บทที่ 155 ขโมยสูตรโอสถ
ในฐานะศิษย์ของสำนักสวนร้อยพฤกษา โจวจื่อซินสามารถมองเห็นการกระทำของชายชราร่างสูงใหญ่ได้อย่างชัดเจน
แต่ตอนนี้ความคิดของนางนั้นไม่ได้สนใจกับเรื่องการประมูลหรือโอสถเหล่านี้สักเท่าไหร่แล้ว ขณะนางมีเพียงเป้าหมายเดียวในใจและนั่นคือการวางแผนหาโอกาสเพื่อหลบหนีจากบรรดาคนของสำนักของนาง
เนื่องจากเหตุการณ์ในคฤหาสน์สราญรมย์ นางทำให้เจียงเต๋อชิงต้องเสียวัสดุระดับราชวงศ์ ซึ่งเจียงเต๋อชิงโกรธมาก สายตาที่เขามองนางตั้งแต่หลังจากเหตุการณ์วันนี้จึงเริ่มค่อนข้างไม่เป็นมิตรเรื่อยมา
ในอดีตนางมักจะรู้สึกว่านางได้รับการยกย่องจากสำนักและนางก็มีความสุขมากที่ได้รับการปฏิบัติเช่นนั้น
แต่ตอนนี้หลังจากที่นางได้รู้ถึงเรื่องราวเบื้องหลังเหตุผลที่สำนักของนางทำดีกับนางตามที่หลิงตู้ฉิงบอก ความรู้สึกนึกคิดของนางจึงเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อมองไปที่สายตาของคนในสำนักของนางเหล่านี้ นางรู้สึกว่าเหมือนกับว่าทุกคนมองมาที่นางราวกับว่าพวกเขากำลังมองมาที่จานอาหารอันโอชะ
การจ้องมองเช่นนี้ทำให้นางตัวสั่นด้วยความกลัว น่าเสียดายที่ตอนนี้นางอยู่ในขอบเขตประสานทะเลปราณเท่านั้น หากนางกล้าที่จะหลบหนีอย่างโจ่งแจ้ง เพื่อนร่วมสำนักในขอบเขตรวมแสงดาราของนางก็คงสามารถจับตัวนางได้อย่างง่ายดาย
สิ่งเดียวในตอนนี้ที่นางทำได้คือหาโอกาสที่จะหลบหนีจากสายตาของทุกคนในสำนักสวนร้อยพฤกษา จากนั้นนางจะเปิดใช้เจตจำนงของดาบที่หลิงตู้ฉิงฝังเอาไว้ในตัวนางเพื่อทำลายปรสิตพฤกษา ซึ่งจะทำให้คนในสำนักของนางไม่สามารถรู้ที่อยู่นางได้อีกต่อไป จากนั้นนางจะซ่อนตัวเป็นเวลา 4 เดือนเพื่อรอวันเปิดรับนักศึกษาใหม่ของศาลาศักดิ์สิทธิ์ ในแผนการของนางนี้นางจะผิดพลาดขั้นตอนไหนไม่ได้เลย มิฉะนั้นจุดจบของนางแน่นอนว่าคงหนีไม่พ้นการถูกจับไปทำให้กลายเป็นโอสถมนุษย์
ในเวลานี้ไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปกติของนาง เจียงเต๋อชิงยังคงส่งข้อความทางจิตไปยังชายชราที่สวมหน้ากากและถามว่า “เป็นยังไงบ้าง?”
