ตอนที่ 2148 วิกฤติ (4) / ตอนที่ 2149 ประโยชน์ของอวิ๋นชูเทียน

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 2148 วิกฤติ (4)

ทุกคนเงยหน้ามองแสงจากเพลิงที่ทำให้ใบหน้าของพวกเขาสว่างขึ้นและเปิดเผยความสิ้นหวังบนใบหน้าเหล่านั้น…

พรึบ!

จู่ๆ แสงสีขาวก็สว่างวาบแล้วกลืนกินเปลวเพลิงเข้าไป

ชั่วขณะนั้นราวกับว่าเวลาได้หยุดลง และทั่วพื้นที่ก็เงียบสงัด…

มังกรเพลิงปีกคู่มองพื้นที่ว่างเปล่าแล้วหันไปมองเฝิงหย่งชิงและคนอีกสองคนที่นอนอยู่ที่พื้นพลันเกิดแววสับสนขึ้นในดวงตา ราวกับกำลังสงสัยว่ามนุษย์พวกนั้นหายไปไหน…

ภายในมิติลวงตา

ท้องฟ้าสีคราม ผืนน้ำเป็นสีเขียวกระจ่าง สภาพแวดล้อมอันงดงามเผยสู่สายตา

หัวหน้าเผ่าและคนอื่นๆ ประหลาดใจและสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนแรกพวกเขาคิดว่าตนต้องตายแน่ แต่จู่ๆ พวกเขาก็มาอยู่ในอีกมิติหนึ่ง

นี่…เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมาก

ในที่สุดพวกเขาก็ตื่นขึ้นจากความตกตะลึง หัวหน้าเผ่ามองอวิ๋นลั่วเฟิงด้วความแปลกใจ “แม่นางอวิ๋น พวกเราอยู่ที่ไหน เมื่อครู่…”

“ที่นี่คือมิติคล้ายกับแผ่นดินเทพวิญญาณ” ดวงตาของอวิ๋นลั่วเฟิงมืดครึ้ม “เจ้าจะปลอดภัยเมื่ออยู่ที่นี่ ข้าจะออกไปสู้กับมังเพลิงปีกคู่พวกนั้น”

“แม่นางอวิ๋น มังกรเพลิงปีกคู่ทรงพลังมากกว่าที่เจ้าคิด ถ้าเจ้าออกไปสู้ก็คงพ่ายแพ้แน่” หัวหน้าเผ่าส่ายหน้าพลางถอนใจอย่างอับจนหนทาง

อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้มและพูดว่า “ข้าจำเป็นต้องทำ ครอบครัวของข้าอยู่ที่แคว้นนี้! ข้าควรจะขอบคุณมังกรเพลิงปีกคู่ตัวนั้นที่เรียกมังกรเพลิงปีกคู่ตัวอื่นๆ มาที่นี่ ไม่อย่างนั้นข้าคงเป็นห่วงครอบครัวของตัวเอง…

…ถึงแม้ว่ามังกรเพลิงปีกคู่จะยังอยู่ที่นี่ แต่ถ้าข้าไม่ปรากฏตัว อีกไม่นานเขาก็จะออกไป เมื่อถึงตอนนั้นครอบครัวของข้าก็จะตกอยู่ในอันตราย”

“ดังนั้นข้าก็จำเป็นต้องออกไปสู้!”

นี่เป็นสิ่งเดียวที่นางทำได้ ถ้านางถูกสังหารมิติลวงตาก็จะหายไปทันที และคนที่อยู่ในนี้ก็จะยังปลอดภัย

“ท่านแม่ เทียนเอ๋อร์จะไปกับท่านด้วยเจ้าค่ะ”

อวิ๋นชูเทียนจับมือของอวิ๋นลั่วเฟิง นางกลัวแต่ก็บังคับให้ตัวเองใจเย็นลงและมองอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยดวงตากลมเป็นประกาย

“ไม่ได้!”

ครั้งนี้อวิ๋นลั่วเฟิงปฏิเสธนางโดยไม่ต้องคิด!

