แม้ว่าจะเป็นระดับต่ำสุด ไหมที่ได้จากมันก็ควรจะมีคุณภาพดีกว่าทั่วๆไป มันอาจจะไม่เหมาะกับซือหยู แต่อย่างน้อย เซี่ยนเอ๋อ เซี่ยจิงหยู หรือดยุคเซี่ยนหยูก็พอจะใช้มันได้
หวูอู๋ยี่เย็นด้วยกับเขา นางหยิบเอาที่ที่จะใช้เป็นรังหนอนออกมาและเก็บหนอนไว้ข้างใน นางคิดจะให้อาหารมันจากที่นี่ แต่ทั้งเขาและนางก็ไม่เห็นเลยว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่รูปภาพสัตว์อสูรตัวที่สองในชามได้เปล่งแสงออกมาในพริบตาเดียว จากนั้นจึงค่อยๆเลือนรางไป…
สุดท้ายซือหยูก็ได้เวลามาตรวจสอบสมบัติทั้งสี่ชิ้นที่กิเลนน้อยชิงมาให้เขา ซือหยูถือสายใยมังกรด้วยความดีใจ
ก้อนไหมเช่นนี้เป็นสมบัติจู่โจมที่ซือหยูชำนาญที่สุด เขาดีใจเสียยิ่งกว่าที่สายใยมังกรนี้กลับมาเป็นของเขาโดยไม่คาดคิด
จากนั้นเขาจึงหันไปมองขลุ่ยไผ่แปดทิศที่สามารถควบคุมวิญญาณและมีพลังแห่งความตายที่แข็งแกร่ง ซือหยูเห็นพลังของมันมากับตา
แต่โชคร้ายที่มันมีพลังไม่ถึงขั้นไม้หกทิศของไป่หยีเจี้ยนเมื่อใช้ร่วมกัน เพราะถ้าหากสมบัติทั้งสองชิ้นถูกใช้ร่วมกันแล้ว หนึ่งคนจะใช้โจมตี ส่วนอีกคนจะใช้ป้องกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ต่อไปคือมุกบาดาล มันถูกปิดผนึกเอาไว้คู่กับมุกสมุทรสาบสูญในที่เก็บสมบัติสุดท้าย มันมีพลังสายฟ้าที่จะทำให้ต้นแบบสมบัติภูติเลื่อนระดับถัดไป นี่เป็นครั้งแรกที่ซือหยูได้ยินชื่อมุกบาดาล เขาไม่รู้ว่ามันจะใช้การได้ดีแค่ไหน
“นี่มันมุกบาดาล สมบัติจากโลกปีศาจ!”
หวูอู๋ยี่มองตามสายตาของซือหยูด้วยความตกตะลึง
“หรือว่านายท่านจะมาถึงที่เก็บสมบัติวัตถุดิบที่ลูกหลานคนเฝ้าสมบัติปกป้องอยู่?”
ซือหยูถามกลับ
“เจ้าถามทำไมกัน? เจ้ารู้เรื่องมุกบาดาลหรือไม่?”
หวูอู๋ยี่พูดตะกุกตะกัก แต่สุดท้ายนางก็พูดออกมา
“ทุกคนในจิวโจวรู้จักมัน! ครั้งหนึ่งเคยเกิดมหาสงครามระหว่างมนุษย์กับอสูรเมื่อร้อยปีก่อน จ้าวโลกปีศาจได้ปล่อยสมบัติทั้งห้าที่สร้างจากมุกบาดาล ไม่มีใครในทวีปจิวโจวเลยที่จะป้องกันได้และถูกสังหารตายหมด ถ้าหากไม่เกิดเรื่องขึ้นในโลกปีศาจจนทำให้กองทัพปีศาจถอย ทวีปจิวโจวก็คงจะถูกทำลายจนสิ้นซากไปแล้ว!”
ซือหยูตาเป็นประกายเมื่อได้รับข้อมูล
เคยเกิดสงครามครั้งใหญ่ระหว่างมนุษย์ในจิวโจวกับตระกูลอสูรงั้นรึ? แล้วมุกบาดาลก็ทรงพลังถึงเพียงนี้เชียว? เพราะแน่นอนว่าไม่ได้มีอสูรเนรมิตรแค่คนเดียวในทวีปจิวโจวแน่ที่ตายไป!
“มุกบาดาลเม็ดนี้จะต้องเป็นของที่จ้าวโลกปีศาจทิ้งเอาไว้ตอนที่ถูกพวกอสูรเนรมิตรปิดล้อม ดูจากพลัง มันน่าจะเสียอำนาจไปและไม่ทรงพลังเท่าที่ควรจะเป็น”
ซือหยูวิเคราะห์ดูมุกบาดาลของเขา
เพราะอย่างไร ถ้าหากมุกบาดาลไม่ได้มีพลังมหาศาล เทียนจี่จื้อก็คงจะไม่พบกับชะตากรรมเช่นนี้
“เจ้ารู้รายละเอียดเรื่องสงครามตอนนั้นไหม?”
