ตอนที่ 338 ไม่สามารถปล่อยให้พวกเขาไร้บ้านได้ / ตอนที่ 339 พวกนักธุรกิจใจดำทั้งนั้น

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 338 ไม่สามารถปล่อยให้พวกเขาไร้บ้านได้ 

 

 

           “ให้เขาเข้ามา” เสียงทุ้มต่ำดังมาจากเผยหนานเจวี๋ย ผละตัวออกจากฉู่อีอี

 

 

           หลังจากเลขาได้ยินคำตอบของเผยหนานเจวี๋ยแล้วก็ให้ฉู่เจียเสวียนเข้ามา

 

 

           ก้าวเดินเข้าไปในออฟฟิศ เมื่อเห็นว่าฉู่อีอีก็อยู่ด้วยโดยไม่ได้คาดหมายแล้ว ดวงตาเพียงส่องประกายความประหลาดใจเล็กน้อย การแสดงออกบนใบหน้าก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก

 

 

ในเวลานี้เมื่อเผยหนานเจวี๋ยเห็นฉู่เจียเสวียนมาถึงที่นี่ ในใจก็พอจะรู้ว่าเธอมาเพราะอะไร

 

 

           “พี่สาว ไม่เจอกันตั้งนาน” ฉู่อีอีมองฉู่เจียเสวียนพร้อมยิ้มเอ่ย แต่ลึกๆ ในสายตามีแต่ความโกรธ

 

 

           หญิงเลวคนนี้มายั่วหนานเจวี๋ยของเธออีกแล้ว หน้าไม่อายจริงๆ คิดอยู่ในใจ แล้วควงแขนของเผยหนานเจวี๋ย

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเพียงแต่พยักหน้าอย่างเฉยเมย ไม่ได้สนใจฉู่อีอี “คุณเผย ฉันมีเรื่องนึงอยากจะคุยกับคุณ”

 

 

           ฉู่เจียเสียนเอ่ย ดวงตาที่สดใสมองเผยหนานเจวี๋ยไม่กระพริบ

 

 

           “ถ้าคุณมาเพื่อคุยเรื่องที่ดินก็ไม่ต้องหรอก” เผยหนานเจวี๋ยเงยหน้าสบตาที่เย็นชาของฉู่เจียเสวียน หัวใจเต้นรุนแรง

 

 

           “ไม่มีที่ว่างสำหรับการเจรจาต่อรองเลยเหรอ” ฉู่เจียเสวียนกัดฟันพูด แววตาที่มองเผยหนานเจวี๋ยยิ่งเยือกเย็นลง

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยไม่ตอบ ได้แต่พยักหน้า แน่นอนว่าไม่มีที่ว่างสำหรับการเจรจาอยู่แล้ว ตอนนี้เขาได้เตรียมคนเพื่อเตรียมการก่อสร้างแล้ว รอคนที่นั่นย้ายออกไป ก็สามารถทำงานได้ทันที

 

 

           จู่ๆ ฉู่เจียเสวียนก็รู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนโง่ เธอต้องการจะหารือกับเขาว่าสามารถยืดเวลาให้พวกเด็กกำพร้าอีกสักสองสามวันได้หรือไม่ แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะปฏิเสธโดยไม่คิดเลย

 

 

           เขาช่างเป็นคนที่เลือดเย็นไร้เมตตาจริงๆ

 

 

           ฉู่อีอีนั่งอยู่ตรงนั้น ฟังบทสนทนาของทั้งสองคนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เธอได้ยินสิ่งที่พูดแล้ว แต่ว่าเมื่อปะติดปะต่อกันแล้วเธอไม่เข้าใจเลยสักนิด

 

 

           “ฉันเข้าใจแล้ว” ฉู่เจียเสวียนกัดฟันจากนั้นก็เอ่ย ในเมื่อเขาพูดแบบนี้แล้ว งั้นก็อย่าหาว่าเธอไม่เกรงใจก็แล้วกัน เดิมทีเธอต้องการมาหารือกับเขาโดยดี เช่นนั้นคงสามารถช่วยพวกเขาด้วยวิธีการของเธอเท่านั้น

 

 

           “พี่สาว พวกพี่กำลังคุยเรื่องอะไรกัน” ฉู่อีอีไม่ชอบใจที่ตัวเองเป็นเหมือนอากาศ เอ่ยปากถาม สายตามองสลับไปมาระหว่างเผยหนานเจวี๋ยกับฉู่เจียเสวียน

 

 

           หรือว่าสองคนนี้เจอหน้ากันโดยที่เธอไม่รู้งั้นเหรอ

 

 

