ตอนที่ 1956
ปัง!
เมื่อเดม่อนจํานวนมากตกอยู่ในความสิ้นหวัง มือขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นมา นี่คือมือที่ควบแน่นขึ้นมาจากเปลวไฟสีดํา มีขนาดใหญ่มาก เหมือนว่าจะสามารถบดขยี้ดาวเคราะห์จนระเบิดได้
ส่วนลึกของมือนี้ก็มีลวดลายสีดําปรากฏขึ้นมามากมาย เป็นอักขระเปลวไฟสีดํา เหมือนว่าจะเป็นแหล่งพลังงานที่มาจากส่วนที่ลึกที่สุดของอบิส
เปลวสีดําเช่นนี้ทําให้เดม่อนจํานวนนับไม่ถ้วนหวาดกลัวจนสั่นไหว เพราะนี่คือเปลวไฟทมิฬที่เลื่องลือของอบิส แอบแฝงไปด้วยพลังทําลายล้างที่น่าสะพรึงกลัว
เมื่อใดที่สัมผัสเข้าไป จะถูกแผดเผาจนตายไปอย่างกะทันหัน แม้แต่จิตวิญญาณก็จะลุกไหม้จะถูกแผดเผา จนกว่าจะมอดมวยไปจนหมด นี่คือเปลวไฟแห่งการท่าลายล้างของอบิส
“หืมม?!”
เซี่ยปิงก็รู้สึกได้ถึงจิตสังหารที่แรงกล้า เขาจึงแสดงย่างก้าวหยานเปุ๋ยออกมา ร่างของเขากระพริบหายไป หายไปจากจุดเดิมอย่างกะทันหัน
ทว่ามือสีดําขนาดใหญ่นั้นก็ตบเข้ากับพื้นดินอย่างรุนแรง ทําให้เกิดเป็นรอยฝ่ามือที่มีขนาดหนึ่งแสนกิโลเมตรอย่างกะทันหัน ภูเขาที่อยู่ในบริเวณนี้ต่างก็เรียบแบนไป ราบเป็นหน้ากลอง
เกิดเป็นรอยแยกขึ้นมามากมายบนแผ่นดิน เป็นรอยแตกที่ลึกและน่าสะพรึงกลัวมาก ไม่สามารถที่จะมองเห็นจุดที่ลึกที่สุดได้
ในขณะเดียวกันเปลวไฟทมิฬก็แผดเผาอยู่รอบๆรอยแยกเหล่านี้ ละลายก้อนหินและดิน เปลี่ยนกลายเป็นแม่น้ําลาวาสีดํา เต็มเปี่ยมไปด้วยออร่าทําลายล้าง ออร่าความมืดมิดและออร่าความคลุ้มคลั่ง
นี่ก็ทําให้เดม่อนจํานวนมากรู้สึกใจสั่นขึ้นมา
เซี่ยปิงก็มองไปข้างหน้า เขาค้นพบว่ามีเดม่อนที่น่าสะพรึงกลัวตัวหนึ่งกําลังยืนอยู่บนอากาศตรงหน้าตนเอง ราวกับเป็นดวงอาทิตย์ก็ว่าได้ ทว่ากลับเป็นสีดํา ร่างกายมีหนวดมากมาย มีสองตาและหนึ่งปาก
ทั่วทั้งร่างกายลุกโชนไปด้วยเปลวไฟ เป็นเปลวไฟสีดําที่กําลังแผดเผา ราวกับเป็นดวงอาทิตย์สีดําที่ร้อนระอุซึ่งกําลังลอยอยู่บนท้องฟ้า
“เดม่อนอรุณแสง?!”
เซี่ยปิงก็รับรู้ได้ทันที ผู้ที่โจมตีเขาเมื่อครู่นี้ก็คือเดม่อนในระดับสูงสุดที่เลื่องลือนั่นเอง เป็นเดม่อนที่มีพลังการต่อสู้ที่ทรงอํานาจและเหนือชั้นยิ่งกว่าเดม่อนนรกเก่าขุมเสียอีก นี่คือเดม่อนอรุณแสง!
