ตอนที่ 321 : สวรรค์ให้ทางเดินกับนายแล้วแต่นายไม่ไปเอง…
ในห้องประชุมสีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปมาก!
หลังจากนั้นก็เริ่มพูดคุยกัน!
“พระเจ้า! เมอร์เซเดสเบนซ์ต้องการที่จะหยุดความร่วมมือกับเราจริงๆใช่ไหม?”
“คราวนี้แย่แน่!”
“ไม่ซีเรียสเบนซ์เป็นลูกค้ารายใหญ่ที่มีคุณภาพสูงอย่างแท้จริง กําไรของทั้งปีที่แล้วที่มาจากพวกเขาก็มากถึง 30%!”
“ฟ่านเหมา เจ้าบ้า! แกทําอะไรลงไป?!”
“ฟ่านเหมา ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้! ถ้าเราเสียเมอร์เซเดส เบนซ์ไปเมื่อไหร่แกตายแน่!”
เหล่าผู้บริหารและผู้จัดการนับไม่ถ้วนพากันจับจ้องไปที่ฟ่านเหมา
ฟ่านเหมาตกตะลึง
พระเจ้า!
การล่วงเกินประธานบริษัทเมอร์เซเดสเบนซ์มันส่งผลร้ายแรงขนาดนี้เลยหรอ!?
หลังจากผ่านการทบทวนอยู่ครึ่งเดือน ในที่สุดพวกเขาก็ลงมือ!
มันคือการฆ่ากันชัดๆ!
“ผมต้องขอโทษจริงๆ! ประธานเควิน! เป็นความผิดของผมเองที่ไม่เข้มงวดกับลูกน้องของผม! ผมหวังว่าคุณจะให้โอกาสผมได้พิสูจน์ตัวเอง”
เว่ยเฉิงเหรินจ้องไปที่ฟ่านเหมาอย่างเย็นชาและอยากฆ่าก่อนจะพูดออกมาว่า “ฟ่านเหมา! นายต้องขอโทษประธานเควินเดี๋ยวนี้! ถ้าประธานเควินไม่ให้อภัยนาย นายคงรู้ผลที่จะตามมาดีนะ!”
เสียงของเว่ยเฉิงเหรินนั้นชัดเจนมาก!
ฟ่านเหมายืนขึ้นด้วยความตื่นตระหนกและเริ่มขอโทษเควิน
“ผมต้องขอโทษจริงๆครับประธานเควิน มันเป็นความผิดของผมเอง ตอนนั้นผมตาบอดเองที่ออกไปยืนอยู่ข้างยัยผู้หญิงไร้สมองฟ่านเหม่ยอิง ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะมุ่งเป้าไปที่เมอร์เซเดสเบนซ์ของคุณกับคุณวอร์เลนจริงๆครับ….ผมแค่ต้องการมุ่งเป้าไปที่น้องชายคนนั้น ”
“แก!!”
ใครจะไปคิดว่าการที่เลือกให้ฟ่านเหมานั้นนั่งหุบปากอยู่เงียบๆแล้วมันจะดีกว่า เพียงแค่เขาพูดถึงคนที่เขาเรียกว่า “น้องชาย” มันก็ทําให้เควินโกรธจนสติหลุดทันที
เควินพูดออกมาเสียงดัง “นายรู้รึเปล่าว่าการที่นายทําให้วอร์เรนกับฉันขุ่นเคือง นายยังหาทางให้พวกฉันให้อภัยได้ แต่สุภาพบุรุษคนนั้นเป็นแขกของเรา เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติที่สุดของเรา แล้วนายก็ทําให้เขาขุ่นเคืองเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่อาจยกโทษให้ได้!!!”
ฟ่านเหมาหน้าซีดกว่าเดิม 5 เท่า!
ตกตะลึง!
พระเจ้า
ใครจะไปคิดว่าเหตุผลจริงๆที่ทําให้เควินโกรธจะเป็นเพราะน้องชายคนนั้น?
และนั่นก็คือ…. คุณเจียง?
เมื่อเห็นแบบนี้เว่ยเฉิงเหรินก็โกรธยิ่งกว่าเดิมและเตะฟ่านเหมาออกไป!
