ตอนที่ 1957

 

ทันทีที่เดม่อนอรุณแสงตายไป เดม่อนจํานวนมากก็หวาดกลัวจนแทบจะเป็นลมหมดสติไป

 

“นี่มันเป็นไปไม่ได้ แม้แต่เดม่อนอรุณแสงก็ไม่ใช่คู่มือของเจ้ามนุษย์นี้หรือ?!”

 

“เจ้ามนุษย์นี่เป็นเพียงแค่ผู้บ่มเพาะในระดับกฎเทวรูปขั้นกลางเท่านั้น เหตุใดถึงได้มีพลังอานาจที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้?”

 

“บัดซบ อันที่จริงใครกันที่เป็นปีศาจ? ไม่คาดคิดว่าเดม่อนในระดับสูงสุดสองตัวจะถูกเจ้ามนุษย์นี่สังหารไป เดม่อนที่ไหนอีกที่จะเป็นคู่ต่อสู้ให้กับเจ้ามนุษย์นี่ได้?!”

 

“เดม่อนหัวใจสวรรค์ เดม่อนหัวใจสวรรค์อยู่ที่ไหน?”

 

“เวรเอ๊ย เจ้านั่นหลบหนีไปแล้ว เจ้านี่มักจะมีประสาทสัมผัสที่เฉียบไว เมื่อรู้ว่าตนเองตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย ดังนั้นจึงได้หลบหนีออกไปก่อนใครอื่น”

 

“เจ้าเดม่อนหัวใจสวรรค์บัดซบ นั่นมันเดม่อนในระดับสูงสุดเช่นกัน ไม่คาดคิดว่าจะเป็นเช่นนี้ ขี้ขลาดตาขาว” 

 

เดม่อนจํานวนมากก็โมโหจนใบหน้าเขียวขึ้นมา พวกมันที่ทุ่มเทอย่างสุดความสามารถเพื่อต้านการเจ้ามนุษย์นี้ไว้ ไม่คาดคิดว่าเจ้าเดม่อนหัวใจสวรรค์นั่นจะหลบหนีเอาตัวรอดไปก่อน

 

ทว่าพวกมันก็ไม่มีทางเลือก บอกตามตรง ในบรรดาเดม่อนนั้น เดม่อนหัวใจสวรรค์ถือว่าเป็นเดม่อนที่มีความสามารถในการเอาตัวรอดที่ล้ําเลิศที่สุด หากเดม่อนหัวใจสวรรค์ต้องการที่จะหลบหนีออกไปจริงๆ ก็ไม่มีใครที่จะสามารถจับตัวมันได้

 

ทันใดนั้นเป็นเพราะการตายของเดม่อนอรุณแสงและเดม่อนนรกเก๊ขุม ความมั่นใจของเดม่อนที่อยู่รอบๆก็หายไปในพริบตา ไม่มีเดม่อนตัวใดที่กล้าเข้าไปโจมตีเซี่ยปิงอีก

 

พวกมันแต่ละตัวต่างก็ยืนอยู่ที่จุดๆเดิม พยายามครุ่นคิดหาวิธีการที่จะหลบหนีออกไป

 

ทว่าการที่ต้องการให้กลุ่มของเดม่อนเหล่านี้สามัคคีปรองดองและร่วมมือเป็นปึกแผ่นเดียวกัน นั่นเป็นเรื่องที่ยากมาก เมื่อปราศจากเดม่อนในระดับผู้ปกครองที่คอยสั่งการนั้น พวกมันก็จะไม่ยอมรับคําสั่งของใครทั้งนั้น อยู่ในสภาวะที่ต่างคนต่างเอาตัวรอด

 

“หอกยมราช ช่างทรงพลังเกินไปจริงๆ”

 

เซี่ยปิงก็ไม่ได้สนใจความคิดของเดม่อนเหล่านี้ ในเมื่อพวกเดม่อนไม่ได้โจมตีอะไรเขา เขาก็ไม่ได้วางแผนที่จะเป็นคนริเริ่มสังหารพวกมันก่อน เพราะถึงอย่างไรเขาก็ต้องการใช้พวกมันเป็นโล่กําลังในการต้านทานการลงทัณฑ์แห่งสวรรค์

 

