เล่มที่ 14 เล่มที่ 14 ตอนที่ 408 กระบี่เสวียนหยวนปรากฏกาย

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

ผ่านไปราวครึ่งชั่วยาม ฮูหยินปี้จึงกลับมาด้วยท่าทีเคร่งขรึม เห็นได้ชัดว่าการไปครั้งนี้ไม่ราบรื่นเท่าไรนัก

“ฮูหยินปี้ เป็นเช่นไร? เชิญคุณชายจิ่วมาได้หรือไม่? ” เมื่อแม่นมฮวาเห็นฮูหยินปี้ก็รีบถามขึ้นทันที

ฮูหยินปี้ยังไม่ทันได้ตอบอันใด เยี่ยโยวเหยาก็เดินออกมาจากตำหนักฝูอวิ๋น ฮูหยินปี้รีบยื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้เยี่ยโยวเหยาทันที

“ท่านอ๋อง คุณชายจิ่วกำลังเข้าฌานเพื่อปรุงยาวิเศษ เด็กรับใช้ข้างกายเขาบอกว่า เขากำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญที่สุดของการปรุงยา ไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้ หลังจากได้ยินเด็กรับใช้อธิบายอาการของพระชายา คณชายจิ่วจึงได้เขียนจดหมายฉบับหนึ่งส่งให้เด็กรับใช้ บอกว่าให้ทำตามวิธีการในเทียบยานี้ แล้วอาการบาดเจ็บของพระชายาจะดีขึ้น! ”

แม่นมฮวารีบรับจดหมายฉบับนั้นมามอบให้เยี่ยโยวเหยา

ขณะเดียวกัน ที่เรือนชิงโยวก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เป็นเสียงของพ่อบ้านกับอวิ๋นจิ่น

“กระหม่อมคำนับท่านอ๋อง! ” อวิ๋นจิ่นวิ่งมาอย่างรีบร้อนจนเหงื่อท่วมตัว และทำความเคารพเยี่ยโยวเหยา

เยี่ยโยวเหยายื่นจดหมายในมือให้อวิ๋นจิ่น จากนั้นจึงหันหลังเดินกลับเข้าไปในตำหนักฝูอวิ๋น “เข้ามาด้านในเถิด! ”

อวิ๋นจิ่นเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก เขาเปิดจดหมายไปพลางเดินตามเยี่ยโยวเหยาเข้าไปด้านใน

บาดแผลของซูจิ่นซีทำให้อวิ๋นจิ่นตกใจเป็นอย่างมาก ทว่าเขาสามารถเก็บอาการได้ดีกว่าซูอวี้ การแสดงออกจึงสงบนิ่งเยือกเย็น ทั้งยังไม่มองลวดลายกิเลนบนบั้นท้ายของซูจิ่นซีแม้แต่น้อย

อวิ๋นจิ่นเดินเข้าไปและทำตามขั้นตอนปกติ คือตรวจชีพจร และดูบาดแผล

ทว่าใบหน้าที่ดูอบอุ่นอ่อนโยนเสมอมา กลับเผยให้เห็นความเคร่งเครียดอย่างที่น้อยครั้งจะปรากฏให้เห็น

รอจนอวิ๋นจิ่นตรวจอาการเรียบร้อยแล้ว ซูอวี้ก็รีบถามขึ้น “หมอหลวงอวิ๋น เป็นเช่นไรบ้าง? มีวิธีใดที่ทำให้พี่จิ่นซีเจ็บปวดน้อยลงหรือไม่”

แม้เยี่ยโยวเหยาจะดูเหมือนนิ่งเงียบเย็นชา ทว่าอวิ๋นจิ่นรู้ดีว่าในเวลานี้ เยี่ยโยวเหยาร้อนใจมากที่สุดและเป็นห่วงซูจิ่นซีมากที่สุด

“ท่านอ๋อง คุณชายน้อยอวี้ วางใจได้ วิธีการที่คุณชายจิ่วเขียนมาในจดหมายนั้นยอดเยี่ยมมาก ด้านในได้เขียนแผนในการรักษาอาการบาดเจ็บของพระชายาอย่างละเอียด แม้วิชาแพทย์ของกระหม่อมไม่ได้สูงส่งเท่าคุณชายจิ่ว ทว่าขอเพียงมีคุณชายน้อยอวี้ให้ความช่วยเหลืออีกแรง เราสองคนต้องทำตามแผนการรักษาในจดหมายฉบับนี้ได้อย่างไม่มีปัญหาแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”

อวิ๋นจิ่นพูดพลางยื่นจดหมายในมือให้ซูอวี้

ซูอวี้เปิดจดหมายออกดู ใบหน้าวิตกกังวลก่อนหน้านี้พลันเผยให้เห็นความดีใจ ทว่าครู่เดียวก็กลับมานิ่งขรึมอีกครั้ง

