ตอนที่ 340 ที่รักของฉันเก่งที่สุด / ตอนที่ 341 คนเก่งกาจ

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 340 ที่รักของฉันเก่งที่สุด 

 

 

           “ประธานเผย จะมีสองงานการกุศลที่จะจัดขึ้นเร็วๆ นี้ งานนึงจัดวันพรุ่งนี้ แล้วก็อีกงานจัดอาทิตย์หน้า คุณจะดูไหมครับ” ผู้ช่วยบอกข้อมูลที่หาเจอให้เผยหนานเจวี๋ยฟัง 

 

 

           “เข้าร่วมงานการกุศลวันพรุ่งนี้ แล้วก็ คุณไปหาที่อยู่ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งใหม่ จัดการให้เด็กกำพร้าจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนั้นเข้าไปอยู่” เผยหนานเจวี๋ยสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา 

 

 

           ผู้ช่วยได้ยินแล้วพยักหน้า รีบออกไปทำงานแล้ว 

 

 

           หลังจากฉู่เจียเสวียนได้จัดงานแถลงข่าวแล้ว สื่อทุกสำนักก็โทรศัพท์ไปสัมภาษณ์เผยหนานเจวี๋ยทีละราย แต่ว่าต่างถูกเลขาสั่งห้ามไว้แล้ว 

 

 

           ในร้านเช่าชุดแต่งงาน 

 

 

           ถังถังอ่านความคิดเห็นในอินเทอร์เน็ตแล้วก็หัวเราะ “เจียเสวียน วิธีนี้ของเธองดงามจริงๆ ตอนนี้เผยหนานเจวี๋ยได้กลายเป็นนักธุรกิจไร้ศีลธรรมในสายตาของทุกคนไปแล้ว ฮ่าๆ” 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนได้ยินคำพูดของถังถังก็ยิ้ม “ฉันเชื่อมาตลอดว่าสายตาของสาธารณะมีความชัดเจน เมื่อวานฉันก็บอกเขาไปแล้ว ว่าอยากคุยกับเขา แต่เขาก็ไม่ฟัง ฉันก็เลยต้องใช้วิธีของฉันเพื่อจัดการปัญหาแล้ว” 

 

 

           “ที่รักของฉันเก่งที่สุดเลย ครั้งนี้ถ้าบีบเผยหนานเจวี๋ยได้แล้วล่ะก็ ก็คงจะไม่บีบคนในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าขนาดนั้นแล้วล่ะมั้ง?” ถังถังเอ่ย แววตาที่มองฉู่เจียเสวียนยังคงมีความกังวลเล็กน้อย 

 

 

           “น่าจะหลีกเลี่ยงได้ชั่วคราว” ฉู่เจียเสวียนก็ไม่กล้ารับประกันว่าเผยหนานเจวี๋ยจะสามารถทำอะไรได้ในระยะเวลาอันสั้น เธอเพียงแค่ต้องการยื้อเวลาให้เด็กในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก็เท่านั้น 

 

 

           ด้วยวิธีนี้ เธอก็จะมีเวลาพอที่จะหาสถานที่ใหม่ให้กับพวกเขา 

 

 

           ถังถังได้ยินแล้วก็พยักหน้า ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรอีก อ่านความคิดเห็นต่อไป 

 

 

           ขณะที่กำลังอ่านคำด่าเผยหนานเจวี๋ยอยู่นั้น เธออารมณ์ดีมาก หลังจากครุ่นคิดแล้วถังถังก็ด่าเผยหนานเจวี๋ยในช่องความคิดเห็นเช่นกัน เธออยากด่าเขาตั้งนานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสเลย ตอนนี้เธอจะไม่อาศัยโอกาสนี้เข้าร่วมสักหน่อยเหรอ? 

 

 

           คืนวันต่อมา เผยหนานเจวี๋ยก็ไปเข้าร่วมงานการกุศล และได้บริจาคเงินก้อนใหญ่เพื่อเป็นทุนให้กับงาน อีกทั้งในงานเขาได้บอกต่อสาธารณชนอย่างชัดเจนว่าเขาซื้อที่ดินผืนนี้เพื่อสร้างรีสอร์ท และเขาพบที่อยู่ใหม่สำหรับเด็กๆ ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้ว 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนกำลังจัดการเอกสารอยู่ในออฟฟิศ จู่ๆ โทรศัพท์มือถือบนโต๊ะก็ดังขึ้น เพิ่งจะรับสายเสียงของถังถังก็ดังเล็ดลอดออกมา “เจียเสวียนเธอเห็นข่าวแล้วยัง” น้ำเสียงของถังถังร้อนรนเล็กน้อยและดูเหมือนว่าไม่แยแส 

 

 

