บทที่ 81 ฉีกกระชากเสื้อผ้าของเธอ

ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠)

บทที่ 81
ฉีกกระชากเสื้อผ้าของเธอ
มู่หรงเสวี่ยไม่สนใจความเจ็บปวดที่กำลังแผดเผาอยู่ที่หน้าเธอ เธอรีบวิ่งเข้าไปขวางชางกวนโม่ที่กำลังบ้าคลั่ง จางหลินหลี่ดูเหมือนจะสู้ไม่ได้

เธอรีบเข้าไปขวางตรงหน้าจางหลินหลี่ พร้อมหลับตาลงเตรียมที่จะรับหมัดที่โกรธเกรี้ยวของเขา อย่างไรก็ตามหมัดที่เส้นเลือดปูดโปนของชางกวนโม่หยุดห่างจากหน้ามู่หรงเสวี่ยไปเพียงไม่กี่เซนติเมตร มู่หรงเสวี่ยรู้สึกได้ถึงแรงลมของหมัดซึ่งทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวและสีหน้าของเธอก็ซีดเผือด

ดวงตาของชางกวนโม่แดงก่ำ น้ำเสียงที่เย็นชา “เธอจะปกป้องเขาจริงๆใช่ไหม?!! เธอมันผู้หญิงใจร้าย”
มู่หรงเสวี่ยไม่อยากที่จะเชื่อในคำพูดของเขา “ชางกวนโม่ คุณบ้าไปแล้วหรือไง พี่จางเป็นเพื่อนสนิทคุณนะ คุณทำกับเขาแบบนี้ได้ยังไง?” เธอหันไปมองจางหลินหลี่ที่อยู่ข้างหลัง หน้าของเขาบวมแดงไปหมด ที่ปากและจมูกก็มีเลือดไหล มองออกเลยว่ามือของชางกวนโม่หนักขนาดไหน

ชางกวนโม่เตะด้านข้างของโต๊ะจนแตกใจทันที “เธอบอกว่าฉันบ้างั้นเหรอ! เธอมันผู้หญิงใจร้าย ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะหิวกระหายขนาดนี้ ฉันไม่อยู่แค่ไม่กี่วันแล้วเธอก็มาอยู่กับเขาแล้วงั้นเหรอ!”
หัวใจของมู่หรงเสวี่ยสั่นไปหมด ในหัวใจเจ็บปวดมากจากคำพูดของเขา เธอเป็นคนแบบนั้นจริงๆงั้นเหรอ? น้ำตาอดไม่ได้ที่จะไหลลงมาอาบแก้ม หัวใจเต้นรัวเพราะความเจ็บปวด เธอหันไปช่วยจางหลินหลี่และถามออกมาอย่างแผ่วเบา “พี่จาง เป็นไงบ้างคะ?”

จางหลินหลี่เจ็บไปทั่วร่างกาย โดยเฉพาะที่หน้า เขาอยากที่จะปลอบมู่หรงเสวี่ยที่กำลังเป็นห่วงเขาอยู่ อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเปิดปากก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากหายใจรับอากาศเย็นๆเข้าไปแล้วส่ายหัวเบาๆเท่านั้น

