราได้รับข้อมูลมา ทราบว่าความแข็งแกร่งของฉินเฟิงไปถึงเลเวล C แล้ว ดังนั้นชุดคลุมหยกของเขา สมควรส่งต่อเป็นรางวัลให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชา แต่พวกเราได้ไปหาข้อมูลในเมืองเฟิงหลี ทำกระทั่งติดสินบนพวกระดับสูง แต่ก็ไม่ได้รับข้อมูลว่าฉินเฟิงเคยมอบเสื้อคลุมหยกให้ใครเลย และภายในคลังสินค้าของกลุ่มเฟิงหลี ก็ไม่มีมันเหมือนกัน ”

เมื่อรับฟังจนถึงจุดนี้ ดวงตาของเลเวล C ทั้งสองพลันเกิดประกายวาบผ่าน

“เสื้อคลุมหยกนั่นต้องมีอะไรบางอย่างแน่ๆ และฉินเฟิงคงค้นพบมัน นี่คงเป็นสาเหตุให้ความแข็งแกร่งของเขาพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด!”

“ใช่ คงไม่ผิดแล้ว!”

ทั้งสองอดก่นด่าตนเองไม่ได้ รู้สึกเสียใจนักที่ขายมันไปในตอนแรก

“หัวหน้า ฉันได้ยินมาว่า ฉินเฟิงเพิ่งไปเข้าร่วมงานประลองในเมืองหลวงมังกร และติดอยู่ในเขตแดนลับ เกรงว่าเขาคงโชคร้ายออกมาไม่ได้ อีกอย่าง ในกลุ่มเฟิงหลีตอนนี้ ได้ครอบครองเขตแดนลับอยู่แห่งหนึ่ง ระดับสูงในกลุ่มบอกว่าข้างในนั่นใช้เป็นที่เก็บสมบัติเช่นกัน บางที ..”

บางทีเสื้อคลุมหยกอาจอยู่ที่นั่น!

ขณะขบคิด ประกายวาบผ่านเข้ามาในแววตาของเทียนหยานอีกครั้ง

กลุ่มเฟิงหลีแข็งแกร่งก็จริง แต่นอกจากฉินเฟิงแล้ว คนอื่นๆไม่เก่งอะไร เป็นเพียงกลุ่มเล็กๆกลุ่มใหม่ หากไม่มีประธานคอยอยู่ดูแล คนอื่นๆก็ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัว!

“ฉันจะไปเอง เหวินไห่นายรอข่าวจากฉัน” เทียนหยานเอ่ยปาก

“รับทราบ!”

ทั้งคู่ต่างเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณ ดังนั้นเคยเรียนรู้วิธีการลอบสังหาร เหวินไห่คิดว่าหากมอบเรื่องนี้ให้เทียนหยานจัดการ คงไม่มีปัญหาแน่นอน!

ส่วนฉินเฟิง เขาไม่ทันตระหนักถึงเรื่องนี้ ว่ามันเป็นเพราะเขาก่อตั้งกลุ่มเฟิงหลี เป็นเพราะเขาขายเทคโนโลยีของเมืองลอยฟ้า ผลสะท้อนจากปรากฏการณ์ผีเสื้อขยับปีกของมัน ได้นำไปสู่การที่กลุ่มฮงรี สามารถทะลวงเขตแดนลับได้ก่อนกำหนดถึงสองปี ชักนำปัญหามาสู่ตัวเขา

และสิ่งที่เรียกว่าเสื้อคลุมหยก มิใช่ใดอื่น เป็นเทคนิคหนทางสู่เจตจำนงศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง!

วิกฤตมากมายทั้งจากภายในและภายนอกกำลังมาเยือน ครั้งนี้กลุ่มเฟิงหลี จะผ่านพ้นมันไปได้หรือไม่?

ณ เมืองหลวงมังกร ผู้คนที่อาศัยอยู่บนชั้นสิบ บนความสูงที่แทบจะใกล้เคียงกับมวลเมฆ อุดมไปด้วยพลังงานทางจิตวิญญาณ หากอาศัยอยู่ในสถานที่แบบนี้ตลอดทั้งปี กระทั่งรุ่นเยาว์ที่ยังไม่ถูกปลุกพลัง ก็ยังสามารถฝึกฝนวรยุทธโบราณได้

ภายในโรงแรมหรูชั้นนำ มีงานเลี้ยงถูกจัดขึ้นเป็นพิเศษ

กระทั่งในเมืองหลวงมังกร หากคิดรวบรวมบรรดาเลเวล A ให้มาเข้าร่วมงานเลี้ยงได้มากมายขนาดนี้ ยังแทบเป็นไปไม่ได้

เพราะท้ายที่สุดแล้ว เลเวล A อย่างไรมีศักดิ์เป็นอันดับต้นๆของเมืองหลวงมังกร

แต่ตอนนี้ คนเหล่านี้กลับพร้อมใจกันมาที่นี่ และทั้งหมดเป็นเพราะคำเชิญจากคนๆเดียว

–ฉินเฟิง!

ในช่วงสามวันที่ผ่านมา ฉินเฟิงได้รายงานข้อมูลในมิติล่มสลายของเผ่าวิญญาณ ถ่ายทอดไปยังหัวเซี่ย (ชื่อประเทศจีนโบราณ) ของพันธมิตรมนุษยชาติ ซึ่งกระทั่งเมืองหลวงมังกร ผู้เป็นเจ้าของหอคอยประตูมังกรมานานหลายปี ก็ยังไม่ทราบถึงข้อมูลของเขา

ลูกรักของพระเจ้าจากเผ่าพันธุ์ต่างๆถูกส่งเข้าไปต่อสู้ , อ่อนแอที่สุดอยู่ในเลเวล C , ความแข็งแกร่งของวิญญาณต่างมิติ , วิกฤตยามค่ำคืน , ดวงดาวศักดิ์สิทธิ์ และเงื่อนไขว่าสามารถอยู่ได้สูงสุดแค่ 15 วัน ทุกสิ่งล้วนถือเป็นข้อมูลล้ำค่า

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ เมนูหลักย่อมหอมหวานกว่าเมนูรอง และมันกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว!

ฉินเฟิงกำลังจะเปิดเผยสิ่งที่เขาได้รับมา ดังนั้นเชื้อเชิญผู้คน และสิ่งเหล่านี้ ไม่ต้องบอกก็คงพอรู้ว่ามันมีมูลค่ามากมายขนาดไหน!!