“วิธีการนี้ยอดเยี่ยมมาก แม้กระหม่อมไม่ได้เชี่ยวชาญมากนัก ทั้งยังมีบางขั้นตอนที่ไม่สามารถทำได้ แต่กระหม่อมเชื่อว่า ความสามารถและประสบการณ์ด้านการแพทย์ตลอดหลายปีที่ผ่านมาของหมอหลวงอวิ๋น ต้องทำได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม สมุนไพรที่ใช้รักษาอาการในช่วงสุดท้ายนั้นหายากยิ่งนัก เนื่องจากสมุนไพรทั้งหมดไม่ได้ปลูกที่แคว้นจงหนิงเราพ่ะย่ะค่ะ”

“ใช่พ่ะย่ะค่ะ! ”

อวิ๋นจิ่นแสดงท่าทีเป็นกังวลต่อเยี่ยโยวเหยา

“สมุนไพรชนิดใดบ้าง? ” เยี่ยโยวเหยาถาม

อวิ๋นจิ่นตอบตามความจริง “มีสมุนไพรทั้งหมดห้าชนิด พวกมันล้วนถูกปลูกที่แคว้นไหวเจียง หลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากแคว้นจงหนิงและแคว้นไหวเจียงเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน ทำให้ความสัมพันธ์ทางการค้าถูกตัดขาด ดังนั้นแคว้นจงหนิงเราจึงไม่มีสมุนไพรเหล่านี้พ่ะย่ะค่ะ”

แคว้นจงหนิงไม่มี หากจะใช้ต้องไปตามหาที่แคว้นไหวเจียงเท่านั้น

แคว้นไหวเจียงชำนาญเรื่องการใช้พิษ พื้นดินแทบทุกตารางนิ้วล้วนมีพิษ คนทั่วไปไม่มีทางเข้าไปได้อย่างแน่นอน

ทำอย่างไรดี?

“ท่านอ๋องได้โปรด ทรงหาวิธีนำสมุนไพรมาช่วยคุณหนูด้วยเพคะ! ” ลวี่หลีคุกเข่ากับพื้นพลางพูดอ้อนวอน

“ลวี่หลี ยังไม่รีบลุกขึ้นอีก! พี่จิ่นซีเป็นพระชายาของท่านอ๋อง ท่านอ๋องจะต้องหาวิธีได้แน่นอน บ่าวอย่างเจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลใจให้มากเกินไป! ”

ลวี่หลีเป็นห่วงซูจิ่นซีจนเลอะเลือนไปชั่วขณะ จะว่าไปแล้ว นางเคยเป็นบ่าวรับใช้ในจวนสกุลซูมาก่อน ซูอวี้จึงเอ่ยปากตำหนิและสั่งสอนนาง

ลวี่หลีปาดน้ำตาและลุกขึ้นยืนหลบอยู่ด้านข้าง อย่างไรก็ตาม นางไม่อาจปกปิดความกังวลและความหวาดกลัวภายในใจได้ น้ำตายังคงไหลพราก

“สมุนไพรเหล่านี้ต้องการใช้เมื่อใด? ช้าสุดได้กี่วัน? ” เยี่ยโยวเหยาถาม

อวิ๋นจิ่นรีบประสานมือตอบ “ยาสมุนไพรใช้ในขั้นตอนสุดท้าย เนื่องจากพื้นที่บาดแผลกว้างมาก เกรงว่าพระชายาอาจมีไข้ในตอนท้าย นอกจากนั้น สมุนไพรจะใช้ในยามวิกฤติเท่านั้น ช่วงนี้กระหม่อมจะจัดการบาดแผลให้พระชายาก่อน สามารถใช้สมุนไพรชนิดอื่นทดแทนได้ และสามารถรอสมุนไพรได้นานที่สุดสี่ถึงห้าวันพ่ะย่ะค่ะ”

รอได้นานสี่ถึงห้าวัน เพียงพอให้ส่งคนไปตามหาสมุนไพรที่แคว้นไหวเจียงและกลับมาพอดี

แท้จริงแล้ว ยาสมุนไพรเหล่านี้ไม่เพียงป้องกันบาดแผลติดเชื้อในช่วงวิกฤติเท่านั้น มันยังมีประสิทธิภาพที่สำคัญอย่างหนึ่งคือป้องกันการเกิดรอยแผลเป็น

ต้องรู้ว่าบาดแผลที่เกิดในวงกว้าง หากไม่ต้องการให้เกิดแผลเป็นนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย สำหรับสตรีแล้ว เรื่องนี้นับเป็นความจริงที่โหดร้ายเกินจะทนรับไหว

แม้จิ่วหรงจะมาไม่ได้ ทว่าวิธีการและเวลาในการใช้สมุนไพรของเขากลับละเอียดรอบคอบยิ่งนัก นอกจากนี้ แม้สมุนไพรที่เขียนในเทียบยาจะหายากสักหน่อย ทว่ามันมีประสิทธิภาพหลายด้าน

สมแล้วที่เป็นถึงเจ้าสำนักแพทย์เทียนอี หมอเทวดาผู้เลื่องชื่อในใต้หล้า

“ใช้เวลาไม่นาน เพียงสามวันเท่านั้น! ”

เยี่ยโยวเหยาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ในมือถือกระบี่วิเศษที่ไม่ได้ใช้งานมาหลายปี และเดินออกจากตำหนักฝูอวิ๋นไป

