ตอนที่ 571 คาดหวัง
มิรอให้มู่จวินฮานเปิดปาก ชิงเฟิงก็กล่าวต่อทันที “บ่าวจะเร่งพวกเขาให้ทำเสร็จโดยเร็วขอรับ”
“แล้วหาช่างเข้ามาในจวนเพิ่มอีก พร้อมสั่งการลงไปว่าให้พวกเขาเร่งมือทำ จวนจะให้เงินพวกเขาเพิ่มแต่มิอนุญาตให้อู้งาน”
หลังข่าวแพร่ไปถึงหูบรรดาช่าง พวกเขาก็เลือดพลุ่งพล่านไปทั้งกาย คนส่วนใหญ่ล้วนขอบคุณในความเห็นอกเห็นใจของท่านอ๋อง
ตั้งแต่เริ่มสร้างบ่อน้ำร้อน อันหลิงเกอก็ตั้งตารอมาโดยตลอด แต่วันเวลาที่ต้องรอคอยกลับยาวนานกว่าที่คิดไว้
“พระชายา พวกเราไปเล่นชิงช้ากันดีหรือไม่เจ้าคะ ? ” ปี้จูเห็นเจ้านายนั่งถอนหายใจอยู่ในห้อง จึงคิดว่ามิใช่เรื่องดีและคิดชวนออกไปเล่นข้างนอก
คราวก่อนเห็นพระชายานั่งชิงช้าแล้วมีความสุข ปี้จูจึงคิดว่านางชอบของสิ่งนั้นมาก
หลังอันหลิงเกอจมอยู่ในความคิดได้พักหนึ่งดวงตาก็เป็นประกาย “ปี้จู เจ้าคิดว่าในจวนอ๋องมีหินที่เนื้อสัมผัสเรียบเนียนแต่มีน้ำหนักอยู่ไหม ? ”
อันหลิงเกอจำได้ว่าตอนอยู่ที่หอพิษกู่ก็มีของเล่นอย่างหนึ่งที่เล่นแล้วสนุกยิ่งนัก
เมื่อเห็นท่าทางดีใจของอันหลิงเกอแล้ว ปี้จูก็รีบนึกถึงของที่เป็นไปได้ทั้งหมด แต่หลังจากครุ่นคิดอยู่นานก็ยังคิดมิออกอยู่ดี
“พระชายาจะนำหินไปทำอันใดหรือเจ้าคะ” ปี้จูรู้สึกสงสัยขึ้นมา แต่ทันใดนั้นนางก็ปรบมือ “มีแล้ว ! บ่าวจะไปถามชิงเฟิงเดี๋ยวนี้ ถ้ามีหินนั่นก็จะให้เขานำมาให้พระชายาดูนะเจ้าคะ ! ”
ตอนนี้ชิงเฟิงเพิ่งทานข้าวเสร็จและกำลังจะไปควบคุมการสร้างบ่อน้ำร้อนต่อ ทว่ายังมิทันได้เดินออกจากประตูก็เห็นสาวใช้คนหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน หลังมองให้แน่ใจแล้วก็พบว่าเป็นปี้จู
เมื่อเล่าสาเหตุที่มาในครั้งนี้จบแล้ว ปี้จูก็มองเขาอย่างคาดหวัง
“ในเมื่อเป็นของที่พระชายาอยากได้ ข้าจะไปหามาให้” ชิงเฟิงเงยหน้ามองท้องฟ้าด้านนอก พอเห็นว่าตอนนี้ยังเช้าอยู่ เขาก็กล่าวกับนางว่า “เจ้ากลับไปก่อน ประเดี๋ยวตอนสายข้าจะหาหินชั้นดีไปให้”
พระอาทิตย์ลอยสูงอยู่เหนือศีรษะ อันหลิงเกอกำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ของลาน ข้างหูมีเสียงแมลงดังเป็นระยะทำให้คนฟังรู้สึกรำคาญมิน้อย แต่ในขณะที่กำลังเดินเข้าไปในเรือน ชิงเฟิงก็นำหินมาส่ง !
