แดนนิรมิตเทพ บทที่ 642
“เจ้าเด็กคนนี้คิดจะออกคำสั่งอย่างเดียว!” น้ำเสียงของเจียงเหอซานมีความโกรธเล็กน้อย

เซี่ยไห่หลงกับปรมาจารย์ชายหนึ่งคนและหญิงหนึ่งคนไม่พูดอะไร แต่พวกเขาแอบขำอยู่ในใจ

เจียงเหอซานเป็นคนแบบไหนล่ะ? นับตั้งแต่ได้พบเฉินโม่ เขาถูกบีบให้ยอมแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าพวกเขาไม่ใช่ลูกน้องของเจียงเหอซาน พวกเขาก็จะแอบเชียร์เฉินโม่แล้ว

พวกเขาทั้งสามกำลังรอให้เจียงเหอซานโกรธ แต่หลังจากนั้นไม่นาน เจียงเหอซานก็ถอนหายใจและกล่าวว่า “ช่างมันเถอะ ทำตามที่เขาพูดเถอะ ด้วยความสามารถของเขาแล้ว ถ้าเขาสามารถถ่ายทอดบู๊ให้หน่วยรบพิเศษเทพอินทรีด้วยความจริงใจ มันก็เป็นเรื่องที่ดี!”

นี่คือ…….การประนีประนอมเหรอ?

ทั้งสามคนรู้สึกอึ้ง

วันรุ่งขึ้น ภายในกำแพงล้อมรอบสูง สมาชิกของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีสามสิบหกคนเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบสี่แถว มองเฉินโม่ด้วยสีหน้าเย็นชา

เฉินโม่มองเซี่ยไห่หลงและกล่าวว่า “รองหัวหน้าเซี่ย ออกมา!”

“ครับ”

เซี่ยไห่หลงเดินออกมาหนึ่งก้าว

เฉินโม่โยนหนังสือให้เขาหนึ่งเล่ม “นี่เป็นเคล็ดวิชาที่ผมปรับปรุงแล้ว เรียกว่าวิชามังกรเหินฟ้า ต่อไปพวกคุณฝึกแทนวิชาพยัคฆ์คำราม!”

เซี่ยไห่หลงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย เพราะทุกเคล็ดล้วนได้รับการสร้างและปรับปรุงโดยคนที่มีพรสวรรค์ ถึงสามารถสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันได้ แล้วเฉินโม่ใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งคืนจะสามารถปรับปรุงเคล็ดวิชาอะไรออกมาได้?

เพราะการฝึกเคล็ดวิชาเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าไม่ระมัดระวังอาจจะทำให้เสียชีวิตได้ เซี่ยไห่หลงรู้สึกกังวลการก่อกวนของเฉินโม่

เพียงแต่เมื่อเซี่ยไห่หลงเปิดอ่านแล้ว เขาก็ไม่สามารถละสายตาได้ ราวกับว่าเขาได้ค้นพบทวีปใหม่ ยิ่งเขาอ่านมากเท่าไหร่ สีหน้าของเขาก็ยิ่งตกใจมากขึ้นเท่านั้น!

สมาชิกของหน่วยรบพิเศษที่เหลือสงสัยเหมือนกัน เคล็ดวิชาที่เฉินโม่ปรับปรุงด้วยเวลาเพียงหนึ่งคืน จะสามารถใช้ได้เหรอ?

แต่เมื่อเห็นการแสดงออกของเซี่ยไห่หลงแล้ว ทำให้พวกเขายิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีก

“นี่คือเคล็ดวิชาที่คุณปรับปรุงขึ้นด้วยเวลาเพียงคืนเดียวจริง ๆ เหรอ?” เซี่ยไห่หลงพยายามควบคุมความคิดของตนเองที่อยากจะอ่านต่อ แล้วหันความสนใจไปที่เฉินโม่

เฉินโม่ไม่ตอบ และไม่จำเป็นต้องตอบ เพราะเมื่อคืนเฉินโม่เพิ่งได้รับวิชาพยัคฆ์คำรามของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีจากเซี่ยไห่หลง

“ท่านเป็นคนที่มีความสามารถจริง ๆ!” เซี่ยไห่หลงโค้งคำนับเฉินโม่

ตอนนี้ สมาชิกของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีสับสนมากยิ่งขึ้น

“เคล็ดวิชาเล่มนี้เป็นของหายากจริง ๆ มันดีกว่าเคล็ดวิชาของสำนักบู๊ที่ผมฝึกเป็นร้อยเท่า! พวกคุณต้องตั้งใจฝึกและรักษาโอกาสนี้ไว้!” เซี่ยไห่หลงหันไปมองสมาชิก และกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

ทุกคนต่างแสดงความตกใจ พวกเขารู้สถานะและความแข็งแกร่งของเซี่ยไห่หลงเป็นอย่างดี เขาเป็นศิษย์ของสำนักบู๊ และเคล็ดวิชาที่เขาฝึกนั้นดีกว่าของพวกเขามาก

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทุกคนเพ้อฝันถึงเคล็ดวิชาของเซี่ยไห่หลง แต่น่าเสียดายที่สำนักบู๊มีข้อกำหนดเรื่องการสืบทอดเคล็ดวิชาที่เข้มงวดมาก และเซี่ยไห่หลงก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของอาจารย์ ดังนั้นสมาชิกของหน่วยรบพิเศษจึงทำได้เพียงแค่อิจฉาเขาเท่านั้น

ตอนนี้ หลังจากเซี่ยไห่หลงพูดว่าเคล็ดวิชาที่เฉินโม่ปรับปรุงนั้น ดีกว่าเคล็ดวิชาของสำนักบู๊ที่เขาฝึกเป็นร้อยเท่า!

นี่มันหมายความว่าอะไร?

หมายความว่าต่อไปพวกเขาไม่ต้องอิจฉาเคล็ดวิชาของเซี่ยไห่หลงอีกต่อไปแล้ว กระทั่งเคล็ดวิชาที่พวกเขาฝึกยังสามารถเทียบของสำนักบู๊พวกนั้นได้ หรือกระทั่งแข็งแกร่งกว่า!

แล้วจะให้สมาชิกของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีไม่รู้สึกตื่นเต้นได้อย่างไร? ตอนนี้สายตาที่พวกเขามองเฉินโม่มีร่องรอยของความเคารพนอบน้อม

เมื่อเห็นสายตาที่ตื่นเต้นของทุกคนแล้ว เฉินโม่ก็รู้ว่าความสัมพันธ์ของเขากับทหารเหล่านี้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น

“ตอนนี้พวกคุณเริ่มฝึกวิชามังกรเหินฟ้าเถอะ หากมีอะไรไม่เข้าใจ รายงานให้รองหัวหน้าเซี่ย อีกสามวันผมจะมาตรวจผลการฝึก”

ทุกคน “……”

ชั้นบนของสำนักงาน เจียงเหอซานซึ่งยืนอยู่ที่หน้าต่างและเห็นภาพนี้ ทำให้เขานิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง

นี่เขาคิดจะออกคำสั่งอย่างเดียวจริงๆ!