ตอนที่ 322 : ใครให้ความมั่นใจนั้นกับเธอกัน?

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ

ตอนที่ 322 : ใครให้ความมั่นใจนั้นกับเธอกัน?

“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮก”

ฟานเหม่ยอิงแทบจะหายใจไม่ทัน…..

ในที่สุดเธอก็วิ่งหนีออกมาได้

แม้ว่าเจียงเฉินจะให้ธนาคารยุติการให้กู้กับเธอและยื่นฟ้องเธอและฟานเหม่ยอิงก็ถึงกับต้องสั่นสะท้านด้วยความกลัวแต่ฟานเหม่ยอิงยังมีชีวิตอยู่ดังนั้นมีหรือที่เธอจะไม่สามารถอยู่ต่อในวันพรุ่งนี้ได้?

เจียงเฉินแกหยิ่งนักใช่ไหม!

แม้ว่าฉันจะทําให้แกขุ่นเคืองและไม่สามารถยืมเงินจากธนาคารหัวเซียได้อีกแต่ทั้งเมืองหลวงนี้ไม่ได้มีแค่ธนาคารหัวเซี่ย!

สูดอากาศ!

ฉันจะกู้เงินจากที่อื่นไม่ได้เลยรึยังไง?

ฟานเหม่ยอิงภูมิใจกับสติปัญญาของตัวเอง!

ฉันฉลาดจริงๆ

ในเมื่อฉันร่วมมือกับธนาคารหัวเซียไม่ได้งั้นก็ไม่ต้อง!

ฉันก็แค่ไปกู้เงินจากที่อื่นก็พอ!

ฟานเหม่ยอิงไปยังธนาคารอีกแห่งหนึ่งที่เป็นที่รู้จักในเมืองหลวง

ในธนาคารนี้มีเพื่อนของฟานเหม่ยองเป็นผู้บริหารอยู่ฉันและเธอนั้นก็จะใช้ประโยชน์จากงานที่เธอทําอยู่(บริษัทของฟานเหม่ยอิงนั้นทําเกี่ยวกับการแสดงสินค้าซึ่งต้องมีนางแบบ)ทําการติดสินบนเขาด้วยสาวสวย

เมื่อผู้บริหารคนนั้นได้พบกับฟานเหม่ยอิงและได้ยินว่าเธอนั้นต้องการที่จะกู้เงินเขาก็ดูเหมือนจะไม่เต็มใจ

ฟานเหม่ยอิงพูด “ถ้านายช่วยฉันกู้เงินได้ในอนาคตฉันจะหาโอกาศทําให้นายได้เลื่อนขั้น!”

ตาของผู้บริหารคนนั้นเป็นประกายทันที

แต่ใครจะรู้ –

เมื่อผู้บริหารคนนั้นตอบตกลงว่าจะให้เธอกู้เงินได้ไม่นานเลขาของเขาก็เข้ามาแล้วพูดว่า “ไม่ดีแล้ว!บริษัทจัดงานของฟานเหม่ยอิงเพิ่งจะถูกพาดหัวข่าวและเรื่องอื้อฉาวก็ถูกขุดออกมาเต็มไปหมดอย่างเรื่องที่เธอจัดนางแบบของเธอไปให้นักธุรกิจเพื่อติดสินบนแถมยังมีคลิปวิดีโอของนักธรกิจพวกนั้นหลุดออกมาไม่น้อยเลยด้วยครับ!”
“อะไรนะ?”

ผู้บริหารคนนั้นถึงกับตกตะลึงและหลั่งเหงื่อเย็นออกมาะ

พระเจ้า

ฟานเหม่ยอิงเป็นตัวอันตรายขนาดนี้เลยหรอ?

ถ้าหากเรื่องที่เขาปล่อยให้เธอกู้เงินหลุดออกไปมันจะเกิดอะไรขึ้น?

นี่ไม่ได้เป็นการฆ่าตัวตายงั้นเหรอ?