ชางกวนโม่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจตอนที่เห็นน้ำตาของ มู่หรงเสวี่ย เขาเกือบที่จะพูดขอโทษออกไปแล้ว อย่างไรก็ตามเขาโกรธมากตอนที่เห็นท่าทางอ่อนโยนของเธอที่ช่วยพยุง จางหลินหลี่ จางหลินหลี่ได้รับบาดเจ็บ เธอกระวนกระวายใจงั้นเหรอ?! น้ำตาไหลออกมาอย่างมากมาย…เพื่อเขางั้นเหรอ? เขาเป็นอะไรกับเธอ?
เขาดึงมู่หรงเสวี่ยมา “นังผู้หญิงชั้นต่ำ ต่อให้เธอตาย เธอก็ต้องเป็นของฉันคนเดียว” เธอดิ้นจากเขาไม่หลุด เธอไม่อยากที่จะไป
“คุณจะทำอะไร? ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉันสิ…” มู่หรงเสวี่ยตีไปที่ชางกวนโม่อย่างต่อเนื่อง ในเวลานี้ชางกวนโม่ดูน่ากลัวมาก
“ปล่อยเธองั้นเหรอ?! ฝันไปเถอะ” เขาอุ้มมู่หรงเสวี่ยที่กำลังดิ้นและเดินตรงเข้าไปที่ห้อง
จางหลินหลี่ลุกขึ้นพยายามที่จะห้าม แต่เขาเวียนหัวไปหมดและสลบไปในที่สุด
“ปัง” มู่หรงเสวี่ยถูกโยนลงไปอย่างแรงที่เตียง ก่อนที่สายตาเธอจะคุ้นกับความมืด เธอก็ถูกร่างใหญ่ของชางกวนโม่ทับไว้ซะแล้ว เธอกลัวมากและพยายามดิ้นหนี
“ชางกวนโม่ คุณจะทำอะไร? ปล่อยฉันนะ” มู่หรงเสวี่ยตีชางกวนโม่ด้วยความกลัว ในห้องมืดแต่เธอก็ยังเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความบ้างคลั่งของเขา เธอเอาแต่กรีดร้อง ชางกวนโม่บ้าไปแล้วจริงๆ คืนนี้เขากลายเป็นสัตว์ป่า
“นังผู้หญิงชั้นต่ำ หลายวันที่ผ่านมานี้มีความสุขกับจางหลินหลี่มากใช่ไหม!? นอนกอดกับมันทุกคืนแล้วยังทำเป็นเด็กน้อยน่ารักมาหลอกฉันอีกเหรอ? ฉันถึงขนาดหลงชอบเธอ” น้ำเสียงเย็นชาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ เขาจูบเธออย่างแรงลงที่ริมฝีปากและชางกวนโม่ก็ลุกขึ้นจ้องมองร่างของมู่หรงเสวี่ยที่อยู่เบื้องล่างเขา เขาไม่มีวันปล่อยเธอไป ในเมื่อเธอไม่ถนอมความซื่อสัตย์ของเขา งั้นถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ร่างกายของเธอ เขาก็จะไม่มีวันปล่อย
เขาถอดเข็มขัดมามัดมือเธอไว้
“อย่า ปล่อยฉันเถอะ ถ้าคุณกล้าทำแบบนี้กับฉัน ฉันจะไม่มีวันให้อภัยคุณอีกเลย ไม่มีวัน!” มู่หรงเสวี่ยคำรามผ่านฟันที่กัดแน่นและจ้องไปที่ดวงตาดำเข้มที่กำลังโกรธเบื้องหน้าเธอ ทันใดนั้นความรู้สึกเกลียดก็พุ่งเข้ามาในใจเขา ถ้าเขากล้าทำกับเธอแบบนี้ เธอจะไม่มีวันอภัยให้เขา ไม่มีวัน
“อภัยให้ฉันงั้นเหรอ?” ราวกับเพิ่งได้ฟังเรื่องตลก ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกขำ “นี่ฉันต้องให้เธอมายกโทษให้ด้วยงั้นเหรอ?! ในชีวิตนี้เธอหนีไปไหนไม่ได้หรอก นังตัวดี” เขาฉีกเสื้อผ้าเธอ เขาทำเป็นไม่สนใจหัวใจตัวเองเพราะเขาเห็นความเกลียดชังในสายตาเธอผสมกับความกลัว แล้วเขาก็นึกถึงความจริงที่ตัวเองได้เห็นในคืนนี้…ความโกรธที่ควบคุมไม่ได้พุ่งขึ้นมาอีกครั้ง
มู่หรงเสวี่ยมองเสื้อผ้าที่ถูกฉีกออกจากร่างกายและพูดอย่างตื่นตระหนก “ชางกวนโม่ ไอ้คนทุเรศ ฉันเกลียดคุณ!” สายตาของเธอฉายแววเกลียดชัง ทำไมเขาถึงทำกับเธอแบบนี้? ทำไม??? แน่นอนคำว่ารักที่เขาบอกเธอก่อนหน้านี้มันเป็นเรื่องหลอกลวง…ทุกอย่างเป็นเรื่องหลอกลวง…อีกครั้งที่น้ำตาไหลออกมาจนบดบังสายตาของเธอ
ดวงตาดำเข้มจ้องมาที่เธอ “เธอเป็นคนร้องขอเองนะ นังผู้หญิงชั้นต่ำ หว่านเสน่ห์ใส่จางหลินหลี่ด้วยท่าทางน่าสงสาร…บอกมานะ…เธอได้กับมันตั้งแต่เมื่อไร…”
มู่หรงเสวี่ยพูดออกไปด้วยความไม่พอใจ “เราอยู่ด้วยกันมานานแล้ว พี่จางดีกว่าคุณเป็น 1,000 เท่า เป็น 10,000 เท่า คุณมันสัตว์ป่า…” หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความเกลียด เธอนึกถึงชีวิตที่แล้ว ช่างเป็นความจริงที่น่ารังเกียจจริงๆ ความจริงที่ว่าชีวิตที่แล้วมันหลีกเลี่ยงไม่ได้ เหตุการณ์แบบนี้วนกลับมาอีกแล้ว เธอรู้อยู่แล้ว…เธอรู้ว่าตัวเองไม่ควรที่จะมอบหัวใจให้ใคร
“เธอกำลังพูดเรื่องอะไร!” เขาถามออกมาอย่างแผ่วเบา ที่มุมปากเผยอเล็กน้อยแต่สายตาของเขากลับเยือกเย็นขึ้นไปอีก
ในตอนนี้มู่หรงเสวี่ยเองก็มองเขาอย่างเยือกเย็นเช่นกัน หัวใจเธอกลายเป็นด้านชา ไม่มีความกลัวหลงเหลืออยู่แล้ว