“อย่างไรก็ตามคุณเควิน ผมต้องขอโทษจริงๆ ผมจะไล่ไอ้สารเลวนี้ออกทันที! ดังนั้นได้โปรดอย่ายุติความร่วมมือระหว่างเราเลยนะครับ”
เควินพูดอย่างเย็นชา “ไม่ทันแล้ว ความร่วมมือระหว่างเรากําลังจะสิ้นสุดลงแล้ว!”
อุณหภูมิในห้องลดลงห้าองศาในทันที!
ใบหน้าของผู้บริหารและผู้จัดการทุกคนดูน่าเกลียดขึ้นมาทันที!
วิกฤตของธนาคารหัวเซียกําลังจะมาถึงแล้ว!
ในเวลานี้เองเชียงเฉินก็ยืนขึ้นมาและแย่งโทรศัพท์มา
“สวัสดี?”
เจียงเฉินพูดออกมาเพียงแค่ค่าเดียว
เควินที่ได้ยินเสียงก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที “คุณเจียง?”
เจียงเฉินยิมและพูดออกมาอีกคำหนึ่ง “อืม”
เควินเข้าใจได้ในทันที
ถ้าหากเป็นแบบนี้แล้วเขายังไม่เข้าใจเขาจะมีคุณสมบัติอะไรขึ้นมาเป็นประธาน?
เควินยิ้ม “ผมคิดไม่ถึงเลยจริงๆ เอาเป็นว่าการยุติความร่วมมือของเมอร์เซเดสเบนซ์กับธนาคารหัวเซี่ยจะไม่เคยเกิดขึ้น! และเราจะกระชับความร่วมมือกับธนาคารหัวเซี่ยเพิ่มเติมในอนาคตนะครับ!”
ในตอนที่เควินพบว่าเจียงเฉินปรากฏตัวขึ้นที่ปลายสายมันก็ทําให้เขารู้ได้ทันทีว่า
ธนาคารหัวเซี่ยนั้นจะต้องมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับคุณเพียงอย่างแน่นอน
และบางทีมันอาจจะเป็นหนึ่งในธุรกิจของคุณเจียง!
แม้ว่าข้อสรุปนี้จะทําให้เควินต้องประหลาดใจ แต่ด้วยความแข็งแกร่งและความสามารถที่ไม่อาจยังรู้ของเจียงเฉินนั้นได้เคยทิ้งความประทับใจไว้ให้กับเขาแล้ว
ดังนั้นแม้ว่าธนาคารหัวเซี่ยจะเป็นหนึ่งในธุรกิจของเจียงเฉินมันก็ไม่ทําให้เควินตกตะลึงจนเกินไป
อืม~~~
ปัง~~
เควินสะดุดเก้าอี้ล้ม
เลขาสงสัย “ท่านประธานเป็นอะไรไหม?”
“ไม่เป็นไร ฉันแค่คิดเพลินไปหน่อย แค่กๆ~~~”
เควินออกมา
แต่ก็ยังไม่หยุดตกตะลึง!
ในเมื่อมันเป็นแบบนี้เรื่องนี้ก็จะได้รับการแก้ไขทันที!
เว่ยเฉิงเหรินและเหล่าผู้บริหารของธนาคารมองไปที่เจียงเฉินด้วยความเคารพทันที
เจ้านาย!
มีอํานาจใหญ่โตจริงๆ!
ตอนแรกประธานเมอร์เซเดสเบนซ์ ประจําประเทศจีนต้องการที่จะยุติความร่วมมือ
แม้แต่เว่ยเฉิงเหรินก็ไม่อาจหยุดยั้งได้
แม้แต่การไล่ฟ่านเหมาออกก็ไม่ทําให้เรื่อง่ายขึ้น
แต่กับเจียงเฉินล่ะ?
เขาแค่เข้ามารับโทรศัพท์
และพูดเพียงแค่สองคํา!
คําแรก : “สวัสดี?”
คําที่สอง : “อืม!”
แล้ว~~~
เพียงแค่นี้เรื่องทั้งหมดจบลง!
ประธานเควินที่กําลังโกรธอยู่แทนที่จะโกรธต่อไปและยุติความร่วมมือก็เสนอให้กระชับความร่วมมือกับธนาคารหัวเซี่ยเพิ่มเติมทันที!