สีหน้าของผู้บริหารคนนั้นเปลี่ยนไปทันที่เขาพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมาว่า “เนื่องจากบริษัทของคุณเต็มไปด้วยเรื่องอื้อฉาวดังนั้นความร่วมมือระหว่างเราคงต้องยุติลงและการกู้ยืมก็คงไม่สามารถทําต่อได้แล้ว!”

เขาออกคําสั่งทันที

ธนาคารยุติทุกอย่างลงอย่างรวดเร็วไม่เพียงแต่พวกเขาหยุดให้กู้ยืมแต่พวกเขายังต้องการเงินกู้คืนและเรียกร้องค่าเสียหายด้วย!

ฟานเหม่ยอิงกระอักเลือดออกมา!

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?

ทําไมถึงมีวิดีโอหลุดออกมา?

เธอรู้สึกโกรธมากและรีบเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาทันที

แน่นอนว่าหลังจากคนถามไม่นานก็เจอพาดหัวข่าวปรากฏขึ้นมา “บริษัทยิ่งเค่อเกิดเรื่องอื้อฉาว!สามารถดูได้ในวีดีโอ!”

ฟานเหม่ยอิงกดเข้าไปดูด้วยความตกตะลึง!

ไม่นานวิดีโอก็เล่นและแสดงให้เห็นภาพที่เธอนั้นใช้นางแบบของตัวเองเพื่อติดบนคนรวยและคนที่มีอํานาจและในตอนนี้วิดีโอแบบนี้ก็แพร่ออกไปทั่ว!

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

ฟานเหม่ยอิงเต็มไปด้วยความคับข้องใจและสุดท้ายเธอก็โกรธจนกระทั่งเป็นลมไป

เจียงเฉินยิ้มออกมาโดยที่ไม่ได้พูดอะไร

แน่นอนว่าการโจมตีครั้งนี้มันโหดเหี้ยมมาก!

บริษัทรักษาความปลอดภัยเทียนเฉินได้ทําการแอบเข้าไปในบริษัทของฟานเหม่ยอิงอย่างง่ายดายและนําวิดีโอพวกนั้นมา

แล้วหลังจากนั้นก็นําวิดีโอนั้นส่งไปให้บริษัทโถวเดียวที่อยู่ภายใต้เจียงเฉิน

และหลังจากนั้นไม่นานชื่อของฟานเหม่ยอิงก็กลายเป็นคําค้นหายอดนิยม

ในเวลานี้ใบหน้าของฟานเหม่ยอิงเต็มไปด้วยความด่ามืดและโทรศัพท์มือถือของเธอนั้นก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง

เธอรับโทรศัพท์

“เพื่อน” ของเธอคนหนึ่งที่เป็นคนมีตําแหน่งสูง“เธอทําอะไรลงไป! ทําไมถึงได้มีวิดีโอของฉันหลุดออกไปแบบนี้!!”

“ไม่นะ คุณชิว ฟังคําอธิบายของฉันก่อน”

ฟานเหม่ยอิงกําลังจะร้องไห้ออกมา

“เธอรู้ไหมว่าเธอทําให้ฉันล่ามากแค่ไหน!”

นายชิวไม่ได้สนใจค่าอธิบายของเธอ“ตอนนี้ฉันกําลังจะจบแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปความสัมพันธ์ของพวกเราไม่มีอีกต่อไป!”

โทรศัพท์วางสายไปแล้ว

ฟานเหม่ยอิงกําลังอึ้งและไม่นานก็มีสายที่ส่องเข้ามา

เป็นคนใหญ่คนโตอีกคน

“บัดซบ! เธอกล้าดียังไงถึงส่งคนมาแอบถ่ายฉัน?!ฉันตอบรับคําขอร้องจากเธอแต่สุดท้ายเธอกับถ่ายวิดีโอฉันไว้!ตอนนี้ฉันต้องมาทะเลาะกับภรรยาของตัวเองแล้วเธอก็กําลังจะอยากฉัน!! นังบ้า!รอฉันก่อนเถอะ!”

