บทที่ 555 ราวกับว่าฝันไป

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 555 ราวกับว่าฝันไป
ฝูงชนที่อยู่ด้านล่างเวที โกรธสุดขีด!

“พี่เทียน รีบลุกขึ้นเร็ว!”

“รีบลุกขึ้น!”

“รีบหลบ!”

เถียหนิงซวงและคนอื่นต่างตะโกนกันจนเสียงแหบเสียงแห้ง

ลิฉุนสั่นสะท้าน เธอร้องตะโกน “ลิเหลียง!”

“นายกล้าฆ่าเขา ฉันจะไม่ให้อภัยนายตลอดชีวิต!”

“หยุดเดี๋ยวนี้!”

เธอพยายามดิ้นรน ถ้าหากไม่ใช่เพราะลิเว่ยจงฉุดกระชากลากเธอไว้ ตอนนี้เธอคงจะรีบขึ้นไปบนเวทีแล้ว

นัยน์ตาของเฒ่าชราอานกั๋วเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา ร่างกายของเขาสั่นสะท้านและเขาตะโกน “ทุกคนอย่าขยับ!”

“ฟังฉัน หากตอนนี้พวกคุณหุนหันพลันแล่น ลูกศรจะยิงลงมาจากด้านบน ผู้คนจะต้องตายเป็นจำนวนมาก!”

“เมื่อเป็นเช่นนั้น เท่ากับว่าสิ่งที่ฉินเทียนได้พยายามทำลงไปก็ล้มเหลว!”

ด้วยเหตุผลหลักการนี้ ทุกคนเข้าใจดี ฉินเทียนไม่เสียดายและไม่ลังเลที่จะต่อสู้จนตัวตาย เพื่อปกป้องคนเหล่านี้

ตอนนี้ ตราบใดที่มีคนพุ่งขึ้นไปยังบนเวทีโดยไร้การควบคุม นักธนูที่อยู่ด้านบนก็จะยิงลูกศรในทันที

เมื่อเวลานั้น ผู้ที่ถูกยิงกลับต้องตายเพราะฉินเทียน

เมื่อเป็นเช่นนี้ เลือดของฉินเทียนที่หลั่งออกไปกลับต้องเปล่าประโยชน์

เห็นพี่น้องอันเป็นที่รักอยู่ตรงหน้า ชีวิตใกล้จะถึงวาระสุดท้าย แต่พวกเขากลับไม่สามารถเข้าไปช่วยได้

ในสถานการณ์เช่นนี้ อารมณ์ของทุกคนเพียงแค่คิดก็สามารถจิตนาการได้

จี้ซิง มองขึ้นไปบนท้องฟ้าและร่ำไห้ น้ำตารินไหลลงมา

เขาพูดอย่างโศกเศร้า “พี่เทียน บางทีนี่อาจจะเป็นโชคชะตา”

“พี่ยอมแพ้เสียเถอะ!”

“พวกเราจะอยู่กับพี่ เข้าร่วมวิหารเทพสังหาร เป็นลูกน้องใต้บัญชาของลิเหลียง!”

ดูเหมือนว่านี่จะเป็นวิธีสุดท้ายและวิธีเดียวที่ฉินเทียนจะอยู่รอดได้

ฉินเทียนนอนอยู่บนพื้น รู้สึกว่ากระดูกทั้งหมดในร่างกายของเขาแตกหัก อวัยวะภายในแหลกสลาย

ความเจ็บปวดนั้นถึงขีดสุด กลับไม่รู้สึกเจ็บปวดมากขนาดนั้น

ภาพตรงหน้าเห็นลิเหลียงเดินเข้ามาทีละก้าว เขามองเห็นได้อย่างชัดเจน แต่ทว่าเหมือนกับว่าภาพนั้นพร่ามัวมาก

เขาได้ยินเสียงร้องโศกเศร้าจากด้านล่างอย่างชัดเจน แต่ทว่าดูเหมือนจะอยู่ห่างไกลมาก

ราวกับว่าห่างไกลออกไปเป็นพันไมล์อย่างไรอย่างนั้น

หรือว่าฉันฉินเทียน ในวันนี้จะต้องตายอยู่ที่นี่จริงๆงั้นหรือ?

ซูซู…

ในขณะนี้ ฉับพลันเขานึกถึงซูซู

เมื่อห้าปีก่อนพวกเขาพบกันที่หลงเจียง รู้สึกทึ่งตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบ ความสับสนอลหม่านของการติดต่อกันในครั้งแรก…

เหตุการณ์เรื่องราวในอดีต แวบเข้ามาภายในสมองอย่างชัดเจน

อย่างน้อยเขาก็ได้เห็นใบหน้าที่ไม่มีใครเทียบได้ของซูซู นัยน์ตาคู่สวยจ้องมองตนเองด้วยความซับซ้อน

นั่นคือช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในชีวิตของเขา การปรากฏตัวของซูซู เปรียบเสมือนดวงอาทิตย์อันอบอุ่นส่องแสงสว่างให้กับชีวิตของเขาอีกครั้ง