นี่มันหมายความว่า….
ความสัมพันธ์ระหว่างเจียงเฉินกับเมอร์เซเดสเบนซ์กรุ๊ปนั้นไม่อาจหยั่งรู้ได้!
คุณเจียงคนนี้เป็นคนแบบไหนกัน?
ทําไมบริษัทที่ติดอันดับ 500 อันดับแรกของโลกอย่างเมอร์เซเดสเบนซ์ กรุ๊ปถึงได้สุภาพกับเขาขนาดนี้?
ในใจของเว่ยเฉิงเหรินและผู้บริหารทั้งหมดต่างก็ประทับใจเจียงเฉินเป็นอย่างมาก!
และความเคารพที่มีต่อเจียงเฉินนั้นก็พุ่งสูงขึ้นทันที!
หากพูดถึงก่อนหน้านี้ความรู้สึกเกรงกลัวต่อที่มีต่อเจียงเฉินของเว่ยเฉิงเหรินและผู้บริหารต่างก็มาจากความร่ำรวยและฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของเจียงเฉินเท่านั้น
แต่ตอนนี้
เจียงเฉินสามารถจัดการกับวิกฤติครั้งใหญ่ของธนาคารหัวเซียด้วยการคุยโทรศัพเพียงไม่กี่คํา หลังจากนี้ผู้บริหารของธนาคารหัวเซี่ยต่างก็รู้สึกเกรงกลัวเจียงเฉินจากกันบึงของหัวใจของพวกเขา!
โบกมือให้เจ้านาย!
ยกนิ้วให้!
ในตอนนี้ไม่มีใครคิดแล้วว่าเจียงเฉินนั้นยังคงเป็นเพียงแค่คนหนุ่มที่ไม่เข้าใจเรื่องธุรกิจ!
สายตาของเจียงเฉินกวาดมองไปที่ฟ่านเหมา
ในเวลานี้เองฟ่านเหมาก็ตัวสั่นไปทั้งตัวและหวาดกลัวจนเสียสติ
เขารู้ว่าตัวเองกําลังจะจบสิ้น!
เจียงเฉินพูดออกมาเบาๆ “ฟ่านเหมา คุณทําให้ผมเครื่องก่อนหน้านี้ผมไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก!”
“แต่!”
“พฤติกรรมของคุณทําลายภาพลักษณ์ของบริษัทในใจของลูกค้ารายใหญ่อย่างเมอร์เซเดสเบนซ์กรุ๊ปอย่างรุนแรง และทําให้บริษัทต้องเสียหายอย่างร้ายแรงมาก!”
“คุณควรรับโทษอะไรดี?”
เว่ยเฉิงเหรินที่อยู่ข้างๆก็แทบอดไม่ไหวที่จะเข้าไปเตะฟ่านเหมาซ่ก็พูดออกมาอย่างเคร่งขรึมว่า “ฟ่านเหมา! เนื่องจากความผิดพลาดของนายที่ทําให้บริษัทเกือบต้องสูญเสียลูกค้ารายใหญ่อย่างเมอร์เซเดสเบนซ์กรุ๊ป ถ้าหากคุณเพียงไม่ได้อยู่ที่นี่และจัดการเรื่องนี้ให้ ธนาคารหัวเซียของเราคงต้องประสบความสูญเสียอย่างหนัก! นายกล้าที่จะละเมิดกฎระเบียบของธนาคารอย่างร้ายแรงนายก็ไม่เหมาะสมที่จะอยู่ในบริษัทและเป็นผู้บริหารอีกต่อไป!”
“ไม่!!”
ฟ่านเหมาพยายามดิ้นรน “พวกคุณไล่ผมออกแบบนี้ไม่ได้! ผมไม่ได้ทําอะไรผิด ผมไม่ยอมรับ! เจียงเฉินนายก็แค่ต้องการแก้แค้น!”