ฟานเหม่ยอิง “…”

ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรโทรศัพท์ก็วางสายไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่วิดีโอรั่วไหลออกไปเราคนใหญ่คนโตที่มีชื่อเสียงอาชีพการงานที่ดีก็เริ่มมีปัญหาครอบครัวของพวกเขาแตกหักพวกเขาจึงมาคํารามและข่มขู่ใส่ฟานเหม่ยอิง

ฟานเหม่ยอิงร้องไห้อย่างหนัก!

นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น?

ไม่รู้ไม่เข้าใจ!

และหลังจากนั้นบริษัทยิ่งเค่อของฟานเหม่ยอิงก็ถูกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาปิดอย่างรวดเร็ว

และฟานเหม่ยอิงก็ล้มละลาย

อย่างไรก็ตามธนาคารหัวเซียและธนาคารอื่นๆ ก็ไม่ได้หยุดแต่พวกเขายังไล่ตามทวงหนี้อยู่
ทั้งรถหรและคฤหาสน์ของฟานเหม่ยอิงถูกนําไปขายเพื่อชําระหนี้ของเธอ

น่าสงสาร

แต่มันก็ยังไม่สิ้นสุดเท่านี้เพราะฟานเหมาก็ยังต้องรับผิดชอบกับธนาคารหัวเซี่ยที่ได้เรียกร้องค่าเสียหายของบริษัท

ต้องขายทั้งบ้านและรถหรู
ฟานเหม่ยอิงและฟานเหมาได้แต่นั่งอยู่กับพื้นด้วยความน่าสังเวชและไม่สามารถตีกลับขึ้นมามีชีวิตที่ดีได้อีกเลย!

เจียงเฉินพอใจและพยักหน้า

นี่แหละผลลัพธ์ที่เขาต้องการ

และสิ่งต่างๆก็จะจบลง

สบายใจNN

ในช่วงบ่ายเจียงเฉิงได้ไปทําธุระต่อ

มีคนต้องการสั่งชานมให้ไปส่งที่สตูดิโอแห่งหนึ่ง

เจียงเฉินก็รีบไปซื้อชานมและขับรถตรงไปที่สตูดิโอนั้น

และในสตูดิโอนั้นก็กําลังมีการประชุมกันอยู่

เมื่อมาถึงเจียงเฉินก็ไม่ต้องการที่จะรอเป็นเวลานานเข้าจึงผลักประตูเข้าไปทันที

ในห้องประชุมนั้นก็กําลังมีคนโกรธจัด

ปัง!

บทเล่มหนาๆถูกกระแทกลงบนโต๊ะ
ผู้หญิงคนหนึ่งที่แต่งตัวดีและดูมีอํานาจมากกําลังโกรธจนกระแทกบทลงบนโต๊ะและตะโกนอ อกมาว่า “ดูสิ ดู! ตอนนี้ฉันมีบทแค่กี่ฉาก!”

เธอยืนขึ้นและถามคนเขียนบทด้วยความโกรธ “ทําไมพวกคุณถึงเปลี่ยนบท? ฉันเป็นนางเอกนะ! ทําไมพวกคุณถึงเพิ่มบทให้นางรองแบบนี้!?”

คนเขียนบทเองก็ไม่อยากจะใส่ใจเขาพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “ทําไมคุณถึงต้องคิดเรื่องการเปลี่ยนบทขนาดนั้น?”

“เพียงแค่วางใจในปากกาและฝีมือของฉันก็พอแล้ว”

“ก็ได้!”

ดาราสาวเยาะเย้ยออกมา “ถ้าอย่างนั้นก็เขียนไปเถอะ เพราะฉันไม่เล่นแล้ว!”

คนเขียนบทและผู้กํากับต่างตกตะลึงกับความเย่อหยิ่งของดาราสาว –

พระเจ้า! ถ้าจะหยิ่งขนาดนี้ไม่ไปอยู่บนสวรรค์ไปเลยล่ะ!

ดาราสาวชี้ไปที่นางรองและพูดออกมาว่า “ฉันเป็นนางเอก! วันนี้ฉันได้เห็นบทแล้วและฉันจะไม่มีวันยอมรับบทของเรื่องนี้เด็ดขาด!”

“และนอกจากนี้ฉันถูกเลือกมาจากผู้บริหาร แต่หานซูหยานถูกพวกนายเลือกมา!”

ดาราสาวพูดด้วยความโกรธ “คนที่มาทีหลังทําไมถึงได้มีบทมากกว่าฉัน!”
และคนที่กําลังโดนดาราสาวดุด้วยความโกรธเคืองก็คือ

หานซูหยาน!

ใช่แล้วเธอก็คือสาวสวยหานซูหยานที่เคยได้แสดงร่วมกับเจียงเฉินในเรื่อง “ท่านประธานเผด็จการได้โปรดอย่ามายุ่งกับฉัน!”

ในเวลานี้เองดวงตาที่สวยงามของหานซูหยานก็เต็มไปด้วยน้ําตาเธอนั่งอยู่ข้างๆอย่างเจ็บปวด (T_T)ow

แม้แต่ผู้กํากับก็ไม่กล้าพูดอะไร

เพราะดาราสาวคนนี้เป็นนางเอกแถวหน้าที่พึ่งได้รับความนิยม-เซี่ยจื่อถง เธอนั้นได้รับเลือกโดยนักลงทุนเป็นการส่วนตัว!

แม้ว่าเซี่ยจือถงจะถูกตั้งคําถามมาโดยตลอดตั้งแต่ที่เธอนั้นเข้ามาในวงการ ทั้งเรื่องของทักษะการแสดงและการแสดงออกที่รุนแรงของเธอแต่สิ่งที่ไม่ต้องสงสัยเลยก็คือเธอนั้นเป็นคนที่มีทรัพยากรที่ดีที่สุดและบทที่ยอดเยี่ยมที่สุด

เพราะนับตั้งแต่ที่เธอเข้ามาในวงการเธอนั้นก็ได้เล่นเป็นนางเอกทันที!

ไม่มีใครรู้ว่าเธอทําได้อย่างไร? แต่สิ่งหนึ่งที่คนรู้ดีก็คือเธอนั้นเป็นคนที่หยิ่งผยองมาก!

เซี่ยจื่อถงมุ่งเป้าไปที่หานซูหยานเธอทั้งกล่าวหาและต่อว่าหานซูหยานด้วยเหตุผลนานานับประการที่เธอนั้นสามารถคิดได้

ในเวลานี้เองเจียงเฉินก็เดินเข้ามาพร้อมกับชานม

“ใครเป็นคนสั่งชานมครับ? ผมเป็นคนทําธุระ”

เซี่ยจือถงไม่ได้มองเธอแค่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชาก่อนจะเปิดปากพูดออกมาว่า “ดูตัวเองสินายมาสายแค่ไหนกันไปทําธุระถึงไหนมา?!”

จากนั้นเธอก็หันไปดผู้ช่วยอีกครั้ง “คนๆนี้มาช้าทําไมเธอไม่ลองให้คําวิจารณ์แย่ๆกับเขาล่ะแล้วก็ช่วยรีบๆไล่เขาออกไปด้วย”

เจียงเฉินยิ้มและพูดออกมาอย่างสุภาพ “คุณหนู คุณดูเหมือนสุนัขจริงนะๆเปิดปากออกมาทีไรก็เหม็นตลอดไม่รู้ว่าพ่อแม่ของคุณสอนให้เป็นคนได้ยังไง”

คําพูดของเจียงเฉินทําให้เซี่ยจื่อถงหายใจไม่ออก!

เธอพูดออกมาด้วยความโกรธจัด “นายพูดว่าอะไรนะไอ้คนจรจัดกล้าดียังไงมาพูดถึงพ่อแม่ของฉันนายอยากตกงานใช่ไหม!”

