แดนนิรมิตเทพ บทที่ 643
สามวันต่อมา

เฉินโม่มาตรวจผลการฝึกของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีที่สนามฝึก

สมาชิกของหน่วยรบพิเศษสามสิบหกคน รวมเซี่ยไห่หลงด้วย ทุกคนได้ทำการปรับเปลี่ยนเส้นลมปราณในร่างกายเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“ดีมาก ฝึกขั้นต่อไปเถอะ!”

ตอนแรกพวกเขารู้สึกตื่นเต้นมาก และกำลังรอเฉินโม่พูดให้กำลังใจหรือประสบการณ์การฝึก แต่สุดท้ายคำพูดที่พวกเขาได้รับจากเฉินโม่คือคำพูดที่ขาดความรับผิดชอบ

เซี่ยไห่หลงยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่กล้าพูดออกมา

เฉินโม่มองเขาและกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “รองหัวหน้าเซี่ย คุณมีเรื่องอะไร?”

เซี่ยไห่หลงเดินออกมาและกล่าวว่า “หัวหน้าเฉิน ผมอยากจะถามว่าชี่แท้ที่ได้จากการฝึกวิชามังกรเหินฟ้า สามารถผสานกับชี่แท้ที่ทุกคนฝึกในอดีตได้ไหม?”

นี่เป็นคำถามที่อยู่ในใจของสมาชิกทุกคน ถึงแม้ว่าสำหรับเฉินโม่แล้ว พลังบำเพ็ญเล็กน้อยของพวกเขาจะไม่สำคัญ แต่ไม่มีใครอยากละทิ้งชี่แท้ที่พวกเขาฝึกด้วยความยากลำบากมาเป็นเวลาหลายปี จากการเปลี่ยนวิธีการฝึกวิชาของพวกเขา

เฉินโม่อธิบายว่า “ผสานได้ เพราะวิชามังกรเหินฟ้าปรับปรุงบนพื้นฐานของวิชาพยัคฆ์คำราม ชี่แท้ที่ฝึกออกมานั้นจึงสามารถผสานวิชาพยัคฆ์คำรามได้อย่างสมบูรณ์”

ในที่สุดเซี่ยไห่หลงและสมาชิกของหน่วยรบพิเศษก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“พูดเหลวไหล!”

ทันใดนั้น เสียงด่าที่ประชดดังมาจากระยะไม่ไกล

ชายวัยกลางคนสวมชุดฝึกสีดำ กำลังเดินมุ่งหน้ามาที่สนามฝึก

มีลมพัดอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา และทุกสี่ห้าก้าว ถึงจะแตะพื้นครั้งหนึ่ง ทำให้คนอื่นรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังโบยบิน

“เคล็ดวิชาใดๆ แค่มีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางของเส้นลมปราณเพียงเล็กน้อย ชี่แท้ที่ฝึกออกมาจะไม่สามารถผสานกับชี่แท้เดิมได้โดยเด็ดขาด นี่เป็นเรื่องที่ทุกคนของโลกฝึกบู๊รู้อยู่แล้ว คุณไม่รู้แม้กระทั่งเรื่องทั่วไปพวกนี้ แล้วยังกล้าปรับเปลี่ยนวิธีการฝึกของพวกเขาอีก? คุณสมควรที่จะถูกฆ่าตายจริง ๆ!”

ชายคนนั้นหยุดอยู่ตรงหน้าเฉินโม่ด้วยระยะห่างห้าเมตร จ้องเฉินโม่อย่างเย็นชาด้วยสีหน้าที่เย่อหยิ่ง

โดยไม่รอให้เฉินโม่ถาม เซี่ยไห่หลงและสมาชิกของหน่วยรบพิเศษคนอื่นก็ทำความเคารพบุคคลนี้

“ครูฝึกพาน!”

ไม่จำเป็นต้องถาม เฉินโม่ก็สามารถเดาสถานะของบุคคลนี้ได้ เขาเป็นครูฝึกบู๊ที่หน่วยรบพิเศษเทพอินทรีจ้างมา

“คุณมาได้จังหวะพอดี ผมมีเรื่องจะบอกคุณ” สีหน้าของเฉินโม่ราบเรียบ ไม่ได้รู้สึกโกรธเพราะความเย่อหยิ่งของพานรุ่ยหมิง

พานรุ่ยหมิงตกตะลึงครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย และกล่าวอย่างเย็นชาว่า “คุณมีธุระกับผม? หากต้องการถามเกี่ยวกับการฝึกบู๊ คุณฝันไปเถอะ สำหรับคนที่ไม่รู้แม้แต่ความรู้พื้นฐานของโลกฝึกบู๊ ผมไม่มีอารมณ์ที่จะชี้แนะคุณ!”

สีหน้าของเซี่ยไห่หลงและสมาชิกของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีคนอื่น ๆ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่มีความคาดหวังอยู่ในสายตา ไม่รู้ว่าระหว่างครูฝึกบู๊กับหัวหน้าเฉินคนใหม่ ใครจะแข็งแกร่งกว่า?

เฉินโม่หัวเราะทันที มองพานรุ่ยหมิงด้วยท่าทางราวกับว่าตนเองเป็นผู้อาวุโส และกล่าวด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ “ใครบอกว่าผมจะขอคำชี้แนะจากคุณ? ผมจะบอกว่าคุณถูกเลิกจ้างแล้ว ดังนั้นต่อไปหัวหน้าอย่างผมจะเป็นคนฝึกบู๊ให้พวกเขาเอง”

ทันใดนั้นสีหน้าของพานรุ่ยหมิงเปลี่ยนเป็นไม่ดีมาก เพราะเขาได้รับการว่าจ้างจากเบื้องบนด้วยเงินเดือนที่สูงมาก ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าทางการแล้ว พานรุ่ยหมิงไม่มาสอนกลุ่มทหารธรรมดาของที่นี่หรอก

ถึงแม้ว่าทหารของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีจะเป็นสุดยอดทหารในสุดยอดทหาร แต่สำหรับนักบู๊อย่างพานรุ่ยหมิงแล้ว พวกเขาก็ไม่ต่างไปจากคนธรรมดาทั่วไป

แม้แต่เข้าเป็นลูกศิษย์ที่ฝีมือแย่ที่สุดในตระกูลพาน ก็มีพรสวรรค์ในการฝึกมากกว่าพวกเขาเสียอีก

ดังนั้นไม่ว่าพานรุ่ยหมิงจะอยู่ต่อหน้าหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีหรือเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ เขามักจะแสดงท่าทางเย่อหยิ่ง ราวกับว่าการที่เขามาฝึกสอนให้พวกเขา เป็นการทำบุญทำทานเท่านั้น

แต่ตอนนี้หัวหน้าที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง เพิ่งพบหน้ากันก็จะเลิกจ้างเขาทันที ซึ่งทำให้พานรุ่ยหมิงไม่สามารถทนความอัปยศนี้ได้!