เจียงเฉินไม่ได้ตอบกลับอะไรษะ
เหล่าคณะกรรมการและผู้บริหารพากันลุกขึ้น
พวกเขาไม่ชอบฟ่านเหมามานานแล้ว ดังนั้นพวกเขาก็เลยแอบรวบรวมหลักฐานการกระทําที่ผิดกฎหมายและทุจริตของฟ่านเหมาเอาไว้
แต่อย่างไรก็ตามฟ่านเหมานั้นก็ได้ทํางานของตัวเองอย่างราบรื่นมาโดยตลอดดังนั้นประธานคณะกรรมการและผู้บริหาร ต่างก็ไม่กล้าที่จะไล่เขาออก
แต่ในตอนนี้เจียงเฉินที่เป็นประธานคนใหม่บดขยี้ฟ่านเหมาและตอนนี้ฟ่านเหมานั้นก็ไม่มีที่ให้ถอยอีกแล้ว
ประธานคณะกรรมการมองดูเขาอย่างเย็นชา
“ลองดูหน่อยมั้ย?”
“นี่ไง เอาไปดูสิ!”
ประธานคณะกรรมการผู้บริหารพูดออกมาอย่างเด็ดขาดว่า “ฟ่านเหมา นายฉวยโอกาสจากตําแหน่งรองประธาน ผและใช้ชื่อของบริษัทเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว! แถมนายยังยักยอกเงินของธนาคารแล้วโอนเงินออกไปภายใต้ชื่อของเงินกู้ไปยังบัญชีของบริษัทแห่งหนึ่งเพื่อฟอกเงินสดผ่านคาสิโนในลาสเวกัส!”
หลักฐานชิ้นนี้ทําให้ฟ่านเหมารู้สึกตื่นตัวเราก็ถูกสายฟ้าฟาดใส่~~~
“ผม……….”
ฟ่านเหมายืนขึ้นอย่างตื่นกลัว
เนื่องจากหลักฐานชิ้นนี้มัดตัวเขาแน่นมาก!
น่าสงสาร~~~
เจียงเฉินมองเขาอย่างเย็นชา
ความเย่อหยิ่งของไม่ไปไหนแล้วล่ะ?
“แจ้งตํารวจ!”
เว่ยเฉิงเหรินมองไปที่เฉินและตัดสินใจอย่างเด็ดขาด “หลักฐานทางคดีอาญาของฟ่านเหมาจะต้องถูกส่งไปให้ตํารวจโดยเร็วที่สุด ในฐานะประธานฉันจะต้องเอาเรื่องเขาให้ถึงที่สุด!”
เจียงเฉินยิ้มออกมา
ดูเหมือนว่าเว่ยเฉิงเหรินจะฉลาดมากพอที่จะหาวิธีการจัดการที่ดีได้ในเวลาสั้นๆ
ในเวลานี้เองที่ด้านนอกอาคาร
รถ BMW คันหนึ่งขับเข้ามาจอดที่หน้าประตู
และคนที่ขับมาก็คือฟ่านเหม่ยอิงเธอลงมาจากรถและแค่นลมหายใจอย่างเย็นชา ก่อนจะเดินเข้าไปในธนาคารหัวเซี่ยแล้วโวยวายไปทั่วราวกับที่นี่เป็นบ้านของเธอเอง
วันนี้ฟ่านเหม่ยอิงมาที่ธนาคารหัวเซี่ยเพื่อมาพบฟ่านเหมาเพื่อที่จะกู้เงิน
ช่วงนี้บริษัทของเธอนั้นไปได้ไม่ดีเท่าไหร่และกําลังประสบปัญหาทางการเงินและต้องการเงินกู้อย่างเร่งด่วน!
แต่ว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วนในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา
และฟ่านเหม่ยอิงนั้นก็ใช้ธนาคารหัวเซี่ยราวกับเป็นตู้เอทีเอ็มส่วนตัวของเธอ เมื่อเธอไม่มีเงิน เธอก็จะมาถอนเงินที่นี่
ฟ่านเหมานั้นเป็นรองประธานและด้วยความช่วยเหลือจากเขาเงินที่เธอกไปยังจะจําเป็นต้องชําระคืนด้วยหรอ?
ดังนั้นยอดหนี้ของเธอนั้นจึงขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง!