“มันแปลกจริง ๆ” ชายชราสวมหน้ากากกล่าวว่า “ข้ารู้สึกว่ามีความแตกต่างอย่างมากระหว่างโอสถประสานดาราเม็ดนี้กับโอสถประสานดาราปกติที่มีขายกันทั่วไปในท้องตลาด ข้าคิดว่าหากเราศึกษามันมากกว่านี้เราอาจจะได้เทคนิคการหลอมโอสถแบบใหม่ดี ๆ กลับมาก็ได้”
“ไม่เป็นไร ถ้าเป็นแบบนั้น เมื่อเรากลับไปเราค่อย ๆ ศึกษาดูก็ได้” เจียงเต๋อชิงพูดขึ้น
ชายชราสวมหน้ากากพยักหน้า “ตอนนี้ เป้าหมายต่อไปของเราต้องเอาโอสถกำเนิดรากฐานมาเป็นของเราให้จงได้”
“เข้าใจแล้ว” เจียงเต๋อชิง พยักหน้า
ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่ ขวดที่สองของโอสถประสานดาราก็ถูกขายไปด้วยราคาไม่ได้สูงมากนัก ราคาของมันเพียงแค่ 30 เหรียญคริสตัลเท่านั้น หลังจากขายโอสถประสานดาราชุดที่สองเรียบร้อย
ทุกคนในงานตอนนี้ต่างคาดหวังว่าสินค้าชิ้นต่อไปควรจะเป็น โอสถกำเนิดรากฐาน แต่น่าเสียดายที่มี่ตั้วตั้วกลับจงใจให้ผู้ช่วยงานประลองของเขาขึ้นมาบนเวที และเอาสมบัติระดับวิญญาณขั้นกลาง 2 ชิ้นออกมาให้ประมูลแทน
ส่งผลให้ทุกคนที่มาร่วมงานที่ต่างรอคอยโอสถกำเนิดรากฐาน เริ่มรู้สึกกระสับกระส่ายร้อนรนจนแทบนั่งไม่ติด
อันที่จริงแล้วเหตุผลที่มี่ตั้วตั้วทำแบบนี้ เขามีจุดประสงค์อื่น นั่นก็คือเขาต้องการถ่วงเวลาเอาไว้ เนื่องจากเขาต้องการใช้เวลาในการเจรจาแลกเปลี่ยนกับผู้อาวุโสเผ่าอสูรทมิฬสงครามผ่านเจดีย์เชื่อมเก้าสวรรค์
“ผู้อาวุโส สำหรับเหรียญคริสตัล 500 เหรียญ ข้าจะขอความช่วยเหลือได้ในระดับใดได้บ้าง?” มี่ตั้วตั้วถามผู้อาวุโสเผ่าอสูรทมิฬด้วยความเคารพ “ตอนนี้สถานการณ์ทางฝั่งข้าอาจจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งอยู่จำนวนมากและหลายคนของฝั่งตรงข้ามก็เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภา”
เสียงอันแผ่วเบาของผู้อาวุโสเผ่าอสูรทมิฬดังขึ้นออกมาจากเจดีย์ “ความแข็งแกร่งของเจ้าอยู่ในขอบเขตรวมแสงดาราเท่านั้น ดังนั้นข้าจึงสามารถส่งได้เพียงผู้เชี่ยวชาญของเผ่าข้าที่อยู่ในขอบเขตรวมแสงดาราออกไปได้ หากเจ้ามีเหรียญคริสตัล 500 เหรียญ ข้าจะส่งอสูรทมิฬของข้าสองตนที่อยู่ในขอบเขตรวมแสงดาราระดับ 12 และอีกหนึ่งตนที่อยู่ในระดับขอบเขตรวมแสงดาราระดับ 13 ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขา เจ้าย่อมสามารถต้านทานผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาได้ แต่ข้าขอเตือนเจ้าไว้ก่อน แม้ว่าเจดีย์ของเจ้าจะทรงพลังเพียงใด แต่มันก็มีข้อจำกัดการใช้งานของมันเช่นกัน อสูรทมิฬแต่ละตนจะอยู่ได้เพียง 15 นาทีเท่านั้น ดังนั้นเมื่อถึงเวลาจงใช้ประโยชน์จากพวกเขาให้มากที่สุด พวกเขาจะช่วยเจ้าอย่างสุดความสามารถ!”
“ขอบคุณ ท่านผู้อาวุโส!” มี่ตั้วตั้วพูดอย่างซาบซึ้ง
อย่างไรก็ตามเขาทำได้เพียงแค่ยิ้มที่ปาก แต่อิดโรยในใจ
ด้วยผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาจำนวนมาก อสูรทมิฬ 2 ตนที่อยู่ที่ขอบเขตรวมแสงดาราระดับ 13 กับอีกตนที่อยู่ระดับ 13 แถมยังมีเวลาจำกัดที่จะเรียกใช้งานพวกเขาแค่ 15 นาที แล้วแบบนี้พวกเขาจะต้านทานไหวได้ยังไง?