           “งั้นคุณเผยอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจนะคะ ถึงตอนนั้นถ้าเกิดการสูญเสียอะไรที่ไม่จำเป็น อย่าโทษฉันก็แล้วกัน” ฉู่เจียเสวียนพูดกับเผยหนานเจวี๋ยจบ ไม่ปล่อยโอกาสให้เผยหนานเจวี๋ยได้ตอบสนอง หันหลังออกไปจากออฟฟิศของเขาแล้ว

 

 

           “หนานเจวี๋ย มันเรื่องอะไรกันแน่” หลังจากฉู่อีอีมองดูฉู่เจียเสวียนจากไปแล้ว หันมองเผยหนานเจวี๋ยพร้อมกับถาม แววตามีความงุนงง

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยได้ยินแล้วส่ายหัว มุมปากยกยิ้ม เขาอยากดูมากว่าเธอจะใช้วิธีอะไรต่อสู้กับเขา

 

 

           ฉู่อีอีกัดริมฝีปาก แม้ว่าในใจจะไม่พอใจเล็กน้อย กลับไม่ได้พูดอะไรมากอีก

 

 

           “หนานเจวี๋ย หนังเรื่องนั้นที่ฉันพูดเมื่อกี้ คุณว่าไงบ้าง” ฉู่อีอีพูดเรื่องที่เธอยังพูดไม่จบเมื่อสักครู่ แววตาที่มองเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

 

 

           “อีอี ผมรู้แล้ว เดี๋ยวผมจะให้หยางฮุยไปจัดการ คุณกลับไปก่อนเถอะ ผมยังมีงานต้องทำ” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ย รูปร่างที่สูงใหญ่ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปยังโต๊ะทำงาน

 

 

           ทันทีที่ฉู่อีอีได้ยินเผยหนานเจวี๋ยรับปากแล้ว ดีใจสุดๆ เมื่อบรรลุเป้าหมายแล้ว เธอก็กลับไปได้แล้วสินะ

 

 

           หลังจากฉู่เจียเสวียนออกมาจากบริษัทกลุ่มเผยแล้ว ก็ขับรถไปยังบริษัทของกงจวิ้นฉือทันที เธอไม่เชื่อว่าเธอจะไม่สามารถช่วยเด็กๆ เหล่านั้นได้

 

 

           เธอไม่สามารถมองเด็กๆ เหล่านั้นกลายเป็นเด็กไร้บ้านตาปริบๆ ได้อย่างแน่นอน

 

 

 

 

 

ตอนที่ 339 พวกนักธุรกิจใจดำทั้งนั้น 

 

 

           “เจียเสวียน คุณเป็นอะไรไป” กงจวิ้นฉือมองดูฉู่เจียเสวียนที่ปรากฏตัวที่ออฟฟิศของเขาอย่างกะทันหัน เอ่ยถาม แววตาเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม

 

 

           ฉู่เจียเสวียนนั่งลงข้างๆ กงจวิ้นฉือทันที ริมฝีปากแดงยกยิ้ม “จวิ้นฉือ หนานเจวี๋ยซื้อที่ดินของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไปแล้ว ผู้อำนวยการเพิ่งโทรหาฉันบอกว่าเจ้าของขอให้พวกเขาย้ายออกภายในสามวัน”

 

 

           “อะไรนะ? ภายในสามวัน? เด็กเยอะแบบนั้นจะย้ายยังไง”

 

 

           “ที่ฉันมาก็เพราะอยากปรึกษากับคุณว่ามีวิธีหรือเปล่า” ฉู่เจียเสวียนมองกงจวิ้นฉือพร้อมเอ่ย สีหน้าเปี่ยมด้วยความกังวล

 

 

           กงจวิ้นฉือได้ยินแล้วก็พยักหน้า “คุณมีความคิดอะไรดีๆ หรือเปล่า”

 

 

           “ฉันอยากใช้พลังของสื่อข่าวเพื่อช่วยพวกเขา เปิดเผยพวกเขาต่อหน้าทุกคน เรียกร้องให้ประชาชนปกป้องพวกเขา” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากทันที ตอนนี้เวลาเหลือไม่มากแล้ว เธอไม่สามารถคิดอะไรอื่นได้นอกจากวิธีนี้

 

 

           “ที่จริงวิธีนี้ของคุณก็ไม่เลว ตอนนี้การกระจายข่าวทางอินเทอร์เน็ตเร็วขนาดนั้น เชื่อว่าจะต้องมีคนใจดีช่วยเหลือเยอะแน่ๆ” กงจวิ้นฉือครุ่นคิด จากนั้นก็เอ่ยปาก

 

 