ฟ่านเหม่ยอิงเดินพุ่งเข้าไปในธนาคารเพื่อทําเรื่องกู้เงิน
“ฮึ่ม! ทุกครั้งฝ่านเหมาจะมาจัดการเรื่องนี้ให้ฉันให้ฉันดังนั้นฉันต้องไปหาเขาก่อน”
ฟ่านเหม่ยอิงเยาะเย้ยในใจ
เธอจึงเดินเข้าไปในธนาคารแล้วถามกับพนักงานทันทีว่า “ฟ่านเหมาทําอะไรอยู่?
คําตอบ “ประธานฝ่านกําลังประชุมอยู่ค่ะ”
ฟ่านเหม่ยอิงที่ได้ยินแบบนั้นก็ไปนั่งรอ
แต่สุดท้าย~~~ ด้วยความที่เธอนั้นขับรถมาเป็นเวลานานทําให้เธอรู้สึกใจร้อน
จากนั้นฟ่านเหม่ยอิงจึงเดินขึ้นไปชั้นบนทันที
พนักงานที่เห็นก็ถึงกับอึ้ง~~~
เธอเป็นใครกัน?
เธอไม่ใช่คนของธนาคารไม่ใช่หรอ?
แล้วเธอกล้าดียังไงถึงบุกขึ้นไปข้างบนแบบนี้? นี้จะมี
“ขอโทษนะคะ ที่นี่คือห้องประชุมและกําลังมีการประชุมกันอยู่เข้าไปได้!”
ฟ่านเหม่ยอิงหยิ่งยโสมาก “ฉันเป็นเพื่อนของรองประธานฟ่านเหมา เธอคิดจะหยุดฉันหรอ? ออกไปให้พ้น!”
เธอผลักพนักงานคนนั้นออกไปและบุกเข้าไปในห้องประชุมทันที
เมื่อเธอเข้าไปในห้องประชุมแล้วเธอก็ตะโกนออกมาเสียงดัง
“ฟ่านเหมา! ออกมาเดี๋ยวนี้! ฉันต้องการกู้เงิน!”
แล้ว~~~
เมื่อเธอมองเข้าไปแว็บแรก เธอก็เห็นเจียงเฉินที่กาลังนั่งอยู่บนที่นั่งของประธาน..
ฟ่านเหม่ยอิงตกตะลึง!
พระเจ้า!
มันเป็นไปได้ยังไง?
ทําไมคนทําธุระนั่นถึงได้ไปนั่งอยู่ที่ตําแหน่งของประธานธนาคารหัวเซี่ย?
แน่นอนว่าเธอนั้นไม่คิดว่าเจียงเฉินจะมาทําธุระที่นี้อย่างแน่นอน!
ตอนนี้มีเพียงความเป็นไปอย่างเดียวเท่านั้นคือเธอนั้นคิดไปเอง!
ฟ่านเหม่ยอิงตัวสั่นด้วยความตื่นกลัว
“กู้เงินงั้นหรอ?”
เจียงเฉินหันไปหาฟ่านเหม่ยอิงและยิ้มออกมา
ยินดีด้วย!
เธอทําให้ฉันสนใจสําเร็จแล้ว!
“เรื่องมันเป็นยังไง?”
เจียงเฉินหันไปถามเว่ยเฉิงเหริน
เว่ยเฉิงเหรินหันไปมองที่ฟ่านเหมาด้วยความโกรธ “นี่มันเกิดอะไรขึ้น!?”
ฟ่านเหมาตัวสั่นด้วยความกลัว “นี่… ผู้หญิงคนนี้… เธอ….เธอ… เป็นลูกค้าของเราครับ!”
“ลูกค้างั้นหรอ?”
เจียงเฉินเยาะเย้ย “ลูกค้าที่ไหนถึงกล้าบุกเข้ามาในห้องประชุมแบบนี้? ธนาคารให้เธอยืมเงินไปเท่าไหร่เอาข้อมูลออกมาดู!”
ทันใดนั้นก็มีคนหยิบสมุดโน็ตออกมา
“ลูกค้ารายนี้มีชื่อว่าฟ่านเหม่ยอิง เธอได้ทําการกู้ยืมเงินเราไปแล้วถึง 30 ล้านหยวนจากการถึง 23 ครั้ง! แต่จนถึงตอนนี้เธอกับไม่เคยจ่ายเงินแม้แต่นิดเดียว! ไม่มีแม้แต่ดอกเบี้ย! และฟ่านเหมาก็ใช้ตําแหน่งของตัวเองปกปิดเรื่องของเธอมาโดยตลอด!”