ตอนนั้น เขาแอบตัดสินใจภายในใจ เขาจะต้องมีการมีงานที่ดี พยายามมอบครอบครัวที่มั่นคงให้แก่ซูซู

ตามความคิดนั้น พวกเขาจะเป็นเช่นคู่สามีภรรยาทั่วไปภายในโลกนี้ ใช้ชีวิตและทำงานอย่างสงบสุข แต่งงานมีลูกด้วยกัน ใช้ชีวิตอย่างสงบในเมืองขนาดเล็ก

เป็นไปตามที่เขาต้องการ เขาและซูซูเป็นสามีภรรยากันจริง

ในวินาทีถัดมา ความทรงจำที่งดงามจมหายไปกับสายน้ำที่เย็นยะเยือก

ค่ำคืนวันแต่งงาน ความสุขที่มากล้นนำมาซึ่งความเศร้าโศก

เขาถูกคนกลุ่มหนึ่งบุกเข้าไปในห้องหอ หักแขนหักขาและโยนลงไปภายในแม่น้ำที่เย็นยะเยือก

ราวกับว่าอดีตกำลังซ้ำรอย

ฉับพลันเขาก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงไปทั่วร่างกาย

เจ็บปวดมากจนแม้แต่แรงจะตะโกนยังไม่มี

ลิเหลียงเดินเข้ามาใกล้จวนจะถึงด้านหน้าแล้ว เขาเป็นเสมือนปีศาจที่กำลังจ้องมองฉินเทียน

“บอกฉันมา แกยอมแพ้หรือยัง?”

ยอมแพ้งั้นเหรอ?

สติสัมปชัญญะของฉินเทียนกำลังฟุ้งซ่านและสับสน รู้สึกว่าเหมือนได้ย้อนกลับไปในช่วงที่ถูกโยนลงแม่น้ำ

เขาเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลฉินแห่งซีเป่ย สาเหตุของประสบการณ์ที่น่าเศร้าเช่นนี้ เป็นเพราะการถูกทอดทิ้งจากครอบครัว

พวกเขาบังคับให้ฉันยอมรับความพ่ายแพ้ ฉันไม่ยอม!

“ไม่!”

“ฉัน ฉินเทียน ต่อให้ต้องตายก็ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้!” ใบหน้าของเขาดูร้ายกาจและเอ่ยพึมพำ

อืม?

ในสายตาของลิเหลียงปรากฏเจตนาการสังหารที่รุนแรง

เก็บฉินเทียนไว้อย่างไรก็จะกลายเป็นหายนะ ในเมื่อไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ งั้นก็ฆ่าทิ้ง เรื่องต่างๆจะได้จบลง

เขายกหมัดขึ้น รวบรวมพลังที่รุนแรงไว้ภายในหมัดราวกับค้อนอย่างไรอย่างนั้น

ฉินเทียนที่ยังคงอยู่ภายในอาการสับสนมึนงง รู้สึกถึงกลิ่นอายของการสังหารที่อยู่ภายในหมัดนั้น ราวกับเมื่อห้าปีก่อน หลังจากที่เขาเจ็บปวดแสนสาหัสเขาก็ค่อยๆจมลงสู่ก้นแม่น้ำ

เขาคิดว่าตัวเขานั้นได้ตายไปแล้ว

ท้ายที่สุด ไม่รู้ว่าเวลาผ่านเนิ่นนานเท่าไร ข้างใบหูของเขาได้ยินเสียง เสียงพึมพำกับตนเอง เป็นเสียงที่ทั้งประหลาดใจและดีใจ

“ประหลาดจริง บาดเจ็บหนักขนาดนี้ กลับหายได้อย่างรวดเร็ว ฝีมือและวิธีการของผู้เฒ่านั้นเหนือชั้นขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?”

“ไม่ใช่สิ เหมือนกับว่าร่างกายนั้นกำลังรักษาตัวเอง”

“คุณพระ นี่มันสังขารร่างกายอะไรกัน?”

เขาลืมตาขึ้นทันใด จากนั้นเห็นคุกใต้ดินอันมืดมิดและมีชายชราผมกระเซิงอยู่ตรงหน้าเขา

ชายชราดูเหมือนขอทาน แต่ดวงตาของเขาส่องประกายผิดปกติ เหมือนแสงเทียนในคืนที่มืดมน เหมือนดวงดาวบนท้องนภา

“อาจารย์?” จิตใต้สำนึกของฉินเทียนสับสน ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าในตอนนี้คือปัจจุบันหรือว่าเป็นเรื่องในอดีต

เขาเอ่ยปากโดยไม่รู้ตัว

ผู้เฒ่านั้นคืออาจารย์ของเขา เป็นเถ้าแก่เก่าของวิหารพญายม ไม่เพียงช่วยชีวิตเขาเท่านั้น แถมยังถ่ายทอดความสามารถให้แก่เขาด้วย รวมถึง《ตำราราชาเทพ》ที่ล้ำค่าเล่มหนึ่ง