“เจ้ามนุษย์ เจ้าเป็นของข้า ข้าจะต้องกินเจ้า จะต้องกินเจ้าให้ได้!”
เดม่อนอรุณแสงตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง ส่วนลึกของม่านตาฉายแววความคลุ้มคลั่งออกมาอย่างเห็นได้ชัด เหมือนว่าจะไม่สามารถยับยั้งตนเองได้อีกแล้ว จะต้องสังหารเซียปิงด้วยตนเอง มันอดใจรอไม่ไหวที่จะได้กลืนกินเลือดเนื้อของเซียปิง
เหมือนกับว่าพลังงานในร่างกายของเซี่ยปิงกําลังเรียกหามัน มันไม่สามารถยับยั้งความตื่นเต้นของสายเลือดตนเองได้เลย
ก่อนหน้านี้เหตุผลที่มันไม่ร่วมมือกับเดม่อนนรกเก้าขุมและเพียงยืนมองอยู่ด้านข้างนั้น เป็นเพราะมันไม่เคยสนใจพวกพ้องเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เป็นตัวตนที่เห็นแก่ตัวและเลือดเย็น อีกทั้งสิ่งที่สําคัญยิ่งกว่านั้นก็คือมันต้องการกําจัดคู่แข่งอย่างเดม่อนนรกเก้าชุมไปเช่นกัน ต้องการครอบครองเลือดเนื้อของเจ้ามนุษย์นี่แต่เพียงผู้เดียว
ตอนนี้เมื่อเดม่อนนรกเก้าขุมตายไปแล้วนั้น มันก็สามารถเคลื่อนไหวออกมาได้อย่างอิสระ ไม่จําเป็นต้องยั้งมืออีกต่อไป ต่อให้จะสังหารเจ้ามนุษย์นี้ ก็จะไม่มีเดม่อนตัวใดที่กล้าเข้ามาแย่งชิงมัน
หล่ง หล่ง หล่ง
ภายในชั่วพริบตา เห็นเพียงแค่ว่าหนวดจํานวนนับไม่ถ้วนของเดม่อนอรุณแสงก็กวัดแกว่งออกไป ภายในระยะเวลาอันสั้น เปลวไฟก็ลุกลามขึ้นมาจากหนวดเหล่านี้ หนวดแต่ละเส้นเปลี่ยนกลายเป็นภูเขาเปลวไฟทมิฬขนาดใหญ่ โจมตีตรงไปสู่ร่างของเซี่ยปิง
“ภูเขาเปลวไฟเดม่อน!”
มันคลุ้มคลั่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ต้องการสังหารให้ได้โดยเร็วที่สุด ไม่ให้โอกาสฝ่ายตรงข้ามเอาตัวรอดได้ จะต้องสังหารเจ้ามนุษย์นี่ด้วยพลังอํานาจที่แท้จริง แผดเผาไม่ให้เหลือแม้กระทั่งเส้นขน
เมื่อพลังอํานาจระดับสูงสุดของนักล่าตามธรรมชาตินี้ปะทุออกมา ความคลุ้มคลั่งของมันก็ทําให้เดม่อนที่อยู่รอบๆหวาดกลัวจนหลบหนีออกไป ไม่กล้าที่จะเข้าใกล้ เกรงกลัวว่าเดม่อนอรุณแสงจะมองพวกมันเป็นอาหารและกินพวกมันเข้าไป
“ล่าถอย ล่าถอยโดยเร็ว เดม่อนอรุณแสงคลุ้มคลั่งแล้ว ไม่สามารถอยู่ที่นี่ต่อได้ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะต้อง ตายอย่างแน่นอน”
เดม่อนจํานวนนับไม่ถ้วนก็ล่าถอยออกไปอย่างรวดเร็ว หลบหนีไปให้ไกลจากสนามรบนี้
“จะกินข้า? เจ้าไม่คิดว่าข้าก็ต้องการกินเจ้าหรือ? ตอนนี้ข้าจะแสดงให้เจ้าได้เห็นว่าใครเป็นนักล่าที่อยู่ในจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร!” เซี่ยปิงแสยะออกมาพร้อมกับดวงตาทั้งสองข้างที่เผยแสงที่หนาวเหน็บ
เซลล์อีกานรกทองคําหนึ่งร้อยล้านเซลล์ในร่างกายของเขาก็กําลังเดือดระอุขึ้นมา เส้นเลือดนับไม่ถ้วนราวกับเป็นแม่น้ําลาวา พลังงานเปลวไฟที่ไร้ที่สิ้นสุดลุกโชนออกมาจากรูขุมขนทั่วทั้งร่างกาย
ภายในระยะเวลาอันสั้น อักขระอีกานรกทองคําก็ควบแน่นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนกลายเป็นอีกานรกทองคําโดยตรง ปีกของมันแผดเผาไปด้วยเปลวไฟ มีออร่าของขุนนางยุคโบราณแผ่ออกมา
ปัง!