อย่างไรก็ตามมี่ตั้วตั้วก็ทำได้เพียงแค่ลองดู
ในขณะที่เขากำลังเจรจากับผู้อาวุโสเผ่าอสูรทมิฬ ผู้ดำเนินการประมูลแทนได้ทำการประมูลสมบัติวิญญาณอีก 2 ชิ้นเสร็จแล้ว และในตอนนี้เขาก็เริ่มการประมูลโอสถกำเนิดรากฐานตามแผนของมี่ตั้วตั้ว
“ทุกคนการประมูลรอบต่อไปคือการประมูลที่สำคัญที่สุดในงานวันนี้และนั่นคือส่วนของการประมูลของโอสถกำเนิดรากฐานซึ่งมีแต่ที่นี่เท่านั้น หลังจากการประกาศของทางหอการค้าของเรามาได้ระยะหนึ่ง ข้าคิดว่าหลายคนคงรู้แล้วว่าโอสถกำเนิดรากฐานสามารถให้คนธรรมดาที่ไม่มีรากฐานทางจิตวิญญาณ สามารถเดินบนเส้นทางแห่งการบ่มเพาะได้”
“ที่สำคัญกว่านั้นหากรากฐานทางจิตวิญญาณของบุคคลนั้น อยู่ในระดับธรรมดาหากหลังจากกลืนโอสถกำเนิดรากฐานที่มีคุณภาพสูงสุด รากฐานของพวกเขาจะสามารถถูกสร้างขึ้นใหม่ให้เลื่อนระดับไปยังระดับเหนือชั้นได้ พูดได้ว่าโอสถนี้เป็นของหายากและไม่เหมือนใคร” ผู้ดำเนินการประมูลตระกูลมี่โฆษณาสินค้าอย่างภาคภูมิใจ
อันที่จริงเขาไม่จำเป็นต้องโอ้อวด แทบทุกคนต่างรู้ความสามารถของโอสถกำเนิดรากฐานแต่แรกแล้ว ไม่เช่นนั้นคงไม่มีผู้คนมากมายมาจากทั่วทุกสารทิศ ทั้งใกล้และไกลถ่อมาถึงที่อาณาจักรแห่งนี้ซึ่งแต่เดิมล้วนไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจ
แต่ถึงแม้ว่าการอารัมภบทเช่นนี้มันจะน่าเหนื่อยใจเพียงใด พวกเขาทุกคนที่มางานประมูลต่างก็ไม่พูดอะไรและอดทนรอ
“ต่อไปเราจะเริ่มการประมูล โอสถกำเนิดรากฐาน ในขวดที่บรรจุโอสถกำเนิดรากฐานคุณภาพขั้นกลางจะมีอยู่ 5 เม็ดและราคาเริ่มต้นของมันคือ 200 เหรียญคริสตัล แต่ละครั้งที่เสนอราคาจะเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10 เหรียญคริสตัล!” ผู้ดำเนินการประมูลประกาสขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น โดยที่ไม่กังวลเลยว่าจะไม่มีใครซื้อ เพราะคนทั้งหมดที่มาที่นี่ พวกเขาเพื่อซื้อสินค้าชิ้นนี้ ดังนั้นเขาจึงเริ่มต้นด้วยราคาที่สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นี่แสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่าตระกูลมี่ของเขาต้องการรีดกำไลให้ได้มากที่สุดจากการประมูลครั้งนี้
“ 300 เหรียญคริสตัล!” เจียงเต๋อชิงตะโกนขึ้นคนแรก เขามุ่งมั่นไว้แล้วว่าเขาจะต้องได้รับชุดแรกของโอสถกำเนิดรากฐาน
“ 350 เหรียญคริสตัล!” หลี่จือหลิงตะโกนขึ้นสวน
“ 400 เหรียญคริสตัล!” หมู่บ้านดาบศักดิ์สิทธิ์เองก็ตะโกนขึ้นเช่นกัน
เจียงเต๋อชิงเมื่อเห็นว่าการแข่งขันทางด้านราคาเริ่มดุเดือดขึ้น เขายิ้มอย่างเย้ยหยันและตะโกนขึ้น “ 700 เหรียญคริสตัล! สำนักสวนร้อยพฤกษาของข้ามีเหรียญคริสตัลมากมาย หากใครคิดว่าสู้ข้าได้ก็เรียกเพิ่มมา!”
ผู้เชี่ยวชาญจากหมู่บ้านดาบศักดิ์สิทธิ์ตะโกนด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย “ 800 เหรียญคริสตัล! แม้ว่าหมู่บ้านดาบศักดิ์สิทธิ์ของเราจะไม่ได้มุ่งเน้นทำการค้าใด ๆ แต่เรามีผู้เชี่ยวชาญมากมาย ดังนั้นเราจึงไม่ขาดแคลนเหรียญคริสตัลเช่นกัน!”
“ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันว่าใครมี เหรียญคริสตัล มากกว่ากัน! 1,000 เหรียญคริสตัล!”เจียงเต๋อชิงตะโกนขึ้นทันที
ในเวลานี้มี่ตั้วตั้วที่นั่งดูอยู่เริ่มขมวดคิ้ว
ราคาของโอสถกำเนิดรากฐานเพียงขวดเดียวในพริบตามันกลับถูกดีดสูงขึ้นถึง 1,000 เหรียญคริสตัลแล้วนั่นคือมากกว่า 500 ล้านเหรียญทอง ซึ่งมูลค่าการซื้อขายขนาดนี้มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะคุ้มค่ากับโอสถสร้างรากฐานเพียงไม่กี่เม็ด
เขารู้สึกได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ ขณะนี้เขาถือเจดีย์เชื่อมเก้าสวรรค์ไว้ในมือ พร้อมที่จะเปิดใช้มันได้ทุกเมื่อ
เมื่อราคาของโอสถกำเนิดรากฐานขวดแรกที่ดีดไปถึง 1,000 เหรียญคริสตัล การประมูลในรอบนี้จึงจบลงอย่างรวดเร็ว
ผู้คนคนจากสำนักอื่น ๆ ที่เจอราคาขนาดนี้ที่สำนักสวนร้อยพฤกษาประมูลไป พวกเขาต่างมีสีหน้าที่เกลียดชัง
เมื่อโอสถกำเนิดรากฐานทั้ง 5 เม็ดถูกส่งมอบให้กับเจียงเต๋อชิง เขาได้มอบโอสถกำเนิดรากฐานต่อให้กับชายชราที่สวมหน้ากากอย่างรวดเร็ว
ชายชราสวมหน้ากากที่ได้รับโอสถกำเนิดรากฐานมาแล้วเขาจึงเริ่มศึกษาพวกมันทันที
เมื่อเห็นสิ่งนี้การแสดงออกของผู้ที่มาจากสำนักอื่น ๆ ก็ยิ่งดูน่าเกลียดยิ่งขึ้น
ถัดมาขวดที่สองของโอสถกำเนิดรากฐานที่ถูกนำขึ้นประมูล พวกมันถูกกระชากออกไปอย่างรวดเร็วอีกครั้งด้วยความบ้าคลั่งของหมู่บ้านดาบศักดิ์สิทธิ์
เจียงเต๋อชิงหัวเราะเยาะกับตัวเอง “พวกเรานำหน้าไปหนึ่งก้าวแล้วพวกเจ้าจะเร็วกว่าเราได้อย่างไร!”
ในเวลาอันรวดเร็วโอสถกำเนิดรากฐานกว่าร้อยเม็ดถูกขายจนหมด แต่โอสถเหล่านั้นทั้งหมดล้วนถูกเหมาไปโดยบรรดาสำนักใหญ่ต่าง ๆ ซึ่งไม่เปิดโอกาสให้กับเหล่าคนธรรมดาหรือสถาบันการศึกษาเล็ก ๆ ได้มีโอกาศครอบครองพวกมันไปแม้แต่เม็ดเดียว
หลังจากการประมูลโอสถกำเนิดรากฐานคุณภาพขั้นกลางกว่าร้อยเม็ดเสร็จสิ้น ผู้ดำเนินการประมูลได้หยิบโอสถกำเนิดรากฐานที่มีคุณภาพสูงสุดออกมา
“การประมูลรอบต่อไปจะจัดขึ้นสำหรับโอสถกำเนิดรากฐานคุณภาพสูงสุดจำนวนของ โอสถคุณภาพสูงสุดจะมีจำนวนจำกัด ทางเราจะเปิดประมูลขายพวกมันเช่นเดิมคือ 1 ขวดจะมีโอสถอยู่ 5 เม็ด ส่วนราคาเริ่มต้นของแต่ละขวดนั้นจะกำหนดอยู่ที่วัสดุระดับสูง 1 ชิ้น!”
เหตุผลที่มี่ตั้วตั้วตั้วราคาเช่นนี้นั่นก็เพราะ มี่ตั้วตั้วสามารถใช้วัสดุระดับสูงเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้หรือข้อมูลต่าง ๆ รวมไปถึงความช่วยเหลือจากหลิงตู้ฉิงได้ ซึ่งสิ่งดังกล่าวนี้มันมีค่ามากกว่าเงินทองหรือทรัพย์สมบัติต่าง ๆ ที่เขาพอจะนึกออกในเวลารวมกันได้ทั้งหมด
ขณะนี้ทุกคนที่อยู่ในหอประมูลต่างรู้สึกว่าการเสนอราคาด้วยวัสดุระดับสูงนั้นเป็นราคาที่น่ากลัว แต่เมื่อพวกเขาคิดถึงผลสรรพคุณของการใช้โอสถกำเนิดรากฐาน ทุกคนจึงพร้อมกัดฟันเสนอราคา
แต่ก่อนที่ทุกคนจะได้เสนอราคา จู่ ๆ ชายชราสวมหน้ากากจากสำนักสวนร้อยพฤกษาลุกขึ้นยืนและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงก้องกังว่ลว่า “ตระกูลมี่ พวกท่านโชคดีมากที่สามารถเชิญนักหลอมโอสถที่เก่งกาจขนาดนี้มาได้และที่สำคัญนักหลอมโอสถผู้นี้สามารถหลอมโอสถระดับสูงที่มีคุณภาพสูงสุดได้อีกด้วย แต่สิ่งที่ทำให้ข้าข้องใจอย่างยิ่งคือ ทำไมตระกูลมี่ถึงได้กล้าขโมยสูตรโอสถของสำนักสวนร้อยพฤกษาของเราไป?”