           หลังจากฉู่เจียเสวียนปรึกษากับกงจวิ้นฉือแล้ว จึงตัดสินใจที่จะจัดงานแถลงข่าวในเช้าวันรุ่งขึ้น กงจวิ้นฉือรีบให้ผู้ช่วยไปเตรียมการเรื่องนี้ ให้เขาไปติดต่อสื่อรายใหญ่

 

 

           ท้ายที่สุดแล้วเรื่องนี้มันเร่งด่วนมากเกินไป ถ้าหากตอนนี้ยังไม่ทำอะไรอีกล่ะก็ ฉู่เจียเสวียนกลัวว่าจะไม่ทันการ

 

 

           วันรุ่งขึ้น ฉู่เจียเสวียนมาถึงงานแถลงข่าว เปิดเผยเรื่องในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าสู่สาธารณะและเรียกร้องให้ทุกคนรักและห่วงใยเด็ก

 

 

           ส่วนเรื่องที่ว่าเผยหนานเจวี๋ยซื้อที่ดินผืนนั้นเพื่อการพัฒนาเชิงพาณิชย์ก็ถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนเช่นกัน เพียงพริบตาเดียวเผยหนานเจวี๋ยก็กลายเป็นเป้าหมายของการโจมตีทางความคิดเห็นของประชาชน

 

 

           “เป็นนักธุรกิจไร้ศีลธรรมจริงๆ!”

 

 

           “ต่อไปจะไม่ใช้สินค้าที่พวกเขาผลิตอีกแล้ว!”

 

 

           “พวกนักธุรกิจมีใครล่ะบ้างที่ไม่ใจดำ?”

 

 

           “พวกคนรวยมีแต่ทำให้คนธรรมดาอย่างพวกเราลำบากเพื่อทำเงินสกปรก”

 

 

“……”

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยนั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน ดูฉู่เจียเสวียนที่เมื่อแถลงข่าวออกไปแล้ว บริษัทของพวกเขากลายเป็นธุรกิจมืดสำหรับทุกคน

 

 

           ฉู่เจียเสวียน! มือที่อยู่บนโต๊ะทำงานกำแน่น เขาคิดไม่ถึงเลยว่าวิธีที่ฉู่เจียเสวียนพูดถึงก็คือวิธีแบบนี้

 

 

           เธอฉลาดจริงๆ รู้จักใช้มติมหาชนเพื่อโจมตีเขา!

 

 

           “แย่แล้วครับ ประธานเผย ตอนนี้หุ้นของบริษัทพวกเราร่วงหนักเลยครับ” ผู้ช่วยเดินเข้ามาบอกเผยหนานเจวี๋ย

 

 

           “แย่แล้วครับ ประธานเผย พวกนักธุรกิจบางคนที่เคยลงทุนกับเราตอนนี้กำลังจะขายหุ้นแล้วครับ”

 

 

           ได้ยินคำพูดของพนักงาน เผยหนานเจวี๋ยโกรธสุดขีด ฉู่เจียเสวียน การแถลงข่าวของคุณทำให้บริษัท ของผมขาดทุนอย่างหนัก!

 

 

           ริมฝีปากบางเม้มกัน จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของเผยหนานเจวี๋ยดังขึ้น “ฮัลโหล แม่”

 

 

           “หนานเจวี๋ยเอ๊ย นี่มันเรื่องอะไรกัน” เสียงของคุณแม่เผยดังมาจากปลายสาย น้ำเสียงเปี่ยมด้วยความไม่พอใจ

 

 

           “แม่ครับ แม่ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง” เผยหนานเจวี๋ยกล่าวปลอบใจคุณแม่เผย

 

 

           เรื่องเล็กขนาดนี้ ฉู่เจียเสวียนนึกว่าจะสามารถเหยียบเขาได้งั้นเหรอ เขาจะต้องคิดวิธีพลิกสถานการณ์นี้อย่างแน่นอน

 

 

           หลังจากวางสายแล้ว เผยหนานเจวี๋ยก็นึกหนทางตอบโต้ออกทันที

 

 

           “คุณไปเช็คดูว่าช่วงนี้มีงานเลี้ยงการกุศลอะไรหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็ไปคิดงานออกมา ไปสิ” เผยหนานเจวี๋ยกล่าวกับผู้ช่วย

 

 

           เขาจะต้องทำให้เรื่องนี้สงบลงโดยเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นหากยิ่งยืดเยื้อ บริษัทของเขาจะยิ่งสูญเสียหนักแน่นอน

 

 

           ฉู่เจียเสวียนคุณมันแน่จริงๆ คุณออกตัวแบบนี้ ผมไม่ลงต่อสู้ไม่ได้แล้ว!

 

 

           การทำงานของผู้ช่วยนั้นมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมาก เพียงแค่ห้านาทีก็พบงานการกุศลที่จะจัดขึ้นในเร็ววันนี้แล้ว