เห็นเพียงแค่ว่าอีกานรกทองคํานี้ขยับเพียงเล็กน้อย อ้าปากออกมา เปลวไฟนับไม่ถ้วนในส่วนลึกของความว่างเปล่าก็ถูกมันดูดกลืนเข้ามาทันที
ภูเขาเปลวไฟทมิฬบนอากาศก็พ่ายแพ้ไปอย่างกะทันหัน เปลี่ยนกลายเป็นพลังงานเปลวไฟและอักขระในทุกหนแห่งก่อนที่จะหายเข้าไปในกระเพาะของอีกานรกทองค่าจนหมดจด
ทันใดนั้นเปลวไฟทมิฬก็ถูกกลืนกินเข้ามาอย่างสมบูรณ์ ไม่หลงเหลือแม้แต่เศษเสี้ยว
เดม่อนอรุณแสงก็ตกใจอย่างมาก มันมีชีวิตอยู่มาอย่างยาวนาน อยู่ในทวีปเดม่อนแห่งนี้ เป็นผู้ปกครองมาตั้งแต่กําเนิด ยืนตระหง่านอยู่เหนือเดม่อนนับไม่ถ้วน
เปลวไฟที่มันปลดปล่อยออกมา ไม่มีสิ่งใดที่จะไม่สามารถแผดเผาได้ ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องแหลกสลายต่อ น้าเปลวไฟทมิฬของมัน
ทว่าตอนนี้ เจ้ามนุษย์นี้กลับกลืนเปลวไฟทมิฬของมันเข้าไปอย่างง่ายดาย ราวกับเป็นการกินอาหารก็ว่าได้ กินเปลวไฟที่ตนเองปลดปล่อยออกมาจนหมดจด
เรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องที่มันไม่เคยพบไม่เคยเจอมาก่อน ส่งผลให้มันตกตะลึงจนตาค้าง
“สังสารวัฏหกวิถี การลงทัณฑ์แห่งขุมนรก หอกยมราช!”
ทันใดนั้นเซี่ยปิงก็ไม่รีรอแต่อย่างใด เขาไหลเวียนสายเลือดอีกานรกทองคําภายในร่างกาย อักขระสีทองดําจํานวนนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้นมา เปลวไฟอีกานรกทองคําก็รวมตัวกันอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนกลายเป็นหอกสีทองดํา
นี่คือหอกยมราช!
ฟิ้ว!
เห็นเพียงแค่ว่าเซี่ยปิงจับหอกสีทองดํานี้ไว้อย่างแน่น จากนั้นก็โยนตรงไปที่เดม่อนอรุณแสง มีความเร็วที่รวดเร็วอย่างสุดขีด ฉีกผ่านห้วงอวกาศ ราวกับเป็นเทพเจ้าที่ยิงลูกศรออกมาก็ว่าได้นําพาออร่าแห่งความตายที่น่าสะพรึงกลัวออกไป
หอกยาวที่พุ่งออกไปบนอากาศ ทําลายทุกสิ่งทุกอย่างในระหว่างทาง อากาศถูกปัดเป่าออกไปสะท้านฟ้า สะท้านดิน
ปัง!