“ฉันกำลังพูดความจริง!” เธอคิดถึงเรื่องที่ชางกวนโม่ซ้อมพี่จางแบบนั้น และตอนนี้เขายังมาใช้กำลังกับเธออีก…เขามันไม่ใช่คน เขาทำแบบนี้ได้ยังไง? เธอทำอะไรไม่ดีกับเขางั้นหรือไง

“นังผู้หญิงชั้นต่ำ คืนนี้ฉันจะทำให้เธอเห็นเองว่าใครกันที่ดีกว่า…” เขานอนลงไปและเริ่มจูบเธออย่างแผ่วเบาที่ข้างหู, ที่คอและเลื่อนลงมาเรื่อยๆ

ร่างกายของเธอสั่นไปหมด
“ไม่นะ…” มือที่ถูกมัดอยู่พยายามดิ้นอยู่ที่ด้านหลังหัว เธอกลัวสัมผัสของเขา เธอกลัวว่าคืนนี้เขาจะทำรุนแรงกับเธอ
เมื่อริมฝีปากมาถึงเสื้อผ้าบริเวณหน้าอก ดูแล้วเหมือนมีความรู้สึกรักใคร่และความเสน่หาปิดบังซ่อนอยู่มากมาย ดวงตาของชางกวนโม่เข้มขึ้น เขาใช้มือขวาถอดเสื้อผ้าออก
“อ่า…” มู่หรงเสวี่ยใจหาย เขาทำได้ยังไง สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความละอายใจแต่ร่างกายกลับสั่นด้วยความโกรธ
สัมผัสที่โดนราวกับมีกระแสไฟฟ้า มู่หรงเสวี่ยกรีดร้องอยู่เรื่อยๆ “ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉันสิ…”

ชางกวนโม่เงยใบหน้าอันหล่อเหลาและมองมาที่มู่หรงเสวี่ยที่ดวงตาแดงก่ำอยู่นาน

“เธอไม่ต้องการเหรอ?! เธอต้องการกับจางหลินหลี่งั้นเหรอ?” มีความโหดร้ายอยู่ในน้ำเสียง
“ไม่สำคัญว่าเป็นใคร! คุณมันไอ้ทุเรศ! ฉันแค่เกลียดที่ตัวเองตาบอด ถ้าฉันมีโอกาสอีกครั้ง ฉันจะไม่มีวันไปที่สวนพนันหินอีกเลย…” นึกถึงที่ที่พวกเขาได้เจอกัน น้ำตาของมู่หรงเสวี่ยก็ไหลรินออกมาอีกครั้ง น้ำตาทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจของชางกวนโม่แต่ก็ยังเก็บกดความโกรธไว้ไม่ได้