“ท่านแม่ เทียนเอ๋อร์จะเป็นเด็กดีและเชื่อฟัง”

อวิ๋นชูเทียนกลัวว่าถ้านางแยกจากมารดาแล้ว นางจะไม่ได้เจออีกฝ่ายอีก

ขณะที่อวิ๋นลั่วเฟิงพยายามจะพูดบางอย่าง เสียงของอวิ๋นเซียวก็ดังขึ้นจากด้านข้าง “พานางไปด้วยเถอะ”

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา อวิ๋นลั่วเฟิงก็ชะงัก แต่ในเมื่ออวิ๋นเซียวพูดแบบนี้ย่อมต้องมีเหตุผล

อีกอย่างนางก็เชื่ออวิ๋นเซียว

ดังนั้นแทนที่นางจะปฏิเสธ นางจึงพยักหน้ารับ “ถ้ามีอันตรายอะไร ข้าจะโยนเจ้ากลับเข้ามาในมิติ”

นี่ถือเป็นคำขาดของนางแล้ว

อวิ๋นชูเทียนส่งยิ้มไร้เดียงสา ใบหน้าอมชมพูของนางดูน่ารักน่าเอ็นดู ดวงตากลมโตสดใสมีแววซาบซึ้งอย่ภายใน

หลังจากพูดจบ อวิ๋นลั่วเฟิงก็ออกคำสั่งในความคิด และจากนั้นก็มาปรากฏตัวที่พื้นอีกครั้งพร้อมอวิ๋นเซียวและอวิ๋นชูเทียน

ตอนนั้นเองกลิ่นพื้นดินที่ถูกเผาไหม้ก็ลอยขึ้นมา ต้นไม้ทั้งหมดถูกทำลายและแม้แต่ร่างของเฝิงหย่งชิงและบุรุษอีกสองคนก็เกือบจะถูกเผากลายเป็นเถ้าถ่าน

เฝิงหย่งชิงและบุรุษอีกสองคนเป็นศัตรูของนาง ดังนั้นเมื่อครู่นางจึงไม่ได้ช่วยพวกเขา ตอนนี้พวกเขาก็สิ้นชีพภายใต้การโจมตีของมังกรเพลิงปีกคู่แล้ว

“โฮก!”

มังกรเพลิงปีกคู่ที่กำลังจะจากไปก็หยุดเมื่อพวกเขาเห็นอวิ๋นลั่วเฟิงและคนอื่นๆ พวกมันคำรามก่อนจะเลื่อนสายตาโอหังและกระหายเลือดขึ้นเล็กน้อย

ตอนที่ 2149 ประโยชน์ของอวิ๋นชูเทียน

แล้วจากนั้น…

หนึ่งในมังกรเพลิงปีกคู่พุ่งลงมาหาอวิ่นลั่วเฟิงและคนอื่นๆ

สัตว์อสูรโบราณดุร้ายอย่างมังกรเพลิงปีกคู่หยิ่งทระนงมาก พวกมันจึงบินล้อมมนุษย์ที่เหมือนมดพวกนี้ ดังนั้น…

จึงมีแค่มังกรเพลิงปีกคู่ตัวเดียวเท่านั้นที่พุ่งเข้ามาหาพวกเขาและตัวอื่นๆ ก็รออยู่บนท้องฟ้า

เมื่อเห็นแบบนั้นอวิ๋นลั่วเฟิงก็ผ่อนคลาย ถ้ามังกรเพลิงปีกคู่ร่วมมือกัน นางและอวิ๋นเซียวก็คงไม่สามารถรับมือพวกมันได้ แต่…

เพียงแค่มังกรเพลิงปีกคู่ตัวเดียวก็ทรงพลังมากพอแล้ว มันมีเปลวเปลงเพลิงร้อนระอุที่สามารถลดทอนพลังคู่ต่อสู้ลงได้

“อวิ๋นเซียว พวกเรามีพลังไม่พอ ที่นี่มีมังกรเพลิงปีกคู่ถึงเจ็ดตัว ข้าเกรงว่าด้วยพลังของพวกเรา พวกเราจะทนไม่ได้นาน”

อวิ๋นลั่วเฟิงสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับอวิ๋นเซียว ส่วนอวิ๋นชูเทียนก็ยืนอยู่ไกลๆ เพื่อดูการต่อสู้…

ขณะที่อวิ๋นลั่วเฟิงกำลังคิดแผนการอยู่ จู่ๆ นางก็เห็นร่างร่างหนึ่งปรากฏตัวบนท้องฟ้าไม่ไกล

ร่างนั้นคือบุรุษคล้ายเทพเซียนที่งดงามราวกับภาพวาด เขายืนอยู่ไม่ไกลและมองอวิ๋นลั่วเฟิงและอวิ๋นเซียวที่สู้กับมังกรเพลิงปีกคู่อยู่เงียบๆ

“เจวี๋ยเชียน?”