เขาต้องการไปตามหาสมุนไพรที่แคว้นไหวเจียงด้วยตนเอง

“จิ้นหนานเฟิง! ” เมื่อเดินมาถึงเรือนชิงโยว เยี่ยโยวเหยาก็เอ่ยเรียกเสียงต่ำ

ภายใต้ท่าทางที่มีอำนาจและดุดันเช่นนี้ จิ้นหนานเฟิงไม่กล้าชักช้าแม้แต่วินาทีเดียว เขาปรากฏกายขึ้นทันทีที่เยี่ยโยวเหยาเดินมาถึง

“จัดเตรียมองครักษ์จำนวนหนึ่ง ตามข้าไปยังแคว้นไหวเจียง! ”

ไป… ไปแคว้นไหวเจียง…?

จิ้นหนานเฟิงตกตะลึงอย่างมาก แววตาพลันเหลือบไปเห็นกระบี่วิเศษในมือของเยี่ยโยวเหยา

กระบี่… กระบี่เสวียนหยวน…

ท่านอ๋องใช้กระบี่เสวียนหยวน

กระบี่เล่มนี้ถูกเก็บไว้นานมากแล้ว แม้ท่านอ๋องจะทำสงครามกับแคว้นไหวเจียงหลายต่อหลายครั้ง ทว่าไม่เคยคิดใช้กระบี่เสวียนหยวนแม้แต่น้อย ไม่คิดว่าวันนี้ท่านอ๋องจะหยิบมันออกมาพบกับแสงสว่างเพื่อพระชายา

ในใจจิ้นหนานเฟิงทั้งตื่นเต้น เลื่อมใส และประหลาดใจแกมสับสนอย่างมาก

จิ้นหนานเฟิงพลันได้สติ เมื่อเห็นเยี่ยโยวเหยาเดินเข้ามาหยุดอยู่เบื้องหน้า จากนั้นจึงรีบลุกขึ้นยืนและใช้วิชาตัวเบาไล่ตามเยี่ยโยวเหยาไปทันที

กระบี่เสวียนหยวนปรากฏกายขึ้น การเดินทางในครั้งนี้ ไม่ว่าใครหน้าไหน หากกล้าเข้ามาขวางทาง ต้องตาย!

ภายในตำหนักฝูอวิ๋น แววตาของอวิ๋นจิ่นปรากฏความสับสนยิ่งนัก เขามองไปยังตำแหน่งที่ก่อนหน้านี้มีกระบี่เสวียนหยวนวางอยู่ ทั้งยังจ้องอยู่นานสองนาน

“หมอหลวงอวิ๋น! หมอหลวงอวิ๋น! ” อวิ๋นจิ่นคืนสติกลับมาหลังจากได้ยินเสียงร้องเรียกของซูอวี้

“คุณชายน้อยอวี้ ข้ารีบร้อนออกมา ไม่ทันได้เตรียมสมุนไพรมาด้วย ท่านลองดูยาสมุนไพรส่วนที่เหลือในเทียบยานี้ หอโอสถสกุลซูมีหรือไม่? ”

“นอกจากสมุนไพรห้าชนิดของแคว้นไหวเจียง สมุนไพรที่เหลือล้วนเป็นสมุนไพรธรรมดา หอโอสถสกุลซูมีทั้งหมด ข้าจะส่งคนไปนำมาเดี๋ยวนี้”

“ข้าคิดว่าคุณชายน้อยอวี้ไปด้วยตนเองจะเหมาะสมที่สุด อย่างไรเสีย สมุนไพรทั้งหมดต้องใช้กับพระชายา ท่านไปนำมาด้วยตนเองจะได้วางใจ ท่านคิดเช่นนั้นหรือไม่? ”

“หมอหลวงอวิ๋นกล่าวได้ถูกต้อง ข้าจะรีบไปทันที! ” ซูอวี้พูดพลางสับเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว

จากนั้นอวิ๋นจิ่นจึงหันมาพูดกับลวี่หลีที่ยังคงยืนร้องไห้สะอึกสะอื้น

“รบกวนแม่นางลวี่หลีช่วยจัดเตรียมผ้าสะอาดกับน้ำร้อนมาด้วย! ”

“เจ้าค่ะ! ” ลวี่หลีรับคำ รีบเช็ดน้ำตาและเดินออกไปทันที

เวลานี้ ในตำหนักฝูอวิ๋นที่หรูหรากว้างขวาง เงียบสงัดและเยือกเย็น เหลือเพียงซูจิ่นซีกับอวิ๋นจิ่นสองคน

ดูเหมือนว่าอวิ๋นจิ่นไม่อาจปกปิดความเจ็บปวดภายในใจได้อีกต่อไป เขาระเบิดความรู้สึกออกมาราวกับเขื่อนแตก พริบตาเดียว ดวงตาทั้งสองก็เอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา เขาเดินเข้าไปข้างเตียงซูจิ่นซี

หากมองอย่างละเอียด ภายใต้ความอ่อนโยนนั้นกลับปรากฏความมุ่งมั่นเย็นชาอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน