ตอนที่ 344 คลื่นยักษ์กำลังก่อตัว / ตอนที่ 345 เลียนแบบหรือไม่ เดี๋ยวได้รู้กัน

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 344 คลื่นยักษ์กำลังก่อตัว 

 

 

           หลังจากคนนั้นได้ยินการยืนยันชื่อของมู่จื่อซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็แกล้งทำเป็นเดินห่างจากเธออย่างเฉยเมย ทั้งหมดนี้ถูกบันทึกภาพอย่างเงียบๆ โดยไม่รู้ตัวแล้ว 

 

 

           ได้เวลาครึ่งหลังของการแข่งขันแล้ว ทุกคนทยอยกลับที่นั่งของผู้ชม ทั้งสองกลับไปที่เวทีอีกครั้ง เครื่องมือทดสอบที่อยู่ด้านหน้าของทั้งสองถูกแทนที่ด้วยจักรเย็บผ้าและเครื่องมือตัดแต่งที่จำเป็นจำนวนหนึ่ง 

 

 

           เมื่อพิธีกรประกาศเริ่มการแข่งขัน สายตาของฉู่เจียเสวียนชำเลืองมองมู่จื่อ ยิ้มให้เธออย่างมีนัยยะ จากนั้นจึงเริ่มลงมืออย่างสบายๆ 

 

 

           มู่จื่อมองฉู่เจียเสวียนที่ยิ้มให้เธอกะทันหัน ในใจสับสนเป็นอย่างมากว่าเธอคิดจะทำอะไรกันแน่ แม้ว่าจะไม่สบายใจ แต่เธอก็ยังหยิบกรรไกรและเริ่มลงมือแล้ว 

 

 

           ผู้ชมด้านล่างเวทีมองมือของฉู่เจียเสวียนและมู่จื่อที่พริ้วไหวอย่างต่อเนื่อง อดไม่ไหวที่จะฮือฮา พวกเขาไม่เคยรู้เลยว่าที่แท้การตัดชุดแต่งงานมันง่ายขนาดนี้เมื่อมาอยู่ในมือของพวกเธอ เพียงรูปแบบที่ซับซ้อนเหล่านั้นก็ทำให้พวกเขามองเห็นได้ไม่ชัดเจนแล้ว 

 

 

           “น้าซู เจียเสวียนจะต้องชนะแน่นอนค่ะ คุณน้าอย่าตื่นเต้นไปเลย” ถังถังมองซูซานซานถูกมือทั้งสองไม่หยุด ยื่นมือไปตบๆ หลังมือของเธอ ให้เธอไม่ต้องเป็นกังวล 

 

 

           ด้วยบุคลิกของฉู่เจียเสวียน ถังถังรู้ว่าฉู่เจียเสวียนจะต้องชนะอย่างแน่นอน เพราะว่าฝีมือของมู่จื่อไม่ค่อยดีนัก อีกอย่างมู่จื่อคนนี้ก็ดูแปลกๆ  

 

 

           เหตุผลที่ฉู่เจียเสวียนแข่งขันกับมู่จื่อนั้น เพียงเพื่อต้องการดึงคนที่อยู่เบื้องหลังออกมาเท่านั้น ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่ลงแรงมากมายเพื่อจัดการกับเรื่องนี้ 

 

 

           “อืม” ซูซานซานได้ยินคำพูดของถังถังแล้ว พยักหน้า จากนั้นสายตาก็จับจ้องอยู่บนเวที 

 

 

           อีกฝั่งหนึ่ง ฉู่อีอีนั่งอยู่ด้านล่างเวทีของหอประชุม มองดูฉู่เจียเสวียนที่มีความมั่นใจบนเวที สายตาจ้องมองเธอด้วยความชั่วร้าย ฉู่เจียเสวียน ต่อให้เธอแข่งชนะแล้วยังไงเหรอ ฉันก็มีความมั่นใจที่จะทำให้เธอแพ้อย่างราบคาบเหมือนกัน! 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยนั่งอยู่บนที่นั่งของคณะกรรมการ มองดูฉู่เจียเสวียน สายตาเผยความอ่อนโยน ถ้าหากเธอยังเป็นภรรยาของเขาก็คงจะดีไม่น้อย? คิดอยู่ในใจพร้อมจ้องมองเธออย่างตั้งใจ 

 

 

           เวลาล่วงเลยไป เวลาของการแข่งขันกำลังจะสิ้นสุดลง กลุ่มผู้ชมด้านล่างเวทีต่างต้องการเห็นชุดแต่งงานที่อยู่ในมือของพวกเขาเช่นกัน 

 

 