นางเห็นเพียงตะกร้าใบใหญ่ถึงสองใบที่บรรจุหินจนเต็ม ต้องใช้คนถึงสี่คนคอยแบกไว้ ท่าทางหนักน่าดู อีกทั้งสีของมันดูสวยงามยิ่งนัก
หลังวางตะกร้าลงแล้วคนพวกนั้นก็เดินเข้ามาหา
อันหลิงเกอเดินวนรอบตะกร้าหินสามรอบแล้วหยุดฝีเท้าลง “เป็นหินที่ดีตรงกับที่ข้าอยากได้พอดี ปี้จู เจ้าไปเชิญช่างในจวนมาสองคน ข้าจักให้พวกเขาทำอันใดบางอย่าง”
ขณะมองรอยยิ้มแฝงความนัยของพระชายา ปี้จูก็พยักหน้ารับแล้วรีบเดินออกจากเรือนทันที ตอนกลับมาอีกครั้งตรงด้านหลังของนางก็มีช่างสองคนเดินตามมาติด ๆ
“มิทราบว่าพระชายาประสงค์สิ่งใดหรือขอรับ ? ” ชายชราทั้งสองคนกำลังจะคุกเข่าลงแต่โดนอันหลิงเกอห้ามไว้เสียก่อน อายุมากเพียงนี้แล้วก็มิใช่เรื่องง่าย
“วันนี้ข้าอยากให้พวกเจ้าเอาหินไปตัดและขัดให้ได้ออกมาเป็นหินขนาดเท่าก้อนสี่เหลี่ยมเยี่ยงนี้” อันหลิงเกอโยนหินเล่นแล้วก็ยื่นสิ่งที่นางวาดเอาไว้ให้ช่างทั้งสองดู
เมื่อสังเกตจนละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ช่างทั้งสองก็ตกปากรับคำ “เราทำได้ขอรับ เพียงแต่ต้องใช้เวลาหน่อย”
“ไม่มีปัญหา” อันหลิงเกอกล่าวด้วยรอยยิ้ม สายลมโบกสะบัดกระโปรงนางให้พลิ้วไหว “เสร็จเมื่อไรก็เอามาให้ข้าดู”
พอส่งช่างทั้งสองคนออกไปแล้วอันหลิงเกอก็ให้ปี้จูไปนำสีน้ำมาที่นี่ จากนั้นก็ปิดประตูและนั่งวาดภาพตลอดทั้งวัน จนผ่านไปสามวันหินพวกนั้นถูกส่งกลับมา แต่นางก็ยังมิหยุดพู่กัน
“พวกเจ้าเข้ามาในเรือน ข้าจะสอนเล่นของอย่างหนึ่ง ! ” อันหลิงเกอยืนพิงประตูและกล่าวอย่างมีความสุข บนมือเปื้อนไปด้วยสีสัน เห็นได้ชัดว่านางยังมิได้ล้างมือ
เมื่อความสนุกมาถึงพวกสาวใช้ก็หยิบไปดูเล่น แต่หลังจากเห็นลวดลายที่ประหลาดตาแล้วพวกนางก็อดมิได้ที่จะถาม “พระชายา นี่คือสิ่งใดหรือเจ้าคะ ? ”
“วันนี้จะสอนพวกเจ้าเล่น ลายบนนี้…” อันหลิงเกอพับแขนเสื้อแล้วอธิบายให้สาวใช้ฟัง บางครั้งก็หยิบหินขึ้นมายกตัวอย่างให้ดู หลังอธิบายอยู่นานพวกสาวใช้ก็ยังเข้าใจแค่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ
นี่คือสิ่งที่นางเล่นกับคนในยุทธภพตอนอยู่หอพิษกู่ เหมือนจะเรียกว่า*หม่าเตี้ยว สักอย่าง
ปี้จูเห็นอันหลิงเกออธิบายเร็วเกินไปจึงอดห้ามปรามมิได้ “พระชายา ท่านอธิบายเร็วเกินไป พวกเรามิเคยเห็นเจ้าสิ่งนี้มาก่อนนะเจ้าคะ”
ต่อจากนั้นก็มีเสียงหัวเราะสนุกสนานของสตรีดังออกมาเป็นครั้งคราว ท่าทางมีความสุขกันน่าดู !