เดม่อนอรุณแสงก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ร่างกายขนาดใหญ่ของมันถูกหอกยมราชนี้เสียบทะลุไป ทั่วทั้งร่างกายถูกเจาะทะลวงไปโดยตรง เกิดเป็นรูขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางล่าตัว
อึดใจต่อมา ออร่าทําลายล้างภายในหอกยมราชก็ปะทุออกมาอย่างกะทันหัน สร้างพลังทําลายล้างที่น่าสะพรึงกลัว ทําลายจิตวิญญาณของเดม่อนอรุณแสงไปอย่างกะทันหัน
นี่ราวกับเป็นการลงทัณฑ์ของยมราช เก็บเกี่ยวจิตวิญญาณ ทําลายจิตวิญญาณของเดม่อนอรุณแสงโดยตรง
“อ้ากก!!”
ในเวลานี้ เดม่อนอรุณแสงก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่รวดร้าว เมื่อรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนลึกของม่านตาก็เผยให้เห็นถึงความแตกตื่น ความไม่เต็มใจและความรู้สึกผิด
ทว่ามันก็สายเกินไปเสียแล้ว
ร่างขนาดใหญ่ของมันถูกหอกยมราชนี้เสียบทะลุไป จากนั้นก็ระเบิดกระจุยกระจายกลายเป็นชิ้นๆ จิตศักดิ์สิทธิ์ดับสลายไป ตายไปโดยที่ไม่สามารถตายได้อีก
บอกตามตรง เดม่อนอรุณแสงเป็นเดม่อนที่ทรงอํานาจอย่างแท้จริง เป็นตัวตนในระดับสูงสุด เพียงแค่เปลวไฟทมิฬิของมันก็เพียงพอที่จะแผดเผาศัตรูที่เข้ามาใกล้จนตายได้
อย่าพูดถึงว่ามันก็มีร่างกายที่ใหญ่โต อีกทั้งยังมีความสามารถในการฟื้นตัวที่น่าอัศจรรย์ ผู้บ่มเพาะปกติทั่วไปที่ต้องการจะทําให้มันบาดเจ็บนั้น เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ปกติแล้วการที่ต้องการจะสังหารเดม่อนอรุณแสงสักตัว จําเป็นที่จะต้องสังเวยชีวิตของมนุษย์ไปมากมาย หากยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าไม่ได้ตายไปหลายพันคน ก็ไม่มีทางที่จะสังหารเดม่อนอรุณแสงได้
น่าเสียดายที่เดม่อนอรุณแสงมาพบเข้ากับเซี่ยปิง ตัวตนที่เป็นปรปักษ์ต่อมัน เพราะอย่างแรกเปลวไฟทมิฬ ไม่มีผลใดๆต่อเขา
อย่างต่อมาคือการที่เขาน่าหอกยมราชออกมา นี้คืออาวุธจากขุมนรก เพ่งเล็งไปที่จิตวิญญาณโดยตรง ต่อให้เดม่อนอรุณแสงจะมีร่างกายที่ใหญ่โตและมีความเร็วในการฟื้นฟูที่มหัศจรรย์แค่ไหน มันก็ยังคงเปล่าประโยชน์
เพียงแค่การโจมตีนี้ จิตวิญญาณของมันก็ดับสลายไป ราวกับถูกเก็บเกี่ยววิญญาณโดยยมราชก็ว่าได้
การที่มันมาเจอกับเซี่ยปิงเช่นนี้ นับว่าเป็นความโชคร้ายของแปดชาติจริงๆ เป็นเรื่องยากที่จะเอาชีวิตรอดออกไปได้