อวิ๋นลั่วเฟิงหรี่ตา เหตุใดเขาถึงมาอยู่ที่นี่

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะพบสิ่งที่ข้าทิ้งไว้ให้นะ” เฟิงจิ่นพูดพร้อมยิ้มบาง ดวงตาของเขาเลื่อนจากอวิ๋นชูเทียนผู้หวาดกลัวไปยังอวิ๋นลั่วเฟิง “แต่เหตุใดเจ้าถึงไม่ใช้ล่ะ ตราบใดที่เจ้าใช้ มังกรเพลิงปีกคู่พวกนี้ก็จะไม่ใช่ปัญหาสำหรับเจ้าอีกต่อไป”

อวิ๋นลั่วเฟิงต้านการโจมของมังกรเพลิงปีกคู่อย่างยากลำบาก เมื่อได้ยินคำพูดของเจวี๋ยเชียน นางก็ขมวดคิ้ว “ความทรงจำเจ้ากลับมาแล้วหรือ เจ้าหมายความว่าอย่างไรที่ว่า ‘ของที่ทิ้งไว้ให้ข้า’ ”

“การตายของโม่เชียนเฉิงทำให้ความทรงจำของข้ากลับมา” เฟิงจิ่นยิ้มบาง “แต่ข้าไม่อยากเป็นเจวี๋ยเชียน ข้าก็เป็นแค่เฟิงจิ่น ส่วนสิ่งที่ข้าทิ้งไว้ให้เจ้า ข้าคิดว่าเจ้าคงรู้คำตอบอยู่แล้ว”

เฟิงจิ่นหันไปมองอวิ๋นชูเทียนอีกครั้ง เมื่อเขาเห็นใบหน้าซีดเผือดของเด็กหญิง เขาก็พูดว่า “นางคือสิ่งที่ข้าทิ้งไว้ให้เจ้า”

ถึงแม้ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงจะคาดเดาเรื่องนี้ไว้แล้วแต่เมื่อได้ยินคำพูดของเฟิงจิ่น หัวใจของนางก็จมดิ่ง นางไม่คิดว่าการที่เฟิงจิ่นพูดถึงอวิ๋นชูเทียนในตอนนี้เป็นเรื่องดี

“ระวัง!”

เมื่อเห็นว่าอวิ๋นลั่วเฟิงอยู่ในภาวะสับสน อวิ๋นเซียวก็รีบมายืนขวางหน้านางไว้แล้วป้องกันการโจมตีให้ “ให้ข้าจัดการเองเถอะ ถ้าท่านมีคำถามอะไร ท่านก็ควรถามเขา”

เมื่อได้ยินอย่างนั้นอวิ๋นลั่วเฟิงก็เงยหน้ามองบุรุษบนท้องฟ้าแล้วถามว่า “ท่านยกนางให้ข้าเพื่ออะไร”

เฟิงจิ่นเงียบไปครู่หนึ่ง “เด็กหญิงคนนี้ไม่ใช่มนุษย์ ข้าแค่บังเอิญเก็บนางได้และเลี้ยงดูนางเพราะตั้งใจจะให้นางเป็นผู้สืบทอดของข้า อวิ๋นลั่วเฟิง ตอนนี้เจ้าเป็นผู้สืบทอดของข้าแล้ว ดังนั้นข้าก็จะบอกเจ้า เด็กผู้หญิงคนนี้เกิดจากพลังฌานของฟ้าดินอย่างแท้จริงและบริสุทธิ์สมบูรณ์ หัวใจของนางเป็นแก่นของสวรรค์และปฐพีที่ล้ำค่าที่สุด ถ้าเจ้ากลืนกินหัวใจของนาง เจ้าก็จะพัฒนาความแข็งแกร่งโดยทันทีและกลายเป็นเซียนที่แท้จริง!”

การเป็นเซียนที่แท้จริงเป็นความฝันของคนหลายคน อวิ๋นลั่วเฟิงเองก็อยากผ่านด่านเป็นเซียนที่แท้จริงเหมือนกัน…

แต่ถ้าราคาที่ต้องจ่ายในการเป็นเซียนที่แท้จริงคือการกลืนกินหัวใจของอวิ๋นชูเทียนล่ะก็ นางก็ยอมไม่ผ่านด่านเสียดีกว่า!

“เจวี๋ยเชียน ถ้าสิ่งที่เจ้าเป็นความจริง เหตุใดเจ้าไม่กลืนกินหัวใจของนางเล่า”