ตอนนี้เขาก็ดื่มด่ำอยู่กับการทําความเข้าใจความสามารถศักดิ์สิทธ์ทางสายเลือดนี้ เมื่อครู่นี้เขารู้สึกดีอย่างมากที่สังหารเดม่อนอรุณแสงได้อย่างง่ายดาย รู้สึกว่าความสามารถศักดิ์สิทธิ์ทางสายเลือด -หอกยมราชที่เพิ่งถือกําเนิดขึ้นมานี้ มีพลังอํานาจที่เผด็จการอย่างที่สุด เพ่งเล็งไปที่จิตวิญญาณโดยตรง

 

กล่าวได้ว่าเมื่อใดที่แสดงกระบวนท่านี้ออกมาและโจมตีศัตรู จากนั้นศัตรูก็จะต้องตายอย่างแน่นอน ราวกับเป็นยมราชที่จุติมาในโลกมนุษย์และทําการเก็บเกี่ยววิญญาณ

 

นี่สําหรับศัตรูที่มีร่างกายแข็งแกร่งนั้น เรียกได้ว่าเป็นพลังอํานาจที่เป็นปรปักษ์อย่างแท้จริง

 

เพราะถึงอย่างไร ต่อให้จะมีร่างกายที่แข็งแกร่งแค่ไหน สุดท้ายก็เปล่าประโยชน์ต่อหน้าหอกยมราชนี้ หากจิตวิญญาณไม่ทรงอํานาจพอ จากนั้นก็ทําได้เพียงแค่หลับตารอความตายเท่านั้น รอให้จิตวิญญาณถูกเก็บเกี่ยว

 

เมื่อใดที่หอกพุ่งทะลวงออกไป จิตวิญญาณจะต้องแหลกสลาย!

 

ปัง!

 

เซี่ยปิงก็เคลื่อนไหวอีกครั้ง ยื่นมือออกไป เหมือนว่าจะถืออํานาจของฟ้าดินไว้ในมือ ความว่างเปล่าควบแน่นกลายเป็นหลุมวน จากนั้นเดิมที่ซากศพของเดม่อนอรุณแสงที่กระจัดกระจายอยู่นั้นก็ถูกดูดเข้ามาอย่างรวดเร็ว

 

อึดใจต่อมา ซากศพของเดม่อนอรุณแสงก็ถูกเตาสุริยะกลั่นกรอง ขจัดสิ่งเจือปนสกปรกออกไปทันที หลงเหลือเพียงแค่แก่นแท้บริสุทธิ์และทํายที่สุดก็เปลี่ยนกลายเป็นลูกบอลที่มีขนาดเท่ากับลูกแตงโม

 

ลูกบอลนี้คือสิ่งที่ควบแน่นขึ้นมาจากแก่นแท้ทั่วทั้งร่างกายของเดม่อนอรุณแสง ไม่ใช่แค่แอบแฝงไปด้วยพลังงานวิญญาณที่ไร้ขอบเขตเท่านั้น ทว่าก็ยังแอบแฝงไปด้วยพลังงานเปลวไฟที่บริสุทธิ์ที่สุดเช่นกัน

 

ในส่วนลึกของลูกบอลนี้ เหมือนว่าจะมีเดม่อนอรุณแสงอาศัยอยู่ อักขระเปลวไฟทุกรูปแบบปรากฏขึ้นมา เหมือนว่าจะเป็นแหล่งต้นกําเนิดของทักษะธาตุไฟทุกรูปแบบของโลกอบิส สามารถที่จะทําความเข้าใจมันได้

 

เพราะถึงอย่างไรเดม่อนอรุณแสงก็เป็นดวงอาทิตย์ที่ทรงอานาจซึ่งกําเนิดขึ้นมาในโลกอบิส ถือว่าเป็นตัวตนที่ใช้ทดแทนดวงอาทิตย์ มีเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ที่แอบแฝงอยู่ภายในตั้งแต่กําเนิด

 

ส่วนลึกของสายเลือดมันก็มีออร่าของการเป็นอมตะ นี่คือสายเลือดของอสูรศักดิ์สิทธิ์ นี้ก็ถือว่ามีผลประโยชน์ที่ไร้ที่สิ้นสุดสําหรับสายเลือดอีกานรกทองคําภายในร่างกายของเซี่ยปิง

 

หลั่ว หลั่ว หลั่ว

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เซี่ยปิงก็ไม่ได้ลังเลแต่อย่างใดอีก ทันใดนั้นก็ไหลเวียนเตาสุริยะออกมาและทําการแผดเผาลูกบอลที่ควบแน่นขึ้นมาจากเดม่อนอรุณแสงนี้ ดูดกลืนเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายใน

 

อดใจต่อมา ลูกบอลนี้ก็หลอมรวมเข้ากับกระดูกและกล้ามเนื้อในร่างกายของเซียปิง ผสมผสานเข้ากับพลังเวทมนตร์ของเขา ทักษะการบ่มเพาะของเขาและแม้แต่สายเลือดอีกานรกทองคำของเขาเช่นกัน

 

อักขระเปลวไฟนับไม่ถ้วนของเดม่อนอรุณแสงก็ได้เข้าไปตามร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว เข้าไปถึงส่วนลึกของทะเลจิตใต้สํานึก ควบแน่นกลายเป็นเมล็ดเปลวไฟอย่างรวดเร็ว

 

ฉั่ว ฉั่ว

 

เมื่อได้รับการกระตุ้นจากแหล่งพลังงานของเดม่อนอรุณแสงนี้ เซี่ยปิงก็รู้สึกว่าเซลล์อีกานรกทองค่าของตนเองกําลังตื่นขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง

 

เดิมที่เซลล์อีกานรกทองคําของเขาที่ตื่นขึ้นมาหนึ่งร้อยล้านเซลล์ การที่ต้องการที่จะปลุกมันต่อไปนั้น จําเป็นต้องใช้พลังงานในปริมาณมหาศาลและเป็นเรื่องที่ยากมาก

 

ทว่าเมื่อได้รับแหล่งพลังงานและเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์จากเดม่อนอรุณแสง ทันใดนั้นมันก็ราวกับเป็นการเติมน้ํามันลงกองไฟ ราวกับได้กินยาชูกําลังระดับสุดยอดก็ว่าได้ ส่งผลให้เซลล์อีกานรกทองคําตื่นขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง

 

10ล้าน 20ล้าน 50ล้าน 70ล้าน 100ล้าน 130ล้าน…

 

ในที่สุดเซลล์อีกานรกทองคําของเขาก็ตื่นขึ้นมาถึงสองร้อยล้านเซลล์ ในอีกคําพูดหนึ่งก็เขาในตอนนี้ เซลล์อีกานรกทองค่าของเขาถูกปลุกขึ้นมาถึงสามร้อยล้านเซลล์

 

“เป็นสายเลือดที่ทรงอํานาจจริงๆ”

 

เซี่ยปิงก็รู้สึกได้ว่าเมื่อตนเองปลุกเซลล์อีกานรกทองคําขึ้นมาได้ถึงสามร้อยล้านเซลล์ พลังอํานาจของเขาก็พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด ก้าวเข้าสู่ระดับใหม่ เขาก็ควบคุมพลังอํานาจของอีกานรกทองคําได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้น

 

เนตรยมราช ดวงตาอีกานรกทองคํา ปีกอีกนรกทองคํา หัวใจอีกานรกทองคํา กรงเล็บอีกานรกทองคํา หอกยมราชและความสามารถศักดิ์สิทธิ์ทางสายเลือดอื่นๆที่เขาได้ครอบครองมาต่างก็พัฒนาขึ้นไปในอีกระดับหนึ่ง ถือว่าทรงอํานาจขึ้นกว่าเดิมถึงหนึ่งเท่าตัว

 

แม้แต่สายเลือดในส่วนลึกของร่างกายก็มีอักขระอีกานรกทองคําปรากฏขึ้นมาเป็นจํานวนมาก ทําให้สายเลือดของเขาเป็นสีทองดํา ดูเหมือนกับว่าจะมีออร่าของการเป็นอมตะปรากฏขึ้นมาลางๆ

 

นี่ก็คือคุณสมบัติเฉพาะตัวของสิ่งมีชีวิตในตํานาน

 

ระยะที่ห่างออกไป เดม่อนจํานวนมากก็สังเกตเห็นสถานการณ์นี้เช่นกัน พวกมันแต่ละตัวต่างก็มีสีหน้าที่ตึงเครียด

 

ในช่วงเวลานี้ พวกมันสัมผัสได้ว่าร่างกายของเจ้ามนุษย์นี่เหมือนจะเปลี่ยนกลายเป็นเตาหลอมก็ว่าได้ แผ่คลื่นความร้อนที่ไร้ที่สิ้นสุดออกมา ดูเหมือนกับเป็นดวงอาทิตย์ที่ร้อนระอุบนท้องฟ้า แผดเผาไปชั่วนิรันดร์

 

เพียงแค่เข้าไปใกล้เล็กน้อย พวกมันก็รู้สึกเหมือนว่าร่างกายจะละลายหายไป พลังฉีเดม่อนปริมาณมากต่างก็ละลายไปภายใต้เปลวไฟที่ร้อนระอุนี้ เหมือนกับเป็นน้ําแข็งที่สัมผัสเข้ากับเปลวไฟก็ว่าได้

 

“บัดซบ เจ้ามนุษย์นี้เหมือนจะแข็งแกร่งขึ้น นี่มันเรื่องอะไรกัน? จะบอกว่าพลังอํานาจของเขาไม่มีขีดจํากัดอย่างนั้นรึ? ช่างน่าเหลือเชื่อเกินไป”

 

เดม่อนบางตัวก็หวาดกลัวอย่างมาก เดิมที่เจ้ามนุษย์นี่ก็น่าสะพรึงกลัวมากแล้ว ตอนนี้ไม่คาดคิดว่าจะพัฒนาขึ้นอีก มีพลังอํานาจที่ล้ําลึกและไม่สามารถประเมินค่าได้ นี่ก็เป็นการประกาศอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการให้พวกมันเดม่อนได้มีชีวิตอยู่ต่อ

 

“นี่ไม่ใช่มนุษย์ ทว่าเป็นปีศาจ ไม่เคยเห็นมนุษย์ที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้มาก่อน พลังอํานาจเพิ่มขึ้นตลอดเวลาราวกับไม่มีเส้นแบ่งขอบเขตก็ว่าได้” เดม่อนจํานวนนับไม่ถ้วนก็หวาดกลัวเซียปิงอย่างแท้จริง ความหวาดกลัวฝังลึกลงไปในหัวใจของพวกมัน

 

ทว่าบนท้องฟ้า ก้อนเมฆแห่งการลงทัณฑ์สีแดงก็เหมือนจะสัมผัสได้ถึงออร่าของร่างกายเซี่ยงที่เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน มันเหมือนจะพิโรธมากขึ้นกว่าเดิม นี่ถือว่าเป็นการท้าทายกฎของจักรวาล

 

หล่ง หล่ง หล่ง

 

ภายในชั่วพริบตา สายฟ้าพิโรธจํานวนนับไม่ถ้วนก็ผ่าลงมาอย่างบ้าคลั่ง ดูเหมือนว่าจะครอบคลุมไปทั่วทั้งบริเวณ เหมือนว่าจะต้องทําให้พื้นที่บริเวณนี้ราบเป็นหน้ากลองให้ได้ สูญสลายไปจากโลกนี้

 

เซี่ยปิงก็อยู่ในใจกลางของสายฟ้าพิโรธที่กระหน่ําลงมา ทุกสิ่งทุกอย่างแทบที่จะจมหายไปภายใต้การลงทัณฑ์สายฟ้านี้

 

ทว่าเขาก็ไม่ได้มีสีหน้าที่ยินดียินร้ายใดๆ เพราะพลังอํานาจของเขาแตกต่างไปจากก่อนหน้านี้ เขาปลุกเซลล์อีกานรกทองคําขึ้นมาได้ถึงสามร้อยล้านเซลล์แล้ว ราวกับเปลี่ยนกลายเป็นคนใหม่ ในตอนนี้เขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก

 

ตึบ!

 

เขาประเคนหมัดออกไป พลังหมัดเปลวไฟที่น่าสะพรึงกลัวก็ปะทุออกมา บดทําลายสายฟ้าในทุกหนแห่ง ไม่คาดคิดว่าจะเจาะทะลวงไปถึงก้อนเมฆแห่งการลงทัณฑ์บนท้องฟ้า ทะลวงจนเกิดเป็นรูขนาดยักษ์ ราวกับเป็นการเจาะทะลวงท้องฟ้าก็ว่าได้