           หลังจากรอนานถึงห้าชั่วโมง ในที่สุดการแข่งขันก็สิ้นสุดลง ผู้เข้าแข่งขันทั้งสองได้วางมือลงแล้ว ลุกขึ้นยืนอยู่ข้างๆ ปล่อยให้เจ้าหน้าที่แสดงชุดแต่งงานที่ทั้งสองทำต่อหน้าทุกคน 

 

 

           “ว้าว…” ผู้คนด้านล่างเวทีต่างร้องตะโกนเมื่อเห็นชุดแต่งงานปรากฏตัว เมื่อเห็นชุดแต่งงานสองชุดที่เหมือนกันทุกประการบนเวที ในสายตาของทุกคนมีความประหลาดใจ 

 

 

           พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าชุดแต่งงานที่สวยงามเพียงนี้ จะสามารถเสร็จสมบูรณ์ภายในระยะเวลาอันสั้นเพียงแค่ห้าชั่วโมง 

 

 

           ที่จริงสิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ ชุดแต่งงานนี้ไม่สมบูรณ์ นี่เป็นเพียงแค่แบบชุดเท่านั้น หากเสร็จสมบูรณ์จริงๆ จะต้องผ่านการทำงานที่พิถีพิถันหลายขั้นตอน 

 

 

           “เอาล่ะ ตอนนี้ขอให้ดีไซเนอร์ทั้งสองบอกความตั้งใจดั้งเดิมของการทำชุดแต่งงานนี้หน่อยนะคะ คุณมู่จื่อคะ ในอินเทอร์เน็ตว่ากันว่าดีไซเนอร์ฉู่คัดลอกผลงานของคุณ งั้นคุณช่วยเล่าสั้นๆ ถึงความตั้งใจเดิมของคุณในการออกแบบชุดแต่งงานนี้ได้ไหมคะ” พิธีกรกล่าว เข้าไปใกล้มู่จื่อ ยื่นไมโครโฟนใส่ในมือของเธอ 

 

 

           “ตอนที่ฉันออกแบบชุดแต่งงานชุดนี้ มันเป็นเพราะฉันตั้งตารอที่จะแต่งงาน ก็เลยออกแบบชุดแต่งานชุดนี้ค่ะ” มู่จื่อกล่าว 

 

 

 

 

 

       ตอนที่ 345 เลียนแบบหรือไม่ เดี๋ยวได้รู้กัน 

 

 

           เมื่อพูดจบ ดวงตาก็เปล่งประกายอย่างไม่เป็นธรรมชาติ เมื่อกวาดตามองฉู่อีอีด้านล่างเวที เธอจึงสบายใจขึ้นมาบ้าง 

 

 

           ในหอประชุม เผยหนานเจวี๋ยได้ฟังแนวคิดการออกแบบของมู่จื่อ คิ้วขมวดกัน เมื่อเห็นว่าสายตาของเธอไม่เป็นธรรมชาติ ก็มองตามทิศทางที่มู่จื่อกวาดตาไปเมื่อครู่ พบว่าฉู่อีอีนั่งอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นว่าเขากำลังมองเธอ ก็ยังยิ้มให้เขา 

 

 

           ใบหน้าไม่ได้แสดงอาการใดๆ หลังจากชำเลืองมองฉู่อีอีอย่างเฉยเมยแล้ว เผยหนานเจวี๋ยมองกลับขึ้นไปบนเวทีแข่งขันอีกครั้ง 

 

 

           แม้ว่าสายตาที่อึดอัดของมู่จื่อเมื่อครู่จะหายไปอย่างรวดเร็ว แต่ว่าก็ยังถูกเผยหนานเจวี๋ยจับได้แล้ว 

 

 

           ‘หรือว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวกับฉู่อีอีจริงๆ’ เผยหนานเจวี๋ยครุ่นคิด หัวใจจมดิ่งลงไปอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันโทรศัพท์มือถือของเผยหนานเจวี๋ยก็สั่นสะเทือน ขณะที่เอื้อมมือหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูข้อความนั้น ดวงตาของเขาก็ยิ่งมืดมนลง 

 

 

           “เยี่ยมมาก คุณมู่จื่อ งั้นต่อไปพวกเรามาดูกันดีกว่า ว่าแนวคิดการออกแบบของดีไซเนอร์ฉู่คืออะไรคะ” พิธีกรเดินมาข้างฉู่เจียเสวียน มองเธอพร้อมเอ่ยถาม 

 

 

