แดนนิรมิตเทพ บทที่ 633
เพียงแต่ความซาบซึ้งก็ส่วนความซาบซึ้ง ศักดิ์ศรีของผู้บำเพ็ญแดนดั่งเทพ ไม่อาจยอมให้ยั่วยุได้

เฉินโม่ไม่สนใจหวางลี่ เขายังคงมองเจิ้งซิ่วลี่ และมีเจตนาฆ่าอยู่ในน้ำเสียง

“คุกเข่า!”

พลังที่ทรงพลังปะทุออกมาจากร่างกายของเฉินโม่ กระจายไปทั่วห้องเรียนทันที

ทุกคนรู้สึกว่าพวกเขาถูกปกคลุมด้วยพลังที่ทำให้ตกใจกลัว จนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง เพราะกลัวว่าถ้าตนเองไม่ทันระวังจะถูกพลังนี้ฆ่าตาย

และเจิ้งซิ่วลี่ที่เหมือนอยู่ท่ากลางพายุฝน ก็คุกเข่าลงบนพื้นทันที ร่างกายสั่นไปทั้งตัว ราวกับเห็นพลังแห่งสวรรค์!

ความดื้อรั้นและศักดิ์ศรีของเจิ้งซิ่วลี่ทั้งหมด ในขณะนี้ถูกเฉินโม่บดขยี้อย่างไร้ความปรานี ซึ่งมันเกิดจากการบีบบังคับทางจิตวิญญาณ ทำให้เจิ้งซิ่วลี่ไม่สามารถต่อต้านได้แม้แต่น้อย

“ฉันผิดไปแล้ว ฉันผิดไปแล้ว…” เจิ้งซิ่วลี่หมอบอยู่บนพื้น ร่างกายสั่นไปทั้งตัว เสียงร้องที่เจ็บปวดนั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ใบหน้าของเฉินโม่เฉื่อยเนือยเนือยๆ พลังที่อยู่รอบตัวคลุมเครือ ราวกับเทพที่มาจุติจากสวรรค์

“เธอยั่วยุฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า วันนี้ฉันทำลายศักดิ์ศรีและความมั่นใจของเธอ ทำให้เธอกลายเป็นคนอ่อนแอไปตลอดชีวิต เธอจะยอมรับไหม?”

แล้วเจิ้งซิ่วลี่จะกล้าไม่ยอมรับได้อย่างไร เธอก้มกราบขณะที่ร้องไห้ “ฉันยอมรับ ฉันยอมรับ!”

ทุกคนมองต่างรู้สึกตกใจกลัว พวกเขาเคยได้ยินเพียงแค่ชื่อของเฉินไต้ซือเท่านั้น แต่ไม่เคยเห็นทรงพลังของเฉินไต้ซือมาก่อน ตอนนี้เมื่อพวกเขาเห็นท่าทางที่เชื่อฟังของเจิ้งซิ่วลี่แล้ว พวกเขาถึงได้รู้พลังที่แท้จริงของเฉินไต้ซือ

ตอนนี้พวกเขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเมื่ออยู่ต่อหน้าเฉินโม่แล้ว ผู้ทรงอิทธิพลสิบเจ็ดเมืองของฮ่านหยางถึงเป็นเหมือนเด็กที่ทำความผิด และปล่อยให้เฉินไต้ซือลงโทษได้ตามต้องการ

หวางลี่อยากจะด่า แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเฉินโม่ที่ร่างกายเต็มไปด้วยทรงพลังที่กดดันแล้ว ทำให้เธอไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้

เฉินโม่หันไปมองจางเฉียง

จางเฉียงตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ และคุกเข่าลงบนพื้นทันทีด้วยเสียงตุ้บ ร้องขอความเมตตาเสียงดัง “เฉินไต้ซือไว้ชีวิต ไว้ชีวิตด้วยเถอะ!”