ซือหยูถาม
หวูอู๋ยี่ส่ายหน้า
“มหาสงครามมีรายละเอียดมากนัก มันเกี่ยวข้องกับทั้งทวีปจิวโจว ข้าบอกรายละเอียดทั้งหมดกับนายท่านไม่ได้ สิ่งเดียวที่ข้ารู้ก็คือมนุษย์ที่แข็งแกร่งเกือบครึ่งถูกกำจัดไป สายโลหิตตระกูลฉีรุ่นแรกแทบสูญสิ้น จ้าวแห่งกระโจมเทพสวรรค์เทียนจี่จื้อเองก็พ่ายแพ้กับจ้าวโลกปีศาจ แม้แต่สมบัติภูติอย่างกระโจมเทพสวรรคต์เองก็ลอยล่องอยู่เช่นนี้”
นางพูดต่อ
“ข้าไม่แน่ใจว่ามีผู้แข็งแกร่งตายหรือสูญหายไปเท่าใด แต่พวกนั้นล้วนถูกดูดเข้ามาในกระโจมเทพสวรรค์”
เอ๋? ซือหยูเลิกคิ้ว มีบางอย่างไม่ถูกต้อง! เทียนจี่จื้อตายเพราะซือตี๋ ไม่ใช่จ้าวโลกปีศาจ!
“ถ้านายท่านสนใจ นายท่านจะอ่านตำราของข้าก็ได้ แต่รายงานลับสำคัญจะมีอยู่ในสำนักใหญ่เท่านั้น ตำหนักเมฆาม่วงก็น่าจะมี!”
นางตอบ
ซือหยูครุ่นคิดและพยักหน้า
“อืม เจ้าพูดต่อเลย”
อย่างไรเขาก็ต้องไปที่ตำหนักเมฆาม่วงอยู่แล้วเพราะเขาเป็นห่วงลู่จือยี่มาก! เพราะนางเป็นผู้เฒ่าของตำหนักเมฆาม่วง!
แล้วเขาจะสู้หน้ากับนางยังไง?
“มุกบาดาลใช้ทำอะไรได้บ้าง?”
ซือหยูพยายามจะหยิบมันขึ้นมาแต่เขาก็ต้องแปลกใจที่เขายกมันไม่ขึ้น! มุกเม็ดเล็กนี้หนักราวกับภูเขาใหญ่สิบลูกรวมกัน!
หวูอู๋ยี่เอามือป้องปากและหัวเราะ นางบอก
“ดูเหมือนว่านายท่านจะรู้วิธีใช้มันแล้วล่ะ! มันหนักมาก! มุกบาดาลคือของที่มีมวลหนาแน่นที่สุดในโลก!”
นายอธิบายต่อ
“มันต้องใช้คนแข็งแกร่งที่บ่มเพาะร่างกายมาอย่างดีในการยก! การที่กิเลนนำมันมาถึงที่ดีได้ก็สุดยอดมากแล้ว!”
จู่ๆซือหยูก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้…หรือว่าที่กลางลำดับทางช้างเผือกมีน้ำหนักสูงมากจะเป็นเพราะมุกบาดาล?
สิ่งนี้หนักมากซะจนบดขยี้อสูรเนรมิตรได้! ดังนั้นมันจึงแปลกที่ซือหยูกับกิเลนน้อยจะขยับมันได้!
“มุกเม็ดนี้มีแก่นโลหิตของจ้าวโลกปีศาจ แม้แต่อสูรเนรมิตรก็ชำระมันมาใช้เองไม่ได้ ข้าว่านายท่านอย่าเสียเวลาเลยจะดีกว่า! ถึงนายท่านจะชำระมันได้ นายท่านก็ต้องมีร่างกายที่แข็งแกร่งถึงจะใช้งานมันได้ดี…”
หวูอู๋ยี่อธิบาย
มุกบาดาลเป็นสมบัติของโลกปีศาจที่มองได้แต่มิอาจสัมผัส ดังนั้นจึงนับว่ามันไร้ค่า
แต่จะเป็นเช่นนั้นรึ? ซือหยูลูบคางและวางมือลงบนมุกบาดาล เขาคิดในใจและเรียกตราสีเงินออกมาจากฝ่ามือ ไม่นานหลังจากนั้นก็มีพลังภูติที่มีกลิ่นโลหิตค่อยๆซึมออกจากมุกบาดาล
หวูอู๋ยี่ตกใจ นางถามออกมาทันที
“เอ่อ…ร่องรอยของเจ้าของเก่าหายไปแล้ว! นายท่านทำได้ยังไง?”