           “ยังเลย กำลังยุ่ง มีอะไรเหรอ” ฉู่เจียเสวียนได้ยินถังถังแล้วเลิกคิ้ว ไม่เข้าใจว่าทำไมถังถังจึงถามแบบนี้กะทันหัน 

 

 

           “จุ๊ๆ เผยหนานเจวี๋ยนั่นร้ายกาจจริงๆ แค่วันเดียวเขาก็พลิกสถานการณ์ได้แล้ว เธอดูการถ่ายทอดสดของคืนนี้สิ” น้ำเสียงของถังถังเปี่ยมด้วยความเยาะเย้ย เธอคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเผยหนานเจวี๋ยจะหาวิธีแก้ปัญหาได้เร็วขนาดนี้ ขณะนี้ในอินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยความคิดเห็นชื่นชมเขา 

 

 

           หลังจากฉู่เจียเสวียนดูการถ่ายทอดสดแล้ว ได้แต่เลิกคิ้วไม่ได้รู้สึกอะไรมากมาย การที่เผยหนานเจวี๋ยสามารถแก้ปัญหาได้ภายในระยะเวลาอันสั้นแบบนี้ เธอไม่แปลกใจเลยสักนิด 

 

 

           “แบบนี้ก็ดี ปัญหาของพวกเราก็แก้ได้แล้ว ในเมื่อเขาเจอที่อยู่ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าใหม่แล้ว พวกเราก็ไม่ต้องคิดมากแล้ว” ฉู่เจียเสวียนกล่าว มุมปากยกยิ้ม 

 

 

           การที่เผยหนานเจวี๋ยหาที่อยู่ใหม่ให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้ ที่จริงมันอยู่นอกเหนือความคาดหมายของเธอ เธอหาตั้งนานก็หาไม่เจอ เธอไม่สามารถดูถูกเผยหนานเจวี๋ยได้เลยจริงๆ 

 

 

           การกระทำที่ใจบุญของเผยหนานเจวี๋ยแบบนี้ ไม่เพียงแต่ดึงดูดให้ผู้คนจำนวนมากชื่นชมเขามากขึ้นเท่านั้นแต่หุ้นของเขาก็เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 341 คนเก่งกาจ 

 

 

           ที่วิลล่าบ้านเผย 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยยืนอยู่ที่หน้าต่างบานใหญ่เงียบๆ เงยหน้ามองดูดวงดาวบนท้องฟ้า แสงไฟสลัวภายในห้องส่องอยู่บนตัวเขา ทำให้เงาของเขายาวเหยียดขึ้น 

 

 

           สูดหายใจลึก ตั้งแต่กลับมาจากงานการกุศล เขาก็ยืนอยู่ตรงนั้นมาโดยตลอด ตอนนี้เรื่องนี้ได้จบลงแล้ว 

 

 

           ยังดีที่เขาตอบสนองเร็ว มิฉะนั้นบริษัทของเขาจะถึงวิกฤตคราวอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยังมีเฉิงเฮ่าโผล่มา เขามักจะรู้สึกเหมือนกำลังถูกจับตาดูอยู่ในความมืด 

 

 

           หายใจเข้าลึก ยกแก้วไวน์ในมือขึ้นดื่มอึกใหญ่ 

 

 

           จู่ๆ เงาของฉู่เจียเสวียนก็ปรากฏอยู่ในหัว เธอยืนยิ้มอย่างแจ่มใสอยู่ตรงนั้น คิดไปคิดมา ความขมขื่นก็แผ่ซ่านในหัวใจ 

 

 

           อีกด้านหนึ่ง หลังจากเฉิงเฮ่าอ่านข่าวจบแล้ว บนใบหน้ามีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ หรี่ตาลงอย่างน่ากลัว 

 

 

           “คุณชายเฉิง เผยหนานเจวี๋ยคนนี้เป็นคนที่เก่งกาจจริงๆ” ผู้ช่วยชาร์ลีพูดขึ้นข้างๆ เฉิงห่าว 

 

 

           เฉิงเฮ่าได้ยินคำพูดของชาร์ลีแล้วพยักหน้า ยกมือขึ้นลูบคาง “เขาเป็นคนที่ไม่ทำตามแผน ไม่มีใครรู้ว่าก้าวต่อไปเขาจะทำอะไร ดูผิวเผินเหมือนวางแผนไว้แล้ว แต่ว่าในใจของเขายังมีวิธีเป็นหมื่นเป็นพัน ถ้าอยากจะจัดการกับเขาต้องวางแผนระยะยาว จะรีบร้อนไม่ได้” เฉิงห่าวพูดด้วยน้ำเสียงที่ลึกล้ำและอันตราย ดวงตาจ้องมองที่ภาพหยุดบนจอคอมพิวเตอร์ 

