พินอินเร่งเร้าให้ไกรภพรีบดื่มให้หมด ระหว่างที่พูดเร่งหนังตาก็หนักขึ้นเรื่อยๆ วินาทีถัดมา เธอก็ผล็อยหลับไปอย่างไม่รู้ตัว ไกรภพถอยหลังขยับตัวออกห่างจากร่างของเธอ พินอินที่สูญเสียการประคับประคองล้มลงที่พื้นทันที
แต่เพราะเธอหมดสติไปแล้ว ก็จึงไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไร
มือหนึ่งของไกรภพถือแก้วไวน์และอีกมือหนึ่งก็กดโทรออก ไม่นานก็มีชายสามคนเดินเข้ามาในห้อง ในมือของหนึ่งในนั้นมีกล้องติดมาด้วย
ไกรภพมอบหมายงานให้พวกเขาด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์“ ยกคนให้แล้ว ตอนที่ทุกคนลงมือกระทำการอย่าลืมเก็บภาพไว้ด้วย”
“ครับ”
ไกรภพหันหลังแล้วเดินออกจากห้องไป ไม่นานภายในห้องก็มีเสียงหอบหายใจหนักของผู้ชายดังขึ้น
ไกรภพลิ้มรสไวน์แดงอย่างสบายอารมณ์ ยินดีกับแผนการอันราบรื่นของตัวเอง
พินอินทั้งโง่และเอาแต่ใจ เขาก็แทบไม่ได้ออกแรงอะไรเธอก็วิ่งแจ้นมาหาเขาแล้ว พอดีเลยเขาจะได้เอาไว้เป็นตัวประกัน
ที่น่าเสียดายก็คือ วีนาหนีไปได้ซะก่อน
แต่มีพินอินอยู่ในกำมือ เขาก็ย่อมต้องมีวิธีจับตัววีนามาได้อยู่แล้ว
เทาเท่มาพาตัววีนาไป นั้นก็หมายความว่าเทาเท่ต้องรู้อะไรแล้วเป็นแน่ แต่นั่นก็ไม่สำคัญ ขอแค่เขาไม่ยอมรับสถานะที่แท้จริงของตัวเองก็เป็นพอ
เพราะไม่ว่ายังไง เขาก็ไม่คิดจะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว เขาจะให้มันพังพินาศไปด้วยกัน
หลังจากที่เทาเท่วางสายจากวีนาก็ปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และยังรู้สึกวิงเวียนอยู่เป็นพักๆ หลินจือตกใจจนขอบตาแดงก่ำ รีบตามหมอมาตรวจเช็กเทาเท่อย่างละเอียดอีกครั้ง
หมอบอกว่าอาการปวดหัวและวิงเวียนศีรษะของเทาเท่อาจเกิดจากก้อนเลือดกดทับในเยื่อหุ้มสมอง แต่ดูจากการตรวจCT Scan ก้อนเลือดได้ค่อยๆสลายไปแล้ว แต่ยังไงก็ต้องรักษาภาวะความดันห้ามมีอารมณ์ฉุนเฉียวอีก
เห็นชัดว่า เมื่อครู่เทาเท่โกรธกับพฤติกรรมโง่ๆของพินอินที่ไปหาไกรภพถึงบ้าน
หลังจากที่หมอไปแล้วหลินจือก็กุมมือเทาเท่แล้วพูดอย่างเป็นกังวลว่า“ คุณอย่าเพิ่งคิดเรื่องพวกนั้นเลยนะ นอนพักสักงีบก่อนเถอะ”
ตั้งแต่ที่เขารู้ตัวตนของไกรภพที่ปิดบังเอาไว้ก็ไม่เคยได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
ในตอนเช้าคนป่วยอย่างเขาก็ตื่นเช้ากว่าเธอ แล้วยังเอาแต่คุยโทรศัพท์ที่ห้องนั่งเล่นข้างนอก
เมื่อเทาเท่เห็นถึงความกังวลที่หลินจือมี ก็รับคำแต่โดยดี “ได้”
ตรงหน้ามีศัตรูตัวอันตรายอย่างไกรภพ เขาจะเป็นอะไรไปไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นใครจะมาปกป้องดูแลเธอ
จอร์แดนที่อยู่ข้างๆมองไปยังลูกสาวตัวเองที่ขอบตาแดงก่ำ ในใจอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ
ลูกสาวสุดที่รักของเขาเห็นชัดว่าในตอนนี้ได้ตกหลุมรักเทาเท่อีกครั้งแล้ว ไม่มีอะไรให้เขาต้องคัดค้านอีกแล้ว
เขาเองก็ไม่คิดจะคัดค้านอะไรอีกต่อไป ขอแค่เธอเต็มใจ เขาก็จะตามใจเธอ
เมื่อคิดได้ว่าเทาเท่ต้องพักผ่อน จอร์แดนกับลูกพี่ลูกน้องตระกูลแม็กซิมัสคนนั้นก็จึงออกไปก่อน ทั้งสองคนพักที่โรงแรม เทาเท่ให้คนส่งพวกเขากลับไป
ลูกพี่ลูกน้องตระกูลแม็กซิมัสคนนั้นพูดกับจอร์แดนว่า“คุณอา ที่เรามาครั้งนี้ไม่ใช่จะพาน้องกลับเปกก้าไปด้วยกันเหรอ ? เมื่อครู่ทำไมไม่พูดถึงเรื่องนี้เลย ?”