“ในเมื่อนายชอบยุยง ฉันจะลงโทษนายให้ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ตลอดชีวิต!”

หลังจากเฉินโม่กล่าวจบ เขายื่นมือออกไป จางเฉียงก็กลายเป็นใบ้ ไม่สามารถส่งเสียงใด ๆ ออกมาได้ เขาทำได้เพียงส่งเสียงประหลาดออกมาเท่านั้น

“นายยอมรับไหม?” เฉินโม่กล่าวด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์

จางเฉียงไม่สามารถพูดออกมาได้ ทำได้เพียงแค่พยักหน้า เขารู้สึกกลัว รู้สึกกลัวจริง ๆ เขาไม่สงสัยเลยสักนิดว่าเฉินโม่จะสามารถฆ่าเขาได้ ตอนนี้การที่เขาสามารถรักษาชีวิตไว้ได้ เขาก็รู้สึกพอใจแล้ว

ขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้อำนวยการ กลุ่มครู หรือเพื่อนนักเรียน สายตาที่พวกเขามองเฉินโม่เต็มไปด้วยความเคารพและความเกรงกลัว ราวกับว่าพวกเขาได้รู้จักเพื่อนร่วมชั้น ที่เรียนห้องเดียวกันมาเป็นเวลาสามปีใหม่อีกครั้ง

แม้แต่เจี่ยงหยาวกับจ้าวกางที่เป็นเพื่อนสนิทของเฉินโม่ ตอนนี้พวกเขาก็ยังรู้สึกหวาดกลัว สายตาที่พวกเขามองเฉินโม่มีความไม่คุ้นเคย มีความเคารพและความเกรงกลัวเล็กน้อย

ท่าทางของผู้อำนวยด้วยความเคารพ และแอบถอนหายใจ “ที่แท้นี่ก็คือเฉินไต้ซือที่แท้จริง ลงโทษคนแทนสวรรค์ ควบคุมความเป็นและความตาย เป็นเหมือนเทพ เป็นมังกรบนท้องฟ้า”

“เมื่อแชมป์เอ็นทรานซ์เทียบกับสถานะของเขาแล้ว ไม่สามารถถือเป็นอะไรได้ มิน่าเขาถึงได้แสดงสีหน้าไม่แยแส!”

ไม่มีใครคิดว่าคนไร้ประโยชน์ของโรงเรียนตี้ยีแห่งอู่โจว จะกลายเป็นแชมป์เอ็นทรานซ์ระดับประเทศ และกลายเป็นเฉินไต้ซือที่ชื่อเสียงสั่นสะท้านไปทั่วฮ่านหยาง!

นับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป เขาจะกลายเป็นคนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของฮ่านหยาง

สีหน้าของเฉินโม่ราบเรียบ เขาหันไปมองเจี่ยงหยาวและคนอื่น ๆ และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันยังมีธุระต้องทำ ขอตัวก่อน ถ้ามีเรื่องอะไรก็อย่าลืมโทรหาฉัน!”

“อืม!” เจี่ยงหยาว จ้าวกางและคนอื่น ๆ พยักหน้าอย่างเชื่องช้า พวกเขาไม่กล้าสบตาเฉินโม่ เพราะความน่าเกรงขามของเฉินไต้ซือ ทำให้พวกเขาไม่กล้ามองโดยตรง

เฉินโม่เอามือทั้งสองไพล่หลัง แล้วเดินออกจากห้องเรียนด้วยท่าทางสงบ

ขณะที่เขาเดินผ่าน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนนักเรียน ครู หรือผู้อำนวยการ ทุกคนก็ก้มหน้าด้วยความนอบน้อม และไม่กล้ามองเขาโดยตรง

หลังจากเฉินโม่เดินออกจากห้องเรียนแล้ว ทุกคนถึงได้เงยหน้าขึ้น มองแผ่นหลังของเฉินโม่ที่หายไป และถอนหายใจ