 

 

           “ผมรู้ครับ” หลังจากผู้ช่วยชาร์ลีครุ่นคิดก็พูดขึ้น “คุณชายเฉิง คุณฉู่เป็นคนรักของเขาไม่ใช่เหรอ เราจะใช้เธอเพื่อรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ก็ได้ ถ้าจะสู้กับเผยหนานเจวี๋ยอีก วิธีนี้มันเร็วกว่าการที่พวกเราจะจับตามองแบบนี้มากเลย” 

 

 

           เฉิงเฮ่าได้ฟังคำพูดของผู้ช่วยแล้ว ชำเลืองมองชาร์ลีด้วยสายตาเมินเฉย ที่เขาพูดเขารู้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าตอนนี้เขายังลงมือกับฉู่อีอีไม่ได้ เขาต้องรอโอกาส อีกอย่าง เขาเชื่อว่าตั้งแต่ที่ฉู่อีอีเกิดเรื่อง เผยหนานเจวี๋ยจะต้องสั่งการให้คนปกป้องฉู่อีอีอย่างแน่นอน 

 

 

           ตอนนี้ไม่ใช่โอกาสที่ดีที่จะลงมือ แต่ว่าเขาก็ไม่รังเกียจที่จะโทรหาเขาเพื่อพูดคุยกันสักหน่อย คิดเช่นนี้แล้วก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออกแล้ว 

 

 

           “ฮัลโหล” 

 

 

           “ฮัลโหล คุณเผย คุณนี่เปิดหูเปิดตาผมจริงๆ เลยนะ เร็วขนาดนี้ก็จัดการเรื่องให้สงบได้แล้ว” เฉิงเฮ่ารอจนกระทั่งมีคนรับสายก็เอ่ยปากทันที 

 

 

           “นายนี่เอง” เผยหนานเจวี๋ยพูด น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นขึงขังขึ้นมาทันใด 

 

 

           หรือว่าเขาจะอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้? 

 

 

           “คุณเผย คุณช่างสมคำร่ำลือจริงๆ เป็นคนมีความสามารถ วันเวลาในอนาคตยังอีกยาวไกล พวกเราค่อยๆ เล่นกันเถอะ” เฉิงเฮ่าพูดจบก็วางสายไปแล้ว 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยได้ยินเสียงสัญญาณตัดไปแล้ว จมดิ่งอยู่ในห้วงความคิด 

 

 

           เขารู้สึกมาตลอดว่าเฉิงเฮ่าคนนี้ไม่ธรรมดา แต่ว่าเขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเขาต้องการทำอะไรกันแน่ 

 

 

           ขณะที่กำลังเหม่อลอยอยู่นั้น จู่ๆ ก็รู้สึกว่าเอวถูกกอดจากด้านหลัง เขาไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นใคร เอื้อมมือปลดมือของฉู่อีอีออกจากเอวของตัวเอง 

 

 

           “หนานเจวี๋ย คุณกำลังคิดอะไรอยู่เหรอ” ฉู่อีอีสวมชุดนอนเซ็กซี่ แนบชิบเอวของเผยหนานเจวี๋ย เมื่อถูกเผยหนานเจวี๋ยปลดมือออก แววตาเผยความไม่พอใจทันที แต่ว่าประกายความไม่พอใจนั้นหายไปอย่างรวดเร็ว 

 

 

           ดึงฉู่อีอีมาอยู่ด้านข้างตัวเอง เผยหนานเจวี๋ยจึงหันไปมองฉู่อีอี เห็นเธอสวมชุดเซ็กซี่แบบนั้น ทันใดนั้นก็นึกถึงรูปถ่ายรูปนั้นที่ได้รับก่อนหน้านี้ ฉู่อีอีที่เกี่ยวพันอยู่กับผู้ชายคนอื่นด้วยเรือนร่างอันเปลือยเปล่า 

 

 

           “ไม่ได้คิดอะไร ทำไมคุณยังไม่นอนล่ะ” เผยหนานเจวี๋ยตอบเฉยเมย ละสายตาออกจากฉู่อีอี ความ 

 

 

เซ็กซี่ของฉู่อีอีนั้นไม่มีผลอะไรต่อเขาเลยแม้แต่นิดเดียว 

 

 

           หลังจากที่เขารู้ใจของตัวเองแล้ว ความเซ็กซี่เย้ายวนใจของฉู่อีอีนั้นราวกับว่าไม่สามารถสร้างความหวั่นไหวได้อีกแล้ว 

 

 

           ตอนนี้เขามีเพียงความรู้สึกเดียวต่อฉู่อีอีเท่านั้น ซึ่งก็คือความรู้สึกผิดต่อเธอ