แดนนิรมิตเทพ บทที่ 634
“เกรงว่าต่อไป เขากับพวกเราจะอยู่กันคนละโลก! เหมือนอย่างที่เขาพูด ดวงตาของเขามองไปที่จักรวาลและดวงดาวบนท้องฟ้านานแล้ว!”

หลังเดินออกมาจากโรงเรียนแล้ว เฉินโม่กลับไปที่กลุ่มคฤหาสน์ทะเลสาบกลับคืนรัง เก็บของใช้ส่วนตัว แล้วเรียกเอียนชิงเฉิงมาพบ

“คราวนี้ผมจะไปสักระยะหนึ่ง ทางอู่โจวมอบให้นายเป็นคนดูแล หากพบศัตรูที่ไม่สามารถต้านได้ คุณก็ใช้ค่ายกลคงราก เพราะแม้แต่แดนเทพก็ไม่สามารถทำรายค่ายกลนี้ได้”

เอียนชิงเฉิงโค้งคำนับและพยักหน้า “ค่ะ”

หลังจากมอบหมายงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว เฉินโม่ก็ออกเดินทางไปเมืองฮ่านหยางทันที

เขามอบหินหยกและยาเสริมจิตให้เฉินซงจื่อ กำชับเฉินซงจื่อให้ดูแลหลี่ซู่เฟินและเวินฉิงอย่างดี หลังจากนั้นเฉินโม่ก็นั่งรถไฟความเร็วสูงไปที่ยานจิง

บนที่นั่ง เฉินโม่มองทิวทัศน์นอกหน้าต่างที่ถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าสงบ

ตั้งแต่เกิดใหม่ นี่เป็นครั้งที่สองที่เขามายานจิง ครั้งแรกคือตอนที่เขาและหลี่ซู่เฟินมาร่วมงานศพของคุณยาย และได้ทำสัญญาสามปีกับตระกูลหลี่

แค่พริบตาเดียวก็ผ่านไปครึ่งปีกว่าแล้ว ไม่รู้ว่าถ้าคนของตระกูลหลี่รู้สถานะของเฉินโม่แล้ว พวกเขาจะเสียใจไหม

เฉินโม่ลงรถไฟตอนเวลาสามทุ่มกว่า

เฉินโม่โทรไปตามหมายเลขโทรศัพท์ที่เจียงเหอซานให้ไว้

ปลายสายไม่ใช่เจียงเหอซาน แต่เป็นน้ำเสียงที่ไพเราะของผู้หญิง

“สวัสดีค่ะ คุณเฉินโม่หรือเปล่าคะ?” ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน

ดูเหมือนว่าเจียงเหอซานจะสั่งไว้แล้ว

“ผมมาถึงสถานีรถไฟความเร็วสูงของยานจิงแล้ว พวกคุณมารับผมเถอะ!” เฉินโม่กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ได้ค่ะ คุณเฉินโม่ไปรอที่ทางออกลานจอดรถทางทิศใต้ คนของพวกเราจะรีบไปทันที!”

“อืม!”

หลังจากวางสายแล้ว เฉินโม่ก็เดินตามป้ายบอกทาง แล้วเขาก็เจอทางออกลานจอดรถทางทิศใต้

ประมาณยี่สิบนาทีต่อมา รถออดี้ A6 สีดำขับมาอย่างช้า ๆ แล้วจอดข้างเฉินโม่

กระจกรถค่อย ๆ ลดลงมา ชายหนุ่มไว้ผมทรงสลิคแบค สวมแว่นกันแดด เอียงศีรษะออกมาเล็กน้อย ถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “สวัสดีครับ คุณเฉินโม่หรือเปล่า?”

เฉินโม่พยักหน้า “ผมเอง!”

ชายหนุ่มลงจากรถทันที แล้วเปิดประตูให้เฉินโม่

เมื่อพิจารณาจากการเปิดประตูรถด้วยมือข้างเดียว แล้วใช้มืออีกข้างจับหลังคาเพื่อป้องกันไม่ให้ศีรษะของผู้โดยสารชนขอบประตูรถ เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับการฝึกอบรมอย่างมืออาชีพ

“คุณเฉินโม่ ท่านเจียงได้จัดที่พักให้คุณเรียบร้อยแล้ว คุณไปพักผ่อนก่อน แล้วพรุ่งนี้เช้าท่านเจียงจะมารับคุณด้วยตนเอง!”

“อืม!” เฉินโม่ตอบเบา ๆ

หลังจากนั้นชายหนุ่มก็ขับรถออกไปช้า ๆ ชายหนุ่มคนนี้ขับรถนิ่มมาก ระหว่างทางเขาสังเกตเฉินโม่ผ่านกระจกมองหลัง ดูเหมือนเขาจะรู้สึกว่าเฉินโม่เด็กเกินไป ซึ่งทำให้มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย และรู้สึกดูหมิ่นเล็กน้อย

เฉินโม่นั่งเบาะหลัง หลับตาพักผ่อน แต่ทุกสิ่งรอบตัวอยู่ภายในขอบเขตการรับรู้ของเฉินโม่ แม้แต่การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็หนีไม่พ้น

เฉินโม่รู้สึกว่ารถกำลังออกจากในเมือง ความเร็วของรถก็เริ่มเร็วขึ้น เสียงรบกวนรอบ ๆ น้อยลง มีเสียงของแมลงเยอะกว่า แถมอากาศก็สดชื่นขึ้น

เฉินโม่ไม่ได้คิดมาก บางทีสถานที่ที่เจียงเหอซานรับรองเขา อาจไม่อยู่ในในเมือง

หลังจากรถขับนานกว่าหนึ่งชั่วโมง และสุดท้ายรถก็หยุดอย่างช้า ๆ

ชายหนุ่มลงมาจากรถก่อน จากนั้นเขาก็เดินมาเปิดประตูให้เฉินโม่ และกล่าวว่า “ถึงแล้วครับ คุณเฉินโม่ ลงรถเถอะ!”

ท่าทางของชายหนุ่มไม่มีความเคารพเหมือนก่อนหน้านั้น เสียงของเขาเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย

เฉินโม่เหลือบมองเขาเบาๆ ด้วยสายตาแปลก ๆ ในดวงตาของเฉินโม่

เมื่อเห็นอาคารเตี้ยมืดสลัวที่อยู่รอบ ๆ มีเพียงข้างหน้าห่างออกไปสิบกว่าเมตรที่สว่างไสวเท่านั้น เป็นอาคารสูงมีหกชั้น มีดวงไฟที่สว่างห้อยอยู่บนหลังคา และล้อมรอบด้วยกำแพงสูงสองเมตร

เฉินโม่รู้สึกว่าที่นี่ไม่ใช่โรงแรม เหมือนเป็นศูนย์กักกันมากกว่า