บทที่ 173 เรียกลมเปลี่ยนเป็นมังกร(1)
หลังจากฉินเอ้าเสวี่ยนถูกเย่เฉินสั่งสอนถึงความเป็นคนแล้ว ถึงเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าอะไรคือเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนก็ยังมีคน
รู้แล้วว่าเย่เฉินมีพลังวิเศษ ในใจของเธอรู้สึกเคารพและชื่นชมเย่เฉินมาโดยตลอด ยิ่งเกิดความละอายใจ
ละอายใจ ที่ตอนแรกตนเองไม่รู้จักประเมินความสามารถของตนเอง และยังไปเปรียบเทียบตนเองกับอาจารย์เย่อีก
แต่ว่า ยิ่งเป็นผู้หญิงสาวสวยที่มีนิสัยเด็ดเดี่ยวมีเสน่ห์ ยิ่งชอบที่จะเปรียบเทียบความแข็งแกร่งของตนเองกับผู้ชาย เพราะว่ามีเพียงผู้ชายแบบนี้เท่านั้น ที่จะทำให้พวกเธอยอมรับทั้งกายและใจ
ดังนั้น ในใจของฉินเอ้าเสวี่ยน มีเย่เฉินเป็นไอดอลที่ยิ่งใหญ่มาโดยตลอด
ได้ยินมาว่าเย่เฉินต้องการกลั่นยา เธออดไม่ได้ที่จะแปลกใจ: “คิดไม่ถึงว่าอาจารย์เย่ยังมีความสามารถในด้านนี้ด้วย สามารถกลั่นยาวิเศษได้!”
ฉินกางอุทานแล้วพูดว่า: “อาจารย์เย่เก่งกาจมาก พวกเรายังรู้จักความสามารถของเขาเพียงบางส่วน! หลายวันก่อนพ่อได้ยินมาว่า แม้แต่หมอเทวดาซือเทียนฉียังเคารพนับถือศาสตร์การแพทย์ของอาจารย์เย่! การบาดเจ็บของเขา ก็เป็นเพราะเดินวนเวียนหาซื้อยาวิเศษที่อาจารย์เย่กลั่นขึ้นมา อาการถึงได้ดีขึ้นมากหลายส่วน!”
“โอ้พระเจ้า!”
ฉินเอ้าเสวี่ยนประหลาดใจอย่างมาก!
ในบ้านของเธอทำการค้าสมุนไพรมาหลายปี เข้าใจการแพทย์แผนจีนเป็นอย่างดี
ซือเทียนฉีเป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลทางการแพทย์แผนจีนที่เก่งกาจไม่กี่คนในประเทศ ด้านประสบการณ์ นั้นเป็นผู้บุกเบิกระดับสูงอย่างแท้จริง ถึงแม้ว่าจะเป็นคนใหญ่คนโตจากไหน ก็ยากที่จะเชื้อเชิญเขาให้ออกหน้าได้ นึกไม่ถึงเลยว่า แม้แต่เขาก็ยังสู้คนหนุ่มอย่างอาจารย์เย่ไม่ได้!
ในใจของฉินเอ้าเสวี่ยนอดไม่ได้ที่จะชื่นชอบในตัวเย่เฉิน
ชายผู้มากความสามารถเช่นนี้ ถึงจะเป็นคู่ครองที่ชื่นชอบของหญิงสาว!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเธอเป็นหญิงสาวที่แกร่งทะนงตน มีเพียงชายที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่เธอชื่นชอบและศิโรราบ ดังนั้น จู่ ๆ ในใจของเธอ ก็รู้สึกราวกับกวางน้อยแสนซน ไม่ต้องพูดถึงความตื่นเต้นจะมากมายเพียงไร
ฉินกางมองเห็นใบหน้าแดงระเรื่อของลูกสาว ถึงกับตกใจ จากนั้นรับรู้ได้ในทันทีว่า ลูกสาวตนเหมือนว่ารู้สึกประทับใจในตัวเย่เฉินเข้าแล้ว……
ในใจเขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง รีบพูดกับฉินเอ้าเสวี่ยนทันทีว่า: “เอ้าเสวี่ยน พ่อไปเตรียมสมุนไพร รอให้เตรียมสมุนไพรเสร็จแล้ว เช้าวันพรุ่งนี้ ลูกไปส่งให้อาจารย์เย่”
“ลูกเหรอ?” ฉินเอ้าเสวี่ยนถามด้วยความประหลาดใจ: “พ่อ พ่อบอกว่าจะไปด้วยตัวเองไม่ใช่เหรอ? ทำไมจึงให้ลูกไปล่ะ?”
ฉินกางยิ้มแล้วตอบว่า: “ลูกเป็นผู้หญิง อายุรุ่นราวคราวเดียวกับอาจารย์เย่ เป็นคนหนุ่มสาวเหมือนกัน แน่นอนว่าคุยกันได้ถูกคอ”
พูดจบ ฉินกางพูดอีกว่า: “ความจริงแล้ว พ่อขอพูดกับลูกตามตรง ลูกอย่ามองว่าอาจารย์เย่มีความสามารถมาก เก่งกาจราวกับผ้วิเศษ แท้จริงแล้วเขาเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นลูกเขยแต่งเข้าอยู่ที่ตระกูลเซียวมาหลายปี”
ฉินเอ้าเสวี่ยนพยักหน้า พูดว่า: “เรื่องนี่ ลูกเหมือนเคยได้ยินมาบ้าง แต่ว่าลูกไม่เข้าใจ อาจารย์เย่เก่งกาจขนาดนี้ เหตุใดต้องเป็นลูกเขยแต่งเข้าล่ะ? แม้ว่าเขาจะรักกับหญิงสาวตระกูลเซียวขนาดไหน ก็สามารถสู่ขอและแต่งงานได้อย่างเป็นทางการ ทำไมจะต้องเป็นเขยแต่งเข้าล่ะ!”
ฉินกางถอนหายใจแล้วพูดว่า: “นี่ก็คือสิ่งที่อาจารย์เย่ทำให้คนอื่นไม่เข้าใจ! ลูกพูดว่าเป็นเพราะความรัก นั้นก็ไม่มีอะไรผิด แต่ว่าพ่อเคยได้ยินคนอื่นพูดกันว่า เขากับเซียวชูหรันแห่งตระกูลเซียวคนนั้น ที่จริงแล้วเป็นเพียงแค่ชื่อไม่ใช่เรื่องจริง เมื่อก่อนนี้ แม่ของเซียวชูหรันบอกกับคนภายนอกว่า อาจารย์เย่อยู่ในบ้าน ขนาดเตียงนอนของเซียวชูหรันยังไม่เคยขึ้นไปเลย นอนบนฟูกกับพื้นเท่านั้น!”
“อ่ะ?!” ฉินเอ้าเสวี่ยนตกใจมาก: “ให้อาจารย์เย่นอนบนฟูกกับพื้น……คนตระกูลเซียวทำเกินไปแล้ว……”
ฉินกางพูดว่า: “พวกเขานั้นไม่รู้ว่าอาจารย์เย้เก่งกาจมากขนาดไหน! พ่อว่านะ อาจจะเป็นวิธีการฝึกตนของอาจารย์เย่ ในโลกนี้มีคนส่วนมากชอบทรมานตน ยากลำบากเท่าใดก็ฝึกตนดีขึ้นเท่านั้น”
“ที่แท้เป็นอย่างนี้เอง” ฉินเอ้าเสวี่ยนพยักหน้าแล้ว พูดว่า: “อาจารย์เย่ไม่ธรรมดาจริง ๆ!”
……