จอร์แดนส่ายหัวและพูดว่า“แกดูท่าทีที่ร้อนรนของเธอที่มีต่อเทาเท่สิ คิดว่าเธอจะกลับกับเราเหรอ ? เราอยู่กันต่ออีกสักสองสามวันเถอะนะ”
จอร์แดนก็รู้สึกว่าโชคชะตากำลังเล่นตลกกับเขา ก่อนหน้านั้นความสัมพันธ์ของหลินจือกับเทาเท่ยังบึ้งตึงกันอยู่เลย และก่อนหน้านั้น เทาเท่ก็ยังยืนตากฝนอย่างน่าเวทนาที่ประตูหน้าบ้านของเขา จากนั้นก็เปียกปอนจนมีไข้สูง
มาตอนนี้ทั้งสองคนก็สนิทสนมกันมากขึ้น แต่จอร์แดนก็คิด ว่านี่คงเป็นความเห็นอกเห็นใจกันในยามทุกข์ยากละมั้ง
ลูกพี่ลูกน้องตระกูลแม็กซิมัสคนนั้นอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ“หากคุณย่ารู้ว่าผักกาดขาวตัวน้อยถูกเทาเท่แทะเล็มไปแล้ว ไม่รู้ว่าจะเสียใจแค่ไหน”
ความรักและความเอ็นดูของนายหญิงใหญ่ตระกูลแม็กซิมัสที่มีต่อหลินจือ จากการที่ให้เครื่องประดับอันล้ำค่าถึงสองชุดกับหลินจือก็พอจะดูออก และนายหญิงใหญ่ตระกูลแม็กซิมัสได้พูดกับพวกเขาเอาไว้แล้ว ว่าให้พวกเขาช่วยหาหนุ่มหล่อมากความสามารถในเมืองเวลฟ์ให้หลินจือ และห้ามไม่ให้ไปตกม้าตายกับคนไม่ได้เรื่องอย่างเทาเท่เป็นอันขาด ใครจะไปคิดว่าพวกเขาก็ช้าไปก้าวหนึ่ง
จอร์แดนพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “แกคิดว่าฉันไม่เสียใจหรือไง ?”
คนเป็นพ่อตาอย่างเขาที่ต้องมาทนมองลูกเขยแบบนี้ มองยังไงก็ไม่เข้าตา แต่แล้วจะทำยังไงได้
หลังจากที่จอร์แดนเขาสองคนจากไป เทาเท่ก็จึงพักผ่อนภายใต้การดูแลของหลินจืออย่างว่าง่าย เมื่อตื่นขึ้นมาร่างกายก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าอย่างมาก ความคิดความอ่านก็ไม่ได้ขุ่นมัวอีกต่อไป
เทาเท่ครุ่นคิดอยู่นานแต่แล้วก็หยิบโทรศัพท์มา“ผมจะโทรไปหาพินอิน”
หลินจือพยักหน้าให้ หวังว่าครั้งนี้พินอินจะฟังในสิ่งที่เทาเท่พูด มีสติและออกห่างจากไกรภพโดยเร็ว ไม่อย่างนั้นชีวิตทั้งชีวิตต้องทิ้งมันไปแน่ๆ
แม้เธอจะเกลียดพินอิน แต่ก็ไม่ต้องการให้เขาต้องมาตายอย่างคลุมเครือเหมือนเนียร์
เทาเท่กดโทรไปหาพินอินแต่ไม่มีคนรับสาย อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้น
วางสายแล้วกดโทรใหม่อีกหลายครั้ง ในที่สุดก็มีคนรับสาย
แต่ว่า เสียงที่ได้ยินกลับเป็นเสียงของผู้ชายที่กำลังเยาะเย้ยและได้ใจอยู่ “ประธานเทาเท่ มีอะไรครับ?”
ไกรภพเป็นคนรับสาย เทาเท่ถามเสียงเข้มว่า“พินอินอยู่ไหน?”
“พินอินเหนื่อยแล้ว กำลังพักผ่อนอยู่”น้ำเสียงของไกรภพฟังดูคลุมเครืออย่างมาก เมื่อเทาเท่ได้ยินก็รู้ทันทีว่าพินอินกับไกรภพทำอะไรกัน
“ไปปลุกเธอให้ตื่น ฉันจะฟังเสียงของเธอ”ที่เทาเท่พูดไปแบบนี้ เพราะกังวลกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพินอิน
แต่แล้วไกรภพก็ปฏิเสธ“ประธานเทาเท่ พินอินเธอเหนื่อยมากแล้วจริงๆ เพิ่งจะนอนหลับไป ผมคงจะปลุกเธอให้ตื่นไม่ได้ คุณไม่ต้องกังวลไป รอเธอตื่นผมจะให้เธอโทรกลับไปหาคุณเอง ”
ถูกผู้ชายสามคนกระทำการกว่าครึ่งค่อนวัน เธอไม่เหนื่อยสิแปลก
และในตอนนี้เขาก็ยังไม่มีความคิดที่จะเอาชีวิตของพินอิน ดังนั้นจึงพูดไปอย่างสงบนิ่งว่าจะให้พินอินโทรกลับไปหาเทาเท่เอง
เทาเท่ระงับความโกรธแล้วสบถออกมาคำหนึ่ง “ไกรภพ!”
หากไม่กลัวว่าหลินจือจะเป็นกังวล เขาคงตะโกนด้วยความโมโหไปแล้ว
ไกรภพไม่ได้รู้สึกอะไร“ประธานเทาเท่ หรือไม่ คุณมีอะไรจะบอกกับพินอิน ก็บอกผ่านผม แล้วผมจะบอกเธอให้เอง ”
เห็นชัดว่าไกรภพไม่ต้องการให้เขาได้คุยกับพินอิน เทาเท่สงบสติ จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า“ฉันต้องเรียกนายว่าไกรทอง หรือเปล่า?”
“ไกรทอง?” ไกรภพหัวเราะ“ประธานเทาเท่ช่างมีอารมณ์ขันจริงๆ ผมลูกผู้ชายเดินไม่เปลี่ยนชื่อนั่งไม่เปลี่ยนนามสกุล ผมชื่อไกรภพ คุณจะบังคับให้ผมชื่อไกรทองทำไม ?”
ไกรภพคนนี้อารมณ์นิ่งมากจริงๆเทาเท่เองก็ไม่ได้คาดหวังว่าแค่ชื่อเก่าชื่อเดียวจะทำให้เขาเผยธาตุแท้ออกมาได้
แต่เขาก็ยังคงพูดต่อไปว่า “ให้ฉันเดา นายอยากจะแก้แค้นแทนพี่สาวของนาย และแก้แค้นแทนพ่อแม่ของนายที่เสียชีวิตไปแล้วใช่ไหม?”
น้ำเสียงไกรภพยังคงเฉยเมยไม่รู้สึกรู้สาอะไร“ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไร”
เทาเท่ยิ้มเยาะและพูดต่อว่า“แล้วนายเคยคิดไหม ตบมือข้างเดียวไม่ดัง หากไม่ใช่เพราะพี่สาวนายมักใหญ่ใฝ่สูง แล้วจะไปรักใคร่ชอบพอพ่อของฉันผู้ชายที่มีอายุปูนนั้นได้ยังไง ?”
คำพูดนี้ของเทาเท่เปรียบเสมือนกลยุทธ์ในเชิงรุก จงใจว่ามัลลิกามักใหญ่ใฝ่สูงเพื่อยั่วยุไกรภพ เรื่องนั้นสำหรับไกรภพยังคงเป็นความทุกข์ที่ฝังลึก เขาย่อมต้องปกป้องมัลลิกาพี่สาวอย่างแน่นอน
และแล้ว ไม่ว่าไกรภพจะพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองมากแค่ไหน แต่เทาเท่ก็ยังได้ยินเสียงหอบหายใจหนักของเขาดังลอดเข้ามา