หลังจากทําการสอบสวนฟ่านเหมากับฟ่านเหม่ยอิงก็คุกเข่าลงบนพื้น!
เสียใจ!
ถ้ารู้แต่แรกเธอคงไม่บุกเข้ามาที่นี่!
นี่มันไม่ใช่การเข้ามาเพื่อฆ่าตัวตายงั้นเหรอ?
ฟ่านเหม่ยอิงได้แต่เสียใจกับตัวเอง
“ไม่ ไม่ ฉันไม่ได้เข้ามา วันนี้ไม่มีใครเห็นฉัน ฮ่าฮ่า ” ฟ่านเหม่ยอิงพูดออกมาแล้วหันหน้าหนีไปทันที
เจียงเฉินพูดอย่างเย็นชา “ฉันไม่ได้เป็นพระอะไร ดังนั้นฉันก็จะไม่เมตตากับเธอ!”
“ดังนั้นหยุดให้เธอกู้ทันที!”
“แล้วก็ทําการขึ้นบัญชีดําเธอด้วย!”
“แล้วก็อย่าลืมแจ้งฝ่ายกฎหมายให้เริ่มมาตรการณ์ทวงหนี้! แล้วก็ทําการส่งฟ้องศาลทันที!”
“ฉันต้องการให้เธอจ่ายเงินคืนทันที 30 ล้านพร้อมดอกเบี้ย!”
ฟ่านเหม่ยอิงล้มลงกับพื้นอย่างแรง
30 ล้าน?
โดยทันที?
เธออยากจะร้องไห้ออกมาแต่ก็ไม่มีน้ำตา!
เธอจะไปมีเงิน 30 ล้านได้ยังไง?
นี่มันไม่ได้เป็นการฆ่าฉันเลยงั้นเหรอ?
ฟ่านเหม่ยอิงร้องไห้และเริ่มโวยวายออกมา “เจียงเฉิน นายรังแกกันเกินไปแล้ว! ฉันจะไปมีเงิน 30 ล้านได้ยังไง ฉันไม่มีเงิน! แล้วฉันก็ไม่จ่ายด้วย!”
เจียงเฉินยิ้มออกมา “แต่มันก็เป็นเรื่องปกติสําหรับการจ่ายหนี้!”
“ด้วยหลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมด มันง่ายมากที่จะส่งฟ้องศาลและชนะคดี!”
“ถ้าคุณไม่จ่าย ศาลก็จะขึ้นบัญชีล้มละลายให้กับคุณและคุณก็จะถูกขึ้นบัญชีดําไปตลอดชีวิต!”
“ในอนาคตคุณก็จะไม่สามารถขึ้นเครื่องบินได้ ส่วนบ้านแล้วก็รถทั้งหมดก็จะถูกตรวจสอบและถูกยึด!”
“อะไรนะ!?”
ฟ่านเหม่ยอิงล้มลงกับพื้น
ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเจียงเฉินทรงพลังแค่ไหน?
ในเวลานี้เองเว่ยเฉิงเหรินก็พูดออกมาอย่างเย็นชา “นี้คือประธานธนาคารหัวเซี่ยของเรา! เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด! การที่คุณทําให้เขาขุ่นเคืองเป็นสิ่งที่คุณคิดผิด!”
ฟ่านเหม่ยอิงมองไปที่เจียงเฉินด้วยความหวาดกลัว “ไม่! เขาจะไปเป็นประธานของธนาคารได้ยังไงกัน? ก่อนหน้านี้ฉันยังเห็นเขาเป็นคนทําธุระอยู่เลย? เป็นพวกคนชั้นล่างของสังคม!”
“ผมขอแทรกก่อนนะ!”
เว่ยเฉิงเหรินพูดด้วยความโกรธ “อะไรคือพวกชั้นล่างของสังคม? ผมว่าคุณต่างหากที่เป็นคนชั้นล่างสังคม!”
ฟ่านเหม่ยอิงมองไปที่เจียงเฉินอย่างไม่พอใจก่อนจะเริ่มวิ่งหนีออกไป