เธอชี้ไปที่ใบหน้าของเจียงเฉินด้วยความโกรธ

แต่หานซูหยานกลับต้องประหลาดใจเมื่อเธอได้เห็นเจียงเฉิน

อะไรกัน? เป็นเขางั้นเหรอ?

ทําไมเขาถึงมาปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีก?

นับตั้งแต่ที่แยกกับเจียงเฉินไปงานในวงการของหานซูหยานนั้นก็ไม่ค่อยราบรื่นนัก

แม้ว่าการแสดงร่วมกับเจียงเฉินในหนังเรื่อง“ท่านประธานเผด็จการได้โปรดอย่ามายุ่งกับฉัน”จะทําให้หานซหยานนั้นเป็นที่นิยมขึ้นมาทันที

ทําให้หานซูหยานเปลี่ยนจากนักแสดงรองกลายมาเป็นนางเอก

แต่…..

สําหรับวงการบันเทิงนั้น

ตราบใดที่ไม่มีโอกาสมากพอความนิยมก็จะลดลงในเวลาไม่ช้า
หลังจากหนังเรื่อง “ท่านประธานเผด็จการได้โปรดอย่ามายุ่งกับฉัน”จะทําให้บริษัทลงทุนหลิงหยุนเธอเป็นอย่างมากและให้ทรัพยากรกับเธอแต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทําให้หานซูหยานนั้นไม่ค่อยมีสมาธิอยู่กับตัวเอง มันทําให้เธอนั้นเอาแต่คิดฟุ้งซ่านระหว่างการแสดงและเกิดความผิดพลาดเล็กน้อยๆอยู่เป็นประจํา

และหลังจากนั้นมันก็ทําให้บริษัทภาพยนตร์ให้ความสนใจกับหานซูหยานน้อยลง

ดังนั้นความนิยมของหานซูหยานจึงค่อยๆลดลงจนเธอกลับมาเป็นนักแสดงรองและได้เล่นเพียงแค่บทบาทของนางรองเท่านั้น

และในหนังเรื่อง “เอ้อเอ๋อร์รี่” เรื่องนี้มันเป็นลิขสิทธิ์ของบริษัท Tencent Picture

และเดิมที่หานซูหยานนั้นก็สมควรเป็นนางเอกของเรื่องนี้

แต่!

เซี่ยจือถงนั้นใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้บริหารระดับสูงของ Tencent Picture เพื่อให้เธอได้บทนางเอกแทนที่จะเป็นหานซูหยาน

หานซหยานจึงได้เปลี่ยนมาเล่นบทนางรองโดยที่ไม่สามารถทําอะไรได้

แต่อย่างไรก็ตามเซี่ยจือถงนั้นก็ยังคงไม่พอใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอคิดว่าบทของตัวเองยังดีไม่พอ แต่ในทางกลับกันเธอกลับคิดว่าบทของหานซูหยานนั้นค่อนข้างที่จะโดดเด่นกว่า

ดังนั้นเธอจึงทําให้เรื่องทุกอย่างมันยุ่งยากขึ้นเพื่อจัดการกับหานซูหยานด้วยทุกวิถีทางที่เธอสามารถคิดออก แหละในวันนี้เธอนั้นก็ใช้เรื่องนี้อีกครั้งเพื่อที่จะมีบังคับให้หานซูหยานถูกลดบทลงเพื่อที่จะทําให้ตัวเธอนั้นมีพื้นที่ในการแสดงมากยิ่งขึ้น

น้ําตาที่เต็มไปด้วยความคับข้องใจของหานซูหยานกําลังจะร่วงหล่น

และในเวลานี้เองหานซูหยานก็หันไปเห็นเจียงเฉิน!

ใช่แล้ว!

ในใจของเธอนั้นมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยเธอผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้

ซึ่งนั่นก็คือเจียงเฉิน!