“พอแล้ว” อันหลิงเกอดันหินก้อนเล็กกลับคืนตำแหน่งเดิมหลังชนะไปสามตา คนอื่นต่างทำหน้าเศร้า มีเพียงนางเท่านั้นที่มีความสุขกว่าใคร
ส่วนปี้จูร้องตะโกนด้วยความมิพอใจ นางยังอยากเล่นต่อแต่โดนอันหลิงเกอห้ามไว้เพราะฟ้าจะมืดแล้ว หากมู่จวินฮานกลับมาเห็นฉากแบบนี้เข้าก็คงมิค่อยดี
“คืนนี้เพิ่มเนื้อไก่ให้พวกเจ้าสำหรับมื้อเย็น พรุ่งนี้พวกเจ้าค่อยเล่นใหม่ ! ”
ขณะที่สาวใช้กำลังแยกย้าย อันหลิงเกอก็ส่ายหน้าอย่างจนปัญญา จากนั้นก็ย้ายร่างไปรอทานข้าวที่ห้องด้านข้าง
ผ่านไปมินานมู่จวินฮานก็ก้าวเข้ามาในห้อง หลังเปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาและมานั่งฝั่งตรงข้ามนางแล้ว เขาก็เห็นแววตาเปื้อนยิ้มของนางจึงอารมณ์ดีเรียกให้สาวใช้ยกสุราดอกท้อที่บ่มมาเนิ่นนานเข้ามาสองสามไห
“ดื่มสุราตอนท้องว่างมันเสียสุขภาพเจ้าค่ะ” อันหลิงเกอมุ่ยปากด้วยความมิพอใจ จากนั้นก็แย่งจอกในมือเข้าโดยมิอธิบาย “ทานข้าวก่อนเจ้าค่ะ”
มู่จวินฮานก็มิได้ต่อต้านราวกับดวงตาที่เต็มไปด้วยแสงจันทร์สีเงินได้แตกสลายเบา ๆ หลังเห็นนางทำสีหน้าอ่อนโยนราวกับสายลมพัดผ่าน เขาก็มองจนโง่งม มิอาจละสายตาได้ชั่วขณะ
“วันนี้เจ้าดูอารมณ์ดีมาก” มู่จวินฮานก้มหน้าถาม น้ำเสียงแจ่มชัดราวกับกระบี่ที่ออกจากฝัก “ไปทำอันใดมาหรือ ? ”
อันหลิงเกอที่ตอนนี้ปากเต็มไปด้วยอาหารจึงได้แต่ตอบด้วยเสียงที่คลุมเครือ “ใช่ แต่ก็เป็นแค่การเล่นสนุกที่เหล่าสตรีชอบเล่นกันเท่านั้น วิธีเล่นก็ง่ายแล้วสนุกด้วย ช่วยแก้เบื่อได้ดีเจ้าค่ะ”
มู่จวินฮานได้ฟังก็พยักหน้ารับ จากนั้นก็มิถามอันใดออกมาอีก
ตอนนี้ในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของสุราดอกท้อ มันให้ความรู้สึกสดชื่น ทั้งสองคนดื่มเข้าไปคนละนิดและนอนหลับสบายทั้งคืน
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังซูเอ๋อได้รับเทียบเชิญจากอันหลิงเกอก็รีบนั่งรถม้ามาที่จวนอ๋องมู่ ขณะนั่งรอที่ห้องโถงก็อดนึกถึงเรื่องที่ปี้จูเล่าให้ฟังเมื่อครั้งก่อนมิได้ ทำให้หน้าแดงระเรื่อทันที
“เหตุใดจึงมาเช้าเพียงนี้เล่า” อันหลิงเกอเดินเข้ามาทางประตูหน้า นางดึงตัวซูเอ๋อให้ออกไปนั่งที่เรือนฝูหลิง “ตามข้ามา วันนี้ที่เชิญเจ้ามาเพราะอยากเล่นสนุกกับเจ้า ! ”
สาวใช้ในเรือนกำลังสนทนากันสนุกปาก ก้อนหินบนโต๊ะก็ดังกระทบกันเป็นระลอก
“นี่คืออันใดถึงต้องใช้คนเล่นเยอะเพียงนี้ ? ” ซูเอ๋อชอบการลิ้มลองของใหม่ ยังมิทันให้อันหลิงเกอได้เรียก ตัวนางก็วิ่งมาดูที่ขอบโต๊ะแล้ว
เมื่อเห็นท่าทางรีบร้อนของนาง อันหลิงเกอก็มิอ้อมค้อมรีบอธิบายกฎเหมือนเมื่อวานอีกรอบ จากนั้นก็ลากซูเอ๋อมานั่งเล่นที่โต๊ะของตน
โชคดีที่ซูเอ๋อเป็นคนฉลาด เมื่อลองเล่นได้สองสามครั้งก็เริ่มเข้าใจ หรือเล่นได้ดีกว่าพวกสาวใช้เลยก็ว่าได้
ต่อจากนั้นมินานในเรือนก็คึกคักขึ้นเรื่อย ๆ
อันหลิงเกอเล่นอย่างมีความสุขจนจำมิได้ว่าผ่านไปนานเท่าไรแล้ว แม้แต่มู่จวินฮานกลับมาตอนไหนนางก็มิรู้ตัว
และคนแรกที่เห็นมู่จวินฮานกลับมาก็คือซูเอ๋อ นางจึงเอื้อมมือไปตีแขนอันหลิงเกอและเหลือบมองไปที่ประตู “ท่านอ๋องของเจ้ากลับมาแล้ว”
หลังเงียบไปพักใหญ่มู่จวินฮานก็เดินลงจากบันได การแสดงออกทางสีหน้าและคำพูดดูเหมือนจะมิตรงกัน “ฮูหยินท่านแม่ทัพเชิญตามสบาย ข้าแค่มาดูเกอเอ๋อเท่านั้น”
เขาอยากเห็นจริง ๆ ว่านางเล่นอันใดได้ทุกวี่ทุกวัน
…
*หม่าเตี้ยว คือ ไพ่นกกระจอก