นางตกใจเสียยิ่งกว่าตอนที่ได้พบตัวตนของมุกวิญญาณเก้าหยก! เพราะนี่ควรจะเป็นสมบัติที่แม้แต่อสูรเนรมิตรยังชำระไม่ได้ แต่ซือหยูกลับทำได้ในเวลาเพียงครู่เดียว!
จากนั้นซือหยูก็ดึงมือออก เขาดูหน้าซีดและเหนื่อยอ่อนเป็นอย่างมาก
เขาแปลกใจมากในครั้งนี้ เขาพยายามจะใช้ทรายดาราทางช้างเผือกในการชำระล้างมุกบาดาล เขาตั้งใจจะนำร่องรอยเจ้าของเก่าออกเพื่อนำสิ่งแปลกปลอมออกไป
แต่ทรายดาราทางช้างเผือกกลับนำสิ่งแปลกปลอมออกได้เพียงหนึ่งในร้อยส่วน มันต้องใช้พลังจิตมหาศาล เขารู้สึกเหนื่อยมากกว่าทุกครั้ง
ไม่แปลกใจเลยที่มันเป็นสมบัติของจ้าวโลกปีศาจ! มันต่อต้านได้แม้แต่กับสมบัติศักดิ์สิทธิ์รูปแบบจักรพรรดิ!
ซือหยูยังแอบตกใจเมื่อประมาณเวลา ดูเหมือนการชำระมุกบาดาลทั้งลูกจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามเดือนเต็มทั้งวันทั้งคืน! ซือหยูตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้นและคาดหวัง เขาสงสัยว่ามุกจะให้พลังแบบใดเมื่อเขาชำระมันจนหมดสิ้น
แม้จะอยู่ในสภาพนี้ มันก็ยังต้องมีพลังที่แข็งแกร่งมากอยู่แน่! รางวัลในการมากระโจมเทพสวรรค์ครั้งนี้นับว่าประเมินค่ามิได้ ทั้งหมดต้องขอบคุณกิเลนน้อย!
“ตอนนี้เจ้าอยู่ที่นี่ไปก่อน ข้าต้องรับมือกับศัตรูที่แข็งแกร่ง เจ้าอย่าออกมาเพ่นพ่านจะดีกว่า”
ซือหยูพูดกับกิเลนน้อย
กิเลนน้อยไม่ค่อยพอใจนัก แต่มันก็พยักหน้าเชื่อฟัง มันดึงปลายกางเกงซือหยูด้วยกีบเท้าสองข้าง มันต้องการจะบอกซือหยูให้พามันออกไปข้างนอกให้เร็วที่สุด
ซือหยูยิ้มมองสมบัติสุดท้าย นั่นคือกล่องเหล็ก กล่องนี้ก็ถูกกิเลนน้อยชิงมาเช่นกัน
ซือหยูหยุดคิดและตัดสินใจที่จะรอจนกว่าจะได้เจอกับเซี่ยจิงหยูเพื่อเปิดกล่องกับนาง ซือหยูออกจากมิติกลับสู่ร่างจริง
เขาพักมาหนึ่งชั่วยามแล้ว บาดแผลที่แขนขวาดูเหมือนจะฟื้นฟูมาบ้างรวมถึงกระดูกของเขาเอง
เขาที่เป็นกึ่งภูติในตอนนี้มีพลังชีวิตที่สามารถฟื้นฟูร่างกายตัวเองได้อย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด! ดูเหมือนจะใช้เวลาไม่ถึงครึ่งวันก่อนที่เขาจะฟื้นฟูเต็มที่!
แต่จากนั้นซือหยูก็รู้สึกเจ็บแปลบที่อก เขาชักสีหน้า
“มันออกมาจากเวทความฝันได้เร็วเช่นนี้เชียวรึ? ซ้ำร้ายยังฆ่าร่างเทียมของข้าไปร่างหนึ่งอีก?”
ร่างเทียมของซือหยูเชื่อมต่อกับตัวเขา เขาจะสัมผัสรู้ได้ถ้าหากมันถูกทำลาย
ตามแผน เวทความฝันควรจะขังหุ่นเชิดสีเงินได้หนึ่งวัน ถ้าเขาโชคดี หุ่นเชิดคงจะติดอยู่ในกระโจมเทพสวรรค์จนถึงวันสุดท้าย
แต่ซือหยูไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นอิสระในชั่วยามเดียว! มันยังหาร่างเทียมของเขาเจอหนึ่งร่าง!
ดูเหมือนว่าซือหยูจะยังหนีไม่ได้ โอกาสที่จะถูกเจอตัวนั้นมีสูงมาก และจู่ๆหัวใจของเขาก็เต้นแรง
เขายืนขึ้นมองไปในความมืดมิด
“เจ้าหาข้าเจอได้ยังไง?”