เซี่ยจื่อถงยังคงแสดงความหยิ่งจะส่งออกมาเธอชี้ไปที่หานซูหยาน“ไปเรียกตัวแทนของเธอมา! ไม่ว่ายังไงวันนี้เรื่องนี้ก็ต้องจบ!และถ้าฉันไม่ได้ผลตามที่ฉันต้องการวันนี้ก็ไม่มีใครได้รับอนญาตให้ออกไป!”

แต่ใครจะรู้

ในเวลานี้เองก็มีเสียงดังมาจากข้างหลังของเธอ

“คุณเป็นพวกสร้างปัญหาน่ารําคาญจริงๆ! คิดว่าตัวเองเป็นใคร? เป็นนักแสดงแล้วมั่นใจในตัวเองจนถึงหยิ่งผยองได้ขนาดนี้เลยหรอ?

“แก! แกเป็นใคร?”

เซี่ยจือถงหันกลับไปมอง

เจียงเฉิน!

เมื่อเธอหันกลับมาเธอก็ต้องพบกับใบหน้าที่มีเสน่ห์ของเจียงเฉินที่กําลังยิ้มอย่างชั่วร้าย

“แก แกษณ”

เซี่ยจื่อถงกําลังจะระเบิดความโกรธของเธอออกมา ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยว

และในเวลานี้เอง

โทรศัพท์มือถือของผู้กํากับก็กําลังสั่น

เมื่อผู้กํากับหยิบโทรศัพท์มาดู สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก

“ช่วววว อย่าเพิ่งทะเลาะกัน”

เขารีบรับโทรศัพท์

“ประธานเกาเซียง ทําไมคุณถึงอยากมาที่สตูดิโอล่ะครับ?”

หลังจากที่ฟังไปสักพักสีหน้าของผู้กํากับเขาเปลี่ยนไป “โอเคครับผมจะลงไปเดี๋ยวนี้!”

ผู้กํากับวางสาย

รอยยิ้มบนใบหน้าของเซี่ยจื่อถงกําลังเบ่งบาน –

ในที่สุดมันก็ถึงเวลา

เกาเซียงนั่นเป็นประธานของ Tencent Picture และโชคร้ายที่เขานั้นเป็นผู้สนับสนุนของเซียจ่อถง!

ผู้หญิงคนนี้นับว่ามีผู้สนับสนุนที่ดีมาก!

ตั้งแต่ที่เธอเดบิวต์เข้าวงการเซี่ยจื่อหงก็ได้กลายเป็นนางเอกทันทีตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน

และเกาเซียงนั้นก็ถือว่าเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งในเวลานี้เขามีอายุเพียงแค่ 36 ปีเท่านั้นและเขาก็ได้เป็นประธานของ Tencent Picture!

ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทลูกของ Tencent!

ดังนั้นหลังจากที่เซี่ยจือถงรู้สึกว่าตัวเองนั้นก่าลังถูกกองถ่ายละเลยเธอจึงเรียกให้ผู้สนับสนุนของเธอซึ่งเป็นประธานของบริษัท Tencent Pictureมาให้ความช่วยเหลือกับเธอ!

และสิ่งที่สําคัญนั้นก็คือ Tencent Picture นั้นเป็นผู้ลงทุนหลักของหนังเรื่องนี้

ดังนั้นเมื่อผู้ลงทุนมาถึงที่นี่แล้วมีหรือที่ผู้กํากับทีมงานจะไม่ยอมทําตาม?

เซี่ยจื่อถงยืนขึ้นอย่างหยิ่งผยองก่อนจะชี้ไปที่หานซูหยานและผู้กํากับแล้วย่อยออกมา “พวกนายทําไมเห็นโลงศพก็จะไม่หลั่งน้ําตาสินะพวกนายบังคับให้ฉันต้องทําแบบนี้เอง! ไปหาประธานเกาเซียงกันเลยดีกว่า! หึหึหลังจากที่เขาตัดสินใจดูสิว่าใครจะพูดอะไรได้!”