           “ฉันออกแบบชุดแต่งงานนี้ตอนที่เริ่มออกแบบแรกๆ ฉันทำเพื่อคนที่ฉันชอบ เพื่อสักวันหนึ่งฉันจะได้แต่งงานกับเขา และใส่ชุดแต่งงานที่ฉันออกแบบเพื่อเขาด้วยมือของฉันเอง อย่าคิดว่าชุดแต่งงานนี้เป็นชุดธรรมดานะคะ ที่จริงมันยังมีหัวใจดวงเดิมของฉัน” ฉู่เจียเสวียนพูดพลางชี้ไปที่ตำแหน่งไหล่ของชุดแต่งงาน หากมองอย่างละเอียดแล้ว ก็จะพบว่าด้านบนมีรูปหัวใจอยู่ รูปหัวใจนี้ ในตอนนั้นขณะที่ฉู่เจียเสวียนร่างแบบด้วยมือ เธอตั้งใจวาดมันลงไปด้วยเส้นประ 

 

 

           “ค่ะ ขอบคุณทั้งสองคน หลังจากพักกันครึ่งชั่วโมงแล้ว พวกเราจะประกาศผลการตัดสิน ตอนนี้ขอเชิญทุกท่านไปพักที่ห้องรับรองก่อนค่ะ” พิธีกรพูดจบ โค้งคำนับให้ผู้ชมที่อยู่ด้านล่างเวที จากนั้นก็หันหลังลงจากเวทีแข่งขันไป 

 

 

           เมื่อฉู่อีอีได้ยินว่ามีการหยุดพัก ก็เดินไปหาเผยหนานเจวี๋ย ยื่นมือควงเขาแล้วเดินออกไปจากสนามการแข่งขัน 

 

 

           ในห้องรับรอง คิดไม่ถึงว่าเผยหนานเจวี๋ย ฉู่อีอี กงจวิ้นฉือ และฉู่เจียเสวียนสี่คนเผชิญหน้ากัน 

 

 

           “พี่สาว ได้ข่าวว่าพี่จัดการแข่งขันครั้งนี้ เพราะเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าขโมยความคิดใช่ไหม” ฉู่อีอีมองฉู่เจียเสวียพร้อมกับพูด เงยหน้าขึ้นมอง ในดวงตามีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ 

 

 

           ได้ยินฉู่อีอีแล้ว ฉู่เจียเสวียนยิ้ม มองฉู่อีอีกับเผยหนานเจวี๋ยพร้อมยิ้มเอ่ย “แน่อยู่แล้ว เพราะฉันมีข้อสงสัยที่ใหญ่ที่สุด ถ้าไม่ออกมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์แล้ว ต่อไปฉันจะอยู่ในวงการออกแบบได้ยังไง” 

 

 

           เงยหน้าชำเลืองมองเผยหนานเจวี๋ย จากนั้นก็กล่าวอย่างมีนัยยะแอบแฝง “มีคนบางคนคิดว่าตัวเองทำทุกอย่างได้อย่างราบรื่น แต่กลับไม่รู้ว่ามีช่องโหว่เต็มไปหมด พวกเรารอดูเถอะ ดูว่าใครจะหัวเราะได้ดังกว่า” 

 

 

           “จวิ้นฉือ ฉันเหนื่อยแล้ว พวกเราเข้าไปนั่งสักหน่อยเถอะ” ฉู่เจียเสวียนพูดจบ ก้าวเท้าต้องการจะเดินเข้าไปในห้องพักผ่อน 

 

 

           “พี่ขโมยร่างออกแบบของคนอื่นจริงเหรอ” ฉู่อีอีกล่าว ทำให้ฉู่เจียเสวียนที่ต้องการจะจากไปหยุดเดิน เธอไม่กลัวคำพูดของฉู่เจียเสวียนเลยสักนิด 

 

 

           เมื่อฉู่เจียเสวียนได้ยินคำพูดของฉู่อีอี ก็หันหลังกลับมาแล้ว หันหน้าเผชิญกับฉู่อีอี ดวงตาที่สุดใสดังไข่มุกจ้องเธอเขม็ง “คุณฉู่ คุณเป็นห่วงฉันขนาดนี้เลยเหรอ จะลอกเลียนแบบหรือเปล่า เดี๋ยวคุณก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ” 

 

 

           “พวกเราไปกันเถอะ” เผยหนานเจวี๋ยราวกับไม่อยากเผชิญหน้ากับฉู่เจียเสวียน เอ่ยปากเยือกเย็น น้ำเสียงเจือปนความรู้สึกคลุมเครือ 

 

 

           “ได้ค่ะ” ฉู่อีอีดึงสติกลับมา เงยหน้ายิ้มพร้อมตอบรับอย่างอ่อนหวาน ควงแขนของเผยหนานเจวี๋ย เดินเข้าไปในห้องรับรอง