“อาจารย์ของแกคือใคร?” ลิเหลียงที่กำลังรวบรวมพละกำลังของเขาเพื่อเตรียมท่ะชกฉินเทียนให้แหลกสลายภายในหมัดเดียว ชะงักงันในทันใด เอ่ยถามโดยสัญชาตญาณ

จิตวิญญาณของฉินเทียนสว่างวาบ ได้สติขึ้นมาในทันใด เห็นลิเหลียงที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างชัดเจนและเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด

ช่วงเวลานี้ ดูเหมือนว่าความโกลาหลนั้นจะพัดพาช่วงเวลาที่เหมาะสมมาให้

เขารู้สึกอย่างชัดเจน ภายในร่างกายที่แตกสลาย เลือดที่เดือดดาลกำลังไหลเวียนอย่างรวดเร็ว

ภายในเลือดที่เดือดพล่านนั้นราวกับว่ามีพละกำลังที่ล้นเหลืออย่างไม่อาจหาที่เปรียบได้

ไม่ว่าจะขยับร่างกายส่วนใด ความเจ็บปวดหายไป รู้สึกสบายเป็นอย่างมาก

เลือดของตนนั้นสูบฉีดแล้ว!

สูบฉีดขึ้นอีกครั้งแล้ว!

เขาทั้งตกตะลึงและทั้งดีใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาพบเจอสถานการณ์เช่นนี้

ก่อนหน้านี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วสองครั้ง ในตอนที่ถูกห้อมล้อม ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย เมื่อเขารู้สึกว่าเขาต้องตาย ภายในเลือดของเขาก็เกิดพลังที่แปลกประหลาดขึ้น

ทำให้เขาเปลี่ยนความพ่ายแพ้เป็นชัยชนะ ถอนตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย

ในเวลาช่วงหนึ่ง เขาเคยคิดว่าตัวเองเหมือนพระเอกนิ้วทองในนิยายแฟนตาซี เขาอาจจะมีสายเลือดและชีพจรของนกฟีนิกซ์

ไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งครั้ง เขานำเลือดของตนเองไปที่ห้องปฏิบัติการชั้นนำของโลกเพื่อทำการทดสอบ

อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ได้ นอกเสียจากระดับของธาตุที่สูงกว่าเพียงเล็กน้อย นอกนั้นก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากคนทั่วไป

แม้จะมีค่าดัชนีบางส่วนที่สูงกว่า แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่เหมาะสม

ดังนั้นเขาคิดว่าพลังสายเลือดบ้าบออะไรกัน นั่นเป็นเพียงแค่การกระตุ้นศักยภาพของเขาในยามที่เขาตกอยู่ในอันตราย

ผู้ใดก็ตามเมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์ขั้นวิกฤต สิ่งใดก็สามารถกระตุ้นตัวของคนผู้นั้นได้ทั้งนั้น

ตอนนี้ สัมผัสได้ถึงความผิดปกติภายในเลือดได้อย่างชัดเจน ในที่สุดเขาก็ยืนยันได้ นี่ไม่ใช่การคิดไปเอง ไม่ใช่พลังที่กระตุ้นที่ธรรมดาเช่นกัน

การค้นพบนี้ทำให้เขาประหลาดใจและดีใจเป็นอย่างยิ่ง

เขาจ้องมองลิเหลียงที่อยู่ด้านหน้า ยกมุมปากขึ้นแล้วพูดเย้ยหยัน “อาจารย์ของฉัน คือบรรพบุรุษของคุณยังไงล่ะ”

อะไรนะ?

ลิเหลียงชะงักไปชั่วขณะ จากนั้นเขาเกรี้ยวโกรธเป็นอย่างมาก

ในเวลานี้ ฉินเทียนไม่เพียงไม่ร้องขอความเมตตาเท่านั้น แถมยังกล้าทำให้ตัวเขาต้องอับอายอีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นคือเขากำลังหัวเราะเยาะอยู่

“ตายซะ!”

ท่ามกลางเสียงคำราม ลิเหลียงปล่อยหมัดออกไป ราวกับฝูงม้าจำนวนมหาศาลวิ่งพุ่งทะยานไปข้างหน้า

“อย่า!”

“พี่เทียน”

ด้านล่างเวที เสียงร้องห่มร้องไห้ดังระงม มีคนมากมายทนไม่ได้ที่จะเห็นฉินเทียนถูกชกจนแหลกละเอียด ต่างพากันหลับตาลง

ลิฉุนและเถียหนิงซวง ด้วยความโกรธที่เดือดดาล ทั้งสองเป็นลมสลบไปในทันใด

ในขณะนี้ พละกำลังเน่ยจิ้งภายในร่างกายของฉินเทียน ในที่สุดก็รวบรวมได้ในระดับหนึ่งแล้ว

ด้วยเสียงร้องตะโกน ฉับพลันลุกขึ้นนั่ง หมัดที่เกิดขึ้นมาอย่างไม่คาดคิดก็ปะทะเข้ากับหมัดของลิเหลียง