หานซูหยานเองก็เคยได้ยินมาว่าเซี่ยจื่อถงกับประธานเกาเซียงนั้นมีความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนอ

มันเลยอดไม่ได้ที่ทําให้เธอรู้สึกกังวล

จะทํายังไงดี?

น้ําตาที่เต็มไปด้วยความคับข้องใจค่อยๆเอ่อล้นออกมาจากดวงตาที่สวยงามของหานซูหยาน

เหงื่อเย็นไหลอาบหน้าผาของผู้ก่ากับ

เขาเองก็เคยได้ยินข่าวลือนี้มาเหมือนกัน

เขากลัวว่าเกาเซียงนั้นจะโกรธและลงความโกรธมาที่เขาทั้งหมด

ผู้กํากับปาดเหงื่อก่อนจะพยักหน้าและโค้งคํานับให้เซี่ยจื่อถง “จ่อถงถ้าก่อนหน้านี้ฉันดูแลเธอไม่ดีทําให้เธอคุ้นเคยมาก่อนฉันก็ขอโทษด้วยนะ ฮ่าๆในอนาคตเราควรที่จะมีความร่วมมือที่ดีต่อกันมากกว่านะ!เดี๋ยวฉันจะให้คนเขียนบทเพิ่มบทให้เธอเองให้แบบทวีคูณเลยด้วย!”

“เพิ่งจะรู้ตัวกันเหรอ?”

เซี่ยจื่อถงยืนเชิดหน้า “มันสายเกินไปแล้วล่ะ!”

เธอชี้ไปที่หานซูหยานและพูดออกมาอย่างประชดประชันว่า“วันนี้ฉันจะไม่ปล่อยเธอไปเด็ดขาด! ยัยปีศาจน้อย! กล้าดียังไงมาท้าทายฉัน ฉันจะขอให้ประธานเกาไล่เธอออกจากวงการบันเทิงตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป! ดังนั้นต่อแต่นี้ต่อไปก็อย่าคิด กลับมาปรากฏตัวในวงการนี้อีก!”

หานซูหยานยิ่งรู้สึกกลัวเข้าไปใหญ่

ในเวลานี้เองก็มีมือคู่หนึ่งมาวางอยู่บนไหล่ของเธอ

เป็นเจียงเฉิน!

“ไม่ต้องกลัว”

เจียงเฉินยิ้มออกมา

“พระเจ้าคอยเฝ้ามองการกระทําของทุกคนอยู่ตลอดเขาไม่ปล่อยให้เธอต้องถูกรังแกเกินไปหรอก!”

ขณะที่พูดเจียงเฉินก็มองไปที่เซี่ยจือถง

หานซูหยานก็สะอื่นและร้องไห้ออกมา

ทุกครั้งที่เธอนั้นเจอกับเรื่องยากลําบากเจียงเฉินนั้นก็จะเป็นคนที่มาช่วยเธอตลอด

เคลื่อนไหวไวมาก!

ซื้อNNN

“อะไรนะ นายพูดอะไรนะ?”

เซียจ่อถงตกตะลึงกับคําพูดของเจียงเฉิน!

“นายมันก็แค่คนทําธุระกล้าดียังไงถึงมาพูดกับฉันแบบนี้!”

“แกทําธุระอยู่บริษัทไหนเชื้อไหมว่าฉันสามารถโทรหาประธานของแกแล้วทําให้แกตกงานได้ ทันที!”

เซี่ยจื่อถงพูดออกมาด้วยความโกรธ

ผู้จัดการของเธอก็ไอออกมาอยู่ข้างๆ“รื่อถงประธานเกากําลังจะถึงแล้วนะ ระงับอารมณ์หน่อยอย่าหลุดตัว”

“ซึ่ม!”

เซี่ยจือถงนึกขึ้นได้ว่าต่อหน้าเกาเซียงนั้นเธอจะต้องแกล้งเป็นคนน่าสงสารและถูกรังแกดังนั้นตอนนี้เธอได้แต่อดกลั้นเอาไว้ก่อน

“แล้วก็นะ!”