ในเมื่อเธอไม่ได้รักเขา งั้นก็ทำให้เธอเกลียดเขาไปเลยแล้วกัน ชางกวนโม่เปิดริมฝีปากบางสวยของตัวเอง ถอดเสื้อผ้าของตัวเองแล้ววางไว้ข้างๆ มองจ้องไปที่เธอจากตำแหน่งของผู้ที่เหนือกว่า
มู่หรงเสวี่ยมองชางกวนโม่ที่อยู่ตรงหน้าอย่างหวาดกลัวและทันใดนั้นก็เกิดความกลัวขึ้นมา เธอพยายามถอยหนี เธอไม่ต้องการ เธอไม่ต้องการแบบนี้

“เธอหนีไม่พ้นหรอก! ตลอดกาล” เขาจับขาเธอไว้ไม่ให้หนีไปอีก มู่หรงเสวี่ยอยากที่จะเตะเขาแต่เขาจับขาเธอไว้ ชางกวนโม่มองร่างขาวนวลของมู่หรงเสวี่ยอย่างเย็นชา ถึงแม้จะต้องทำร้ายหรือหักขาเธอ เขาก็ไม่มีวันปล่อยเธอไป

“อย่า…ขอร้องล่ะ…อย่านะ…” มู่หรงเสวี่ยเอาแต่ส่ายหัว มองตรงมาที่ห้องมืดอย่างตื่นตระหนก
“สายไปแล้วที่จะมาอ้อนวอนฉันตอนนี้ เธอไม่ควรที่จะทรยศฉัน…” ตอนที่เธอไม่ทันตั้งตัว ชางกวนโม่กอดมู่หรงเสวี่ยและเอาขาทั้งสองข้างของเธอมากอดเอวเขาไว้ มือใหญ่ฉีกดึงเสื้อผ้าเธอออก

“ไม่นะ! อย่า” มู่หรงเสวี่ยพยายามบิดตัวหนีแต่เขาก็หยุดเธอไว้ได้ เมื่อร่างกายของเธอเผยออกมาตรงหน้าชางกวนโม่ แวบความอบอุ่นก็ฉายในดวงตาของเขา มู่หรงเสวี่ยกัดฟันแน่นและไม่ยอมให้ตัวเองร้องออกมา “ฉันเกลียดคุณ” เธอพูดออกมาพร้อมอาการสั่น เธอเกลียดผู้ชายคนนี้

เธอต่อต้านด้วยความตระหนกและเจ็บปวดในหัวใจและพยายามยืนด้วยขาของตัวเอง
“อ่า…” เสียงกรีดร้องเล็ดลอดออกมา
เธอเกลียดเขา
มู่หรงเสวี่ยพยายามขัดขืนอย่างสิ้นหวัง “อย่าขยับ” ชางกวนโม่ยิ้มให้กับน้ำตาของเธอ
“ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะ” เธอร้องเสียงแหบ, ร่างกายเจ็บปวดพร้อมหัวใจที่เจ็บปวด
ไม่มีวันหรอกที่จะปล่อยเธอไป…ไม่มีวันหรอก
ทั้งคืน ในที่สุดมู่หรงเสวี่ยก็สลบไป
ชางกวนโม่มองร่องรอยที่น่ากลัวบนเรือนร่างของมู่หรงเสวี่ยและรอยเลือดแดงบนที่นอนซึ่งตรึงสายตาของเขาไว้
เป็นไปได้ยังไง?
ที่งานประชุมหินการพนันก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่ได้…
สีหน้าของมู่หรงเสวี่ยยังคงซีดเผือดและมีรอยเปียกสองรอยบนใบหน้า เขานึกถึงสายตาเกลียดชังที่มองมาที่เขา…หัวใจเขาเกรงไปหมด…ความเจ็บปวดกระจายไปทั่ว…แต่เขาไม่ได้เสียใจกับสิ่งที่ทำไปวันนี้…ถึงแม้จะแค่เพื่อเก็บเธอไว้…เขาไม่มีวันปล่อยเธอไป

เขาอุ้มมู่หรงเสวี่ยที่ไม่ได้สติขึ้นมาและค่อยทำความสะอาดร่างกายให้เธอ สายตาของเขาแสดงถึงความอ่อนโยนที่ไร้พิษภัยออกมาซึ่งเขาไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำ

ค่อยๆวางมู่หรงเสวี่ยลงที่เตียง ห่มผ้าให้เธอแล้วจึงหันหลังเดินออกไปเพื่อที่จะไปดู “น้องชายที่รัก”