เซี่ยจื่อถงยิ้มอย่างเย็นชาและชี้ไปที่เจียงเฉินก่อนจะพูดกับหานซูหยานว่า “เธอไม่ได้เป็นนาง เอกแบบเต็มตัวเป็นแค่นางรองแถมเธอยังคิดจะพึ่งพาคนทําธุระนี้จริงๆหรอคิดว่าเขาเป็นเบื้องหลังของเธอได้หรอฮ่าๆๆๆ”

เธอคิดว่าสิ่งที่ตัวเองพูดนั้นตลกมากเธอนั้นก้มลงและหัวเราะออกมา

แม้แต่ผู้จัดการของเธอนั้นก็หัวเราะออกมา

ดาราสาวจะพึ่งพาคนทําธุระ?

นี่มันตลกมาก!

แต่ใครจะรู้

วินาทีถัดมา

การแสดงออกบนหน้าของหานซูหยานก็เปลี่ยนไปเธอเข้าไปจับมือของเจียงเฉินแน่น

ผู้คนพากันตกตะลึง!

ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความมึนงง!!

ไม่มีใครคิดว่าหานซูหยานจะทําแบบนี้!

เจียงเฉินรู้สึกอาย

อาย

ในเวลานี้เองผู้จัดการหานซูหยานซึ่งเป็นชายร่างอ้วนที่มีน้ําหนักมากกว่า 200 จิน (ประมาณ 100 กิโลกรัม) ก็วิ่งเข้ามาพร้อมกับเหงื่อที่เต็มตัวแต่เมื่อเข้ามาเขาก็พบกับหานซุหยานที่กําลังจับมือของเจียงเฉินแน่น!

พระเจ้า!

ฉันเป็นใคร?

ฉันอยู่ที่ไหน?

ฉันกําลังเห็นอะไรอยู่?

“หานซูหยานทําไมเธอถึงจับมือผู้ชายคนนั้น?เขาเป็นคนทําธุระนะ!”

ชายร่างอ้วนมองด้วยความตกตะลึง

ใบหน้าของหานซูหยานเต็มไปด้วยความหนักแน่นเธอพูดออกมาเสียงดังว่า “เขาคือคนที่จะ มาช่วยฉัน!”

คนดูตกตะลึง!

ตกตะลึงกันถ้วนหน้า

นี่มันอะไรกัน!

น่าเสียดายว่านี่คือสตูดิโอและยังเป็นส่วนของห้องประชุมไม่ใช่งานแถลงข่าวไม่อย่างนั้นคงถูกรายล้อมด้วยแสงแฟลชไปแล้ว!
พระเจ้า!

“นี่เธอกําลังพูดอะไรของเธอ!”

“อย่าพูดเรื่องไร้สาระสิ!”

ผู้จัดการร่างใหญ่คํารามออกมา

เจียงเฉินในตอนนี้รู้สึกอายและโกรธมากเขาพยายามแกะมือของหานซูหยานออก

ผู้จัดการของหานซูหยานและเจียงเฉินตะโกนออกมาพร้อมกัน“เธอพูดเรื่องไร้สาระอะไรของ

เธอ?!”

เจียงเฉินพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะแก้มือของหานซูหยานออกและพูดด้วยความขุ่นเคืองว่า“ถึงคุณก็ผมจะรู้จักกันแต่ผมก็เป็นผู้ชายนะคุณทําแบบนี้ได้ยังไง!”

หานซูหยาน “…”

ผู้จัดการ “…”

เซี่ยจือถง “…”

พวกเขาทั้งหมดตกตะลึง!

ไร้ความปราณีเกินไปแล้ว!

หานซูหยานเป็นใคร?

เธอเป็นหนึ่งในนักแสดงดัง!

เธอจับมือของนายแล้วนายรังเกียจเธอ?

นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกับโลกนี้? มันบ้าไปแล้ว!